7.30 สีหหนุลกฺขณํ
“ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ปุริมํ ชาติํ ปุริมํ ภวํ ปุริมํ นิเกตํ ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน สมฺผปฺปลาปํ ปหาย สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต อโหสิ กาลวาที ภูตวาที อตฺถวาที ธมฺมวาที วินยวาที, นิธานวติํ วาจํ ภาสิตา อโหสิ กาเลน สาปเทสํ ปริยนฺตวติํ อตฺถสํหิตํ. โส ตสฺส กมฺมสฺส กฏตฺตา …เป… โส ตโต จุโต อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อิมํ มหาปุริสลกฺขณํ ปฏิลภติ, สีหหนุ โหติ.
โส เตน ลกฺขเณน สมนฺนาคโต สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี …เป… ราชา สมาโน กิํ ลภติ? อปฺปธํสิโย โหติ เกนจิ มนุสฺสภูเตน ปจฺจตฺถิเกน ปจฺจามิตฺเตน. ราชา สมาโน อิทํ ลภติ …เป… พุทฺโธ สมาโน กิํ ลภติ? อปฺปธํสิโย โหติ อพฺภนฺตเรหิ วา พาหิเรหิ วา ปจฺจตฺถิเกหิ ปจฺจามิตฺเตหิ, ราเคน วา โทเสน วา โมเหน วา สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา เกนจิ วา โลกสฺมิํ. พุทฺโธ สมาโน อิทํ ลภติ”. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ.
ตตฺเถตํ วุจฺจติ—
“น สมฺผปฺปลาปํ น มุทฺธตํ,
อวิกิณฺณวจนพฺยปฺปโถ อโหสิ;
อหิตมปิ จ อปนุทิ,
หิตมปิ จ พหุชนสุขญฺจ อภณิ.
ตํ กตฺวา อิโต จุโต ทิวมุปปชฺชิ,
สุกตผลวิปากมนุโภสิ;
จวิย ปุนริธาคโต สมาโน,
ทฺวิทุคมวรตรหนุตฺตมลตฺถ.
ราชา โหติ สุทุปฺปธํสิโย,
มนุชินฺโท มนุชาธิปติ มหานุภาโว;
ติทิวปุรวรสโม ภวติ,
สุรวรตโรริว อินฺโท.
คนฺธพฺพาสุรยกฺขรกฺขเสภิ,
สุเรหิ น หิ ภวติ สุปฺปธํสิโย;
ตถตฺโต ยทิ ภวติ ตถาวิโธ,
อิธ ทิสา จ ปฏิทิสา จ วิทิสา จา”ติ._