Skip to content

1.13 อคฺคสาวกยุค

72.
157

อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เอตทโหสิ—  ‘กสฺส นุ โข อหํ ปฐมํ ธมฺมํ เทเสยฺยํ, โก อิมํ ธมฺมํ ขิปฺปเมว อาชานิสฺสตี’ติ? อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสิสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เอตทโหสิ—  ‘อยํ โข ขณฺโฑ จ ราชปุตฺโต ติโสฺส จ ปุโรหิตปุตฺโต พนฺธุมติยา ราชธานิยา ปฏิวสนฺติ ปณฺฑิตา วิยตฺตา เมธาวิโน ทีฆรตฺตํ อปฺปรชกฺขชาติกา. ยนฺนูนาหํ ขณฺฑสฺส จ ราชปุตฺตสฺส, ติสฺสสฺส จ ปุโรหิตปุตฺตสฺส ปฐมํ ธมฺมํ เทเสยฺยํ, เต อิมํ ธมฺมํ ขิปฺปเมว อาชานิสฺสนฺตี’ติ.

73.
158

อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิญฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิญฺเชยฺย; เอวเมว—  โพธิรุกฺขมูเล อนฺตรหิโต พนฺธุมติยา ราชธานิยา เขเม มิคทาเย ปาตุรโหสิ. อถ โข, ภิกฺขเว, วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ทายปาลํ อามนฺเตสิ—  ‘เอหิ ตฺวํ, สมฺม ทายปาล, พนฺธุมติํ ราชธานิํ ปวิสิตฺวา ขณฺฑญฺจ ราชปุตฺตํ ติสฺสญฺจ ปุโรหิตปุตฺตํ เอวํ วเทหิ—  วิปสฺสี, ภนฺเต, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ พนฺธุมติํ ราชธานิํ อนุปฺปตฺโต เขเม มิคทาเย วิหรติ, โส ตุมฺหากํ ทสฺสนกาโม’ติ. ‘เอวํ, ภนฺเต’ติ โข, ภิกฺขเว, ทายปาโล วิปสฺสิสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปฏิสฺสุตฺวา พนฺธุมติํ ราชธานิํ ปวิสิตฺวา ขณฺฑญฺจ ราชปุตฺตํ ติสฺสญฺจ ปุโรหิตปุตฺตํ เอตทโวจ—  ‘วิปสฺสี, ภนฺเต, ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ พนฺธุมติํ ราชธานิํ อนุปฺปตฺโต เขเม มิคทาเย วิหรติ; โส ตุมฺหากํ ทสฺสนกาโม’ติ.

74.
159

อถ โข, ภิกฺขเว, ขณฺโฑ จ ราชปุตฺโต ติโสฺส จ ปุโรหิตปุตฺโต ภทฺทานิ ภทฺทานิ ยานานิ โยชาเปตฺวา ภทฺทํ ภทฺทํ ยานํ อภิรุหิตฺวา ภทฺเทหิ ภทฺเทหิ ยาเนหิ พนฺธุมติยา ราชธานิยา นิยฺยิํสุ. เยน เขโม มิคทาโย เตน ปายิํสุ. ยาวติกา ยานสฺส ภูมิ, ยาเนน คนฺตฺวา ยานา ปจฺโจโรหิตฺวา ปตฺติกาว เยน วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ เตนุปสงฺกมิํสุ. อุปสงฺกมิตฺวา วิปสฺสิํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุ.

75.
160

เตสํ วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อนุปุพฺพิํ กถํ กเถสิ, เสยฺยถิทํ—  ทานกถํ สีลกถํ สคฺคกถํ กามานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ เนกฺขมฺเม อานิสํสํ ปกาเสสิ. ยทา เต ภควา อญฺญาสิ กลฺลจิตฺเต มุทุจิตฺเต วินีวรณจิตฺเต อุทคฺคจิตฺเต ปสนฺนจิตฺเต, อถ ยา พุทฺธานํ สามุกฺกํสิกา ธมฺมเทสนา, ตํ ปกาเสสิ—  ทุกฺขํ สมุทยํ นิโรธํ มคฺคํ. เสยฺยถาปิ นาม สุทฺธํ วตฺถํ อปคตกาฬกํ สมฺมเทว รชนํ ปฏิคฺคเณฺหยฺย; เอวเมว ขณฺฑสฺส จ ราชปุตฺตสฺส ติสฺสสฺส จ ปุโรหิตปุตฺตสฺส ตสฺมิํเยว อาสเน วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ—  ‘ยํ กิญฺจิ สมุทยธมฺมํ สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺมนฺ’ติ.

76.
161

เต ทิฏฺฐธมฺมา ปตฺตธมฺมา วิทิตธมฺมา ปริโยคาฬฺหธมฺมา ติณฺณวิจิกิจฺฉา วิคตกถํกถา เวสารชฺชปฺปตฺตา อปรปฺปจฺจยา สตฺถุสาสเน วิปสฺสิํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ เอตทโวจุํ—  ‘อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต, อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย—  “จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี”ติ; เอวเมวํ ภควตา อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอเต มยํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉาม ธมฺมญฺจ. ลเภยฺยาม มยํ, ภนฺเต, ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, ลเภยฺยาม อุปสมฺปทนฺ’ติ.

77.
162

อลตฺถุํ โข, ภิกฺขเว, ขณฺโฑ จ ราชปุตฺโต, ติโสฺส จ ปุโรหิตปุตฺโต วิปสฺสิสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สนฺติเก ปพฺพชฺชํ อลตฺถุํ อุปสมฺปทํ. เต วิปสฺสี ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิ; สงฺขารานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ นิพฺพาเน อานิสํสํ ปกาเสสิ. เตสํ วิปสฺสินา ภควตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิยมานานํ สมาทปิยมานานํ สมุตฺเตชิยมานานํ สมฺปหํสิยมานานํ นจิรเสฺสว อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตานิ วิมุจฺจิํสุ.