3.7 ทฺเวลกฺขณาทสฺสน
อถ โข ภควา วิหารา นิกฺขมฺม จงฺกมํ อพฺภุฏฺฐาสิ. อมฺพฏฺโฐปิ มาณโว วิหารา นิกฺขมฺม จงฺกมํ อพฺภุฏฺฐาสิ. อถ โข อมฺพฏฺโฐ มาณโว ภควนฺตํ จงฺกมนฺตํ อนุจงฺกมมาโน ภควโต กาเย ทฺวตฺติํสมหาปุริสลกฺขณานิ สมนฺเนสิ. อทฺทสา โข อมฺพฏฺโฐ มาณโว ภควโต กาเย ทฺวตฺติํสมหาปุริสลกฺขณานิ เยภุเยฺยน ฐเปตฺวา ทฺเว. ทฺวีสุ มหาปุริสลกฺขเณสุ กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ นาธิมุจฺจติ น สมฺปสีทติ— โกโสหิเต จ วตฺถคุเยฺห ปหูตชิวฺหตาย จ.
อถ โข ภควโต เอตทโหสิ— “ปสฺสติ โข เม อยํ อมฺพฏฺโฐ มาณโว ทฺวตฺติํสมหาปุริสลกฺขณานิ เยภุเยฺยน ฐเปตฺวา ทฺเว. ทฺวีสุ มหาปุริสลกฺขเณสุ กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ นาธิมุจฺจติ น สมฺปสีทติ— โกโสหิเต จ วตฺถคุเยฺห ปหูตชิวฺหตาย จา”ติ. อถ โข ภควา ตถารูปํ อิทฺธาภิสงฺขารํ อภิสงฺขาสิ. ยถา อทฺทส อมฺพฏฺโฐ มาณโว ภควโต โกโสหิตํ วตฺถคุยฺหํ. อถ โข ภควา ชิวฺหํ นินฺนาเมตฺวา อุโภปิ กณฺณโสตานิ อนุมสิ ปฏิมสิ, อุโภปิ นาสิกโสตานิ อนุมสิ ปฏิมสิ, เกวลมฺปิ นลาฏมณฺฑลํ ชิวฺหาย ฉาเทสิ. อถ โข อมฺพฏฺฐสฺส มาณวสฺส เอตทโหสิ— “สมนฺนาคโต โข สมโณ โคตโม ทฺวตฺติํสมหาปุริสลกฺขเณหิ ปริปุณฺเณหิ, โน อปริปุณฺเณหี”ติ. ภควนฺตํ เอตทโวจ— “หนฺท จ ทานิ มยํ, โภ โคตม, คจฺฉาม, พหุกิจฺจา มยํ พหุกรณียา”ติ. “ยสฺสทานิ ตฺวํ, อมฺพฏฺฐ, กาลํ มญฺญสี”ติ. อถ โข อมฺพฏฺโฐ มาณโว วฬวารถมารุยฺห ปกฺกามิ.
เตน โข ปน สมเยน พฺราหฺมโณ โปกฺขรสาติ อุกฺกฏฺฐาย นิกฺขมิตฺวา มหตา พฺราหฺมณคเณน สทฺธิํ สเก อาราเม นิสินฺโน โหติ อมฺพฏฺฐํเยว มาณวํ ปฏิมาเนนฺโต. อถ โข อมฺพฏฺโฐ มาณโว เยน สโก อาราโม เตน ปายาสิ. ยาวติกา ยานสฺส ภูมิ, ยาเนน คนฺตฺวา ยานา ปจฺโจโรหิตฺวา ปตฺติโกว เยน พฺราหฺมโณ โปกฺขรสาติ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา พฺราหฺมณํ โปกฺขรสาติํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ.
เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อมฺพฏฺฐํ มาณวํ พฺราหฺมโณ โปกฺขรสาติ เอตทโวจ— “กจฺจิ, ตาต อมฺพฏฺฐ, อทฺทส ตํ ภวนฺตํ โคตมนฺ”ติ? “อทฺทสาม โข มยํ, โภ, ตํ ภวนฺตํ โคตมนฺ”ติ. “กจฺจิ, ตาต อมฺพฏฺฐ, ตํ ภวนฺตํ โคตมํ ตถา สนฺตํเยว สทฺโท อพฺภุคฺคโต โน อญฺญถา; กจฺจิ ปน โส ภวํ โคตโม ตาทิโส โน อญฺญาทิโส”ติ? “ตถา สนฺตํเยว, โภ, ตํ ภวนฺตํ โคตมํ สทฺโท อพฺภุคฺคโต โน อญฺญถา, ตาทิโสว โส ภวํ โคตโม โน อญฺญาทิโส. สมนฺนาคโต จ โส ภวํ โคตโม ทฺวตฺติํสมหาปุริสลกฺขเณหิ ปริปุณฺเณหิ โน อปริปุณฺเณหี”ติ. “อหุ ปน เต, ตาต อมฺพฏฺฐ, สมเณน โคตเมน สทฺธิํ โกจิเทว กถาสลฺลาโป”ติ? “อหุ โข เม, โภ, สมเณน โคตเมน สทฺธิํ โกจิเทว กถาสลฺลาโป”ติ. “ยถา กถํ ปน เต, ตาต อมฺพฏฺฐ, อหุ สมเณน โคตเมน สทฺธิํ โกจิเทว กถาสลฺลาโป”ติ? อถ โข อมฺพฏฺโฐ มาณโว ยาวตโก อโหสิ ภควตา สทฺธิํ กถาสลฺลาโป, ตํ สพฺพํ พฺราหฺมณสฺส โปกฺขรสาติสฺส อาโรเจสิ.
เอวํ วุตฺเต, พฺราหฺมโณ โปกฺขรสาติ อมฺพฏฺฐํ มาณวํ เอตทโวจ— “อโห วต เร อมฺหากํ, ปณฺฑิตก, อโห วต เร อมฺหากํ, พหุสฺสุตก, อโห วต เร อมฺหากํ, เตวิชฺชก, เอวรูเปน กิร, โภ, ปุริโส อตฺถจรเกน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺเชยฺย. ยเทว โข ตฺวํ, อมฺพฏฺฐ, ตํ ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ อาสชฺช อาสชฺช อวจาสิ, อถ โข โส ภวํ โคตโม อเมฺหปิ เอวํ อุปเนยฺย อุปเนยฺย อวจ. อโห วต เร อมฺหากํ, ปณฺฑิตก, อโห วต เร อมฺหากํ, พหุสฺสุตก, อโห วต เร อมฺหากํ, เตวิชฺชก, เอวรูเปน กิร, โภ, ปุริโส อตฺถจรเกน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺเชยฺยา”ติ, กุปิโต อนตฺตมโน อมฺพฏฺฐํ มาณวํ ปทสาเยว ปวตฺเตสิ. อิจฺฉติ จ ตาวเทว ภควนฺตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ.