2.10 สุมงฺคลตฺเถรอปทาน
“อาหุติํ ยิฏฺฐุกาโมหํ,
ปฏิยาเทตฺวาน โภชนํ;
พฺราหฺมเณ ปฏิมาเนนฺโต,
วิสาเล มาฬเก ฐิโต.
อถทฺทสาสิํ สมฺพุทฺธํ,
ปิยทสฺสิํ มหายสํ;
สพฺพโลกวิเนตารํ,
สยมฺภุํ อคฺคปุคฺคลํ.
ภควนฺตํ ชุติมนฺตํ,
สาวเกหิ ปุรกฺขตํ;
อาทิจฺจมิว โรจนฺตํ,
รถิยํ ปฏิปนฺนกํ.
อญฺชลิํ ปคฺคเหตฺวาน,
สกํ จิตฺตํ ปสาทยิํ;
มนสาว นิมนฺเตสิํ,
‘อาคจฺฉตุ มหามุนิ’.
มม สงฺกปฺปมญฺญาย,
สตฺถา โลเก อนุตฺตโร;
ขีณาสวสหเสฺสหิ,
มม ทฺวารํ อุปาคมิ.
นโม เต ปุริสาชญฺญ,
นโม เต ปุริสุตฺตม;
ปาสาทํ อภิรูหิตฺวา,
สีหาสเน นิสีทตํ.
ทนฺโต ทนฺตปริวาโร,
ติณฺโณ ตารยตํ วโร;
ปาสาทํ อภิรูหิตฺวา,
นิสีทิ ปวราสเน.
ยํ เม อตฺถิ สเก เคเห,
อามิสํ ปจฺจุปฏฺฐิตํ;
ตาหํ พุทฺธสฺส ปาทาสิํ,
ปสนฺโน เสหิ ปาณิภิ.
ปสนฺนจิตฺโต สุมโน,
เวทชาโต กตญฺชลี;
พุทฺธเสฏฺฐํ นมสฺสามิ,
อโห พุทฺธสฺสุฬารตา.
อฏฺฐนฺนํ ปยิรูปาสตํ,
ภุญฺชํ ขีณาสวา พหู;
ตุเยฺหเวโส อานุภาโว,
สรณํ ตํ อุเปมหํ.
ปิยทสฺสี จ ภควา,
โลกเชฏฺโฐ นราสโภ;
ภิกฺขุสํเฆ นิสีทิตฺวา,
อิมา คาถา อภาสถ._
‘โย โส สํฆํ อโภเชสิ,
อุชุภูตํ สมาหิตํ;_
ตถาคตญฺจ สมฺพุทฺธํ,
สุณาถ มม ภาสโต.
สตฺตวีสติกฺขตฺตุํ โส,
เทวรชฺชํ กริสฺสติ;
สกกมฺมาภิรทฺโธ โส,
เทวโลเก รมิสฺสติ.
ทส อฏฺฐ จกฺขตฺตุํ โส,
จกฺกวตฺตี ภวิสฺสติ;
ปถพฺยา รชฺชํ ปญฺจสตํ,
วสุธํ อาวสิสฺสติ’.
อรญฺญวนโมคฺคยฺห,
กานนํ พฺยคฺฆเสวิตํ;
ปธานํ ปทหิตฺวาน,
กิเลสา ฌาปิตา มยา.
อฏฺฐารเส กปฺปสเต,
ยํ ทานมททิํ ตทา;
ทุคฺคติํ นาภิชานามิ,
ภตฺตทานสฺสิทํ ผลํ.
ปฏิสมฺภิทา จตโสฺส,
วิโมกฺขาปิ จ อฏฺฐิเม;
ฉฬภิญฺญา สจฺฉิกตา,
กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ”. (803)
อิตฺถํ สุทํ อายสฺมา สุมงฺคโล เถโร อิมา คาถาโย อภาสิตฺถาติ.
สุมงฺคลตฺเถรสฺสาปทานํ ทสมํ.
ตสฺสุทฺทานํ
สีหาสนี เอกถมฺภี,
นนฺโท จ จูฬปนฺถโก;
ปิลินฺทราหุโล เจว,
วงฺคนฺโต รฏฺฐปาลโก.
โสปาโก มงฺคโล เจว,
ทเสว ทุติเย วคฺเค;
สตญฺจ อฏฺฐติํส จ,
คาถา เจตฺถ ปกาสิตา.
สีหาสนิยวคฺโค ทุติโย.