1.6 อคฺคญฺญปญฺญตฺติกถา
อคฺคญฺญญฺจาหํ, ภคฺคว, ปชานามิ. ตญฺจ ปชานามิ, ตโต จ อุตฺตริตรํ ปชานามิ, ตญฺจ ปชานํ น ปรามสามิ, อปรามสโต จ เม ปจฺจตฺตญฺเญว นิพฺพุติ วิทิตา, ยทภิชานํ ตถาคโต โน อนยํ อาปชฺชติ.
สนฺติ, ภคฺคว, เอเก สมณพฺราหฺมณา อิสฺสรกุตฺตํ พฺรหฺมกุตฺตํ อาจริยกํ อคฺคญฺญํ ปญฺญเปนฺติ. ตฺยาหํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทามิ— ‘สจฺจํ กิร ตุมฺเห อายสฺมนฺโต อิสฺสรกุตฺตํ พฺรหฺมกุตฺตํ อาจริยกํ อคฺคญฺญํ ปญฺญเปถา’ติ? เต จ เม เอวํ ปุฏฺฐา, ‘อาโม’ติ ปฏิชานนฺติ. ตฺยาหํ เอวํ วทามิ— ‘กถํวิหิตกํ ปน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต อิสฺสรกุตฺตํ พฺรหฺมกุตฺตํ อาจริยกํ อคฺคญฺญํ ปญฺญเปถา’ติ? เต มยา ปุฏฺฐา น สมฺปายนฺติ, อสมฺปายนฺตา มมญฺเญว ปฏิปุจฺฉนฺติ. เตสาหํ ปุฏฺโฐ พฺยากโรมิ—
‘โหติ โข โส, อาวุโส, สมโย ยํ กทาจิ กรหจิ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน อยํ โลโก สํวฏฺฏติ. สํวฏฺฏมาเน โลเก เยภุเยฺยน สตฺตา อาภสฺสรสํวตฺตนิกา โหนฺติ. เต ตตฺถ โหนฺติ มโนมยา ปีติภกฺขา สยํปภา อนฺตลิกฺขจรา สุภฏฺฐายิโน จิรํ ทีฆมทฺธานํ ติฏฺฐนฺติ.
โหติ โข โส, อาวุโส, สมโย ยํ กทาจิ กรหจิ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน อยํ โลโก วิวฏฺฏติ. วิวฏฺฏมาเน โลเก สุญฺญํ พฺรหฺมวิมานํ ปาตุภวติ. อถ โข อญฺญตโร สตฺโต อายุกฺขยา วา ปุญฺญกฺขยา วา อาภสฺสรกายา จวิตฺวา สุญฺญํ พฺรหฺมวิมานํ อุปปชฺชติ. โส ตตฺถ โหติ มโนมโย ปีติภกฺโข สยมฺปโภ อนฺตลิกฺขจโร สุภฏฺฐายี, จิรํ ทีฆมทฺธานํ ติฏฺฐติ.
ตสฺส ตตฺถ เอกกสฺส ทีฆรตฺตํ นิวุสิตตฺตา อนภิรติ ปริตสฺสนา อุปฺปชฺชติ— อโห วต อญฺเญปิ สตฺตา อิตฺถตฺตํ อาคจฺเฉยฺยุนฺติ. อถ อญฺเญปิ สตฺตา อายุกฺขยา วา ปุญฺญกฺขยา วา อาภสฺสรกายา จวิตฺวา สุญฺญํ พฺรหฺมวิมานํ อุปปชฺชนฺติ ตสฺส สตฺตสฺส สหพฺยตํ. เตปิ ตตฺถ โหนฺติ มโนมยา ปีติภกฺขา สยํปภา อนฺตลิกฺขจรา สุภฏฺฐายิโน, จิรํ ทีฆมทฺธานํ ติฏฺฐนฺติ.
ตตฺราวุโส, โย โส สตฺโต ปฐมํ อุปปนฺโน, ตสฺส เอวํ โหติ— อหมสฺมิ พฺรหฺมา มหาพฺรหฺมา อภิภู อนภิภูโต อญฺญทตฺถุทโส วสวตฺตี อิสฺสโร กตฺตา นิมฺมาตา เสฏฺโฐ สชิตา วสี ปิตา ภูตภพฺยานํ, มยา อิเม สตฺตา นิมฺมิตา. ตํ กิสฺส เหตุ? มมญฺหิ ปุพฺเพ เอตทโหสิ— อโห วต อญฺเญปิ สตฺตา อิตฺถตฺตํ อาคจฺเฉยฺยุนฺติ; อิติ มม จ มโนปณิธิ. อิเม จ สตฺตา อิตฺถตฺตํ อาคตาติ.
เยปิ เต สตฺตา ปจฺฉา อุปปนฺนา, เตสมฺปิ เอวํ โหติ— อยํ โข ภวํ พฺรหฺมา มหาพฺรหฺมา อภิภู อนภิภูโต อญฺญทตฺถุทโส วสวตฺตี อิสฺสโร กตฺตา นิมฺมาตา เสฏฺโฐ สชิตา วสี ปิตา ภูตภพฺยานํ; อิมินา มยํ โภตา พฺรหฺมุนา นิมฺมิตา. ตํ กิสฺส เหตุ? อิมญฺหิ มยํ อทฺทสาม อิธ ปฐมํ อุปปนฺนํ; มยํ ปนามฺห ปจฺฉา อุปปนฺนาติ.
ตตฺราวุโส, โย โส สตฺโต ปฐมํ อุปปนฺโน, โส ทีฆายุกตโร จ โหติ วณฺณวนฺตตโร จ มเหสกฺขตโร จ. เย ปน เต สตฺตา ปจฺฉา อุปปนฺนา, เต อปฺปายุกตรา จ โหนฺติ ทุพฺพณฺณตรา จ อปฺเปสกฺขตรา จ.
ฐานํ โข ปเนตํ, อาวุโส, วิชฺชติ, ยํ อญฺญตโร สตฺโต ตมฺหา กายา จวิตฺวา อิตฺถตฺตํ อาคจฺฉติ. อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ. อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต สมาโน อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธิํ ผุสติ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต ตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ; ตโต ปรํ นานุสฺสรติ.
โส เอวมาห— “โย โข โส ภวํ พฺรหฺมา มหาพฺรหฺมา อภิภู อนภิภูโต อญฺญทตฺถุทโส วสวตฺตี อิสฺสโร กตฺตา นิมฺมาตา เสฏฺโฐ สชิตา วสี ปิตา ภูตภพฺยานํ, เยน มยํ โภตา พฺรหฺมุนา นิมฺมิตา. โส นิจฺโจ ธุโว สสฺสโต อวิปริณามธมฺโม สสฺสติสมํ ตเถว ฐสฺสติ. เย ปน มยํ อหุมฺหา เตน โภตา พฺรหฺมุนา นิมฺมิตา, เต มยํ อนิจฺจา อทฺธุวา อปฺปายุกา จวนธมฺมา อิตฺถตฺตํ อาคตา”ติ. เอวํวิหิตกํ โน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต อิสฺสรกุตฺตํ พฺรหฺมกุตฺตํ อาจริยกํ อคฺคญฺญํ ปญฺญเปถา’ติ. เต เอวมาหํสุ— ‘เอวํ โข โน, อาวุโส โคตม, สุตํ, ยเถวายสฺมา โคตโม อาหา’ติ.
อคฺคญฺญญฺจาหํ, ภคฺคว, ปชานามิ. ตญฺจ ปชานามิ, ตโต จ อุตฺตริตรํ ปชานามิ, ตญฺจ ปชานํ น ปรามสามิ, อปรามสโต จ เม ปจฺจตฺตญฺเญว นิพฺพุติ วิทิตา. ยทภิชานํ ตถาคโต โน อนยํ อาปชฺชติ.
