4.1.2 วิจยหารวิภงฺค
ตตฺถ กตโม วิจโย หาโร? “ยํ ปุจฺฉิตญฺจ วิสฺสชฺชิตญฺจา”ติ คาถา, อยํ วิจโย หาโร.
กิํ วิจินติ? ปทํ วิจินติ, ปญฺหํ วิจินติ, วิสชฺชนํ วิจินติ, ปุพฺพาปรํ วิจินติ, อสฺสาทํ วิจินติ, อาทีนวํ วิจินติ, นิสฺสรณํ วิจินติ, ผลํ วิจินติ, อุปายํ วิจินติ, อาณตฺติํ วิจินติ, อนุคีติํ วิจินติ, สพฺเพ นว สุตฺตนฺเต วิจินติ. ยถา กิํ ภเว, ยถา อายสฺมา อชิโต ปารายเน ภควนฺตํ ปญฺหํ ปุจฺฉติ—
“เกนสฺสุ นิวุโต โลโก, (อิจฺจายสฺมา อชิโต)
เกนสฺสุ นปฺปกาสติ;
กิสฺสาภิเลปนํ พฺรูสิ,
กิํ สุ ตสฺส มหพฺภยนฺ”ติ.
อิมานิ จตฺตาริ ปทานิ ปุจฺฉิตานิ, โส เอโก ปญฺโห. กสฺมา? เอกวตฺถุปริคฺคหา, เอวญฺหิ อาห— “เกนสฺสุ นิวุโต โลโก”ติ โลกาธิฏฺฐานํ ปุจฺฉติ, “เกนสฺสุ นปฺปกาสตี”ติ โลกสฺส อปฺปกาสนํ ปุจฺฉติ, “กิสฺสาภิเลปนํ พฺรูสี”ติ โลกสฺส อภิเลปนํ ปุจฺฉติ, “กิํสุ ตสฺส มหพฺภยนฺ”ติ ตเสฺสว โลกสฺส มหาภยํ ปุจฺฉติ. โลโก ติวิโธ กิเลสโลโก ภวโลโก อินฺทฺริยโลโก.
ตตฺถ วิสชฺชนา—
“อวิชฺชาย นิวุโต โลโก, (อชิตาติ ภควา)
วิวิจฺฉา ปมาทา นปฺปกาสติ;
ชปฺปาภิเลปนํ พฺรูมิ,
ทุกฺขมสฺส มหพฺภยนฺ”ติ.
อิมานิ จตฺตาริ ปทานิ อิเมหิ จตูหิ ปเทหิ วิสชฺชิตานิ ปฐมํ ปฐเมน, ทุติยํ ทุติเยน, ตติยํ ตติเยน, จตุตฺถํ จตุตฺเถน.
“เกนสฺสุ นิวุโต โลโก”ติ ปเญฺห “อวิชฺชาย นิวุโต โลโก”ติ วิสชฺชนา. นีวรเณหิ นิวุโต โลโก, อวิชฺชานีวรณา หิ สพฺเพ สตฺตา. ยถาห ภควา “สพฺพสตฺตานํ, ภิกฺขเว, สพฺพปาณานํ สพฺพภูตานํ ปริยายโต เอกเมว นีวรณํ วทามิ ยทิทํ อวิชฺชา, อวิชฺชานีวรณา หิ สพฺเพ สตฺตา. สพฺพโสว, ภิกฺขเว, อวิชฺชาย นิโรธา จาคา ปฏินิสฺสคฺคา นตฺถิ สตฺตานํ นีวรณนฺติ วทามี”ติ. เตน จ ปฐมสฺส ปทสฺส วิสชฺชนา ยุตฺตา.
