3.1.2 โสมนสฺสจริย
“ปุนาปรํ ยทา โหมิ,
อินฺทปตฺเถ ปุรุตฺตเม;_
กามิโต ทยิโต ปุตฺโต,
โสมนโสฺสติ วิสฺสุโต.
สีลวา คุณสมฺปนฺโน,
กลฺยาณปฏิภานวา;
วุฑฺฒาปจายี หิรีมา,
สงฺคเหสุ จ โกวิโท.
ตสฺส รญฺโญ ปติกโร,
อโหสิ กุหกตาปโส;
อารามํ มาลาวจฺฉญฺจ,
โรปยิตฺวาน ชีวติ.
ตมหํ ทิสฺวาน กุหกํ,
ถุสราสิํว อตณฺฑุลํ;
ทุมํว อนฺโต สุสิรํ,
กทลิํว อสารกํ.
นตฺถิมสฺส สตํ ธมฺโม,
สามญฺญาปคโต อยํ;
หิรีสุกฺกธมฺมชหิโต,
ชีวิตวุตฺติการณา.
กุปิโต อหุ ปจฺจนฺโต,
อฏวีหิ ปรนฺติหิ;
ตํ นิเสเธตุํ คจฺฉนฺโต,
อนุสาสิ ปิตา มมํ.
‘มา ปมชฺชิ ตุวํ ตาต,
ชฏิลํ อุคฺคตาปนํ;
ยทิจฺฉกํ ปวตฺเตหิ,
สพฺพกามทโท หิ โส’.
ตมหํ คนฺตฺวานุปฏฺฐานํ,
อิทํ วจนมพฺรวิํ;_
‘กจฺจิ เต คหปติ กุสลํ,
กิํ วา เต อาหรียตุ’.
เตน โส กุปิโต อาสิ,
กุหโก มานนิสฺสิโต;
‘ฆาตาเปมิ ตุวํ อชฺช,
รฏฺฐา ปพฺพาชยามิ วา’.
นิเสธยิตฺวา ปจฺจนฺตํ,
ราชา กุหกมพฺรวิ;
‘กจฺจิ เต ภนฺเต ขมนียํ,
สมฺมาโน เต ปวตฺติโต’.
ตสฺส อาจิกฺขตี ปาโป,
กุมาโร ยถา นาสิโย;
ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา,
อาณาเปสิ มหีปติ.
‘สีสํ ตตฺเถว ฉินฺทิตฺวา,
กตฺวาน จตุขณฺฑิกํ;
รถิยา รถิยํ ทเสฺสถ,
สา คติ ชฏิลหีฬิตา’.
ตตฺถ การณิกา คนฺตฺวา,
จณฺฑา ลุทฺทา อการุณา;
มาตุ องฺเก นิสินฺนสฺส,
อากฑฺฒิตฺวา นยนฺติ มํ.
เตสาหํ เอวมวจํ,
พนฺธตํ คาฬฺหพนฺธนํ;
‘รญฺโญ ทเสฺสถ มํ ขิปฺปํ,
ราชกิริยานิ อตฺถิ เม’.
เต มํ รญฺโญ ทสฺสยิํสุ,
ปาปสฺส ปาปเสวิโน;
ทิสฺวาน ตํ สญฺญาเปสิํ,
มมญฺจ วสมานยิํ.
โส มํ ตตฺถ ขมาเปสิ,
มหารชฺชมทาสิ เม;
โสหํ ตมํ ทาลยิตฺวา,
ปพฺพชิํ อนคาริยํ.
น เม เทสฺสํ มหารชฺชํ,
กามโภโค น เทสฺสิโย;
สพฺพญฺญุตํ ปิยํ มยฺหํ,
ตสฺมา รชฺชํ ปริจฺจชินฺ”ติ.
โสมนสฺสจริยํ ทุติยํ.