13.1.9 รุรุมิคราชชาตก
“ตสฺส คามวรํ ทมฺมิ,
นาริโย จ อลงฺกตา;
โย เมตํ มิคมกฺขาติ,
มิคานํ มิคมุตฺตมํ”.
“มยฺหํ คามวรํ เทหิ,
นาริโย จ อลงฺกตา;
อหํ เต มิคมกฺขิสฺสํ,
มิคานํ มิคมุตฺตมํ.
เอตสฺมิํ วนสณฺฑสฺมิํ,
อมฺพา สาลา จ ปุปฺผิตา;
อินฺทโคปกสญฺฉนฺนา,_
เอตฺเถโส ติฏฺฐเต มิโค”.
“ธนุํ อทฺเวชฺฌํ กตฺวาน,
อุสุํ สนฺนยฺหุปาคมิ;_
มิโค จ ทิสฺวา ราชานํ,
ทูรโต อชฺฌภาสถ.
อาคเมหิ มหาราช,
มา มํ วิชฺฌิ รเถสภ;
โก นุ เต อิทมกฺขาสิ,
เอตฺเถโส ติฏฺฐเต มิโค”.
“เอส ปาปจโร โปโส,
สมฺม ติฏฺฐติ อารกา;
โสยํ เม อิทมกฺขาสิ,
เอตฺเถโส ติฏฺฐเต มิโค”.
“สจฺจํ กิเรว มาหํสุ,
นรา เอกจฺจิยา อิธ;
กฏฺฐํ นิปฺลวิตํ เสโยฺย,
น เตฺวเวกจฺจิโย นโร”.
“กิํ นุ รุรุ ครหสิ มิคานํ,
กิํ ปกฺขีนํ กิํ ปน มานุสานํ;
ภยญฺหิ มํ วินฺทตินปฺปรูปํ,
สุตฺวาน ตํ มานุสิํ ภาสมานํ”.
“ยมุทฺธริํ วาหเน วุยฺหมานํ,
มโหทเก สลิเล สีฆโสเต;
ตโตนิทานํ ภยมาคตํ มม,
ทุกฺโข หเว ราช อสพฺภิ สงฺคโม”.
“โสหํ จตุปฺปตฺตมิมํ วิหงฺคมํ,
ตนุจฺฉิทํ หทเย โอสฺสชามิ;
หนามิ ตํ มิตฺตทุพฺภิํ อกิจฺจการิํ,
โย ตาทิสํ กมฺมกตํ น ชาเน”.
“ธีรสฺส พาลสฺส หเว ชนินฺท,
สนฺโต วธํ นปฺปสํสนฺติ ชาตุ;
กามํ ฆรํ คจฺฉตุ ปาปธมฺโม,
ยญฺจสฺส ภฏฺฐํ ตเทตสฺส เทหิ;
อหญฺจ เต กามกโร ภวามิ”.
“อทฺธา รุรู อญฺญตโร สตํ โส,
โย ทุพฺภโต มานุสสฺส น ทุพฺภิ;
กามํ ฆรํ คจฺฉตุ ปาปธมฺโม,
ยญฺจสฺส ภฏฺฐํ ตเทตสฺส ทมฺมิ;
อหญฺจ เต กามจารํ ททามิ”.
“สุวิชานํ สิงฺคาลานํ,
สกุณานญฺจ วสฺสิตํ;
มนุสฺสวสฺสิตํ ราช,
ทุพฺพิชานตรํ ตโต.
อปิ เจ มญฺญตี โปโส,
ญาติ มิตฺโต สขาติ วา;
โย ปุพฺเพ สุมโน หุตฺวา,
ปจฺฉา สมฺปชฺชเต ทิโส”.
“สมาคตา ชานปทา,
เนคมา จ สมาคตา;
มิคา สสฺสานิ ขาทนฺติ,
ตํ เทโว ปฏิเสธตุ”.
“กามํ ชนปโท มาสิ,
รฏฺฐญฺจาปิ วินสฺสตุ;
น เตฺววาหํ รุรุํ ทุพฺเภ,
ทตฺวา อภยทกฺขิณํ.
มา เม ชนปโท อาสิ,
รฏฺฐญฺจาปิ วินสฺสตุ;
น เตฺววาหํ มิคราชสฺส,
วรํ ทตฺวา มุสา ภเณ”ติ.
รุรุมิคราชชาตกํ นวมํ.