“เกนสฺสุ นปฺปกาสตี”ติ ปเญฺห “วิวิจฺฉา ปมาทา นปฺปกาสตี”ติ วิสชฺชนา. โย ปุคฺคโล นีวรเณหิ นิวุโต, โส วิวิจฺฉติ. วิวิจฺฉา นาม วุจฺจติ วิจิกิจฺฉา. โส วิจิกิจฺฉนฺโต นาภิสทฺทหติ, น อภิสทฺทหนฺโต วีริยํ นารภติ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย กุสลานํ ธมฺมานํ สจฺฉิกิริยาย. โส อิธปฺปมาทมนุยุตฺโต วิหรติ ปมตฺโต, สุกฺเก ธมฺเม น อุปฺปาทิยติ, ตสฺส เต อนุปฺปาทิยมานา นปฺปกาสนฺติ, ยถาห ภควา—
“ทูเร สนฺโต ปกาสนฺติ,
หิมวนฺโตว ปพฺพโต;
อสนฺเตตฺถ น ทิสฺสนฺติ,
รตฺติํ ขิตฺตา ยถา สรา;
เต คุเณหิ ปกาสนฺติ,
กิตฺติยา จ ยเสน จา”ติ.
เตน จ ทุติยสฺส ปทสฺส วิสชฺชนา ยุตฺตา.
“กิสฺสาภิเลปนํ พฺรูสี”ติ ปเญฺห “ชปฺปาภิเลปนํ พฺรูมี”ติ วิสชฺชนา. ชปฺปา นาม วุจฺจติ ตณฺหา. สา กถํ อภิลิมฺปติ? ยถาห ภควา—
“รตฺโต อตฺถํ น ชานาติ,
รตฺโต ธมฺมํ น ปสฺสติ;
อนฺธนฺตมํ ตทา โหติ,
ยํ ราโค สหเต นรนฺ”ติ.
สายํ ตณฺหา อาสตฺติพหุลสฺส ปุคฺคลสฺส “เอวํ อภิชปฺปา”ติ กริตฺวา ตตฺถ โลโก อภิลิตฺโต นาม ภวติ, เตน จ ตติยสฺส ปทสฺส วิสชฺชนา ยุตฺตา.
“กิํ สุ ตสฺส มหพฺภยนฺ”ติ ปเญฺห “ทุกฺขมสฺส มหพฺภยนฺ”ติ วิสชฺชนา. ทุวิธํ ทุกฺขํ— กายิกญฺจ เจตสิกญฺจ. ยํ กายิกํ อิทํ ทุกฺขํ, ยํ เจตสิกํ อิทํ โทมนสฺสํ. สพฺเพ สตฺตา หิ ทุกฺขสฺส อุพฺพิชฺชนฺติ, นตฺถิ ภยํ ทุกฺเขน สมสมํ, กุโต วา ปน ตสฺส อุตฺตริตรํ? ติโสฺส ทุกฺขตา— ทุกฺขทุกฺขตา สงฺขารทุกฺขตา วิปริณามทุกฺขตา. ตตฺถ โลโก โอธโส กทาจิ กรหจิ ทุกฺขทุกฺขตาย มุจฺจติ. ตถา วิปริณามทุกฺขตาย. ตํ กิสฺส เหตุ? โหนฺติ โลเก อปฺปาพาธาปิ ทีฆายุกาปิ. สงฺขารทุกฺขตาย ปน โลโก อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา มุจฺจติ, ตสฺมา สงฺขารทุกฺขตา ทุกฺขํ โลกสฺสาติ กตฺวา ทุกฺขมสฺส มหพฺภยนฺติ. เตน จ จตุตฺถสฺส ปทสฺส วิสชฺชนา ยุตฺตา. เตนาห ภควา “อวิชฺชาย นิวุโต โลโก”ติ.
“สวนฺติ สพฺพธิ โสตา, (อิจฺจายสฺมา อชิโต)
โสตานํ กิํ นิวารณํ;
โสตานํ สํวรํ พฺรูหิ,
เกน โสตา ปิธียเร”.
อิมานิ จตฺตาริ ปทานิ ปุจฺฉิตานิ. เต ทฺเว ปญฺหา. กสฺมา? อิเม หิ พตฺวาธิวจเนน ปุจฺฉิตา. เอวํ สมาปนฺนสฺส โลกสฺส เอวํ สํกิลิฏฺฐสฺส กิํ โลกสฺส โวทานํ วุฏฺฐานมิติ, เอวญฺหิ อาห.
