6 สาสนปฏฺฐาน
ตตฺถ อฏฺฐารส มูลปทา กุหิํ ทฏฺฐพฺพา? สาสนปฏฺฐาเน. ตตฺถ กตมํ สาสนปฏฺฐานํ? สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ, วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ, นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ, อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ, สํกิเลสภาคิยญฺจ วาสนาภาคิยญฺจ สุตฺตํ, สํกิเลสภาคิยญฺจ นิพฺเพธภาคิยญฺจ สุตฺตํ, สํกิเลสภาคิยญฺจ อเสกฺขภาคิยญฺจ สุตฺตํ, สํกิเลสภาคิยญฺจ นิพฺเพธภาคิยญฺจ อเสกฺขภาคิยญฺจ สุตฺตํ, สํกิเลสภาคิยญฺจ วาสนาภาคิยญฺจ นิพฺเพธภาคิยญฺจ สุตฺตํ, วาสนาภาคิยญฺจ นิพฺเพธภาคิยญฺจ สุตฺตํ, ตณฺหาสํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ, ทิฏฺฐิสํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ, ทุจฺจริตสํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ, ตณฺหาโวทานภาคิยํ สุตฺตํ, ทิฏฺฐิโวทานภาคิยํ สุตฺตํ, ทุจฺจริตโวทานภาคิยํ สุตฺตํ.
ตตฺถ สํกิเลโส ติวิโธ— ตณฺหาสํกิเลโส ทิฏฺฐิสํกิเลโส ทุจฺจริตสํกิเลโส. ตตฺถ ตณฺหาสํกิเลโส สมเถน วิสุชฺฌติ, โส สมโถ สมาธิกฺขนฺโธ. ทิฏฺฐิสํกิเลโส วิปสฺสนาย วิสุชฺฌติ, สา วิปสฺสนา ปญฺญากฺขนฺโธ. ทุจฺจริตสํกิเลโส สุจริเตน วิสุชฺฌติ, ตํ สุจริตํ สีลกฺขนฺโธ. ตสฺส สีเล ปติฏฺฐิตสฺส ยทิ อาสตฺติ อุปฺปชฺชติ ภเวสุ, เอวํ สายํ สมถวิปสฺสนา ภาวนามยํ ปุญฺญกฺริยวตฺถุ ภวติ ตตฺรูปปตฺติยา สํวตฺตติ. อิมานิ จตฺตาริ สุตฺตานิ, สาธารณานิ กตานิ อฏฺฐ ภวนฺติ, ตานิเยว อฏฺฐ สุตฺตานิ สาธารณานิ กตานิ โสฬส ภวนฺติ.
อิเมหิ โสฬสหิ สุตฺเตหิ ภินฺเนหิ นววิธํ สุตฺตํ ภินฺนํ ภวติ. คาถาย คาถา อนุมินิตพฺพา, เวยฺยากรเณน เวยฺยากรณํ อนุมินิตพฺพํ. สุตฺเตน สุตฺตํ อนุมินิตพฺพํ.
ตตฺถ กตมํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ?
“กามนฺธา ชาลสญฺฉนฺนา,
ตณฺหาฉทนฉาทิตา;
ปมตฺตพนฺธนา พทฺธา,
มจฺฉาว กุมินามุเข;
ชรามรณมเนฺวนฺติ,
วจฺโฉ ขีรปโกว มาตรนฺ”ติ.
อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ.
จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, อคติคมนานิ. กตมานิ จตฺตาริ? ฉนฺทาคติํ คจฺฉติ, โทสาคติํ คจฺฉติ, โมหาคติํ คจฺฉติ, ภยาคติํ คจฺฉติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ อคติคมนานิ. อิทมโวจ ภควา. อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา—
“ฉนฺทา โทสา ภยา โมหา,
โย ธมฺมํ อติวตฺตติ;
นิหียติ ตสฺส ยโส,
กาฬปกฺเขว จนฺทิมา”ติ.
อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ.
“มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา,
มโนเสฏฺฐา มโนมยา;
มนสา เจ ปทุฏฺเฐน,
ภาสติ วา กโรติ วา;
ตโต นํ ทุกฺขมเนฺวติ,
จกฺกํว วหโต ปทนฺ”ติ.
อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ.
“มิทฺธี ยทา โหติ มหคฺฆโส จ,
นิทฺทายิตา สมฺปริวตฺตสายี;
มหาวราโหว นิวาปปุฏฺโฐ,
ปุนปฺปุนํ คพฺภมุเปติ มนฺโท”ติ.
อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ.
“อยสาว มลํ สมุฏฺฐิตํ,
ตตุฏฺฐาย ตเมว ขาทติ;
เอวํ อติโธนจารินํ,
สานิ กมฺมานิ นยนฺติ ทุคฺคตินฺ”ติ.
อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ.
“โจโร ยถา สนฺธิมุเข คหีโต,
สกมฺมุนา หญฺญติ พชฺฌเต จ;
เอวํ อยํ เปจฺจ ปชา ปรตฺถ,
สกมฺมุนา หญฺญติ พชฺฌเต จา”ติ.
อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ.
“สุขกามานิ ภูตานิ,
โย ทณฺเฑน วิหิํสติ;
อตฺตโน สุขเมสาโน,
เปจฺจ โส น ลภเต สุขนฺ”ติ.
อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ.
“คุนฺนญฺเจ ตรมานานํ,
ชิมฺหํ คจฺฉติ ปุงฺคโว;
สพฺพา ตา ชิมฺหํ คจฺฉนฺติ,
เนตฺเต ชิมฺหํ คเต สติ.
เอวเมว มนุเสฺสสุ,
โย โหติ เสฏฺฐสมฺมโต;
โส เจ อธมฺมํ จรติ,
ปเคว อิตรา ปชา;
สพฺพํ รฏฺฐํ ทุกฺขํ เสติ,
ราชา เจ โหติ อธมฺมิโก”ติ.
อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ.
“สุกิจฺฉรูปาวติเม มนุสฺสา,
กโรนฺติ ปาปํ อุปธีสุ รตฺตา;
คจฺฉนฺติ เต พหุชนสนฺนิวาสํ,
นิรยํ อวีจิํ กฏุกํ ภยานกนฺ”ติ.
อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ.
“ผลํ เว กทลิํ หนฺติ,
ผลํ เวฬุํ ผลํ นฬํ;
สกฺกาโร กาปุริสํ หนฺติ,
คพฺโภ อสฺสตริํ ยถา”ติ.
อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ.
“โกธมกฺขครุ ภิกฺขุ,
ลาภสกฺการคารโว;
สุเขตฺเต ปูติพีชํว,
สทฺธมฺเม น วิรูหตี”ติ.
อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ.
“อิธาหํ, ภิกฺขเว, เอกจฺจํ ปุคฺคลํ ปทุฏฺฐจิตฺตํ เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานามิ, ยถา โข อยํ ปุคฺคโล อิริยติ, ยญฺจ ปฏิปทํ ปฏิปนฺโน, ยญฺจ มคฺคํ สมารูโฬฺห. อิมมฺหิ จายํ สมเย กาลํ กเรยฺย, ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต, เอวํ นิรเย. ตํ กิสฺส เหตุ? จิตฺตํ หิสฺส, ภิกฺขเว, ปทุฏฺฐํ, เจโตปโทสเหตุ โข ปน, ภิกฺขเว, เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺตี”ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ, ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ—
“ปทุฏฺฐจิตฺตํ ญตฺวาน,
เอกจฺจํ อิธ ปุคฺคลํ;
เอตมตฺถญฺจ พฺยากาสิ,
พุทฺโธ ภิกฺขูน สนฺติเก.
อิมมฺหิ จายํ สมเย,_
กาลํ กยิราถ ปุคฺคโล;
นิรยํ อุปปชฺเชยฺย,
จิตฺตํ หิสฺส ปทูสิตํ.
เจโตปโทสเหตุ หิ,
สตฺตา คจฺฉนฺติ ทุคฺคติํ;
ยถาภตํ นิกฺขิเปยฺย,
เอวเมว ตถาวิโธ;
กายสฺส เภทา ทุปฺปญฺโญ,
นิรยํ โสปปชฺชตี”ติ.
อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา อิติ เม สุตนฺติ.
อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ.
“สเจ ภายถ ทุกฺขสฺส,
สเจ โว ทุกฺขมปฺปิยํ;
มากตฺถ ปาปกํ กมฺมํ,
อาวิ วา ยทิ วา รโห.
สเจ จ ปาปกํ กมฺมํ,
กริสฺสถ กโรถ วา;
น โว ทุกฺขา ปมุตฺยตฺถิ,
อุเปจฺจปิ ปลายตนฺ”ติ._
อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ.
“อธมฺเมน ธนํ ลทฺธา,
มุสาวาเทน จูภยํ;
มเมติ พาลา มญฺญนฺติ,
ตํ กถํ นุ ภวิสฺสติ.
อนฺตรายา สุ ภวิสฺสนฺติ,
สมฺภตสฺส วินสฺสติ;
มตา สคฺคํ น คจฺฉนฺติ,
นนุ เอตฺตาวตา หตา”ติ.
อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ.
“กถํ ขณติ อตฺตานํ,
กถํ มิตฺเตหิ ชีรติ;
กถํ วิวฏฺฏเต ธมฺมา,
กถํ สคฺคํ น คจฺฉติ.
โลภา ขณติ อตฺตานํ,
ลุทฺโธ มิตฺเตหิ ชีรติ;
โลภา วิวฏฺฏเต ธมฺมา,
โลภา สคฺคํ น คจฺฉตี”ติ.
อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ.
“จรนฺติ พาลา ทุมฺเมธา,
อมิตฺเตเนว อตฺตนา;
กโรนฺตา ปาปกํ กมฺมํ,
ยํ โหติ กฏุกปฺผลํ.
น ตํ กมฺมํ กตํ สาธุ,
ยํ กตฺวา อนุตปฺปติ;
ยสฺส อสฺสุมุโข โรทํ,
วิปากํ ปฏิเสวตี”ติ.
อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ.
“ทุกฺกรํ ทุตฺติติกฺขญฺจ,
อพฺยตฺเตน จ สามญฺญํ;
พหู หิ ตตฺถ สมฺพาธา,
ยตฺถ พาโล วิสีทติ.
โย หิ อตฺถญฺจ ธมฺมญฺจ,
ภาสมาเน ตถาคเต;
มนํ ปโทสเย พาโล,
โมฆํ โข ตสฺส ชีวิตํ.
เอตญฺจาหํ อรหามิ,
ทุกฺขญฺจ อิโต จ ปาปิยตรํ ภนฺเต;
โย อปฺปเมเยฺยสุ ตถาคเตสุ,
จิตฺตํ ปโทเสมิ อวีตราโค”ติ.
อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ.
“อปฺปเมยฺยํ ปมินนฺโต,
โกธ วิทฺวา วิกปฺปเย;
อปฺปเมยฺยํ ปมายินํ,
นิวุตํ ตํ มญฺเญ อกิสฺสวนฺ”ติ.
อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ.
“ปุริสสฺส หิ ชาตสฺส,
กุฐารี ชายเต มุเข;
ยาย ฉินฺทติ อตฺตานํ,
พาโล ทุพฺภาสิตํ ภณํ.
น หิ สตฺถํ สุนิสิตํ,
วิสํ หลาหลํ อิว;
เอวํ วิรทฺธํ ปาเตติ,
วาจา ทุพฺภาสิตา ยถา”ติ.
อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ.
“โย นินฺทิยํ ปสํสติ,
ตํ วา นินฺทติ โย ปสํสิโย;
วิจินาติ มุเขน โส กลิํ,
กลินา เตน สุขํ น วินฺทติ.
อปฺปมตฺโต อยํ กลิ,
โย อกฺเขสุ ธนปราชโย;
สพฺพสฺสาปิ สหาปิ อตฺตนา,
อยเมว มหนฺตตโร กลิ;
โย สุคเตสุ มนํ ปโทสเย.
สตํ สหสฺสานํ นิรพฺพุทานํ,
ฉตฺติํสตี ปญฺจ จ อพฺพุทานิ;
ยมริยครหี นิรยํ อุเปติ,
วาจํ มนญฺจ ปณิธาย ปาปกนฺ”ติ.
อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ.
“โย โลภคุเณ อนุยุตฺโต,
โส วจสา ปริภาสติ อญฺเญ;
อสฺสทฺโธ กทริโย อวทญฺญู,
มจฺฉริ เปสุณิยํ อนุยุตฺโต.
มุขทุคฺค วิภูต อนริย,
ภูนหุ ปาปก ทุกฺกฏการิ;
ปุริสนฺต กลี อวชาตปุตฺต,
มา พหุภาณิธ เนรยิโกสิ.
รชมากิรสี อหิตาย,
สนฺเต ครหสิ กิพฺพิสการี;
พหูนิ ทุจฺจริตานิ จริตฺวา,
คจฺฉสิ โข ปปตํ จิรรตฺตนฺ”ติ.
อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ.
ตตฺถ กตมํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ?
“มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา,
มโนเสฏฺฐา มโนมยา;
มนสา เจ ปสนฺเนน,
ภาสติ วา กโรติ วา;
ตโต นํ สุขมเนฺวติ,
ฉายาว อนปายินี”ติ.
อิทํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ.
มหานาโม สกฺโก ภควนฺตํ เอตทโวจ— “อิทํ, ภนฺเต, กปิลวตฺถุ อิทฺธญฺเจว ผีตญฺจ พาหุชญฺญํ อากิณฺณมนุสฺสํ สมฺพาธพฺยูหํ, โส โข อหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ วา ปยิรุปาสิตฺวา มโนภาวนีเย วา ภิกฺขู สายนฺหสมยํ กปิลวตฺถุํ ปวิสนฺโต ภนฺเตนปิ หตฺถินา สมาคจฺฉามิ, ภนฺเตนปิ อเสฺสน สมาคจฺฉามิ, ภนฺเตนปิ รเถน สมาคจฺฉามิ, ภนฺเตนปิ สกเฏน สมาคจฺฉามิ, ภนฺเตนปิ ปุริเสน สมาคจฺฉามิ, ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, ตสฺมิํ สมเย มุสฺสเตว ภควนฺตํ อารพฺภ สติ, มุสฺสติ ธมฺมํ อารพฺภ สติ, มุสฺสติ สํฆํ อารพฺภ สติ. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอวํ โหติ ‘อิมมฺหิ จาหํ สายนฺหสมเย กาลํ กเรยฺยํ, กา มยฺหํ คติ, โก อภิสมฺปราโย’”ติ.
“มา ภายิ, มหานาม, มา ภายิ, มหานาม, อปาปกํ เต มรณํ ภวิสฺสติ, อปาปิกา กาลํกิริยา. จตูหิ โข, มหานาม, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อริยสาวโก นิพฺพานนินฺโน โหติ นิพฺพานโปโณ นิพฺพานปพฺภาโร. กตเมหิ จตูหิ? อิธ, มหานาม, อริยสาวโก พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต โหติ, อิติปิ โส ภควา อรหํ …เป… พุทฺโธ ภควาติ. ธมฺเม …เป… สํเฆ …เป… อริยกนฺเตหิ สีเลหิ สมนฺนาคโต โหติ อขณฺเฑหิ …เป… สมาธิสํวตฺตนิเกหิ. เสยฺยถาปิ, มหานาม, รุกฺโข ปาจีนนินฺโน ปาจีนโปโณ ปาจีนปพฺภาโร, โส มูลจฺฉินฺโน กตเมน ปปเตยฺยา”ติ? “เยน, ภนฺเต, นินฺโน เยน โปโณ เยน ปพฺภาโร”ติ. “เอวเมว โข, มหานาม, อิเมหิ จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อริยสาวโก นิพฺพานนินฺโน โหติ นิพฺพานโปโณ นิพฺพานปพฺภาโร. มา ภายิ, มหานาม, มา ภายิ, มหานาม, อปาปกํ เต มรณํ ภวิสฺสติ, อปาปิกา กาลํกิริยา”ติ.
อิทํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ.
“สุขกามานิ ภูตานิ,
โย ทณฺเฑน น หิํสติ;
อตฺตโน สุขเมสาโน,
เปจฺจ โส ลภเต สุขนฺ”ติ.
อิทํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ.
“คุนฺนญฺเจ ตรมานานํ,
อุชุํ คจฺฉติ ปุงฺคโว;_
สพฺพา ตา อุชุํ คจฺฉนฺติ,
เนตฺเต อุชุํ คเต สติ.
เอวเมว มนุเสฺสสุ,
โย โหติ เสฏฺฐสมฺมโต;
โส สเจ ธมฺมํ จรติ,
ปเคว อิตรา ปชา;
สพฺพํ รฏฺฐํ สุขํ เสติ,
ราชา เจ โหติ ธมฺมิโก”ติ.
อิทํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ.
ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา ภิกฺขู ภควโต จีวรกมฺมํ กโรนฺติ “นิฏฺฐิตจีวโร ภควา เตมาสจฺจเยน จาริกํ ปกฺกมิสฺสตี”ติ. เตน โข ปน สมเยน อิสิทตฺตปุราณา ถปตโย สาเกเต ปฏิวสนฺติ เกนจิ เทว กรณีเยน. อโสฺสสุํ โข อิสิทตฺตปุราณา ถปตโย “สมฺพหุลา กิร ภิกฺขู ภควโต จีวรกมฺมํ กโรนฺติ. นิฏฺฐิตจีวโร ภควา เตมาสจฺจเยน จาริกํ ปกฺกมิสฺสตี”ติ.
อถ โข อิสิทตฺตปุราณา ถปตโย มคฺเค ปุริสํ ฐเปสุํ “ยทา ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, ปเสฺสยฺยาสิ ภควนฺตํ อาคจฺฉนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ, อถ อมฺหากํ อาโรเจยฺยาสี”ติ. ทฺวีหตีหํ ฐิโต โข โส ปุริโส อทฺทส ภควนฺตํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ, ทิสฺวาน เยน อิสิทตฺตปุราณา ถปตโย เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อิสิทตฺตปุราเณ ถปตโย เอตทโวจ— “อยํ โส, ภนฺเต ภควา อาคจฺฉติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, ยสฺสทานิ กาลํ มญฺญถา”ติ.
อถ โข อิสิทตฺตปุราณา ถปตโย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ภควนฺตํ ปิฏฺฐิโต ปิฏฺฐิโต อนุพนฺธิํสุ. อถ โข ภควา มคฺคา โอกฺกมฺม เยน อญฺญตรํ รุกฺขมูลํ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญตฺเต อาสเน นิสีทิ. อิสิทตฺตปุราณา ถปตโย ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุ, เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข อิสิทตฺตปุราณา ถปตโย ภควนฺตํ เอตทโวจุํ—
“ยทา มยํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สุโณม ‘สาวตฺถิยา โกสเลสุ จาริกํ ปกฺกมิสฺสตี’ติ, โหติ โน ตสฺมิํ สมเย อนตฺตมนตา โหติ โทมนสฺสํ ‘ทูเร โน ภควา ภวิสฺสตี’ติ. ยทา ปน มยํ ภนฺเต ภควนฺตํ สุโณม ‘สาวตฺถิยา โกสเลสุ จาริกํ ปกฺกนฺโต’ติ, โหติ โน ตสฺมิํ สมเย อนตฺตมนตา โหติ โทมนสฺสํ ‘ทูเร โน ภควา’ติ …เป… .
ยทา ปน มยํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สุโณม ‘กาสีสุ มคเธสุ จาริกํ ปกฺกมิสฺสตี’ติ, โหติ โน ตสฺมิํ สมเย อนตฺตมนตา โหติ โทมนสฺสํ ‘ทูเร โน ภควา ภวิสฺสตี’ติ. ยทา ปน มยํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สุโณม ‘กาสีสุ มคเธสุ จาริกํ ปกฺกนฺโต’ติ, อนปฺปกา โน ตสฺมิํ สมเย อนตฺตมนตา โหติ อนปฺปกํ โทมนสฺสํ ‘ทูเร โน ภควา’ติ.
ยทา ปน มยํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สุโณม ‘มคเธสุ กาสีสุ จาริกํ ปกฺกมิสฺสตี’ติ, โหติ โน ตสฺมิํ สมเย อตฺตมนตา โหติ โสมนสฺสํ ‘อาสนฺเน โน ภควา ภวิสฺสตี’ติ. ยทา ปน มยํ ภนฺเต ภควนฺตํ สุโณม ‘มคเธสุ กาสีสุ จาริกํ ปกฺกนฺโต’ติ, โหติ โน ตสฺมิํ สมเย อตฺตมนตา โหติ โสมนสฺสํ ‘อาสนฺเน โน ภควา’ติ …เป… .
ยทา ปน มยํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สุโณม ‘โกสเลสุ สาวตฺถิํ จาริกํ ปกฺกมิสฺสตี’ติ. โหติ โน ตสฺมิํ สมเย อตฺตมนตา โหติ โสมนสฺสํ ‘อาสนฺเน โน ภควา ภวิสฺสตี’ติ.
ยทา ปน มยํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สุโณม ‘สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม’ติ โหติ อนปฺปกา โน ตสฺมิํ สมเย อตฺตมนตา, โหติ อนปฺปกํ โสมนสฺสํ ‘อาสนฺเน โน ภควา’”ติ.
“ตสฺมาติห, ถปตโย, สมฺพาโธ ฆราวาโส รชาปโถ, อพฺโภกาโส ปพฺพชฺชา, อลญฺจ ปน โว, ถปตโย, อปฺปมาทายา”ติ. “อตฺถิ โข โน, ภนฺเต, เอตมฺหา สมฺพาธา อญฺโญ สมฺพาโธ สมฺพาธตโร เจว สมฺพาธสงฺขาตตโร จา”ติ? “กตโม ปน โว, ถปตโย, เอตมฺหา สมฺพาธา อญฺโญ สมฺพาโธ สมฺพาธตโร เจว สมฺพาธสงฺขาตตโร จา”ติ?
“อิธ มยํ, ภนฺเต, ยทา ราชา ปเสนทิ โกสโล อุยฺยานภูมิํ นิยฺยาตุกาโม โหติ, เย เต รญฺโญ ปเสนทิสฺส โกสลสฺส นาคา โอปวยฺหา, เต กปฺเปตฺวา ยา ตา รญฺโญ ปเสนทิสฺส โกสลสฺส ปชาปติโย ปิยา มนาปา, ตา เอกํ ปุรโต เอกํ ปจฺฉโต นิสีทาเปม, ตาสํ โข ปน, ภนฺเต, ภคินีนํ เอวรูโป คนฺโธ โหติ. เสยฺยถาปิ นาม คนฺธกรณฺฑกสฺส ตาวเทว วิวริยมานสฺส, ยถา ตํ ราชกญฺญานํ คนฺเธน วิภูสิตานํ. ตาสํ โข ปน, ภนฺเต, ภคินีนํ เอวรูโป กายสมฺผโสฺส โหติ, เสยฺยถาปิ นาม ตูลปิจุโน วา กปฺปาสปิจุโน วา, ยถา ตํ ราชกญฺญานํ สุเขธิตานํ. ตสฺมิํ โข ปน, ภนฺเต, สมเย นาโคปิ รกฺขิตพฺโพ โหติ. ตาปิ ภคินิโย รกฺขิตพฺพา โหนฺติ. อตฺตาปิ รกฺขิตพฺโพ โหติ. น โข ปน มยํ, ภนฺเต, อภิชานาม ตาสุ ภคินีสุ ปาปกํ จิตฺตํ อุปฺปาเทนฺตา, อยํ โข โน, ภนฺเต, เอตมฺหา สมฺพาธา อญฺโญ สมฺพาโธ สมฺพาธตโร เจว สมฺพาธสงฺขาตตโร จา”ติ.