สนฺติ, ภคฺคว, เอเก สมณพฺราหฺมณา ขิฑฺฑาปโทสิกํ อาจริยกํ อคฺคญฺญํ ปญฺญเปนฺติ. ตฺยาหํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทามิ— ‘สจฺจํ กิร ตุมฺเห อายสฺมนฺโต ขิฑฺฑาปโทสิกํ อาจริยกํ อคฺคญฺญํ ปญฺญเปถา’ติ? เต จ เม เอวํ ปุฏฺฐา ‘อาโม’ติ ปฏิชานนฺติ. ตฺยาหํ เอวํ วทามิ— ‘กถํวิหิตกํ ปน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต ขิฑฺฑาปโทสิกํ อาจริยกํ อคฺคญฺญํ ปญฺญเปถา’ติ? เต มยา ปุฏฺฐา น สมฺปายนฺติ, อสมฺปายนฺตา มมญฺเญว ปฏิปุจฺฉนฺติ, เตสาหํ ปุฏฺโฐ พฺยากโรมิ—
‘สนฺตาวุโส, ขิฑฺฑาปโทสิกา นาม เทวา. เต อติเวลํ หสฺสขิฑฺฑารติธมฺมสมาปนฺนา วิหรนฺติ. เตสํ อติเวลํ หสฺสขิฑฺฑารติธมฺมสมาปนฺนานํ วิหรตํ สติ สมฺมุสฺสติ, สติยา สมฺโมสา เต เทวา ตมฺหา กายา จวนฺติ.
ฐานํ โข ปเนตํ, อาวุโส, วิชฺชติ, ยํ อญฺญตโร สตฺโต ตมฺหา กายา จวิตฺวา อิตฺถตฺตํ อาคจฺฉติ, อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ, อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต สมาโน อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธิํ ผุสติ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต ตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ; ตโต ปรํ นานุสฺสรติ.
โส เอวมาห— “เย โข เต โภนฺโต เทวา น ขิฑฺฑาปโทสิกา เต น อติเวลํ หสฺสขิฑฺฑารติธมฺมสมาปนฺนา วิหรนฺติ. เตสํ นาติเวลํ หสฺสขิฑฺฑารติธมฺมสมาปนฺนานํ วิหรตํ สติ น สมฺมุสฺสติ, สติยา อสมฺโมสา เต เทวา ตมฺหา กายา น จวนฺติ, นิจฺจา ธุวา สสฺสตา อวิปริณามธมฺมา สสฺสติสมํ ตเถว ฐสฺสนฺติ. เย ปน มยํ อหุมฺหา ขิฑฺฑาปโทสิกา เต มยํ อติเวลํ หสฺสขิฑฺฑารติธมฺมสมาปนฺนา วิหริมฺหา, เตสํ โน อติเวลํ หสฺสขิฑฺฑารติธมฺมสมาปนฺนานํ วิหรตํ สติ สมฺมุสฺสติ, สติยา สมฺโมสา เอวํ มยํ ตมฺหา กายา จุตา, อนิจฺจา อทฺธุวา อปฺปายุกา จวนธมฺมา อิตฺถตฺตํ อาคตา”ติ. เอวํวิหิตกํ โน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต ขิฑฺฑาปโทสิกํ อาจริยกํ อคฺคญฺญํ ปญฺญเปถา’ติ. เต เอวมาหํสุ— ‘เอวํ โข โน, อาวุโส โคตม, สุตํ, ยเถวายสฺมา โคตโม อาหา’ติ.
อคฺคญฺญญฺจาหํ, ภคฺคว, ปชานามิ …เป… ยทภิชานํ ตถาคโต โน อนยํ อาปชฺชติ.
สนฺติ, ภคฺคว, เอเก สมณพฺราหฺมณา มโนปโทสิกํ อาจริยกํ อคฺคญฺญํ ปญฺญเปนฺติ. ตฺยาหํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทามิ— ‘สจฺจํ กิร ตุมฺเห อายสฺมนฺโต มโนปโทสิกํ อาจริยกํ อคฺคญฺญํ ปญฺญเปถา’ติ? เต จ เม เอวํ ปุฏฺฐา ‘อาโม’ติ ปฏิชานนฺติ. ตฺยาหํ เอวํ วทามิ— ‘กถํวิหิตกํ ปน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต มโนปโทสิกํ อาจริยกํ อคฺคญฺญํ ปญฺญเปถา’ติ? เต มยา ปุฏฺฐา น สมฺปายนฺติ, อสมฺปายนฺตา มมญฺเญว ปฏิปุจฺฉนฺติ. เตสาหํ ปุฏฺโฐ พฺยากโรมิ—
‘สนฺตาวุโส, มโนปโทสิกา นาม เทวา. เต อติเวลํ อญฺญมญฺญํ อุปนิชฺฌายนฺติ. เต อติเวลํ อญฺญมญฺญํ อุปนิชฺฌายนฺตา อญฺญมญฺญมฺหิ จิตฺตานิ ปทูเสนฺติ. เต อญฺญมญฺญํ ปทุฏฺฐจิตฺตา กิลนฺตกายา กิลนฺตจิตฺตา. เต เทวา ตมฺหา กายา จวนฺติ.