สวนฺติ สพฺพธิ โสตา ติ อสมาหิตสฺส สวนฺติ อภิชฺฌาพฺยาปาทปฺปมาทพหุลสฺส. ตตฺถ ยา อภิชฺฌา อยํ โลโภ อกุสลมูลํ, โย พฺยาปาโท อยํ โทโส อกุสลมูลํ, โย ปมาโท อยํ โมโห อกุสลมูลํ. ตเสฺสวํ อสมาหิตสฺส ฉสุ อายตเนสุ ตณฺหา สวนฺติ รูปตณฺหา สทฺทตณฺหา คนฺธตณฺหา รสตณฺหา โผฏฺฐพฺพตณฺหา ธมฺมตณฺหา, ยถาห ภควา—
“สวตี”ติ จ โข, ภิกฺขเว, ฉนฺเนตํ อชฺฌตฺติกานํ อายตนานํ อธิวจนํ. จกฺขุ สวติ มนาปิเกสุ รูเปสุ, อมนาปิเกสุ ปฏิหญฺญตีติ. โสตํ …เป… ฆานํ… ชิวฺหา… กาโย… มโน สวติ มนาปิเกสุ ธมฺเมสุ อมนาปิเกสุ ปฏิหญฺญตีติ. อิติ สพฺพา จ สวติ, สพฺพถา จ สวติ. เตนาห “สวนฺติ สพฺพธิ โสตา”ติ.
“โสตานํ กิํ นิวารณนฺ”ติ ปริยุฏฺฐานวิฆาตํ ปุจฺฉติ, อิทํ โวทานํ. “โสตานํ สํวรํ พฺรูหิ, เกน โสตา ปิธียเร”ติ อนุสยสมุคฺฆาตํ ปุจฺฉติ, อิทํ วุฏฺฐานํ.
ตตฺถ วิสชฺชนา—
“ยานิ โสตานิ โลกสฺมิํ, (อชิตาติ ภควา)
สติ เตสํ นิวารณํ;
โสตานํ สํวรํ พฺรูมิ,
ปญฺญาเยเต ปิธียเร”ติ.
กายคตาย สติยา ภาวิตาย พหุลีกตาย จกฺขุ นาวิญฺฉติ มนาปิเกสุ รูเปสุ, อมนาปิเกสุ น ปฏิหญฺญติ, โสตํ …เป… ฆานํ… ชิวฺหา… กาโย… มโน นาวิญฺฉติ มนาปิเกสุ ธมฺเมสุ, อมนาปิเกสุ น ปฏิหญฺญติ. เกน การเณน? สํวุตนิวาริตตฺตา อินฺทฺริยานํ. เกน เต สํวุตนิวาริตา? สติอารกฺเขน. เตนาห ภควา— “สติ เตสํ นิวารณนฺ”ติ.
ปญฺญาย อนุสยา ปหียนฺติ, อนุสเยสุ ปหีเนสุ ปริยุฏฺฐานา ปหียนฺติ. กิสฺส, อนุสยสฺส ปหีนตฺตา? ตํ ยถา ขนฺธวนฺตสฺส รุกฺขสฺส อนวเสสมูลุทฺธรเณ กเต ปุปฺผผลปลฺลวงฺกุรสนฺตติ สมุจฺฉินฺนา ภวติ. เอวํ อนุสเยสุ ปหีเนสุ ปริยุฏฺฐานสนฺตติ สมุจฺฉินฺนา ภวติ ปิทหิตา ปฏิจฺฉนฺนา. เกน? ปญฺญาย. เตนาห ภควา “ปญฺญาเยเต ปิธียเร”ติ.
“ปญฺญา เจว สติ จ, (อิจฺจายสฺมา อชิโต)
นามรูปญฺจ มาริส;
เอตํ เม ปุฏฺโฐ ปพฺรูหิ,
กตฺเถตํ อุปรุชฺฌตี”ติ.
“ยเมตํ ปญฺหํ อปุจฺฉิ,
อชิต ตํ วทามิ เต;
ยตฺถ นามญฺจ รูปญฺจ,
อเสสํ อุปรุชฺฌติ;
วิญฺญาณสฺส นิโรเธน,
เอตฺเถตํ อุปรุชฺฌตี”ติ.
