4.5 พฺราหฺมณปญฺญตฺติ
อถ โข ภควโต โสณทณฺฑสฺส พฺราหฺมณสฺส เจตสา เจโตปริวิตกฺกมญฺญาย เอตทโหสิ— “วิหญฺญติ โข อยํ โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ สเกน จิตฺเตน. ยนฺนูนาหํ โสณทณฺฑํ พฺราหฺมณํ สเก อาจริยเก เตวิชฺชเก ปญฺหํ ปุจฺเฉยฺยนฺ”ติ. อถ โข ภควา โสณทณฺฑํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจ— “กติหิ ปน, พฺราหฺมณ, องฺเคหิ สมนฺนาคตํ พฺราหฺมณา พฺราหฺมณํ ปญฺญเปนฺติ; ‘พฺราหฺมโณสฺมี’ติ จ วทมาโน สมฺมา วเทยฺย, น จ ปน มุสาวาทํ อาปชฺเชยฺยา”ติ?
อถ โข โสณทณฺฑสฺส พฺราหฺมณสฺส เอตทโหสิ— “ยํ วต โน อโหสิ อิจฺฉิตํ, ยํ อากงฺขิตํ, ยํ อธิปฺเปตํ, ยํ อภิปตฺถิตํ— ‘อโห วต มํ สมโณ โคตโม สเก อาจริยเก เตวิชฺชเก ปญฺหํ ปุจฺเฉยฺย, อทฺธา วตสฺสาหํ จิตฺตํ อาราเธยฺยํ ปญฺหสฺส เวยฺยากรเณนา’ติ, ตตฺร มํ สมโณ โคตโม สเก อาจริยเก เตวิชฺชเก ปญฺหํ ปุจฺฉติ. อทฺธา วตสฺสาหํ จิตฺตํ อาราเธสฺสามิ ปญฺหสฺส เวยฺยากรเณนา”ติ.
อถ โข โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ อพฺภุนฺนาเมตฺวา กายํ อนุวิโลเกตฺวา ปริสํ ภควนฺตํ เอตทโวจ— “ปญฺจหิ, โภ โคตม, องฺเคหิ สมนฺนาคตํ พฺราหฺมณา พฺราหฺมณํ ปญฺญเปนฺติ; ‘พฺราหฺมโณสฺมี’ติ จ วทมาโน สมฺมา วเทยฺย, น จ ปน มุสาวาทํ อาปชฺเชยฺย. กตเมหิ ปญฺจหิ? อิธ, โภ โคตม, พฺราหฺมโณ อุภโต สุชาโต โหติ มาติโต จ ปิติโต จ, สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อกฺขิตฺโต อนุปกฺกุฏฺโฐ ชาติวาเทน; อชฺฌายโก โหติ มนฺตธโร ติณฺณํ เวทานํ ปารคู สนิฆณฺฑุเกฏุภานํ สากฺขรปฺปเภทานํ อิติหาสปญฺจมานํ ปทโก เวยฺยากรโณ โลกายตมหาปุริสลกฺขเณสุ อนวโย; อภิรูโป โหติ ทสฺสนีโย ปาสาทิโก ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคโต พฺรหฺมวณฺณี พฺรหฺมวจฺฉสี อขุทฺทาวกาโส ทสฺสนาย; สีลวา โหติ วุทฺธสีลี วุทฺธสีเลน สมนฺนาคโต; ปณฺฑิโต จ โหติ เมธาวี ปฐโม วา ทุติโย วา สุชํ ปคฺคณฺหนฺตานํ. อิเมหิ โข, โภ โคตม, ปญฺจหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตํ พฺราหฺมณา พฺราหฺมณํ ปญฺญเปนฺติ; ‘พฺราหฺมโณสฺมี’ติ จ วทมาโน สมฺมา วเทยฺย, น จ ปน มุสาวาทํ อาปชฺเชยฺยา”ติ.
