7.2 ปาทตลจกฺกลกฺขณํ
“ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ปุริมํ ชาติํ ปุริมํ ภวํ ปุริมํ นิเกตํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน พหุชนสฺส สุขาวโห อโหสิ, อุพฺเพเคาตฺตาสภยํ อปนุทิตา, ธมฺมิกญฺจ รกฺขาวรณคุตฺติํ สํวิธาตา, สปริวารญฺจ ทานํ อทาสิ. โส ตสฺส กมฺมสฺส กฏตฺตา อุปจิตตฺตา อุสฺสนฺนตฺตา วิปุลตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ …เป… โส ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อิมํ มหาปุริสลกฺขณํ ปฏิลภติ. เหฏฺฐาปาทตเลสุ จกฺกานิ ชาตานิ โหนฺติ สหสฺสารานิ สเนมิกานิ สนาภิกานิ สพฺพาการปริปูรานิ สุวิภตฺตนฺตรานิ.
โส เตน ลกฺขเณน สมนฺนาคโต สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี …เป… ราชา สมาโน กิํ ลภติ? มหาปริวาโร โหติ; มหาสฺส โหนฺติ ปริวารา พฺราหฺมณคหปติกา เนคมชานปทา คณกมหามตฺตา อนีกฏฺฐา โทวาริกา อมจฺจา ปาริสชฺชา ราชาโน โภคิยา กุมารา. ราชา สมาโน อิทํ ลภติ. สเจ โข ปน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ, อรหํ โหติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก วิวฏฺฏจฺฉโท. พุทฺโธ สมาโน กิํ ลภติ? มหาปริวาโร โหติ; มหาสฺส โหนฺติ ปริวารา ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย อุปาสกา อุปาสิกาโย เทวา มนุสฺสา อสุรา นาคา คนฺธพฺพา. พุทฺโธ สมาโน อิทํ ลภติ”. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ.
ตตฺเถตํ วุจฺจติ—
“ปุเร ปุรตฺถา ปุริมาสุ ชาติสุ,
มนุสฺสภูโต พหุนํ สุขาวโห;
อุพฺเภเคาตฺตาสภยาปนูทโน,_
คุตฺตีสุ รกฺขาวรเณสุ อุสฺสุโก.
โส เตน กมฺเมน ทิวํ สมกฺกมิ,
สุขญฺจ ขิฑฺฑารติโย จ อนฺวภิ;
ตโต จวิตฺวา ปุนราคโต อิธ,
จกฺกานิ ปาเทสุ ทุเวสุ วินฺทติ.
สมนฺตเนมีนิ สหสฺสรานิ จ,
พฺยากํสุ เวยฺยญฺชนิกา สมาคตา;
ทิสฺวา กุมารํ สตปุญฺญลกฺขณํ,
ปริวารวา เหสฺสติ สตฺตุมทฺทโน.
ตถา หิ จกฺกานิ สมนฺตเนมินิ,
สเจ น ปพฺพชฺชมุเปติ ตาทิโส;
วตฺเตติ จกฺกํ ปถวิํ ปสาสติ,
ตสฺสานุยนฺตาธ ภวนฺติ ขตฺติยา.
มหายสํ สมฺปริวารยนฺติ นํ,
สเจ จ ปพฺพชฺชมุเปติ ตาทิโส;
เนกฺขมฺมฉนฺทาภิรโต วิจกฺขโณ,
เทวา มนุสฺสาสุรสกฺกรกฺขสา.
คนฺธพฺพนาคา วิหคา จตุปฺปทา,
อนุตฺตรํ เทวมนุสฺสปูชิตํ;
มหายสํ สมฺปริวารยนฺติ นนฺ”ติ.