13 เตวิชฺชสุตฺต
เอวํ เม สุตํ— เอกํ สมยํ ภควา โกสเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสํเฆน สทฺธิํ ปญฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ เยน มนสากฏํ นาม โกสลานํ พฺราหฺมณคาโม ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา มนสากเฏ วิหรติ อุตฺตเรน มนสากฏสฺส อจิรวติยา นทิยา ตีเร อมฺพวเน.
เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา อภิญฺญาตา อภิญฺญาตา พฺราหฺมณมหาสาลา มนสากเฏ ปฏิวสนฺติ, เสยฺยถิทํ— จงฺกี พฺราหฺมโณ ตารุกฺโข พฺราหฺมโณ โปกฺขรสาติ พฺราหฺมโณ ชาณุโสณิ พฺราหฺมโณ โตเทโยฺย พฺราหฺมโณ อญฺเญ จ อภิญฺญาตา อภิญฺญาตา พฺราหฺมณมหาสาลา.
อถ โข วาเสฏฺฐภารทฺวาชานํ มาณวานํ ชงฺฆวิหารํ อนุจงฺกมนฺตานํ อนุวิจรนฺตานํ มคฺคามคฺเค กถา อุทปาทิ. อถ โข วาเสฏฺโฐ มาณโว เอวมาห— “อยเมว อุชุมคฺโค, อยมญฺชสายโน นิยฺยานิโก นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส พฺรหฺมสหพฺยตาย, ยฺวายํ อกฺขาโต พฺราหฺมเณน โปกฺขรสาตินา”ติ. ภารทฺวาโชปิ มาณโว เอวมาห— “อยเมว อุชุมคฺโค, อยมญฺชสายโน นิยฺยานิโก, นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส พฺรหฺมสหพฺยตาย, ยฺวายํ อกฺขาโต พฺราหฺมเณน ตารุกฺเขนา”ติ. เนว โข อสกฺขิ วาเสฏฺโฐ มาณโว ภารทฺวาชํ มาณวํ สญฺญาเปตุํ, น ปน อสกฺขิ ภารทฺวาโช มาณโว วาเสฏฺฐํ มาณวํ สญฺญาเปตุํ.
อถ โข วาเสฏฺโฐ มาณโว ภารทฺวาชํ มาณวํ อามนฺเตสิ— “อยํ โข, ภารทฺวาช, สมโณ โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต มนสากเฏ วิหรติ อุตฺตเรน มนสากฏสฺส อจิรวติยา นทิยา ตีเร อมฺพวเน. ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต— ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ. อายาม, โภ ภารทฺวาช, เยน สมโณ โคตโม เตนุปสงฺกมิสฺสาม; อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ สมณํ โคตมํ ปุจฺฉิสฺสาม. ยถา โน สมโณ โคตโม พฺยากริสฺสติ, ตถา นํ ธาเรสฺสามา”ติ. “เอวํ, โภ”ติ โข ภารทฺวาโช มาณโว วาเสฏฺฐสฺส มาณวสฺส ปจฺจโสฺสสิ.