ฐานํ โข ปเนตํ, อาวุโส, วิชฺชติ, ยํ อญฺญตโร สตฺโต ตมฺหา กายา จวิตฺวา อิตฺถตฺตํ อาคจฺฉติ. อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ. อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต สมาโน อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธิํ ผุสติ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต ตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, ตโต ปรํ นานุสฺสรติ.
โส เอวมาห— “เย โข เต โภนฺโต เทวา น มโนปโทสิกา เต นาติเวลํ อญฺญมญฺญํ อุปนิชฺฌายนฺติ. เต นาติเวลํ อญฺญมญฺญํ อุปนิชฺฌายนฺตา อญฺญมญฺญมฺหิ จิตฺตานิ นปฺปทูเสนฺติ. เต อญฺญมญฺญํ อปฺปทุฏฺฐจิตฺตา อกิลนฺตกายา อกิลนฺตจิตฺตา. เต เทวา ตมฺหา กายา น จวนฺติ, นิจฺจา ธุวา สสฺสตา อวิปริณามธมฺมา สสฺสติสมํ ตเถว ฐสฺสนฺติ. เย ปน มยํ อหุมฺหา มโนปโทสิกา, เต มยํ อติเวลํ อญฺญมญฺญํ อุปนิชฺฌายิมฺหา. เต มยํ อติเวลํ อญฺญมญฺญํ อุปนิชฺฌายนฺตา อญฺญมญฺญมฺหิ จิตฺตานิ ปทูสิมฺหา. เต มยํ อญฺญมญฺญํ ปทุฏฺฐจิตฺตา กิลนฺตกายา กิลนฺตจิตฺตา. เอวํ มยํ ตมฺหา กายา จุตา, อนิจฺจา อทฺธุวา อปฺปายุกา จวนธมฺมา อิตฺถตฺตํ อาคตา”ติ. เอวํวิหิตกํ โน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต มโนปโทสิกํ อาจริยกํ อคฺคญฺญํ ปญฺญเปถา’ติ. เต เอวมาหํสุ— ‘เอวํ โข โน, อาวุโส โคตม, สุตํ, ยเถวายสฺมา โคตโม อาหา’ติ.
อคฺคญฺญญฺจาหํ, ภคฺคว, ปชานามิ …เป… ยทภิชานํ ตถาคโต โน อนยํ อาปชฺชติ.
สนฺติ, ภคฺคว, เอเก สมณพฺราหฺมณา อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ อาจริยกํ อคฺคญฺญํ ปญฺญเปนฺติ. ตฺยาหํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทามิ— ‘สจฺจํ กิร ตุมฺเห อายสฺมนฺโต อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ อาจริยกํ อคฺคญฺญํ ปญฺญเปถา’ติ? เต จ เม เอวํ ปุฏฺฐา ‘อาโม’ติ ปฏิชานนฺติ. ตฺยาหํ เอวํ วทามิ— ‘กถํวิหิตกํ ปน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ อาจริยกํ อคฺคญฺญํ ปญฺญเปถา’ติ? เต มยา ปุฏฺฐา น สมฺปายนฺติ, อสมฺปายนฺตา มมญฺเญว ปฏิปุจฺฉนฺติ. เตสาหํ ปุฏฺโฐ พฺยากโรมิ—
‘สนฺตาวุโส, อสญฺญสตฺตา นาม เทวา. สญฺญุปฺปาทา จ ปน เต เทวา ตมฺหา กายา จวนฺติ.
