10.1 ปายาสิราชญฺญวตฺถุ
เตน โข ปน สมเยน ปายาสิสฺส ราชญฺญสฺส เอวรูปํ ปาปกํ ทิฏฺฐิคตํ อุปฺปนฺนํ โหติ— “อิติปิ นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก”ติ. อโสฺสสุํ โข เสตพฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา— “สมโณ ขลุ โภ กุมารกสฺสโป สมณสฺส โคตมสฺส สาวโก โกสเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสํเฆน สทฺธิํ ปญฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ เสตพฺยํ อนุปฺปตฺโต เสตพฺยายํ วิหรติ อุตฺตเรน เสตพฺยํ สิํสปาวเน. ตํ โข ปน ภวนฺตํ กุมารกสฺสปํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต— ‘ปณฺฑิโต พฺยตฺโต เมธาวี พหุสฺสุโต จิตฺตกถี กลฺยาณปฏิภาโน วุทฺโธ เจว อรหา จ. สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี’”ติ. อถ โข เสตพฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา เสตพฺยาย นิกฺขมิตฺวา สงฺฆสงฺฆี คณีภูตา อุตฺตเรนมุขา คจฺฉนฺติ เยน สิํสปาวนํ.
เตน โข ปน สมเยน ปายาสิ ราชญฺโญ อุปริปาสาเท ทิวาเสยฺยํ อุปคโต โหติ. อทฺทสา โข ปายาสิ ราชญฺโญ เสตพฺยเก พฺราหฺมณคหปติเก เสตพฺยาย นิกฺขมิตฺวา สงฺฆสงฺฆี คณีภูเต อุตฺตเรนมุเข คจฺฉนฺเต เยน สิํสปาวนํ, ทิสฺวา ขตฺตํ อามนฺเตสิ— “กิํ นุ โข, โภ ขตฺเต, เสตพฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา เสตพฺยาย นิกฺขมิตฺวา สงฺฆสงฺฆี คณีภูตา อุตฺตเรนมุขา คจฺฉนฺติ เยน สิํสปาวนนฺ”ติ?
“อตฺถิ โข, โภ, สมโณ กุมารกสฺสโป, สมณสฺส โคตมสฺส สาวโก โกสเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสํเฆน สทฺธิํ ปญฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ เสตพฺยํ อนุปฺปตฺโต เสตพฺยายํ วิหรติ อุตฺตเรน เสตพฺยํ สิํสปาวเน. ตํ โข ปน ภวนฺตํ กุมารกสฺสปํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต— ‘ปณฺฑิโต พฺยตฺโต เมธาวี พหุสฺสุโต จิตฺตกถี กลฺยาณปฏิภาโน วุทฺโธ เจว อรหา จา’ติ. ตเมเต ภวนฺตํ กุมารกสฺสปํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมนฺตี”ติ. “เตน หิ, โภ ขตฺเต, เยน เสตพฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา เตนุปสงฺกม; อุปสงฺกมิตฺวา เสตพฺยเก พฺราหฺมณคหปติเก เอวํ วเทหิ— ‘ปายาสิ, โภ, ราชญฺโญ เอวมาห— อาคเมนฺตุ กิร ภวนฺโต, ปายาสิปิ ราชญฺโญ สมณํ กุมารกสฺสปํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสตี’ติ. ปุรา สมโณ กุมารกสฺสโป เสตพฺยเก พฺราหฺมณคหปติเก พาเล อพฺยตฺเต สญฺญาเปติ— ‘อิติปิ อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’ติ. นตฺถิ หิ, โภ ขตฺเต, ปโร โลโก, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก”ติ. “เอวํ, โภ”ติ โข โส ขตฺตา ปายาสิสฺส ราชญฺญสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เยน เสตพฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เสตพฺยเก พฺราหฺมณคหปติเก เอตทโวจ— “ปายาสิ, โภ, ราชญฺโญ เอวมาห, อาคเมนฺตุ กิร ภวนฺโต, ปายาสิปิ ราชญฺโญ สมณํ กุมารกสฺสปํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสตี”ติ.
อถ โข ปายาสิ ราชญฺโญ เสตพฺยเกหิ พฺราหฺมณคหปติเกหิ ปริวุโต เยน สิํสปาวนํ เยนายสฺมา กุมารกสฺสโป เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา กุมารกสฺสเปน สทฺธิํ สมฺโมทิ, สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เสตพฺยกาปิ โข พฺราหฺมณคหปติกา อปฺเปกจฺเจ อายสฺมนฺตํ กุมารกสฺสปํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุ; อปฺเปกจฺเจ อายสฺมตา กุมารกสฺสเปน สทฺธิํ สมฺโมทิํสุ; สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุ. อปฺเปกจฺเจ เยนายสฺมา กุมารกสฺสโป เตนญฺชลิํ ปณาเมตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุ. อปฺเปกจฺเจ นามโคตฺตํ สาเวตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุ. อปฺเปกจฺเจ ตุณฺหีภูตา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุ.