8.13 ฉทฺทิสาปฏิจฺฉาทนกณฺฑ
“กถญฺจ, คหปติปุตฺต, อริยสาวโก ฉทฺทิสาปฏิจฺฉาที โหติ? ฉ อิมา, คหปติปุตฺต, ทิสา เวทิตพฺพา. ปุรตฺถิมา ทิสา มาตาปิตโร เวทิตพฺพา, ทกฺขิณา ทิสา อาจริยา เวทิตพฺพา, ปจฺฉิมา ทิสา ปุตฺตทารา เวทิตพฺพา, อุตฺตรา ทิสา มิตฺตามจฺจา เวทิตพฺพา, เหฏฺฐิมา ทิสา ทาสกมฺมกรา เวทิตพฺพา, อุปริมา ทิสา สมณพฺราหฺมณา เวทิตพฺพา.
ปญฺจหิ โข, คหปติปุตฺต, ฐาเนหิ ปุตฺเตน ปุรตฺถิมา ทิสา มาตาปิตโร ปจฺจุปฏฺฐาตพฺพา— ภโต เน ภริสฺสามิ, กิจฺจํ เนสํ กริสฺสามิ, กุลวํสํ ฐเปสฺสามิ, ทายชฺชํ ปฏิปชฺชามิ, อถ วา ปน เปตานํ กาลงฺกตานํ ทกฺขิณํ อนุปฺปทสฺสามีติ. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, ปญฺจหิ ฐาเนหิ ปุตฺเตน ปุรตฺถิมา ทิสา มาตาปิตโร ปจฺจุปฏฺฐิตา ปญฺจหิ ฐาเนหิ ปุตฺตํ อนุกมฺปนฺติ. ปาปา นิวาเรนฺติ, กลฺยาเณ นิเวเสนฺติ, สิปฺปํ สิกฺขาเปนฺติ, ปติรูเปน ทาเรน สํโยเชนฺติ, สมเย ทายชฺชํ นิยฺยาเทนฺติ. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, ปญฺจหิ ฐาเนหิ ปุตฺเตน ปุรตฺถิมา ทิสา มาตาปิตโร ปจฺจุปฏฺฐิตา อิเมหิ ปญฺจหิ ฐาเนหิ ปุตฺตํ อนุกมฺปนฺติ. เอวมสฺส เอสา ปุรตฺถิมา ทิสา ปฏิจฺฉนฺนา โหติ เขมา อปฺปฏิภยา.
ปญฺจหิ โข, คหปติปุตฺต, ฐาเนหิ อนฺเตวาสินา ทกฺขิณา ทิสา อาจริยา ปจฺจุปฏฺฐาตพฺพา— อุฏฺฐาเนน อุปฏฺฐาเนน สุสฺสุสาย ปาริจริยาย สกฺกจฺจํ สิปฺปปฏิคฺคหเณน. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, ปญฺจหิ ฐาเนหิ อนฺเตวาสินา ทกฺขิณา ทิสา อาจริยา ปจฺจุปฏฺฐิตา ปญฺจหิ ฐาเนหิ อนฺเตวาสิํ อนุกมฺปนฺติ— สุวินีตํ วิเนนฺติ, สุคฺคหิตํ คาหาเปนฺติ, สพฺพสิปฺปสฺสุตํ สมกฺขายิโน ภวนฺติ, มิตฺตามจฺเจสุ ปฏิยาเทนฺติ, ทิสาสุ ปริตฺตาณํ กโรนฺติ. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, ปญฺจหิ ฐาเนหิ อนฺเตวาสินา ทกฺขิณา ทิสา อาจริยา ปจฺจุปฏฺฐิตา อิเมหิ ปญฺจหิ ฐาเนหิ อนฺเตวาสิํ อนุกมฺปนฺติ. เอวมสฺส เอสา ทกฺขิณา ทิสา ปฏิจฺฉนฺนา โหติ เขมา อปฺปฏิภยา.
ปญฺจหิ โข, คหปติปุตฺต, ฐาเนหิ สามิเกน ปจฺฉิมา ทิสา ภริยา ปจฺจุปฏฺฐาตพฺพา— สมฺมานนาย อนวมานนาย อนติจริยาย อิสฺสริยโวสฺสคฺเคน อลงฺการานุปฺปทาเนน. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, ปญฺจหิ ฐาเนหิ สามิเกน ปจฺฉิมา ทิสา ภริยา ปจฺจุปฏฺฐิตา ปญฺจหิ ฐาเนหิ สามิกํ อนุกมฺปติ— สุสํวิหิตกมฺมนฺตา จ โหติ, สงฺคหิตปริชนา จ, อนติจารินี จ, สมฺภตญฺจ อนุรกฺขติ, ทกฺขา จ โหติ อนลสา สพฺพกิจฺเจสุ. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, ปญฺจหิ ฐาเนหิ สามิเกน ปจฺฉิมา ทิสา ภริยา ปจฺจุปฏฺฐิตา อิเมหิ ปญฺจหิ ฐาเนหิ สามิกํ อนุกมฺปติ. เอวมสฺส เอสา ปจฺฉิมา ทิสา ปฏิจฺฉนฺนา โหติ เขมา อปฺปฏิภยา.
ปญฺจหิ โข, คหปติปุตฺต, ฐาเนหิ กุลปุตฺเตน อุตฺตรา ทิสา มิตฺตามจฺจา ปจฺจุปฏฺฐาตพฺพา— ทาเนน เปยฺยวชฺเชน อตฺถจริยาย สมานตฺตตาย อวิสํวาทนตาย. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, ปญฺจหิ ฐาเนหิ กุลปุตฺเตน อุตฺตรา ทิสา มิตฺตามจฺจา ปจฺจุปฏฺฐิตา ปญฺจหิ ฐาเนหิ กุลปุตฺตํ อนุกมฺปนฺติ— ปมตฺตํ รกฺขนฺติ, ปมตฺตสฺส สาปเตยฺยํ รกฺขนฺติ, ภีตสฺส สรณํ โหนฺติ, อาปทาสุ น วิชหนฺติ, อปรปชา จสฺส ปฏิปูเชนฺติ. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, ปญฺจหิ ฐาเนหิ กุลปุตฺเตน อุตฺตรา ทิสา มิตฺตามจฺจา ปจฺจุปฏฺฐิตา อิเมหิ ปญฺจหิ ฐาเนหิ กุลปุตฺตํ อนุกมฺปนฺติ. เอวมสฺส เอสา อุตฺตรา ทิสา ปฏิจฺฉนฺนา โหติ เขมา อปฺปฏิภยา.
ปญฺจหิ โข, คหปติปุตฺต, ฐาเนหิ อยฺยิรเกน เหฏฺฐิมา ทิสา ทาสกมฺมกรา ปจฺจุปฏฺฐาตพฺพา— ยถาพลํ กมฺมนฺตสํวิธาเนน ภตฺตเวตนานุปฺปทาเนน คิลานุปฏฺฐาเนน อจฺฉริยานํ รสานํ สํวิภาเคน สมเย โวสฺสคฺเคน. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, ปญฺจหิ ฐาเนหิ อยฺยิรเกน เหฏฺฐิมา ทิสา ทาสกมฺมกรา ปจฺจุปฏฺฐิตา ปญฺจหิ ฐาเนหิ อยฺยิรกํ อนุกมฺปนฺติ— ปุพฺพุฏฺฐายิโน จ โหนฺติ, ปจฺฉา นิปาติโน จ, ทินฺนาทายิโน จ, สุกตกมฺมกรา จ, กิตฺติวณฺณหรา จ. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, ปญฺจหิ ฐาเนหิ อยฺยิรเกน เหฏฺฐิมา ทิสา ทาสกมฺมกรา ปจฺจุปฏฺฐิตา อิเมหิ ปญฺจหิ ฐาเนหิ อยฺยิรกํ อนุกมฺปนฺติ. เอวมสฺส เอสา เหฏฺฐิมา ทิสา ปฏิจฺฉนฺนา โหติ เขมา อปฺปฏิภยา.
