9.1 โปฏฺฐปาทปริพฺพาชกวตฺถุ
เอวํ เม สุตํ— เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน โปฏฺฐปาโท ปริพฺพาชโก สมยปฺปวาทเก ตินฺทุกาจีเร เอกสาลเก มลฺลิกาย อาราเม ปฏิวสติ มหติยา ปริพฺพาชกปริสาย สทฺธิํ ติํสมตฺเตหิ ปริพฺพาชกสเตหิ. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถิํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ.
อถ โข ภควโต เอตทโหสิ— “อติปฺปโค โข ตาว สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตุํ. ยนฺนูนาหํ เยน สมยปฺปวาทโก ตินฺทุกาจีโร เอกสาลโก มลฺลิกาย อาราโม, เยน โปฏฺฐปาโท ปริพฺพาชโก เตนุปสงฺกเมยฺยนฺ”ติ. อถ โข ภควา เยน สมยปฺปวาทโก ตินฺทุกาจีโร เอกสาลโก มลฺลิกาย อาราโม เตนุปสงฺกมิ.
เตน โข ปน สมเยน โปฏฺฐปาโท ปริพฺพาชโก มหติยา ปริพฺพาชกปริสาย สทฺธิํ นิสินฺโน โหติ อุนฺนาทินิยา อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทาย อเนกวิหิตํ ติรจฺฉานกถํ กเถนฺติยา. เสยฺยถิทํ— ราชกถํ โจรกถํ มหามตฺตกถํ เสนากถํ ภยกถํ ยุทฺธกถํ อนฺนกถํ ปานกถํ วตฺถกถํ สยนกถํ มาลากถํ คนฺธกถํ ญาติกถํ ยานกถํ คามกถํ นิคมกถํ นครกถํ ชนปทกถํ อิตฺถิกถํ สูรกถํ วิสิขากถํ กุมฺภฏฺฐานกถํ ปุพฺพเปตกถํ นานตฺตกถํ โลกกฺขายิกํ สมุทฺทกฺขายิกํ อิติภวาภวกถํ อิติ วา.
อทฺทสา โข โปฏฺฐปาโท ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ; ทิสฺวาน สกํ ปริสํ สณฺฐเปสิ— “อปฺปสทฺทา โภนฺโต โหนฺตุ, มา โภนฺโต สทฺทมกตฺถ. อยํ สมโณ โคตโม อาคจฺฉติ. อปฺปสทฺทกาโม โข โส อายสฺมา อปฺปสทฺทสฺส วณฺณวาที. อปฺเปว นาม อปฺปสทฺทํ ปริสํ วิทิตฺวา อุปสงฺกมิตพฺพํ มญฺเญยฺยา”ติ. เอวํ วุตฺเต, เต ปริพฺพาชกา ตุณฺหี อเหสุํ.
อถ โข ภควา เยน โปฏฺฐปาโท ปริพฺพาชโก เตนุปสงฺกมิ. อถ โข โปฏฺฐปาโท ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ— “เอตุ โข, ภนฺเต, ภควา. สฺวาคตํ, ภนฺเต, ภควโต. จิรสฺสํ โข, ภนฺเต, ภควา อิมํ ปริยายมกาสิ, ยทิทํ อิธาคมนาย. นิสีทตุ, ภนฺเต, ภควา, อิทํ อาสนํ ปญฺญตฺตนฺ”ติ.
นิสีทิ ภควา ปญฺญตฺเต อาสเน. โปฏฺฐปาโทปิ โข ปริพฺพาชโก อญฺญตรํ นีจํ อาสนํ คเหตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข โปฏฺฐปาทํ ปริพฺพาชกํ ภควา เอตทโวจ— “กาย นุตฺถ, โปฏฺฐปาท, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา, กา จ ปน โว อนฺตรากถา วิปฺปกตา”ติ?