อยํ ปเญฺห อนุสนฺธิํ ปุจฺฉติ. อนุสนฺธิํ ปุจฺฉนฺโต กิํ ปุจฺฉติ? อนุปาทิเสสํ นิพฺพานธาตุํ. ตีณิ จ สจฺจานิ สงฺขตานิ นิโรธธมฺมานิ ทุกฺขํ สมุทโย มคฺโค, นิโรโธ อสงฺขโต. ตตฺถ สมุทโย ทฺวีสุ ภูมีสุ ปหียติ ทสฺสนภูมิยา จ ภาวนาภูมิยา จ. ทสฺสเนน ตีณิ สํโยชนานิ ปหียนฺติ สกฺกายทิฏฺฐิ วิจิกิจฺฉา สีลพฺพตปรามาโส, ภาวนาย สตฺต สํโยชนานิ ปหียนฺติ กามจฺฉนฺโท พฺยาปาโท รูปราโค อรูปราโค มาโน อุทฺธจฺจํ อวิชฺชาวเสสา. เตธาตุเก อิมานิ ทส สํโยชนานิ ปญฺโจรมฺภาคิยานิ ปญฺจุทฺธมฺภาคิยานิ.
ตตฺถ ตีณิ สํโยชนานิ สกฺกายทิฏฺฐิ วิจิกิจฺฉา สีลพฺพตปรามาโส อนญฺญาตญฺญสฺสามีตินฺทฺริยํ อธิฏฺฐาย นิรุชฺฌนฺติ. สตฺต สํโยชนานิ กามจฺฉนฺโท พฺยาปาโท รูปราโค อรูปราโค มาโน อุทฺธจฺจํ อวิชฺชาวเสสา อญฺญินฺทฺริยํ อธิฏฺฐาย นิรุชฺฌนฺติ. ยํ ปน เอวํ ชานาติ “ขีณา เม ชาตี”ติ, อิทํ ขเย ญาณํ. “นาปรํ อิตฺถตฺตายา”ติ ปชานาติ, อิทํ อนุปฺปาเท ญาณํ. อิมานิ ทฺเว ญาณานิ อญฺญาตาวินฺทฺริยํ. ตตฺถ ยญฺจ อนญฺญาตญฺญสฺสามีตินฺทฺริยํ ยญฺจ อญฺญินฺทฺริยํ, อิมานิ อคฺคผลํ อรหตฺตํ ปาปุณนฺตสฺส นิรุชฺฌนฺติ, ตตฺถ ยญฺจ ขเย ญาณํ ยญฺจ อนุปฺปาเท ญาณํ, อิมานิ ทฺเว ญาณานิ เอกปญฺญา.
อปิ จ อารมฺมณสงฺเกเตน ทฺเว นามานิ ลพฺภนฺติ, “ขีณา เม ชาตี”ติ ปชานนฺตสฺส ขเย ญาณนฺติ นามํ ลภติ, “นาปรํ อิตฺถตฺตายา”ติ ปชานนฺตสฺส อนุปฺปาเท ญาณนฺติ นามํ ลภติ. สา ปชานนฏฺเฐน ปญฺญา, ยถาทิฏฺฐํ อปิลาปนฏฺเฐน สติ.
ตตฺถ เย ปญฺจุปาทานกฺขนฺธา, อิทํ นามรูปํ. ตตฺถ เย ผสฺสปญฺจมกา ธมฺมา, อิทํ นามํ. ยานิ ปญฺจินฺทฺริยานิ รูปานิ, อิทํ รูปํ. ตทุภยํ นามรูปํ วิญฺญาณสมฺปยุตฺตํ ตสฺส นิโรธํ ภควนฺตํ ปุจฺฉนฺโต อายสฺมา อชิโต ปารายเน เอวมาห—
“ปญฺญา เจว สติ จ,
นามรูปญฺจ มาริส;
เอตํ เม ปุฏฺโฐ ปพฺรูหิ,
กตฺเถตํ อุปรุชฺฌตี”ติ.
