Skip to content

3.34 สุภทฺทปริพฺพาชกวตฺถุ

212.
475

เตน โข ปน สมเยน สุภทฺโท นาม ปริพฺพาชโก กุสินารายํ ปฏิวสติ. อสฺโสสิ โข สุภทฺโท ปริพฺพาชโก—  “อชฺช กิร รตฺติยา ปจฺฉิเม ยาเม สมณสฺส โคตมสฺส ปรินิพฺพานํ ภวิสฺสตี”ติ. อถ โข สุภทฺทสฺส ปริพฺพาชกสฺส เอตทโหสิ—  “สุตํ โข ปน เมตํ ปริพฺพาชกานํ วุฑฺฒานํ มหลฺลกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ—  ‘กทาจิ กรหจิ ตถาคตา โลเก อุปฺปชฺชนฺติ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา’ติ. อชฺเชว รตฺติยา ปจฺฉิเม ยาเม สมณสฺส โคตมสฺส ปรินิพฺพานํ ภวิสฺสติ. อตฺถิ จ เม อยํ กงฺขาธมฺโม อุปฺปนฺโน, เอวํ ปสนฺโน อหํ สมเณ โคตเม, ‘ปโหติ เม สมโณ โคตโม ตถา ธมฺมํ เทเสตุํ, ยถาหํ อิมํ กงฺขาธมฺมํ ปชเหยฺยนฺ’”ติ.

476

อถ โข สุภทฺโท ปริพฺพาชโก เยน อุปวตฺตนํ มลฺลานํ สาลวนํ, เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ—  “สุตํ เมตํ, โภ อานนฺท, ปริพฺพาชกานํ วุฑฺฒานํ มหลฺลกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ—  ‘กทาจิ กรหจิ ตถาคตา โลเก อุปฺปชฺชนฺติ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา’ติ. อชฺเชว รตฺติยา ปจฺฉิเม ยาเม สมณสฺส โคตมสฺส ปรินิพฺพานํ ภวิสฺสติ. อตฺถิ จ เม อยํ กงฺขาธมฺโม อุปฺปนฺโน—  เอวํ ปสนฺโน อหํ สมเณ โคตเม ‘ปโหติ เม สมโณ โคตโม ตถา ธมฺมํ เทเสตุํ, ยถาหํ อิมํ กงฺขาธมฺมํ ปชเหยฺยนฺ’ติ. สาธาหํ, โภ อานนฺท, ลเภยฺยํ สมณํ โคตมํ ทสฺสนายา”ติ. เอวํ วุตฺเต, อายสฺมา อานนฺโท สุภทฺทํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจ—  “อลํ, อาวุโส สุภทฺท, มา ตถาคตํ วิเหเฐสิ, กิลนฺโต ภควา”ติ. ทุติยมฺปิ โข สุภทฺโท ปริพฺพาชโก …เป…  ตติยมฺปิ โข สุภทฺโท ปริพฺพาชโก อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ—  “สุตํ เมตํ, โภ อานนฺท, ปริพฺพาชกานํ วุฑฺฒานํ มหลฺลกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ—  ‘กทาจิ กรหจิ ตถาคตา โลเก อุปฺปชฺชนฺติ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา’ติ. อชฺเชว รตฺติยา ปจฺฉิเม ยาเม สมณสฺส โคตมสฺส ปรินิพฺพานํ ภวิสฺสติ. อตฺถิ จ เม อยํ กงฺขาธมฺโม อุปฺปนฺโน—  เอวํ ปสนฺโน อหํ สมเณ โคตเม, ‘ปโหติ เม สมโณ โคตโม ตถา ธมฺมํ เทเสตุํ, ยถาหํ อิมํ กงฺขาธมฺมํ ปชเหยฺยนฺ’ติ. สาธาหํ, โภ อานนฺท, ลเภยฺยํ สมณํ โคตมํ ทสฺสนายา”ติ. ตติยมฺปิ โข อายสฺมา อานนฺโท สุภทฺทํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจ—  “อลํ, อาวุโส สุภทฺท, มา ตถาคตํ วิเหเฐสิ, กิลนฺโต ภควา”ติ.