“ตสฺมาติห, ถปตโย, สมฺพาโธ ฆราวาโส รชาปโถ, อพฺโภกาโส ปพฺพชฺชา. อลญฺจ ปน โว, ถปตโย, อปฺปมาทาย. จตูหิ โข, ถปตโย, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อริยสาวโก โสตาปนฺโน โหติ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ.
กตเมหิ จตูหิ? อิธ, ถปตโย, สุตวา อริยสาวโก พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต โหติ อิติปิ โส ภควา อรหํ …เป… พุทฺโธ ภควาติ, ธมฺเม …เป… สํเฆ …เป… วิคตมลมจฺเฉเรน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสติ, มุตฺตจาโค ปยตปาณิ โวสฺสคฺครโต ยาจโยโค ทานสํวิภาครโต อปฺปฏิวิภตฺตํ. อิเมหิ โข, ถปตโย, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อริยสาวโก โสตาปนฺโน โหติ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ.
ตุมฺเห โข, ถปตโย, พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคตา อิติปิ โส ภควา อรหํ …เป… พุทฺโธ ภควาติ, ธมฺเม …เป… สํเฆ …เป… ยํ โข ปน กิญฺจิ กุเล เทยฺยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ อปฺปฏิวิภตฺตํ สีลวนฺเตหิ กลฺยาณธมฺเมหิ, ตํ กิํ มญฺญถ, ถปตโย, กติวิธา เต โกสเลสุ มนุสฺสา เย ตุมฺหากํ สมสมา ยทิทํ ทานสํวิภาเคหี”ติ? “ลาภา โน, ภนฺเต, สุลทฺธํ โน, ภนฺเต, เยสํ โน ภควา เอวํ ปชานาตี”ติ.
อิทํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ.
“เอกปุปฺผํ จชิตฺวาน,
สหสฺสํ กปฺปโกฏิโย;
เทเว เจว มนุเสฺส จ,
เสเสน ปรินิพฺพุโต”ติ.
อิทํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ.
“อสฺสตฺเถ หริโตภาเส,
สํวิรูฬฺหมฺหิ ปาทเป;
เอกํ พุทฺธคตํ สญฺญํ,
อลภิํหํ ปติสฺสโต.
อชฺช ติํสํ ตโต กปฺปา,
นาภิชานามิ ทุคฺคติํ;
ติโสฺส วิชฺชา สจฺฉิกตา,
ตสฺสา สญฺญาย วาสนา”ติ.
อิทํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ.
“ปิณฺฑาย โกสลํ ปุรํ,
ปาวิสิ อคฺคปุคฺคโล;
อนุกมฺปโก ปุเรภตฺตํ,
ตณฺหานิฆาตโก มุนิ.
ปุริสสฺส วฏํสโก หตฺเถ,
สพฺพปุปฺเผหิลงฺกโต;
โส อทฺทสาสิ สมฺพุทฺธํ,
ภิกฺขุสํฆปุรกฺขตํ.
ปวิสนฺตํ ราชมคฺเคน,
เทวมานุสปูชิตํ;
หฏฺโฐ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา,
สมฺพุทฺธมุปสงฺกมิ.
โส ตํ วฏํสกํ สุรภิํ,
วณฺณวนฺตํ มโนรมํ;
สมฺพุทฺธสฺสุปนาเมสิ,
ปสนฺโน เสหิ ปาณิภิ.
ตโต อคฺคิสิขา วณฺณา,
พุทฺธสฺส ลปนนฺตรา;
สหสฺสรํสิ วิชฺชุริว,
โอกฺกา นิกฺขมิ อานนา.
ปทกฺขิณํ กริตฺวาน,
สีเส อาทิจฺจพนฺธุโน;
ติกฺขตฺตุํ ปริวฏฺเฏตฺวา,
มุทฺธนนฺตรธายถ.
อิทํ ทิสฺวา อจฺฉริยํ,_
อพฺภุตํ โลมหํสนํ;
เอกํสํ จีวรํ กตฺวา,
อานนฺโท เอตทพฺรวิ.
‘โก เหตุ สิตกมฺมสฺส,
พฺยากโรหิ มหามุเน;
ธมฺมาโลโก ภวิสฺสติ,
กงฺขํ วิตร โน มุเน.
ยสฺส ตํ สพฺพธมฺเมสุ,
สทา ญาณํ ปวตฺตติ;
กงฺขิํ เวมติกํ เถรํ,
อานนฺทํ เอตทพฺรวิ.
โย โส อานนฺท ปุริโส,
มยิ จิตฺตํ ปสาทยิ;
จตุราสีติกปฺปานิ,
ทุคฺคติํ น คมิสฺสติ.
เทเวสุ เทวโสภคฺคํ,
ทิพฺพํ รชฺชํ ปสาสิย;
มนุเชสุ มนุชินฺโท,
ราชา รฏฺเฐ ภวิสฺสติ.
โส จริมํ ปพฺพชิตฺวา,
สจฺฉิกตฺวา จ ธมฺมตํ;
ปจฺเจกพุทฺโธ ธุตราโค,
วฏํสโก นาม ภวิสฺสติ.
นตฺถิ จิตฺเต ปสนฺนมฺหิ,
อปฺปกา นาม ทกฺขิณา;
ตถาคเต วา สมฺพุทฺเธ,
อถ วา ตสฺส สาวเก.
เอวํ อจินฺติยา พุทฺธา,
พุทฺธธมฺมา อจินฺติยา;
อจินฺติเย ปสนฺนานํ,
วิปาโก โหติ อจินฺติโย’”ติ.
อิทํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ.
“อิธาหํ, ภิกฺขเว, เอกจฺจํ ปุคฺคลํ ปสนฺนจิตฺตํ เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานามิ ยถา โข อยํ ปุคฺคโล อิริยติ, ยญฺจ ปฏิปทํ ปฏิปนฺโน, ยญฺจ มคฺคํ สมารูโฬฺห. อิมมฺหิ จายํ สมเย กาลํ กเรยฺย, ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค. ตํ กิสฺส เหตุ? จิตฺตํ หิสฺส, ภิกฺขเว, ปสนฺนํ, เจโตปสาทเหตุ โข ปน เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺตี”ติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ, ตตฺเถตํ อิติ วุจฺจติ—
“ปสนฺนจิตฺตํ ญตฺวาน,
เอกจฺจํ อิธ ปุคฺคลํ;
เอตมตฺถญฺจ พฺยากาสิ,
พุทฺโธ ภิกฺขูน สนฺติเก.
อิมมฺหิ จายํ สมเย,_
กาลํ กยิราถ ปุคฺคโล;
สคฺคมฺหิ อุปปชฺเชยฺย,
จิตฺตํ หิสฺส ปสาทิตํ.
เจโตปสาทเหตุ หิ,
สตฺตา คจฺฉนฺติ สุคฺคติํ;
ยถาภตํ นิกฺขิเปยฺย,
เอวเมวํ ตถาวิโธ;
กายสฺส เภทา สปฺปญฺโญ,
สคฺคํ โส อุปปชฺชตี”ติ.
“อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา อิติ เม สุตนฺ”ติ.
อิทํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ.
“สุวณฺณจฺฉทนํ นาวํ,
นาริ อารุยฺห ติฏฺฐสิ;
โอคาหสิ โปกฺขรณิํ,
ปทฺมํ ฉินฺทสิ ปาณินา.
เกน เต ตาทิโส วณฺโณ,
อานุภาโว ชุติ จ เต;
อุปฺปชฺชนฺติ จ เต โภคา,_
เย เกจิ มนสิจฺฉิตา.
ปุจฺฉิตา เทวเต สํส,
กิสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลํ;
สา เทวตา อตฺตมนา,
เทวราเชน ปุจฺฉิตา.
ปญฺหํ ปุฏฺฐา วิยากาสิ,
สกฺกสฺส อิติ เม สุตํ;
อทฺธานํ ปฏิปนฺนาหํ,
ทิสฺวา ถูปํ มโนรมํ.
