1.11 ขทิรวนิยเรวตตฺเถรอปทาน
“คงฺคา ภาคีรถี นาม,
หิมวนฺตา ปภาวิตา;
กุติตฺเถ นาวิโก อาสิํ,
โอริเม จ ตริํ อหํ.
ปทุมุตฺตโร นายโก,
สมฺพุทฺโธ ทฺวิปทุตฺตโม;
วสี สตสหเสฺสหิ,
คงฺคาตีรมุปาคโต.
พหู นาวา สมาเนตฺวา,
วฑฺฒกีหิ สุสงฺขตํ;
นาวาย ฉทนํ กตฺวา,
ปฏิมานิํ นราสภํ.
อาคนฺตฺวาน จ สมฺพุทฺโธ,
อารูหิ ตญฺจ นาวกํ;
วาริมชฺเฌ ฐิโต สตฺถา,
อิมา คาถา อภาสถ._
‘โย โส ตาเรสิ สมฺพุทฺธํ,
สํฆญฺจาปิ อนาสวํ;
เตน จิตฺตปฺปสาเทน,
เทวโลเก รมิสฺสติ.
นิพฺพตฺติสฺสติ เต พฺยมฺหํ,
สุกตํ นาวสณฺฐิตํ;
อากาเส ปุปฺผฉทนํ,
ธารยิสฺสติ สพฺพทา.
อฏฺฐปญฺญาสกปฺปมฺหิ,
ตารโก นาม ขตฺติโย;
จาตุรนฺโต วิชิตาวี,
จกฺกวตฺตี ภวิสฺสติ.
สตฺตปญฺญาสกปฺปมฺหิ,
จมฺมโก นาม ขตฺติโย;
อุคฺคจฺฉนฺโตว สูริโย,_
โชติสฺสติ มหพฺพโล.
กปฺปสตสหสฺสมฺหิ,
โอกฺกากกุลสมฺภโว;
โคตโม นาม โคตฺเตน,
สตฺถา โลเก ภวิสฺสติ.
ติทสา โส จวิตฺวาน,
มนุสฺสตฺตํ คมิสฺสติ;
เรวโต นาม นาเมน,
พฺรหฺมพนฺธุ ภวิสฺสติ.
อคารา นิกฺขมิตฺวาน,
สุกฺกมูเลน โจทิโต;
โคตมสฺส ภควโต,
สาสเน ปพฺพชิสฺสติ.
โส ปจฺฉา ปพฺพชิตฺวาน,
ยุตฺตโยโค วิปสฺสโก;
สพฺพาสเว ปริญฺญาย,
นิพฺพายิสฺสตินาสโว’.
วีริยํ เม ธุรโธรยฺหํ,
โยคกฺเขมาธิวาหนํ;
ธาเรมิ อนฺติมํ เทหํ,
สมฺมาสมฺพุทฺธสาสเน.
สตสหเสฺส กตํ กมฺมํ,
ผลํ ทเสฺสสิ เม อิธ;
สุมุตฺโต สรเวโคว,
กิเลเส ฌาปยี มม.
ตโต มํ วนนิรตํ,
ทิสฺวา โลกนฺตคู มุนิ;
วนวาสิภิกฺขูนคฺคํ,
ปญฺญเปสิ มหามติ.
ปฏิสมฺภิทา จตโสฺส,
วิโมกฺขาปิ จ อฏฺฐิเม;
ฉฬภิญฺญา สจฺฉิกตา,
กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ”.
อิตฺถํ สุทํ อายสฺมา ขทิรวนิโย เรวโต เถโร อิมา คาถาโย อภาสิตฺถาติ.
ขทิรวนิยเรวตตฺเถรสฺสาปทานํ นวมํ.