5.2 อานนฺทปริกถา
อถ โข อายสฺมโต อานนฺทสฺส เอตทโหสิ— “อิเม โข ปนาปิ อเหสุํ มาคธกา ปริจารกา พหู เจว รตฺตญฺญู จ อพฺภตีตา กาลงฺกตา. สุญฺญา มญฺเญ องฺคมคธา องฺคมาคธเกหิ ปริจารเกหิ อพฺภตีเตหิ กาลงฺกเตหิ. เต โข ปนาปิ อเหสุํ พุทฺเธ ปสนฺนา ธมฺเม ปสนฺนา สํเฆ ปสนฺนา สีเลสุ ปริปูรการิโน. เต อพฺภตีตา กาลงฺกตา ภควตา อพฺยากตา; เตสมฺปิสฺส สาธุ เวยฺยากรณํ, พหุชโน ปสีเทยฺย, ตโต คจฺเฉยฺย สุคติํ. อยํ โข ปนาปิ อโหสิ ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร ธมฺมิโก ธมฺมราชา หิโต พฺราหฺมณคหปติกานํ เนคมานญฺเจว ชานปทานญฺจ. อปิสฺสุทํ มนุสฺสา กิตฺตยมานรูปา วิหรนฺติ— ‘เอวํ โน โส ธมฺมิโก ธมฺมราชา สุขาเปตฺวา กาลงฺกโต, เอวํ มยํ ตสฺส ธมฺมิกสฺส ธมฺมรญฺโญ วิชิเต ผาสุ วิหริมฺหา’ติ. โส โข ปนาปิ อโหสิ พุทฺเธ ปสนฺโน ธมฺเม ปสนฺโน สํเฆ ปสนฺโน สีเลสุ ปริปูรการี. อปิสฺสุทํ มนุสฺสา เอวมาหํสุ— ‘ยาว มรณกาลาปิ ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร ภควนฺตํ กิตฺตยมานรูโป กาลงฺกโต’ติ. โส อพฺภตีโต กาลงฺกโต ภควตา อพฺยากโต. ตสฺสปิสฺส สาธุ เวยฺยากรณํ พหุชโน ปสีเทยฺย, ตโต คจฺเฉยฺย สุคติํ. ภควโต โข ปน สมฺโพธิ มคเธสุ. ยตฺถ โข ปน ภควโต สมฺโพธิ มคเธสุ, กถํ ตตฺร ภควา มาคธเก ปริจารเก อพฺภตีเต กาลงฺกเต อุปปตฺตีสุ น พฺยากเรยฺย. ภควา เจ โข ปน มาคธเก ปริจารเก อพฺภตีเต กาลงฺกเต อุปปตฺตีสุ น พฺยากเรยฺย, ทีนมนา เตนสฺสุ มาคธกา ปริจารกา; เยน โข ปนสฺสุ ทีนมนา มาคธกา ปริจารกา กถํ เต ภควา น พฺยากเรยฺยา”ติ?
อิทมายสฺมา อานนฺโท มาคธเก ปริจารเก อารพฺภ เอโก รโห อนุวิจินฺเตตฺวา รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺฐาย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ— “สุตํ เมตํ, ภนฺเต— ‘ภควา กิร ปริโต ปริโต ชนปเทสุ ปริจารเก อพฺภตีเต กาลงฺกเต อุปปตฺตีสุ พฺยากโรติ กาสิโกสเลสุ วชฺชิมเลฺลสุ เจติวํเสสุ กุรุปญฺจาเลสุ มชฺฌสูรเสเนสุ— “อสุ อมุตฺร อุปปนฺโน, อสุ อมุตฺร อุปปนฺโน. ปโรปญฺญาส นาติกิยา ปริจารกา อพฺภตีตา กาลงฺกตา ปญฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติกา ตตฺถ ปรินิพฺพายิโน อนาวตฺติธมฺมา ตสฺมา โลกา. สาธิกา นวุติ นาติกิยา ปริจารกา อพฺภตีตา กาลงฺกตา ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา สกทาคามิโน, สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสนฺติ. สาติเรกานิ ปญฺจสตานิ นาติกิยา ปริจารกา อพฺภตีตา กาลงฺกตา ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺนา อวินิปาตธมฺมา นิยตา สมฺโพธิปรายณาติ. เตน จ นาติกิยา ปริจารกา อตฺตมนา อเหสุํ ปมุทิตา ปีติโสมนสฺสชาตา ภควโต ปญฺหเวยฺยากรณํ สุตฺวา”’ติ. อิเม โข ปนาปิ, ภนฺเต, อเหสุํ มาคธกา ปริจารกา พหู เจว รตฺตญฺญู จ อพฺภตีตา กาลงฺกตา. สุญฺญา มญฺเญ องฺคมคธา องฺคมาคธเกหิ ปริจารเกหิ อพฺภตีเตหิ กาลงฺกเตหิ. เต โข ปนาปิ, ภนฺเต, อเหสุํ พุทฺเธ ปสนฺนา ธมฺเม ปสนฺนา