ตตฺถ จิตฺตํ ปสาเทสิํ,
กสฺสปสฺส ยสสฺสิโน;
ปทฺธปุปฺเผหิ ปูเชสิํ,
ปสนฺนา เสหิ ตเสฺสว;
กมฺมสฺส ผลํ วิปาโก,
เอตาทิสํ กตปุญฺญา ลภนฺตี”ติ.
อิทํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ.
“ทานกถา สีลกถา สคฺคกถา ปุญฺญกถา ปุญฺญวิปากกถา”ติ.
อิทํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ.
“อปิ จาปิ ปํสุถูเปสุ อุทฺทิสฺสกเตสุ ทสพลธรานํ ตตฺถปิ การํ กตฺวา สคฺเคสุ นรา ปโมทนฺตี”ติ.
อิทํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ.
“เทวปุตฺตสรีรวณฺณา,
สพฺเพ สุภคสณฺฐิตี;
อุทเกน ปํสุํ เตเมตฺวา,_
ถูปํ วฑฺเฒถ กสฺสปํ.
อยํ สุคตฺเต สุคตสฺส ถูโป,
มเหสิโน ทสพลธมฺมธาริโน;
ตสฺมิํ อิเม เทวมนุชา ปสนฺนา,
การํ กโรนฺตา ชรามรณา ปมุจฺจเร”ติ.
อิทํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ.
“อุฬารํ วต ตํ อาสิ,
ยาหํ ถูปํ มเหสิโน;
อุปฺปลานิ จ จตฺตาริ,_
มาลญฺจ อภิโรปยิํ.
อชฺช ติํสํ ตโต กปฺปา,
นาภิชานามิ ทุคฺคติํ;
วินิปาตํ น คจฺฉามิ,
ถูปํ ปูเชตฺว สตฺถุโน”ติ.
อิทํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ.
“พาตฺติํสลกฺขณธรสฺส,
วิชิตวิชยสฺส โลกนาถสฺส;
สตสหสฺสํ กปฺเป,
มุทิโต ถูปํ อปูเชสิ.
ยํ มยา ปสุตํ ปุญฺญํ,
เตน จ ปุญฺเญน เทว โสภคฺคํ;
รชฺชานิ จ การิตานิ,
อนาคนฺตุน วินิปาตํ.
ยํ จกฺขุ อทนฺตทมกสฺส,
สาสเน ปณิหิตํ ตถา;
จิตฺตํ ตํ เม สพฺพํ,
ลทฺธํ วิมุตฺตจิตฺตมฺหิ วิธูตลโต”ติ.
อิทํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ.
“สามากปตฺโถทนมตฺตเมว หิ,
ปจฺเจกพุทฺธมฺหิ อทาสิ ทกฺขิณํ;
วิมุตฺตจิตฺเต อขิเล อนาสเว,
อรณวิหาริมฺหิ อสงฺคมานเส.
ตสฺมิญฺจ โอกปฺปยิ ธมฺมมุตฺตมํ,
ตสฺมิญฺจ ธมฺเม ปณิเธสิํ มานสํ;
เอวํวิหารีหิ เม สงฺคโม สิยา,
ภเว กุทาสุปิ จ มา อเปกฺขวา.
ตเสฺสว กมฺมสฺส วิปากโต อหํ,
สหสฺสกฺขตฺตุํ กุรุสูปปชฺชถ;
ทีฆายุเกสุ อมเมสุ ปาณิสุ,
วิเสสคามีสุ อหีนคามิสุ.
ตเสฺสว กมฺมสฺส วิปากโต อหํ,
สหสฺสกฺขตฺตุํ ติทโสปปชฺชถ;
วิจิตฺรมาลาภรณานุเลปิสุ,
วิสิฏฺฐกายูปคโต ยสสฺสิสุ.
ตเสฺสว กมฺมสฺส วิปากโต อหํ,
วิมุตฺตจิตฺโต อขิโล อนาสโว;
อิเมหิ เม อนฺติมเทหธาริภิ,_
สมาคโม อาสิ หิตาหิตาสิหิ.
ปจฺจกฺขํ ขฺวิมํ อวจ ตถาคโต ชิโน,
สมิชฺฌเต สีลวโต ยทิจฺฉติ;
ยถา ยถา เม มนสา วิจินฺติตํ,
ตถา สมิทฺธํ อยมนฺติโม ภโว”ติ.
อิทํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ.
“เอกติํสมฺหิ กปฺปมฺหิ ชิโน อเนโช,
อนนฺตทสฺสี ภควา สิขีติ;
ตสฺสาปิ ราชา ภาตา สิขิทฺเธ,
พุทฺเธ จ ธมฺเม จ อภิปฺปสนฺโน.
ปรินิพฺพุเต โลกวินายกมฺหิ,
ถูปํ สกาสิ วิปุลํ มหนฺตํ;
สมนฺตโต คาวุติกํ มเหสิโน,
เทวาติเทวสฺส นรุตฺตมสฺส.
ตสฺมิํ มนุโสฺส พลิมาภิหารี,
ปคฺคยฺห ชาติสุมนํ ปหฏฺโฐ;
วาเตน ปุปฺผํ ปติตสฺส เอกํ,
ตาหํ คเหตฺวาน ตเสฺสว ทาสิ.
โส มํ อโวจาภิปสนฺนจิตฺโต,
ตุยฺหเมว เอตํ ปุปฺผํ ททามิ;
ตาหํ คเหตฺวา อภิโรปเยสิํ,
ปุนปฺปุนํ พุทฺธมนุสฺสรนฺโต.
อชฺช ติํสํ ตโต กปฺปา,
นาภิชานามิ ทุคฺคติํ;
วินิปาตญฺจ น คจฺฉามิ,
ถูปปูชายิทํ ผลนฺ”ติ.
อิทํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ.
“กปิลํ นาม นครํ,
สุวิภตฺตํ มหาปถํ;
อากิณฺณมิทฺธํ ผีตญฺจ,
พฺรหฺมทตฺตสฺส ราชิโน.
กุมฺมาสํ วิกฺกิณิํ ตตฺถ,
ปญฺจาลานํ ปุรุตฺตเม;
โสหํ อทฺทสิํ สมฺพุทฺธํ,
อุปริฏฺฐํ ยสสฺสินํ._
หฏฺโฐ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา,
นิมนฺเตสิํ นรุตฺตมํ;
อริฏฺฐํ ธุวภตฺเตน,
ยํ เม เคหมฺหิ วิชฺชถ.
ตโต จ กตฺติโก ปุณฺโณ,
ปุณฺณมาสี อุปฏฺฐิตา;
นวํ ทุสฺสยุคํ คยฺห,
อริฏฺฐโสฺสปนามยิํ.
ปสนฺนจิตฺตํ ญตฺวาน,
ปฏิคฺคณฺหิ นรุตฺตโม;
อนุกมฺปโก การุณิโก,
ตณฺหานิฆาตโก มุนิ.
ตาหํ กมฺมํ กริตฺวาน,
กลฺยาณํ พุทฺธวณฺณิตํ;
เทเว เจว มนุเสฺส จ,
สนฺธาวิตฺวา ตโต จุโต.
พาราณสิยํ นคเร,
เสฏฺฐิสฺส เอกปุตฺตโก;
อฑฺเฒ กุลสฺมิํ อุปฺปชฺชิํ,
ปาเณหิ จ ปิยตโร.
ตโต จ วิญฺญุตํ ปตฺโต,
เทวปุตฺเตน โจทิโต;
ปาสาทา โอรูหิตฺวาน,
สมฺพุทฺธมุปสงฺกมิํ.
โส เม ธมฺมมเทสยิ,
อนุกมฺปาย โคตโม;
ทุกฺขํ ทุกฺขสมุปฺปาทํ,
ทุกฺขสฺส จ อติกฺกมํ.
อริยํ อฏฺฐงฺคิกํ มคฺคํ,
ทุกฺขูปสมคามินํ;
จตฺตาริ อริยสจฺจานิ,
มุนิ ธมฺมมเทสยิ.
ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวา,
วิหริํ สาสเน รโต;
สมถํ ปฏิวิชฺฌาหํ,
รตฺตินฺทิวมตนฺทิโต.
อชฺฌตฺตญฺจ พหิทฺธา จ,
เย เม วิชฺชิํสุ อาสวา;
สพฺเพ อาสุํ สมุจฺฉินฺนา,
น จ อุปฺปชฺชเร ปุน.
ปริยนฺตกตํ ทุกฺขํ,
จริโมยํ สมุสฺสโย;
ชาติมรณสํสาโร,
นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว”ติ.
อิทํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ.
ตตฺถ กตมํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ?
“อุทฺธํ อโธ สพฺพธิ วิปฺปมุตฺโต,
อยํ อหสฺมีติ อนานุปสฺสี;
เอวํ วิมุตฺโต อุทตาริ โอฆํ,
อติณฺณปุพฺพํ อปุนพฺภวายา”ติ.
อิทํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ.
“สีลวโต, อานนฺท, น เจตนา กรณียา ‘กินฺติ เม อวิปฺปฏิสาโร ชาเยยฺยา’ติ. ธมฺมตา เอสา, อานนฺท, ยํ สีลวโต อวิปฺปฏิสาโร ชาเยยฺย. อวิปฺปฏิสารินา, อานนฺท, น เจตนา กรณียา ‘กินฺติ เม ปาโมชฺชํ ชาเยยฺยา’ติ. ธมฺมตา เอสา, อานนฺท, ยํ อวิปฺปฏิสาริโน ปาโมชฺชํ ชาเยยฺย. ปมุทิเตน, อานนฺท, น เจตนา กรณียา ‘กินฺติ เม ปีติ ชาเยยฺยา’ติ. ธมฺมตา เอสา, อานนฺท, ยํ ปมุทิตสฺส ปีติ ชาเยยฺย. ปีติมนสฺส, อานนฺท, น เจตนา กรณียา ‘กินฺติ เม กาโย ปสฺสมฺเภยฺยา’ติ. ธมฺมตา เอสา, อานนฺท, ยํ ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺเภยฺย. ปสฺสทฺธกายสฺส, อานนฺท, น เจตนา กรณียา ‘กินฺตาหํ สุขํ เวทิเยยฺยนฺ’ติ. ธมฺมตา เอสา, อานนฺท, ยํ ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวทิเยยฺย. สุขิโน อานนฺท, น เจตนา กรณียา ‘กินฺติ เม สมาธิ ชาเยยฺยา’ติ. ธมฺมตา เอสา, อานนฺท, ยํ สุขิโน สมาธิ ชาเยยฺย. สมาหิตสฺส, อานนฺท, น เจตนา กรณียา ‘กินฺตาหํ ยถาภูตํ ปชาเนยฺยนฺ’ติ. ธมฺมตา เอสา, อานนฺท, ยํ สมาหิโต ยถาภูตํ ปชาเนยฺย. ยถาภูตํ ปชานตา, อานนฺท, น เจตนา กรณียา ‘กินฺติ เม นิพฺพิทา ชาเยยฺยา’ติ. ธมฺมตา เอสา, อานนฺท, ยํ ยถาภูตํ ปชานนฺโต นิพฺพินฺเทยฺย. นิพฺพินฺทนฺเตน, อานนฺท, น เจตนา กรณียา ‘กินฺติ เม วิราโค ชาเยยฺยา’ติ. ธมฺมตา เอสา, อานนฺท, ยํ นิพฺพินฺทนฺโต วิรชฺเชยฺย. วิรชฺชนฺเตน, อานนฺท, น เจตนา กรณียา ‘กินฺติ เม วิมุตฺติ ชาเยยฺยา’ติ. ธมฺมตา เอสา, อานนฺท, ยํ วิรชฺชนฺโต วิมุจฺเจยฺย. วิมุตฺเตน, อานนฺท, น เจตนา กรณียา ‘กินฺติ เม วิมุตฺติญาณทสฺสนํ อุปฺปชฺเชยฺยา’ติ. ธมฺมตา เอสา, อานนฺท, ยํ วิมุตฺตสฺส วิมุตฺติญาณทสฺสนํ อุปฺปชฺเชยฺยา”ติ.
อิทํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ.
“ยทา หเว ปาตุภวนฺติ ธมฺมา,
อาตาปิโน ฌายโต พฺราหฺมณสฺส;
อถสฺส กงฺขา วปยนฺติ สพฺพา,
ยโต ปชานาติ สเหตุธมฺมนฺ”ติ.
อิทํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ.
“ยทา หเว ปาตุภวนฺติ ธมฺมา,
อาตาปิโน ฌายโต พฺราหฺมณสฺส;
อถสฺส กงฺขา วปยนฺติ สพฺพา,
ยโต ขยํ ปจฺจยานํ อเวที”ติ.
อิทํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ.
“กิํ นุ กุชฺฌสิ มา กุชฺฌิ,
อกฺโกโธ ติสฺส เต วรํ;
โกธมานมกฺขวินยตฺถํ หิ,
ติสฺส พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตี”ติ.
อิทํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ.
“กทาหํ นนฺทํ ปเสฺสยฺยํ,
อารญฺญํ ปํสุกูลิกํ;
อญฺญาตุญฺเฉน ยาเปนฺตํ,
กาเมสุ อนเปกฺขินนฺ”ติ.
อิทํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ.
“กิํสุ เฉตฺวา สุขํ เสติ,
กิํสุ เฉตฺวา น โสจติ;
กิสฺสสฺสุ เอกธมฺมสฺส,
วธํ โรเจสิ โคตมาติ.
โกธํ เฉตฺวา สุขํ เสติ,
โกธํ เฉตฺวา น โสจติ;
โกธสฺส วิสมูลสฺส,
มธุรคฺคสฺส พฺราหฺมณ;
วธํ อริยา ปสํสนฺติ,
ตํ หิ เฉตฺวา น โสจตี”ติ.
อิทํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ.
“กิํสุ หเน อุปฺปติตํ,
กิํสุ ชาตํ วิโนทเย;
กิญฺจสฺสุ ปชเห ธีโร,
กิสฺสาภิสมโย สุโข.
โกธํ หเน อุปฺปติตํ,
ราคํ ชาตํ วิโนทเย;
อวิชฺชํ ปชเห ธีโร,
สจฺจาภิสมโย สุโข”ติ.
อิทํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ.
“สตฺติยา วิย โอมฏฺโฐ,
ฑยฺหมาโนว มตฺถเก;
กามราคปฺปหานาย,
สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช.
สตฺติยา วิย โอมฏฺโฐ,
ฑยฺหมาโนว มตฺถเก;
สกฺกายทิฏฺฐิปฺปหานาย,
สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช”ติ.
อิทํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ.
“สพฺเพ ขยนฺตา นิจยา,
ปตนนฺตา สมุสฺสยา;
สพฺเพสํ มรณมาคมฺม,
สพฺเพสํ ชีวิตมทฺธุวํ;
เอตํ ภยํ มรเณ เปกฺขมาโน,
ปุญฺญานิ กยิราถ สุขาวหานิ.
สพฺเพ ขยนฺตา นิจยา,
ปตนนฺตา สมุสฺสยา;
สพฺเพสํ มรณมาคมฺม,
สพฺเพสํ ชีวิตมทฺธุวํ;
เอตํ ภยํ มรเณ เปกฺขมาโน,
โลกามิสํ ปชเห สนฺติเปกฺโข”ติ.
อิทํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ.
“สุขํ สยนฺติ มุนโย,
น เต โสจนฺติ มาวิธ;
เยสํ ฌานรตํ จิตฺตํ,
ปญฺญวา สุสมาหิโต;
อารทฺธวีริโย ปหิตตฺโต,
โอฆํ ตรติ ทุตฺตรํ.
วิรโต กามสญฺญาย,
สพฺพสํโยชนาตีโต;
นนฺทิภวปริกฺขีโณ,
โส คมฺภีเร น สีทตี”ติ.
อิทํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ.