“อิเมสํ ปน, พฺราหฺมณ, ปญฺจนฺนํ องฺคานํ สกฺกา เอกํ องฺคํ ฐปยิตฺวา จตูหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ พฺราหฺมณา พฺราหฺมณํ ปญฺญเปตุํ; ‘พฺราหฺมโณสฺมี’ติ จ วทมาโน สมฺมา วเทยฺย, น จ ปน มุสาวาทํ อาปชฺเชยฺยา”ติ? “สกฺกา, โภ โคตม. อิเมสญฺหิ, โภ โคตม, ปญฺจนฺนํ องฺคานํ วณฺณํ ฐปยาม. กิญฺหิ วณฺโณ กริสฺสติ? ยโต โข, โภ โคตม, พฺราหฺมโณ อุภโต สุชาโต โหติ มาติโต จ ปิติโต จ สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อกฺขิตฺโต อนุปกฺกุฏฺโฐ ชาติวาเทน; อชฺฌายโก จ โหติ มนฺตธโร จ ติณฺณํ เวทานํ ปารคู สนิฆณฺฑุเกฏุภานํ สากฺขรปฺปเภทานํ อิติหาสปญฺจมานํ ปทโก เวยฺยากรโณ โลกายตมหาปุริสลกฺขเณสุ อนวโย; สีลวา จ โหติ วุทฺธสีลี วุทฺธสีเลน สมนฺนาคโต; ปณฺฑิโต จ โหติ เมธาวี ปฐโม วา ทุติโย วา สุชํ ปคฺคณฺหนฺตานํ. อิเมหิ โข, โภ โคตม, จตูหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ พฺราหฺมณา พฺราหฺมณํ ปญฺญเปนฺติ; ‘พฺราหฺมโณสฺมี’ติ จ วทมาโน สมฺมา วเทยฺย, น จ ปน มุสาวาทํ อาปชฺเชยฺยา”ติ.
“อิเมสํ ปน, พฺราหฺมณ, จตุนฺนํ องฺคานํ สกฺกา เอกํ องฺคํ ฐปยิตฺวา ตีหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ พฺราหฺมณา พฺราหฺมณํ ปญฺญเปตุํ; ‘พฺราหฺมโณสฺมี’ติ จ วทมาโน สมฺมา วเทยฺย, น จ ปน มุสาวาทํ อาปชฺเชยฺยา”ติ? “สกฺกา, โภ โคตม. อิเมสญฺหิ, โภ โคตม, จตุนฺนํ องฺคานํ มนฺเต ฐปยาม. กิญฺหิ มนฺตา กริสฺสนฺติ? ยโต โข, โภ โคตม, พฺราหฺมโณ อุภโต สุชาโต โหติ มาติโต จ ปิติโต จ สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อกฺขิตฺโต อนุปกฺกุฏฺโฐ ชาติวาเทน; สีลวา จ โหติ วุทฺธสีลี วุทฺธสีเลน สมนฺนาคโต; ปณฺฑิโต จ โหติ เมธาวี ปฐโม วา ทุติโย วา สุชํ ปคฺคณฺหนฺตานํ. อิเมหิ โข, โภ โคตม, ตีหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ พฺราหฺมณา พฺราหฺมณํ ปญฺญเปนฺติ; ‘พฺราหฺมโณสฺมี’ติ จ วทมาโน สมฺมา วเทยฺย, น จ ปน มุสาวาทํ อาปชฺเชยฺยา”ติ.
“อิเมสํ ปน, พฺราหฺมณ, ติณฺณํ องฺคานํ สกฺกา เอกํ องฺคํ ฐปยิตฺวา ทฺวีหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ พฺราหฺมณา พฺราหฺมณํ ปญฺญเปตุํ; ‘พฺราหฺมโณสฺมี’ติ จ วทมาโน สมฺมา วเทยฺย, น จ ปน มุสาวาทํ อาปชฺเชยฺยา”ติ? “สกฺกา, โภ โคตม. อิเมสญฺหิ, โภ โคตม, ติณฺณํ องฺคานํ ชาติํ ฐปยาม. กิญฺหิ ชาติ กริสฺสติ? ยโต โข, โภ โคตม, พฺราหฺมโณ สีลวา โหติ วุทฺธสีลี วุทฺธสีเลน สมนฺนาคโต; ปณฺฑิโต จ โหติ เมธาวี ปฐโม วา ทุติโย วา สุชํ ปคฺคณฺหนฺตานํ. อิเมหิ โข, โภ โคตม, ทฺวีหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ พฺราหฺมณา พฺราหฺมณํ ปญฺญเปนฺติ; ‘พฺราหฺมโณสฺมี’ติ จ วทมาโน สมฺมา วเทยฺย, น จ ปน มุสาวาทํ อาปชฺเชยฺยา”ติ.
เอวํ วุตฺเต, เต พฺราหฺมณา โสณทณฺฑํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจุํ— “มา ภวํ โสณทณฺโฑ เอวํ อวจ, มา ภวํ โสณทณฺโฑ เอวํ อวจ. อปวทเตว ภวํ โสณทณฺโฑ วณฺณํ, อปวทติ มนฺเต, อปวทติ ชาติํ, เอกํเสน ภวํ โสณทณฺโฑ สมณเสฺสว โคตมสฺส วาทํ อนุปกฺขนฺทตี”ติ.
