7.20 รสคฺคสคฺคิตาลกฺขณํ
“ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ปุริมํ ชาติํ ปุริมํ ภวํ ปุริมํ นิเกตํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน สตฺตานํ อวิเหฐกชาติโก อโหสิ ปาณินา วา เลฑฺฑุนา วา ทณฺเฑน วา สตฺเถน วา. โส ตสฺส กมฺมสฺส กฏตฺตา อุปจิตตฺตา …เป… โส ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อิมํ มหาปุริสลกฺขณํ ปฏิลภติ, รสคฺคสคฺคี โหติ, อุทฺธคฺคาสฺส รสหรณีโย คีวาย ชาตา โหนฺติ สมาภิวาหินิโย.
โส เตน ลกฺขเณน สมนฺนาคโต สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี …เป… ราชา สมาโน กิํ ลภติ? อปฺปาพาโธ โหติ อปฺปาตงฺโก, สมเวปากินิยา คหณิยา สมนฺนาคโต นาติสีตาย นาจฺจุณฺหาย. ราชา สมาโน อิทํ ลภติ …เป… พุทฺโธ สมาโน กิํ ลภติ? อปฺปาพาโธ โหติ อปฺปาตงฺโก สมเวปากินิยา คหณิยา สมนฺนาคโต นาติสีตาย นาจฺจุณฺหาย มชฺฌิมาย ปธานกฺขมาย. พุทฺโธ สมาโน อิทํ ลภติ”. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ.
ตตฺเถตํ วุจฺจติ—
“น ปาณิทณฺเฑหิ ปนาถ เลฑฺฑุนา,
สตฺเถน วา มรณวเธน วา ปน;
อุพฺพาธนาย ปริตชฺชนาย วา,_
น เหฐยี ชนตมเหฐโก อหุ.
เตเนว โส สุคติมุเปจฺจ โมทติ,
สุขปฺผลํ กริย สุขานิ วินฺทติ;
สโมชสา รสหรณี สุสณฺฐิตา,
อิธาคโต ลภติ รสคฺคสคฺคิตํ._
เตนาหุ นํ อตินิปุณา วิจกฺขณา,
อยํ นโร สุขพหุโล ภวิสฺสติ;
คิหิสฺส วา ปพฺพชิตสฺส วา ปุน,
ตํ ลกฺขณํ ภวติ ตทตฺถโชตกนฺ”ติ.