“สทฺทหาโน อรหตํ,
ธมฺมํ นิพฺพานปตฺติยา;
สุสฺสูสํ ลภเต ปญฺญํ,
อปฺปมตฺโต วิจกฺขโณ.
ปติรูปการี ธุรวา,
อุฏฺฐาตา วินฺทเต ธนํ;_
สจฺเจน กิตฺติํ ปปฺโปติ,
ททํ มิตฺตานิ คนฺถติ;
อสฺมา โลกา ปรํ โลกํ,
เอวํ เปจฺจ น โสจตี”ติ.
อิทํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ.
“สพฺพคนฺถปหีนสฺส,
วิปฺปมุตฺตสฺส เต สโต;
สมณสฺส น ตํ สาธุ,
ยทญฺญมนุสาสสีติ.
เยน เกนจิ วณฺเณน,
สํวาโส สกฺก ชายติ;
น ตํ อรหติ สปฺปญฺโญ,
มนสา อนุกมฺปิตุํ.
มนสา เจ ปสนฺเนน,
ยทญฺญมนุสาสติ;
น เตน โหติ สํยุตฺโต,
ยานุกมฺปา อนุทฺทยา”ติ.
อิทํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ.
“ราโค จ โทโส จ กุโตนิทานา,
อรตี รตี โลมหํโส กุโตชา;
กุโต สมุฏฺฐาย มโนวิตกฺกา,
กุมารกา ธงฺกมิโวสฺสชนฺติ.
ราโค จ โทโส จ อิโตนิทานา,
อรตี รตี โลมหํโส อิโตชา;
อิโต สมุฏฺฐาย มโนวิตกฺกา,_
กุมารกา ธงฺกมิโวสฺสชนฺติ.
เสฺนหชา อตฺตสมฺภูตา,
นิโคฺรธเสฺสว ขนฺธชา;
ปุถุ วิสตฺตา กาเมสุ,
มาลุวาว วิตตา วเน.
เย นํ ปชานนฺติ ยโตนิทานํ,
เต นํ วิโนเทนฺติ สุโณหิ ยกฺข;
เต ทุตฺตรํ โอฆมิมํ ตรนฺติ,
อติณฺณปุพฺพํ อปุนพฺภวายา”ติ.
อิทํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ.
“ทุกฺกรํ ภควา สุทุกฺกรํ ภควา”ติ.
“ทุกฺกรํ วาปิ กโรนฺติ, (กามทาติ ภควา)
เสกฺขา สีลสมาหิตา;
ฐิตตฺตา อนคาริยุเปตสฺส,
ตุฏฺฐิ โหติ สุขาวหา”ติ.
“ทุลฺลภา ภควา ยทิทํ ตุฏฺฐี”ติ.
“ทุลฺลภํ วาปิ ลภนฺติ, (กามทาติ ภควา)
จิตฺตวูปสเม รตา;
เยสํ ทิวา จ รตฺโต จ,
ภาวนาย รโต มโน”ติ.
“ทุสฺสมาทหํ ภควา ยทิทํ จิตฺตนฺ”ติ.
“ทุสฺสมาทหํ วาปิ สมาทหนฺติ, (กามทาติ ภควา)
อินฺทฺริยูปสเม รตา;_
เต เฉตฺวา มจฺจุโน ชาลํ,
อริยา คจฺฉนฺติ กามทา”ติ.
“ทุคฺคโม ภควา วิสโม มคฺโค”ติ.
“ทุคฺคเม วิสเม วาปิ,
อริยา คจฺฉนฺติ กามท;
อนริยา วิสเม มคฺเค,
ปปตนฺติ อวํสิรา;
อริยานํ สโม มคฺโค,
อริยา หิ วิสเม สมา”ติ.
อิทํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ.
“อิทํ หิ ตํ เชตวนํ,
อิสิสํฆนิเสวิตํ;_
อาวุตฺถํ ธมฺมราเชน,
ปีติสญฺชนนํ มม.
กมฺมํ วิชฺชา จ ธมฺโม จ,
สีลํ ชีวิตมุตฺตมํ;
เอเตน มจฺจา สุชฺฌนฺติ,
น โคตฺเตน ธเนน วา.
ตสฺมา หิ ปณฺฑิโต โปโส,
สมฺปสฺสํ อตฺถมตฺตโน;
โยนิโส วิจิเน ธมฺมํ,
เอวํ ตตฺถ วิสุชฺฌติ.
สาริปุตฺโตว ปญฺญาย,
สีเลน อุปสเมน จ;
โยปิ ปารงฺคโต ภิกฺขุ,
เอตาวปรโม สิยา”ติ.
อิทํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ.
“อตีตํ นานฺวาคเมยฺย,
นปฺปฏิกงฺเข อนาคตํ;
ยทตีตํ ปหีนํ ตํ,
อปฺปตฺตญฺจ อนาคตํ.
ปจฺจุปฺปนฺนญฺจ โย ธมฺมํ,
ตตฺถ ตตฺถ วิปสฺสติ;
อสํหีรํ อสํกุปฺปํ,
ตํ วิทฺวา มนุพฺรูหเย.
อชฺเชว กิจฺจมาตปฺปํ,
โก ชญฺญา มรณํ สุเว;
น หิ โน สงฺครํ เตน,
มหาเสเนน มจฺจุนา.
เอวํ วิหาริํ อาตาปิํ,
อโหรตฺตมตนฺทิตํ;
ตํ เว ภทฺเทกรตฺโตติ,
สนฺโต อาจิกฺขเต มุนี”ติ.
อิทํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ.
“จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, สจฺฉิกาตพฺพานิ. กตมานิ จตฺตาริ? อตฺถิ, ภิกฺขเว, ธมฺมา จกฺขุนา ปญฺญาย จ สจฺฉิกาตพฺพา, อตฺถิ ธมฺมา สติยา ปญฺญาย จ สจฺฉิกาตพฺพา, อตฺถิ ธมฺมา กาเยน ปญฺญาย จ สจฺฉิกาตพฺพา, อตฺถิ ธมฺมา ปญฺญาย เวทิตพฺพา, ปญฺญาย จ สจฺฉิกาตพฺพา.
กตเม จ, ภิกฺขเว, ธมฺมา จกฺขุนา ปญฺญาย จ สจฺฉิกาตพฺพา? ทิพฺพจกฺขุ สุวิสุทฺธํ อติกฺกนฺตมานุสกํ จกฺขุนา ปญฺญาย จ สจฺฉิกาตพฺพํ.
กตเม จ, ภิกฺขเว, ธมฺมา สติยา ปญฺญาย จ สจฺฉิกาตพฺพา? ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติ สติยา ปญฺญาย จ สจฺฉิกาตพฺพา.
กตเม จ, ภิกฺขเว, ธมฺมา กาเยน ปญฺญาย จ สจฺฉิกาตพฺพา? อิทฺธิวิธา นิโรธา กาเยน ปญฺญาย จ สจฺฉิกาตพฺพา.
กตเม จ, ภิกฺขเว, ธมฺมา ปญฺญาย เวทิตพฺพา, ปญฺญาย สจฺฉิกาตพฺพา? อาสวานํ ขเย ญาณํ ปญฺญาย เวทิตพฺพํ, ปญฺญาย จ สจฺฉิกาตพฺพนฺ”ติ.
อิทํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ.
ตตฺถ กตมํ อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ?
“ยสฺส เสลูปมํ จิตฺตํ,
ฐิตํ นานุปกมฺปติ;
วิรตฺตํ รชนีเยสุ,
โกปเนเยฺย น กุปฺปติ;
ยเสฺสวํ ภาวิตํ จิตฺตํ,
กุโต นํ ทุกฺขเมสฺสตี”ติ.
อิทํ อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ.
อายสฺมโต จ สาริปุตฺตสฺส จาริกาทสมํ เวยฺยากรณํ กาตพฺพนฺติ.
อิทํ อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ.
“โย พฺราหฺมโณ พาหิตปาปธมฺโม,
นิหุํหุงฺโก นิกฺกสาโว ยตตฺโต;
เวทนฺตคู วูสิตพฺรหฺมจริโย,
ธมฺเมน โส พฺรหฺมวาทํ วเทยฺย;
ยสฺสุสฺสทา นตฺถิ กุหิญฺจิ โลเก”ติ.