สํเฆ ปสนฺนา สีเลสุ ปริปูรการิโน, เต อพฺภตีตา กาลงฺกตา ภควตา อพฺยากตา. เตสมฺปิสฺส สาธุ เวยฺยากรณํ, พหุชโน ปสีเทยฺย, ตโต คจฺเฉยฺย สุคติํ. อยํ โข ปนาปิ, ภนฺเต, อโหสิ ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร ธมฺมิโก ธมฺมราชา หิโต พฺราหฺมณคหปติกานํ เนคมานญฺเจว ชานปทานญฺจ. อปิสฺสุทํ มนุสฺสา กิตฺตยมานรูปา วิหรนฺติ— ‘เอวํ โน โส ธมฺมิโก ธมฺมราชา สุขาเปตฺวา กาลงฺกโต. เอวํ มยํ ตสฺส ธมฺมิกสฺส ธมฺมรญฺโญ วิชิเต ผาสุ วิหริมฺหา’ติ. โส โข ปนาปิ, ภนฺเต, อโหสิ พุทฺเธ ปสนฺโน ธมฺเม ปสนฺโน สํเฆ ปสนฺโน สีเลสุ ปริปูรการี. อปิสฺสุทํ มนุสฺสา เอวมาหํสุ— ‘ยาว มรณกาลาปิ ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร ภควนฺตํ กิตฺตยมานรูโป กาลงฺกโต’ติ. โส อพฺภตีโต กาลงฺกโต ภควตา อพฺยากโต; ตสฺสปิสฺส สาธุ เวยฺยากรณํ, พหุชโน ปสีเทยฺย, ตโต คจฺเฉยฺย สุคติํ. ภควโต โข ปน, ภนฺเต, สมฺโพธิ มคเธสุ. ยตฺถ โข ปน, ภนฺเต, ภควโต สมฺโพธิ มคเธสุ, กถํ ตตฺร ภควา มาคธเก ปริจารเก อพฺภตีเต กาลงฺกเต อุปปตฺตีสุ น พฺยากเรยฺย? ภควา เจ โข ปน, ภนฺเต, มาคธเก ปริจารเก อพฺภตีเต กาลงฺกเต อุปปตฺตีสุ น พฺยากเรยฺย, ทีนมนา เตนสฺสุ มาคธกา ปริจารกา; เยน โข ปนสฺสุ ทีนมนา มาคธกา ปริจารกา กถํ เต ภควา น พฺยากเรยฺยา”ติ. อิทมายสฺมา อานนฺโท มาคธเก ปริจารเก อารพฺภ ภควโต สมฺมุขา ปริกถํ กตฺวา อุฏฺฐายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ.
อถ โข ภควา อจิรปกฺกนฺเต อายสฺมนฺเต อานนฺเท ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย นาติกํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. นาติเก ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต ปาเท ปกฺขาเลตฺวา คิญฺชกาวสถํ ปวิสิตฺวา มาคธเก ปริจารเก อารพฺภ อฏฺฐิํ กตฺวา มนสิกตฺวา สพฺพํ เจตสา สมนฺนาหริตฺวา ปญฺญตฺเต อาสเน นิสีทิ— “คติํ เนสํ ชานิสฺสามิ อภิสมฺปรายํ, ยํคติกา เต ภวนฺโต ยํอภิสมฺปรายา”ติ. อทฺทสา โข ภควา มาคธเก ปริจารเก— “ยํคติกา เต ภวนฺโต ยํอภิสมฺปรายา”ติ. อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺฐิโต คิญฺชกาวสถา นิกฺขมิตฺวา วิหารปจฺฉายายํ ปญฺญตฺเต อาสเน นิสีทิ.
อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ— “อุปสนฺตปทิโสฺส, ภนฺเต, ภควา ภาติริว ภควโต มุขวณฺโณ วิปฺปสนฺนตฺตา อินฺทฺริยานํ. สนฺเตน นูนชฺช, ภนฺเต, ภควา วิหาเรน วิหาสี”ติ?
“ยเทว โข เม ตฺวํ, อานนฺท, มาคธเก ปริจารเก อารพฺภ สมฺมุขา ปริกถํ กตฺวา อุฏฺฐายาสนา ปกฺกนฺโต, ตเทวาหํ นาติเก ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต ปาเท ปกฺขาเลตฺวา คิญฺชกาวสถํ ปวิสิตฺวา มาคธเก ปริจารเก อารพฺภ อฏฺฐิํ กตฺวา มนสิกตฺวา สพฺพํ เจตสา สมนฺนาหริตฺวา ปญฺญตฺเต อาสเน นิสีทิํ— ‘คติํ เนสํ ชานิสฺสามิ อภิสมฺปรายํ, ยํคติกา เต ภวนฺโต ยํอภิสมฺปรายา’ติ. อทฺทสํ โข อหํ, อานนฺท, มาคธเก ปริจารเก ‘ยํคติกา เต ภวนฺโต ยํอภิสมฺปรายา’ติ.