อถ โข ภควา เต พฺราหฺมเณ เอตทโวจ— “สเจ โข ตุมฺหากํ พฺราหฺมณานํ เอวํ โหติ— ‘อปฺปสฺสุโต จ โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ, อกลฺยาณวากฺกรโณ จ โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ, ทุปฺปญฺโญ จ โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ, น จ ปโหติ โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ สมเณน โคตเมน สทฺธิํ อสฺมิํ วจเน ปฏิมนฺเตตุนฺ’ติ, ติฏฺฐตุ โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ, ตุมฺเห มยา สทฺธิํ มนฺตโวฺห อสฺมิํ วจเน. สเจ ปน ตุมฺหากํ พฺราหฺมณานํ เอวํ โหติ— ‘พหุสฺสุโต จ โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ, กลฺยาณวากฺกรโณ จ โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ, ปณฺฑิโต จ โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ, ปโหติ จ โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ สมเณน โคตเมน สทฺธิํ อสฺมิํ วจเน ปฏิมนฺเตตุนฺ’ติ, ติฏฺฐถ ตุมฺเห, โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ มยา สทฺธิํ ปฏิมนฺเตตู”ติ.
เอวํ วุตฺเต, โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ— “ติฏฺฐตุ ภวํ โคตโม, ตุณฺหี ภวํ โคตโม โหตุ, อหเมว เตสํ สหธมฺเมน ปฏิวจนํ กริสฺสามี”ติ. อถ โข โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ เต พฺราหฺมเณ เอตทโวจ— “มา ภวนฺโต เอวํ อวจุตฺถ, มา ภวนฺโต เอวํ อวจุตฺถ— ‘อปวทเตว ภวํ โสณทณฺโฑ วณฺณํ, อปวทติ มนฺเต, อปวทติ ชาติํ, เอกํเสน ภวํ โสณทณฺโฑ สมณเสฺสว โคตมสฺส วาทํ อนุปกฺขนฺทตี’ติ. นาหํ, โภ, อปวทามิ วณฺณํ วา มนฺเต วา ชาติํ วา”ติ.
เตน โข ปน สมเยน โสณทณฺฑสฺส พฺราหฺมณสฺส ภาคิเนโยฺย องฺคโก นาม มาณวโก ตสฺสํ ปริสายํ นิสินฺโน โหติ. อถ โข โสณทณฺโฑ พฺราหฺมโณ เต พฺราหฺมเณ เอตทโวจ— “ปสฺสนฺติ โน โภนฺโต อิมํ องฺคกํ มาณวกํ อมฺหากํ ภาคิเนยฺยนฺ”ติ? “เอวํ, โภ”. “องฺคโก โข, โภ, มาณวโก อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคโต พฺรหฺมวณฺณี พฺรหฺมวจฺฉสี อขุทฺทาวกาโส ทสฺสนาย, นาสฺส อิมิสฺสํ ปริสายํ สมสโม อตฺถิ วณฺเณน ฐเปตฺวา สมณํ โคตมํ. องฺคโก โข มาณวโก อชฺฌายโก มนฺตธโร, ติณฺณํ เวทานํ ปารคู สนิฆณฺฑุเกฏุภานํ สากฺขรปฺปเภทานํ อิติหาสปญฺจมานํ ปทโก เวยฺยากรโณ โลกายตมหาปุริสลกฺขเณสุ อนวโย. อหมสฺส มนฺเต วาเจตา. องฺคโก โข มาณวโก อุภโต สุชาโต มาติโต จ ปิติโต จ สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อกฺขิตฺโต อนุปกฺกุฏฺโฐ ชาติวาเทน. อหมสฺส มาตาปิตโร ชานามิ. องฺคโก โข มาณวโก ปาณมฺปิ หเนยฺย, อทินฺนมฺปิ อาทิเยยฺย, ปรทารมฺปิ คจฺเฉยฺย, มุสาวาทมฺปิ ภเณยฺย, มชฺชมฺปิ ปิเวยฺย, เอตฺถ ทานิ, โภ, กิํ วณฺโณ กริสฺสติ, กิํ มนฺตา, กิํ ชาติ? ยโต โข, โภ, พฺราหฺมโณ สีลวา จ โหติ วุทฺธสีลี วุทฺธสีเลน สมนฺนาคโต, ปณฺฑิโต จ โหติ เมธาวี ปฐโม วา ทุติโย วา สุชํ ปคฺคณฺหนฺตานํ. อิเมหิ โข, โภ, ทฺวีหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ พฺราหฺมณา พฺราหฺมณํ ปญฺญเปนฺติ; ‘พฺราหฺมโณสฺมี’ติ จ วทมาโน สมฺมา วเทยฺย, น จ ปน มุสาวาทํ อาปชฺเชยฺยา”ติ.