ตตฺถ สติ จ ปญฺญา จ จตฺตาริ อินฺทฺริยานิ, สติ ทฺเว อินฺทฺริยานิ สตินฺทฺริยญฺจ สมาธินฺทฺริยญฺจ, ปญฺญา ทฺเว อินฺทฺริยานิ ปญฺญินฺทฺริยญฺจ วีริยินฺทฺริยญฺจ. ยา อิเมสุ จตูสุ อินฺทฺริเยสุ สทฺทหนา โอกปฺปนา, อิทํ สทฺธินฺทฺริยํ. ตตฺถ ยา สทฺธาธิปเตยฺยา จิตฺเตกคฺคตา, อยํ ฉนฺทสมาธิ. สมาหิเต จิตฺเต กิเลสานํ วิกฺขมฺภนตาย ปฏิสงฺขานพเลน วา ภาวนาพเลน วา, อิทํ ปหานํ. ตตฺถ เย อสฺสาสปสฺสาสา วิตกฺกวิจารา สญฺญาเวทยิตา สรสงฺกปฺปา, อิเม สงฺขารา. อิติ ปุริมโก จ ฉนฺทสมาธิ, กิเลสวิกฺขมฺภนตาย จ ปหานํ อิเม จ สงฺขารา, ตทุภยํ ฉนฺทสมาธิปฺปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ โวสฺสคฺคปริณามิํ. ตตฺถ ยา วีริยาธิปเตยฺยา จิตฺเตกคฺคตา, อยํ วีริยสมาธิ …เป… ตตฺถ ยา จิตฺตาธิปเตยฺยา จิตฺเตกคฺคตา, อยํ จิตฺตสมาธิ …เป… ตตฺถ ยา วีมํสาธิปเตยฺยา จิตฺเตกคฺคตา, อยํ วีมํสาสมาธิ. สมาหิเต จิตฺเต กิเลสานํ วิกฺขมฺภนตาย ปฏิสงฺขานพเลน วา ภาวนาพเลน วา, อิทํ ปหานํ. ตตฺถ เย อสฺสาสปสฺสาสา วิตกฺกวิจารา สญฺญาเวทยิตา สรสงฺกปฺปา, อิเม สงฺขารา. อิติ ปุริมโก จ วีมํสาสมาธิ, กิเลสวิกฺขมฺภนตาย จ ปหานํ อิเม จ สงฺขารา, ตทุภยํ วีมํสาสมาธิปฺปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ โวสฺสคฺคปริณามิํ.
สพฺโพ สมาธิ ญาณมูลโก ญาณปุพฺพงฺคโม ญาณานุปริวตฺติ.
ยถา ปุเร ตถา ปจฺฉา,
ยถา ปจฺฉา ตถา ปุเร;
ยถา ทิวา ตถา รตฺติํ,
ยถา รตฺติํ ตถา ทิวา.
อิติ วิวเฏน เจตสา อปริโยนทฺเธน สปฺปภาสํ จิตฺตํ ภาเวติ. ปญฺจินฺทฺริยานิ กุสลานิ จิตฺตสหภูนิ จิตฺเต อุปฺปชฺชมาเน อุปฺปชฺชนฺติ, จิตฺเต นิรุชฺฌมาเน นิรุชฺฌนฺติ. นามรูปญฺจ วิญฺญาณเหตุกํ วิญฺญาณปจฺจยา นิพฺพตฺตํ, ตสฺส มคฺเคน เหตุ อุปจฺฉินฺโน, วิญฺญาณํ อนาหารํ อนภินนฺทิตํ อปฺปฏิสนฺธิกํ ตํ นิรุชฺฌติ. นามรูปมปิ อเหตุ อปฺปจฺจยํ ปุนพฺภวํ น นิพฺพตฺตยติ. เอวํ วิญฺญาณสฺส นิโรธา ปญฺญา จ สติ จ นามรูปญฺจ นิรุชฺฌติ. เตนาห ภควา—
“ยเมตํ ปญฺหํ อปุจฺฉิ,
อชิต ตํ วทามิ เต;
ยตฺถ นามญฺจ รูปญฺจ,
อเสสํ อุปรุชฺฌติ;
วิญฺญาณสฺส นิโรเธน,
เอตฺเถตํ อุปรุชฺฌตี”ติ.