213.
477

อสฺโสสิ โข ภควา อายสฺมโต อานนฺทสฺส สุภทฺเทน ปริพฺพาชเกน สทฺธิํ อิมํ กถาสลฺลาปํ. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ—  “อลํ, อานนฺท, มา สุภทฺทํ วาเรสิ, ลภตํ, อานนฺท, สุภทฺโท ตถาคตํ ทสฺสนาย. ยํ กิญฺจิ มํ สุภทฺโท ปุจฺฉิสฺสติ, สพฺพํ ตํ อญฺญาเปกฺโขว ปุจฺฉิสฺสติ, โน วิเหสาเปกฺโข. ยญฺจสฺสาหํ ปุฏฺโฐ พฺยากริสฺสามิ, ตํ ขิปฺปเมว อาชานิสฺสตี”ติ. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท สุภทฺทํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจ—  “คจฺฉาวุโส สุภทฺท, กโรติ เต ภควา โอกาสนฺ”ติ. อถ โข สุภทฺโท ปริพฺพาชโก เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ สมฺโมทิ, สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข สุภทฺโท ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ—  “เยเม, โภ โคตม, สมณพฺราหฺมณา สํฆิโน คณิโน คณาจริยา ญาตา ยสสฺสิโน ติตฺถกรา สาธุสมฺมตา พหุชนสฺส, เสยฺยถิทํ—  ปูรโณ กสฺสโป, มกฺขลิ โคสาโล, อชิโต เกสกมฺพโล, ปกุโธ กจฺจายโน, สญฺจโย เพลฏฺฐปุตฺโต, นิคณฺโฐ นาฏปุตฺโต, สพฺเพเต สกาย ปฏิญฺญาย อพฺภญฺญิํสุ, สพฺเพว น อพฺภญฺญิํสุ, อุทาหุ เอกจฺเจ อพฺภญฺญิํสุ, เอกจฺเจ น อพฺภญฺญิํสู”ติ? “อลํ, สุภทฺท, ติฏฺฐเตตํ—  ‘สพฺเพเต สกาย ปฏิญฺญาย อพฺภญฺญิํสุ, สพฺเพว น อพฺภญฺญิํสุ, อุทาหุ เอกจฺเจ อพฺภญฺญิํสุ, เอกจฺเจ น อพฺภญฺญิํสู’ติ. ธมฺมํ เต, สุภทฺท, เทเสสฺสามิ; ตํ สุณาหิ สาธุกํ มนสิกโรหิ, ภาสิสฺสามี”ติ. “เอวํ, ภนฺเต”ติ โข สุภทฺโท ปริพฺพาชโก ภควโต ปจฺจโสฺสสิ. ภควา เอตทโวจ—

214.
478

“ยสฺมิํ โข, สุภทฺท, ธมฺมวินเย อริโย อฏฺฐงฺคิโก มคฺโค น อุปลพฺภติ, สมโณปิ ตตฺถ น อุปลพฺภติ. ทุติโยปิ ตตฺถ สมโณ น อุปลพฺภติ. ตติโยปิ ตตฺถ สมโณ น อุปลพฺภติ. จตุตฺโถปิ ตตฺถ สมโณ น อุปลพฺภติ. ยสฺมิญฺจ โข, สุภทฺท, ธมฺมวินเย อริโย อฏฺฐงฺคิโก มคฺโค อุปลพฺภติ, สมโณปิ ตตฺถ อุปลพฺภติ, ทุติโยปิ ตตฺถ สมโณ อุปลพฺภติ, ตติโยปิ ตตฺถ สมโณ อุปลพฺภติ, จตุตฺโถปิ ตตฺถ สมโณ อุปลพฺภติ. อิมสฺมิํ โข, สุภทฺท, ธมฺมวินเย อริโย อฏฺฐงฺคิโก มคฺโค อุปลพฺภติ, อิเธว, สุภทฺท, สมโณ, อิธ ทุติโย สมโณ, อิธ ตติโย สมโณ, อิธ จตุตฺโถ สมโณ, สุญฺญา ปรปฺปวาทา สมเณภิ อญฺเญหิ. อิเม จ, สุภทฺท, ภิกฺขู สมฺมา วิหเรยฺยุํ, อสุญฺโญ โลโก อรหนฺเตหิ อสฺสาติ.