ฐานํ โข ปเนตํ, อาวุโส, วิชฺชติ. ยํ อญฺญตโร สตฺโต ตมฺหา กายา จวิตฺวา อิตฺถตฺตํ อาคจฺฉติ. อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ. อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต สมาโน อาตปฺปมนฺวาย ปธานมนฺวาย อนุโยคมนฺวาย อปฺปมาทมนฺวาย สมฺมามนสิการมนฺวาย ตถารูปํ เจโตสมาธิํ ผุสติ, ยถาสมาหิเต จิตฺเต ตํ สญฺญุปฺปาทํ อนุสฺสรติ, ตโต ปรํ นานุสฺสรติ’.
โส เอวมาห— ‘อธิจฺจสมุปฺปนฺโน อตฺตา จ โลโก จ. ตํ กิสฺส เหตุ? อหญฺหิ ปุพฺเพ นาโหสิํ, โสมฺหิ เอตรหิ อหุตฺวา สนฺตตาย ปริณโต’ติ. ‘เอวํวิหิตกํ โน ตุมฺเห อายสฺมนฺโต อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ อาจริยกํ อคฺคญฺญํ ปญฺญเปถา’ติ? เต เอวมาหํสุ— ‘เอวํ โข โน, อาวุโส โคตม, สุตํ ยเถวายสฺมา โคตโม อาหา’ติ.
อคฺคญฺญญฺจาหํ, ภคฺคว, ปชานามิ ตญฺจ ปชานามิ, ตโต จ อุตฺตริตรํ ปชานามิ, ตญฺจ ปชานํ น ปรามสามิ, อปรามสโต จ เม ปจฺจตฺตญฺเญว นิพฺพุติ วิทิตา. ยทภิชานํ ตถาคโต โน อนยํ อาปชฺชติ.
เอวํวาทิํ โข มํ, ภคฺคว, เอวมกฺขายิํ เอเก สมณพฺราหฺมณา อสตา ตุจฺฉา มุสา อภูเตน อพฺภาจิกฺขนฺติ— ‘วิปรีโต สมโณ โคตโม ภิกฺขโว จ. สมโณ โคตโม เอวมาห— ยสฺมิํ สมเย สุภํ วิโมกฺขํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, สพฺพํ ตสฺมิํ สมเย อสุภนฺเตฺวว ปชานาตี’ติ. น โข ปนาหํ, ภคฺคว, เอวํ วทามิ— ‘ยสฺมิํ สมเย สุภํ วิโมกฺขํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, สพฺพํ ตสฺมิํ สมเย อสุภนฺเตฺวว ปชานาตี’ติ. เอวญฺจ ขฺวาหํ, ภคฺคว, วทามิ— ‘ยสฺมิํ สมเย สุภํ วิโมกฺขํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, สุภนฺเตฺวว ตสฺมิํ สมเย ปชานาตี’”ติ.
“เต จ, ภนฺเต, วิปรีตา, เย ภควนฺตํ วิปรีตโต ทหนฺติ ภิกฺขโว จ. เอวํปสนฺโน อหํ, ภนฺเต, ภควติ. ปโหติ เม ภควา ตถา ธมฺมํ เทเสตุํ, ยถา อหํ สุภํ วิโมกฺขํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยนฺ”ติ.
“ทุกฺกรํ โข เอตํ, ภคฺคว, ตยา อญฺญทิฏฺฐิเกน อญฺญขนฺติเกน อญฺญรุจิเกน อญฺญตฺราโยเคน อญฺญตฺราจริยเกน สุภํ วิโมกฺขํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุํ. อิงฺฆ ตฺวํ, ภคฺคว, โย จ เต อยํ มยิ ปสาโท, ตเมว ตฺวํ สาธุกมนุรกฺขา”ติ. “สเจ ตํ, ภนฺเต, มยา ทุกฺกรํ อญฺญทิฏฺฐิเกน อญฺญขนฺติเกน อญฺญรุจิเกน อญฺญตฺราโยเคน อญฺญตฺราจริยเกน สุภํ วิโมกฺขํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุํ. โย จ เม อยํ, ภนฺเต, ภควติ ปสาโท, ตเมวาหํ สาธุกมนุรกฺขิสฺสามี”ติ.
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมโน ภคฺควโคตฺโต ปริพฺพาชโก ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติ.
ปาถิกสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ ปฐมํ.