“เย จ สงฺขาตธมฺมาเส, (อิจฺจายสฺมา อชิโต)
เย จ เสกฺขา ปุถู อิธ;
เตสํ เม นิปโก อิริยํ,
ปุฏฺโฐ ปพฺรูหิ มาริสา”ติ.
อิมานิ ตีณิ ปทานิ ปุจฺฉิตานิ, เต ตโย ปญฺหา. กิสฺส? เสขาเสขวิปสฺสนาปุพฺพงฺคมปฺปหานโยเคน, เอวญฺหิ อาห. “เย จ สงฺขาตธมฺมาเส”ติ อรหตฺตํ ปุจฺฉติ, “เย จ เสกฺขา ปุถู อิธา”ติ เสขํ ปุจฺฉติ, “เตสํ เม นิปโก อิริยํ, ปุฏฺโฐ ปพฺรูหิ มาริสา”ติ วิปสฺสนาปุพฺพงฺคมํ ปหานํ ปุจฺฉติ.
ตตฺถ วิสชฺชนา—
“กาเมสุ นาภิคิชฺเฌยฺย, (อชิตาติ ภควา)
มนสานาวิโล สิยา;
กุสโล สพฺพธมฺมานํ,
สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช”ติ.
ภควโต สพฺพํ กายกมฺมํ ญาณปุพฺพงฺคมํ ญาณานุปริวตฺติ, สพฺพํ วจีกมฺมํ ญาณปุพฺพงฺคมํ ญาณานุปริวตฺติ, สพฺพํ มโนกมฺมํ ญาณปุพฺพงฺคมํ ญาณานุปริวตฺติ. อตีเต อํเส อปฺปฏิหตญาณทสฺสนํ, อนาคเต อํเส อปฺปฏิหตญาณทสฺสนํ, ปจฺจุปฺปนฺเน อํเส อปฺปฏิหตญาณทสฺสนํ.
โก จ ญาณทสฺสนสฺส ปฏิฆาโต? ยํ อนิจฺเจ ทุกฺเข อนตฺตนิ จ อญฺญาณํ อทสฺสนํ, อยํ ญาณทสฺสนสฺส ปฏิฆาโต. ยถา อิธ ปุริโส ตารกรูปานิ ปเสฺสยฺย, โน จ คณนสงฺเกเตน ชาเนยฺย, อยํ ญาณทสฺสนสฺส ปฏิฆาโต.
ภควโต ปน อปฺปฏิหตญาณทสฺสนํ, อนาวรณญาณทสฺสนา หิ พุทฺธา ภควนฺโต. ตตฺถ เสเขน ทฺวีสุ ธมฺเมสุ จิตฺตํ รกฺขิตพฺพํ เคธา จ รชนีเยสุ ธมฺเมสุ, โทสา จ ปริยุฏฺฐานีเยสุ. ตตฺถ ยา อิจฺฉา มุจฺฉา ปตฺถนา ปิยายนา กีฬนา, ตํ ภควา นิวาเรนฺโต เอวมาห— “กาเมสุ นาภิคิชฺเฌยฺยา”ติ.
“มนสานาวิโล สิยา”ติ ปริยุฏฺฐานวิฆาตํ อาห. ตถา หิ เสโข อภิคิชฺฌนฺโต อสมุปฺปนฺนญฺจ กิเลสํ อุปฺปาเทติ, อุปฺปนฺนญฺจ กิเลสํ ผาติํ กโรติ. โย ปน อนาวิลสงฺกปฺโป อนภิคิชฺฌนฺโต วายมติ, โส อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อนุปฺปาทาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ. โส อุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ. โส อนุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อุปฺปาทาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ. โส อุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ ฐิติยา อสมฺโมสาย ภิโยฺยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ.
กตเม อนุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา? กามวิตกฺโก พฺยาปาทวิตกฺโก วิหิํสาวิตกฺโก, อิเม อนุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา. กตเม อุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา? อนุสยา อกุสลมูลานิ, อิเม อุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา. กตเม อนุปฺปนฺนา กุสลา ธมฺมา? ยานิ โสตาปนฺนสฺส อินฺทฺริยานิ, อิเม อนุปฺปนฺนา กุสลา ธมฺมา. กตเม อุปฺปนฺนา กุสลา ธมฺมา? ยานิ อฏฺฐมกสฺส อินฺทฺริยานิ, อิเม อุปฺปนฺนา กุสลา ธมฺมา.