479

เอกูนติํโส วยสา สุภทฺท,
ยํ ปพฺพชิํ กิํกุสลานุเอสี;
วสฺสานิ ปญฺญาส สมาธิกานิ,
ยโต อหํ ปพฺพชิโต สุภทฺท;
ญายสฺส ธมฺมสฺส ปเทสวตฺตี,
อิโต พหิทฺธา สมโณปิ นตฺถิ._

480

ทุติโยปิ สมโณ นตฺถิ. ตติโยปิ สมโณ นตฺถิ. จตุตฺโถปิ สมโณ นตฺถิ. สุญฺญา ปรปฺปวาทา สมเณภิ อญฺเญหิ. อิเม จ, สุภทฺท, ภิกฺขู สมฺมา วิหเรยฺยุํ, อสุญฺโญ โลโก อรหนฺเตหิ อสฺสา”ติ.

215.
481

เอวํ วุตฺเต, สุภทฺโท ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ—  “อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต, อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย—  ‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติ; เอวเมวํ ภควตา อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมญฺจ ภิกฺขุสํฆญฺจ. ลเภยฺยาหํ, ภนฺเต, ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, ลเภยฺยํ อุปสมฺปทนฺ”ติ. “โย โข, สุภทฺท, อญฺญติตฺถิยปุพฺโพ อิมสฺมิํ ธมฺมวินเย อากงฺขติ ปพฺพชฺชํ, อากงฺขติ อุปสมฺปทํ, โส จตฺตาโร มาเส ปริวสติ. จตุนฺนํ มาสานํ อจฺจเยน อารทฺธจิตฺตา ภิกฺขู ปพฺพาเชนฺติ อุปสมฺปาเทนฺติ ภิกฺขุภาวาย. อปิ จ เมตฺถ ปุคฺคลเวมตฺตตา วิทิตา”ติ. “สเจ, ภนฺเต, อญฺญติตฺถิยปุพฺพา อิมสฺมิํ ธมฺมวินเย อากงฺขนฺตา ปพฺพชฺชํ อากงฺขนฺตา อุปสมฺปทํ จตฺตาโร มาเส ปริวสนฺติ, จตุนฺนํ มาสานํ อจฺจเยน อารทฺธจิตฺตา ภิกฺขู ปพฺพาเชนฺติ อุปสมฺปาเทนฺติ ภิกฺขุภาวาย. อหํ จตฺตาริ วสฺสานิ ปริวสิสฺสามิ, จตุนฺนํ วสฺสานํ อจฺจเยน อารทฺธจิตฺตา ภิกฺขู ปพฺพาเชนฺตุ อุปสมฺปาเทนฺตุ ภิกฺขุภาวายา”ติ.

482

อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ—  “เตนหานนฺท, สุภทฺทํ ปพฺพาเชหี”ติ. “เอวํ, ภนฺเต”ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจโสฺสสิ. อถ โข สุภทฺโท ปริพฺพาชโก อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ—  “ลาภา โว, อาวุโส อานนฺท; สุลทฺธํ โว, อาวุโส อานนฺท, เย เอตฺถ สตฺถุ สมฺมุขา อนฺเตวาสิกาภิเสเกน อภิสิตฺตา”ติ. อลตฺถ โข สุภทฺโท ปริพฺพาชโก ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, อลตฺถ อุปสมฺปทํ. อจิรูปสมฺปนฺโน โข ปนายสฺมา สุภทฺโท เอโก วูปกฏฺโฐ อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต นจิรเสฺสว—  ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ—  ตทนุตฺตรํ พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเฐว ธมฺเม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหาสิ. “ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา”ติ อพฺภญฺญาสิ. อญฺญตโร โข ปนายสฺมา สุภทฺโท อรหตํ อโหสิ. โส ภควโต ปจฺฉิโม สกฺขิสาวโก อโหสีติ.

483

ปญฺจโม ภาณวาโร.