3.2.1 เตมิยจริย
“ปุนาปรํ ยทา โหมิ,
กาสิราชสฺส อตฺรโช;
มูคปกฺโขติ นาเมน,
เตมิโยติ วทนฺติ มํ.
โสฬสิตฺถิสหสฺสานํ,
น วิชฺชติ ปุโม ตทา;
อโหรตฺตานํ อจฺจเยน,
นิพฺพตฺโต อหเมกโก.
กิจฺฉา ลทฺธํ ปิยํ ปุตฺตํ,
อภิชาตํ ชุตินฺธรํ;
เสตจฺฉตฺตํ ธารยิตฺวาน,
สยเน โปเสติ มํ ปิตา.
นิทฺทายมาโน สยนวเร,
ปพุชฺฌิตฺวานหํ ตทา;
อทฺทสํ ปณฺฑรํ ฉตฺตํ,
เยนาหํ นิรยํ คโต.
สห ทิฏฺฐสฺส เม ฉตฺตํ,
ตาโส อุปฺปชฺชิ เภรโว;
วินิจฺฉยํ สมาปนฺโน,
‘กถาหํ อิมํ มุญฺจิสฺสํ’.
ปุพฺพสาโลหิตา มยฺหํ,
เทวตา อตฺถกามินี;
สา มํ ทิสฺวาน ทุกฺขิตํ,
ตีสุ ฐาเนสุ โยชยิ.
‘มา ปณฺฑิจฺจยํ วิภาวย,
พาลมโต ภว สพฺพปาณินํ;
สพฺโพ ตํ ชโน โอจินายตุ,
เอวํ ตว อตฺโถ ภวิสฺสติ’.
เอวํ วุตฺตายหํ ตสฺสา,
อิทํ วจนมพฺรวิํ;_
‘กโรมิ เต ตํ วจนํ,
ยํ ตฺวํ ภณสิ เทวเต;
อตฺถกามาสิ เม อมฺม,
หิตกามาสิ เทวเต’.
ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวา,
สาคเรว ถลํ ลภิํ;
หฏฺโฐ สํวิคฺคมานโส,
ตโย องฺเค อธิฏฺฐหิํ.
มูโค อโหสิํ พธิโร,
ปกฺโข คติวิวชฺชิโต;
เอเต องฺเค อธิฏฺฐาย,
วสฺสานิ โสฬสํ วสิํ.
ตโต เม หตฺถปาเท จ,
ชิวฺหํ โสตญฺจ มทฺทิย;
อนูนตํ เม ปสฺสิตฺวา,
‘กาฬกณฺณี’ติ นินฺทิสุํ.
ตโต ชานปทา สพฺเพ,
เสนาปติปุโรหิตา;
สพฺเพ เอกมนา หุตฺวา,
ฉฑฺฑนํ อนุโมทิสุํ.
โสหํ เตสํ มติํ สุตฺวา,
หฏฺโฐ สํวิคฺคมานโส;
‘ยสฺสตฺถาย ตโปจิณฺโณ,
โส เม อตฺโถ สมิชฺฌถ’.
นฺหาเปตฺวา อนุลิมฺปิตฺวา,
เวเฐตฺวา ราชเวฐนํ;
ฉตฺเตน อภิสิญฺจิตฺวา,
กาเรสุํ ปุรํ ปทกฺขิณํ.
สตฺตาหํ ธารยิตฺวาน,
อุคฺคเต รวิมณฺฑเล;_
รเถน มํ นีหริตฺวา,
สารถี วนมุปาคมิ.
เอโกกาเส รถํ กตฺวา,
สชฺชสฺสํ หตฺถมุจฺจิโต;
สารถี ขณตี กาสุํ,
นิขาตุํ ปถวิยา มมํ.
อธิฏฺฐิตมธิฏฺฐานํ,
ตชฺเชนฺโต วิวิธการณา;
น ภินฺทิํ ตมธิฏฺฐานํ,
โพธิยาเยว การณา.
มาตาปิตา น เม เทสฺสา,
อตฺตา เม น จ เทสฺสิโย;
สพฺพญฺญุตํ ปิยํ มยฺหํ,
ตสฺมา วตมธิฏฺฐหิํ.
เอเต องฺเค อธิฏฺฐาย,
วสฺสานิ โสฬสํ วสิํ;
อธิฏฺฐาเนน เม สโม นตฺถิ,
เอสา เม อธิฏฺฐานปารมี”ติ.
เตมิยจริยํ ฉฏฺฐํ.