ปญฺจหิ โข, คหปติปุตฺต, ฐาเนหิ กุลปุตฺเตน อุปริมา ทิสา สมณพฺราหฺมณา ปจฺจุปฏฺฐาตพฺพา— เมตฺเตน กายกมฺเมน เมตฺเตน วจีกมฺเมน เมตฺเตน มโนกมฺเมน อนาวฏทฺวารตาย อามิสานุปฺปทาเนน. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, ปญฺจหิ ฐาเนหิ กุลปุตฺเตน อุปริมา ทิสา สมณพฺราหฺมณา ปจฺจุปฏฺฐิตา ฉหิ ฐาเนหิ กุลปุตฺตํ อนุกมฺปนฺติ— ปาปา นิวาเรนฺติ, กลฺยาเณ นิเวเสนฺติ, กลฺยาเณน มนสา อนุกมฺปนฺติ, อสฺสุตํ สาเวนฺติ, สุตํ ปริโยทาเปนฺติ, สคฺคสฺส มคฺคํ อาจิกฺขนฺติ. อิเมหิ โข, คหปติปุตฺต, ปญฺจหิ ฐาเนหิ กุลปุตฺเตน อุปริมา ทิสา สมณพฺราหฺมณา ปจฺจุปฏฺฐิตา อิเมหิ ฉหิ ฐาเนหิ กุลปุตฺตํ อนุกมฺปนฺติ. เอวมสฺส เอสา อุปริมา ทิสา ปฏิจฺฉนฺนา โหติ เขมา อปฺปฏิภยา”ติ.
อิทมโวจ ภควา. อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา—
“มาตาปิตา ทิสา ปุพฺพา,
อาจริยา ทกฺขิณา ทิสา;
ปุตฺตทารา ทิสา ปจฺฉา,
มิตฺตามจฺจา จ อุตฺตรา.
ทาสกมฺมกรา เหฏฺฐา,
อุทฺธํ สมณพฺราหฺมณา;_
เอตา ทิสา นมเสฺสยฺย,
อลมตฺโต กุเล คิหี.
ปณฺฑิโต สีลสมฺปนฺโน,
สโณฺห จ ปฏิภานวา;
นิวาตวุตฺติ อตฺถทฺโธ,
ตาทิโส ลภเต ยสํ.
อุฏฺฐานโก อนลโส,_
อาปทาสุ น เวธติ;
อจฺฉินฺนวุตฺติ เมธาวี,
ตาทิโส ลภเต ยสํ.
สงฺคาหโก มิตฺตกโร,
วทญฺญู วีตมจฺฉโร;
เนตา วิเนตา อนุเนตา,
ตาทิโส ลภเต ยสํ.
ทานญฺจ เปยฺยวชฺชญฺจ,
อตฺถจริยา จ ยา อิธ;
สมานตฺตตา จ ธมฺเมสุ,
ตตฺถ ตตฺถ ยถารหํ;
เอเต โข สงฺคหา โลเก,
รถสฺสาณีว ยายโต.
เอเต จ สงฺคหา นาสฺสุ,
น มาตา ปุตฺตการณา;
ลเภถ มานํ ปูชํ วา,
ปิตา วา ปุตฺตการณา.
ยสฺมา จ สงฺคหา เอเต,
สมฺมเปกฺขนฺติ ปณฺฑิตา;
ตสฺมา มหตฺตํ ปปฺโปนฺติ,
ปาสํสา จ ภวนฺติ เต”ติ.
เอวํ วุตฺเต, สิงฺคาลโก คหปติปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ— “อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต, อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย ‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติ; เอวเมวํ ภควตา อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมญฺจ ภิกฺขุสํฆญฺจ. อุปาสกํ มํ ภควา ธาเรตุ, อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คตนฺ”ติ.
สิงฺคาลสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ อฏฺฐมํ.