เยน กามวิตกฺกํ วาเรติ, อิทํ สตินฺทฺริยํ. เยน พฺยาปาทวิตกฺกํ วาเรติ, อิทํ สมาธินฺทฺริยํ. เยน วิหิํสาวิตกฺกํ วาเรติ, อิทํ วีริยินฺทฺริยํ. เยน อุปฺปนฺนุปฺปนฺเน ปาปเก อกุสเล ธมฺเม ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมติ นาธิวาเสติ, อิทํ ปญฺญินฺทฺริยํ. ยา อิเมสุ จตูสุ อินฺทฺริเยสุ สทฺทหนา โอกปฺปนา, อิทํ สทฺธินฺทฺริยํ.
ตตฺถ สทฺธินฺทฺริยํ กตฺถ ทฏฺฐพฺพํ? จตูสุ โสตาปตฺติยงฺเคสุ. วีริยินฺทฺริยํ กตฺถ ทฏฺฐพฺพํ? จตูสุ สมฺมปฺปธาเนสุ. สตินฺทฺริยํ กตฺถ ทฏฺฐพฺพํ? จตูสุ สติปฏฺฐาเนสุ. สมาธินฺทฺริยํ กตฺถ ทฏฺฐพฺพํ? จตูสุ ฌาเนสุ. ปญฺญินฺทฺริยํ กตฺถ ทฏฺฐพฺพํ? จตูสุ อริยสจฺเจสุ. เอวํ เสโข สพฺเพหิ กุสเลหิ ธมฺเมหิ อปฺปมตฺโต วุตฺโต ภควตา อนาวิลตาย มนสา. เตนาห ภควา “มนสานาวิโล สิยา”ติ.
“กุสโล สพฺพธมฺมานนฺ”ติ โลโก นาม ติวิโธ กิเลสโลโก ภวโลโก อินฺทฺริยโลโก. ตตฺถ กิเลสโลเกน ภวโลโก สมุทาคจฺฉติ, โส อินฺทฺริยานิ นิพฺพตฺเตติ, อินฺทฺริเยสุ ภาวิยมาเนสุ เนยฺยสฺส ปริญฺญา ภวติ. สา ทุวิเธน อุปปริกฺขิตพฺพา ทสฺสนปริญฺญาย จ ภาวนาปริญฺญาย จ. ยทา หิ เสโข เญยฺยํ ปริชานาติ, ตทา นิพฺพิทาสหคเตหิ สญฺญามนสิกาเรหิ เนยฺยํ ปริญฺญาตํ ภวติ. ตสฺส ทฺเว ธมฺมา โกสลฺลํ คจฺฉนฺติ— ทสฺสนโกสลฺลญฺจ ภาวนาโกสลฺลญฺจ.
ตํ ญาณํ ปญฺจวิเธน เวทิตพฺพํ— อภิญฺญา ปริญฺญา ปหานํ ภาวนา สจฺฉิกิริยา. ตตฺถ กตมา อภิญฺญา? ยํ ธมฺมานํ สลกฺขเณ ญาณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา จ อตฺถปฏิสมฺภิทา จ, อยํ อภิญฺญา.
ตตฺถ กตมา ปริญฺญา? เอวํ อภิชานิตฺวา ยา ปริชานนา “อิทํ กุสลํ, อิทํ อกุสลํ, อิทํ สาวชฺชํ, อิทํ อนวชฺชํ, อิทํ กณฺหํ, อิทํ สุกฺกํ, อิทํ เสวิตพฺพํ, อิทํ น เสวิตพฺพํ, อิเม ธมฺมา เอวํคหิตา, อิทํ ผลํ นิพฺพตฺเตนฺติ, เตสํ เอวํคหิตานํ อยํ อตฺโถ”ติ, อยํ ปริญฺญา.
