13.1.8 ตกฺการิยชาตก
“อหเมว ทุพฺภาสิตํ ภาสิ พาโล,
เภโกวรญฺเญ อหิมวฺหายมาโน;
ตกฺการิเย โสพฺภมิมํ ปตามิ,
น กิเรว สาธุ อติเวลภาณี”.
“ปปฺโปติ มจฺโจ อติเวลภาณี,
พนฺธํ วธํ โสกปริทฺทวญฺจ;
อตฺตานเมว ครหาสิ เอตฺถ,
อาเจร ยํ ตํ นิขณนฺติ โสพฺเภ”.
“กิเมวหํ ตุณฺฑิลมนุปุจฺฉิํ,
กเรยฺย สํ ภาตรํ กาฬิกายํ;
นคฺโควหํ วตฺถยุคญฺจ ชีโน,
อยมฺปิ อตฺโถ พหุตาทิโสว”.
“โย ยุชฺฌมานานมยุชฺฌมาโน,
เมณฺฑนฺตรํ อจฺจุปตี กุลิงฺโค;
โส ปิํสิโต เมณฺฑสิเรหิ ตตฺถ,
อยมฺปิ อตฺโถ พหุตาทิโสว.
จตุโร ชนา โปตฺถกมคฺคเหสุํ,
เอกญฺจ โปสํ อนุรกฺขมานา;
สพฺเพว เต ภินฺนสิรา สยิํสุ,
อยมฺปิ อตฺโถ พหุตาทิโสว.
อชา ยถา เวฬุคุมฺพสฺมิํ พทฺธา,
อวกฺขิปนฺตี อสิมชฺฌคจฺฉิ;
เตเนว ตสฺสา คลกาวกนฺตํ,
อยมฺปิ อตฺโถ พหุตาทิโสว”.
“อิเม น เทวา น คนฺธพฺพปุตฺตา,
มิคา อิเม อตฺถวสํ คตา เม;
เอกญฺจ นํ สายมาเส ปจนฺตุ,
เอกํ ปุนปฺปาตราเส ปจนฺตุ”.
“สตํ สหสฺสานิ ทุภาสิตานิ,
กลมฺปิ นาคฺฆนฺติ สุภาสิตสฺส;
ทุพฺภาสิตํ สงฺกมาโน กิเลโส,
ตสฺมา ตุณฺหี กิมฺปุริสา น พาลฺยา”.
“ยา เมสา พฺยาหาสิ ปมุญฺจเถตํ,
คิริญฺจ นํ หิมวนฺตํ นยนฺตุ;
อิมญฺจ โข เทนฺตุ มหานสาย,_
ปาโตว นํ ปาตราเส ปจนฺตุ”.
“ปชฺชุนฺนนาถา ปสโว,
ปสุนาถา อยํ ปชา;
ตฺวํ นาโถสิ มหาราช,
นาโถหํ ภริยาย เม;
ทฺวินฺนมญฺญตรํ ญตฺวา,
มุตฺโต คจฺเฉยฺย ปพฺพตํ.
น เว นินฺทา สุปริวชฺชเยถ,
นานา ชนา เสวิตพฺพา ชนินฺท;
เยเนว เอโก ลภเต ปสํสํ,
เตเนว อญฺโญ ลภเต นินฺทิตารํ.
สพฺโพ โลโก ปริจิตฺโต อติจิตฺโต,
สพฺโพ โลโก จิตฺตวา สมฺหิ จิตฺเต;
ปจฺเจกจิตฺตา ปุถุ สพฺพสตฺตา,
กสฺสีธ จิตฺตสฺส วเสน วตฺเต”.
“ตุณฺหี อหู กิมฺปุริโส สภริโย,
โย ทานิ พฺยาหาสิ ภยสฺส ภีโต;
โส ทานิ มุตฺโต สุขิโต อโรโค,
วาจากิเรวตฺถวตี นรานนฺ”ติ.
ตกฺการิยชาตกํ อฏฺฐมํ.