เอวํ ปริชานิตฺวา ตโย ธมฺมา อวสิฏฺฐา ภวนฺติ ปหาตพฺพา ภาเวตพฺพา สจฺฉิกาตพฺพา จ. ตตฺถ กตเม ธมฺมา ปหาตพฺพา? เย อกุสลา. ตตฺถ กตเม ธมฺมา ภาเวตพฺพา? เย กุสลา. ตตฺถ กตเม ธมฺมา สจฺฉิกาตพฺพา? ยํ อสงฺขตํ. โย เอวํ ชานาติ อยํ วุจฺจติ อตฺถกุสโล ธมฺมกุสโล กลฺยาณตากุสโล ผลตากุสโล, อายกุสโล อปายกุสโล อุปายกุสโล มหตา โกสเลฺลน สมนฺนาคโตติ, เตนาห ภควา “กุสโล สพฺพธมฺมานนฺ”ติ.
“สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช”ติ เตน ทิฏฺฐธมฺมสุขวิหารตฺถํ อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเต อาโลกิเต วิโลกิเต สมิญฺชิเต ปสาริเต สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารเณ อสิเต ปีเต ขายิเต สายิเต อุจฺจารปสฺสาวกมฺเม คเต ฐิเต นิสินฺเน สุตฺเต ชาคริเต ภาสิเต ตุณฺหิภาเว สเตน สมฺปชาเนน วิหาตพฺพํ. อิมา ทฺเว จริยา อนุญฺญาตา ภควตา เอกา วิสุทฺธานํ, เอกา วิสุชฺฌนฺตานํ. เก วิสุทฺธา? อรหนฺโต. เก วิสุชฺฌนฺตา? เสกฺขา. กตกิจฺจานิ หิ อรหโต อินฺทฺริยานิ. ยํ โพชฺฌํ, ตํ จตุพฺพิธํ ทุกฺขสฺส ปริญฺญาภิสมเยน สมุทยสฺส ปหานาภิสมเยน มคฺคสฺส ภาวนาภิสมเยน นิโรธสฺส สจฺฉิกิริยาภิสมเยน, อิทํ จตุพฺพิธํ โพชฺฌํ โย เอวํ ชานาติ, อยํ วุจฺจติ สโต อภิกฺกมติ สโต ปฏิกฺกมติ ขยา ราคสฺส ขยา โทสสฺส ขยา โมหสฺส. เตนาห ภควา “สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช”ติ, เตนาห—
“กาเมสุ นาภิคิชฺเฌยฺย, (อชิตาติ ภควา)
มนสานาวิโล สิยา;
กุสโล สพฺพธมฺมานํ,
สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช”ติ.
เอวํ ปุจฺฉิตพฺพํ, เอวํ วิสชฺชิตพฺพํ. สุตฺตสฺส จ อนุคีติ อตฺถโต จ พฺยญฺชนโต จ สมาเนตพฺพา. อตฺถาปคตํ หิ พฺยญฺชนํ สมฺผปฺปลาปํ ภวติ. ทุนฺนิกฺขิตฺตสฺส ปทพฺยญฺชนสฺส อตฺโถปิ ทุนฺนโย ภวติ, ตสฺมา อตฺถพฺยญฺชนูเปตํ สงฺคายิตพฺพํ. สุตฺตญฺจ ปวิจินิตพฺพํ. กิํ อิทํ สุตฺตํ อาหจฺจ วจนํ อนุสนฺธิวจนํ นีตตฺถํ เนยฺยตฺถํ สํกิเลสภาคิยํ นิพฺเพธภาคิยํ อเสกฺขภาคิยํ? กุหิํ อิมสฺส สุตฺตสฺส สพฺพานิ สจฺจานิ ปสฺสิตพฺพานิ, อาทิมชฺฌปริโยสาเนติ? เอวํ สุตฺตํ ปวิเจตพฺพํ. เตนาห อายสฺมา มหากจฺจายโน— “ยํ ปุจฺฉิตญฺจ วิสฺสชฺชิตญฺจ, สุตฺตสฺส ยา จ อนุคีตี”ติ.
นิยุตฺโต วิจโย หาโร.