อิทํ อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ.
“พาหิตฺวา ปาปเก ธมฺเม,
เย จรนฺติ สทา สตา;
ขีณสํโยชนา พุทฺธา,
เต เว โลกสฺมิ พฺราหฺมณา”ติ.
อิทํ อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ.
“ยตฺถ อาโป จ ปถวี,
เตโช วาโย น คาธติ;
น ตตฺถ สุกฺกา โชตนฺติ,
อาทิจฺโจ นปฺปกาสติ;
น ตตฺถ จนฺทิมา ภาติ,
ตโม ตตฺถ น วิชฺชติ.
ยทา จ อตฺตนาเวทิ,
มุนิ โมเนน พฺราหฺมโณ;
อถ รูปา อรูปา จ,
สุขทุกฺขา ปมุจฺจตี”ติ.
อิทํ อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ.
“ยทา สเกสุ ธมฺเมสุ,
ปารคู โหติ พฺราหฺมโณ;
อถ เอตํ ปิสาจญฺจ,
ปกฺกุลญฺจาติวตฺตตี”ติ.
อิทํ อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ.
“นาภินนฺทติ อายนฺติํ,
ปกฺกมนฺติํ น โสจติ;
สงฺคา สงฺคามชิํ มุตฺตํ,
ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณนฺ”ติ.
อิทํ อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ.
“น อุทเกน สุจี โหติ,
พเหฺวตฺถ นฺหายตี ชโน;
ยมฺหิ สจฺจญฺจ ธมฺโม จ,
โส สุจี โส จ พฺราหฺมโณ”ติ.
อิทํ อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ.
“ยทา หเว ปาตุภวนฺติ ธมฺมา,
อาตาปิโน ฌายโต พฺราหฺมณสฺส;
วิธูปยํ ติฏฺฐติ มารเสนํ,
สูริโยว โอภาสยมนฺตลิกฺขนฺ”ติ.
อิทํ อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ.
“สนฺตินฺทฺริยํ ปสฺสถ อิริยมานํ,
เตวิชฺชปตฺตํ อปหานธมฺมํ;
สพฺพานิ โยคานิ อุปาติวตฺโต,
อกิญฺจโน อิริยติ ปํสุกูลิโก.
ตํ เทวตา สมฺพหุลา อุฬารา,
พฺรหฺมวิมานํ อุปสงฺกมิตฺวา;
อาชานิยํ ชาติพลํ นิเสธํ,
นีตํ นมสฺสนฺติ ปสนฺนจิตฺตา.
นโม เต ปุริสาชญฺญ,
นโม เต ปุริสุตฺตม;
ยสฺส เต นาภิชานาม,
กิํ ตฺวํ นิสฺสาย ฌายสี”ติ.
อิทํ อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ.
“สหายา วติเม ภิกฺขู,
จิรรตฺตสเมติกา;
สเมติ เนสํ สทฺธมฺโม,
ธมฺเม พุทฺธปฺปเวทิเต.
สุวินีตา กปฺปิเนน,
ธมฺเม อริยปฺปเวทิเต;
ธาเรนฺติ อนฺติมํ เทหํ,
เชตฺวา มารํ สวาหินินฺ”ติ.
อิทํ อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ.
“นยิทํ สิถิลมารพฺภ,
นยิทํ อปฺเปน ถามสา;
นิพฺพานํ อธิคนฺตพฺพํ,
สพฺพทุกฺขปฺปโมจนํ.
อยญฺจ ทหโร ภิกฺขุ,
อยมุตฺตมโปริโส;
ธาเรติ อนฺติมํ เทหํ,
เชตฺวา มารํ สวาหินินฺ”ติ.
อิทํ อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ.
“ทุพฺพณฺณโก ลูขจีวโร,
โมฆราชา สทา สโต;
ขีณาสโว วิสํยุตฺโต,
กตกิจฺโจ อนาสโว.
เตวิชฺโช อิทฺธิปฺปตฺโต จ,
เจโตปริยายโกวิโท;
ธาเรติ อนฺติมํ เทหํ,
เชตฺวา มารํ สวาหินินฺ”ติ.
อิทํ อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ.
“ตถาคโต, ภิกฺขเว, อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ รูปสฺส นิพฺพิทา วิราคา นิโรธา อนุปาทา วิมุตฺโต สมฺมาสมฺพุทฺโธติ วุจฺจติ. ภิกฺขุปิ, ภิกฺขเว, ปญฺญาวิมุตฺโต รูปสฺส นิพฺพิทา วิราคา นิโรธา อนุปาทา วิมุตฺโต ปญฺญาวิมุตฺโตติ วุจฺจติ.
ตถาคโต, ภิกฺขเว, อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ เวทนาย …เป… สญฺญาย… สงฺขารานํ… วิญฺญาณสฺส นิพฺพิทา วิราคา นิโรธา อนุปาทา วิมุตฺโต สมฺมาสมฺพุทฺโธติ วุจฺจติ. ภิกฺขุปิ, ภิกฺขเว, ปญฺญาวิมุตฺโต วิญฺญาณสฺส นิพฺพิทา วิราคา นิโรธา อนุปาทา วิมุตฺโต ปญฺญาวิมุตฺโตติ วุจฺจติ.
ตตฺร โข, ภิกฺขเว, โก วิเสโส โก อธิปฺปยาโส กิํ นานากรณํ ตถาคตสฺส อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปญฺญาวิมุตฺเตน ภิกฺขุนาติ? ภควํมูลกา โน, ภนฺเต, ธมฺมา …เป…
ตถาคโต, ภิกฺขเว, อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อนุปฺปนฺนสฺส มคฺคสฺส อุปฺปาเทตา, อสญฺชาตสฺส มคฺคสฺส สญฺชเนตา, อนกฺขาตสฺส มคฺคสฺส อกฺขาตา, มคฺคญฺญู มคฺควิทู มคฺคโกวิโท, มคฺคานุคา จ, ภิกฺขเว, เอตรหิ สาวกา วิหรนฺติ ปจฺฉา สมนฺนาคตา. อยํ โข, ภิกฺขเว, วิเสโส, อยํ อธิปฺปยาโส, อิทํ นานากรณํ ตถาคตสฺส อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปญฺญาวิมุตฺเตน ภิกฺขุนา”ติ.
อิทํ อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ.
ตตฺถ กตมํ สํกิเลสภาคิยญฺจ วาสนาภาคิยญฺจ สุตฺตํ?
“ฉนฺนมติวสฺสติ,
วิวฏํ นาติวสฺสติ;
ตสฺมา ฉนฺนํ วิวเรถ,
เอวํ ตํ นาติวสฺสตี”ติ.
“ฉนฺนมติวสฺสตี”ติ สํกิเลโส, “วิวฏํ นาติวสฺสตี”ติ วาสนา, “ตสฺมา ฉนฺนํ วิวเรถ, เอวํ ตํ นาติวสฺสตี”ติ อยํ สํกิเลโส จ วาสนา จ. อิทํ สํกิเลสภาคิยญฺจ วาสนาภาคิยญฺจ สุตฺตํ.
“จตฺตาโรเม, มหาราช, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิํ. กตเม จตฺตาโร? ตโม ตมปรายโณ ตโม โชติปรายโณ โชติ ตมปรายโณ โชติ โชติปรายโณ”ติ. ตตฺถ โย จ ปุคฺคโล โชติ ตมปรายโณ โย จ ปุคฺคโล ตโม ตมปรายโณ, อิเม ทฺเว ปุคฺคลา สํกิเลสภาคิยา, โย จ ปุคฺคโล ตโม โชติปรายโณ โย จ ปุคฺคโล โชติ โชติปรายโณ, อิเม ทฺเว ปุคฺคลา วาสนาภาคิยา. อิทํ สํกิเลสภาคิยญฺจ วาสนาภาคิยญฺจ สุตฺตํ.
ตตฺถ กตมํ สํกิเลสภาคิยญฺจ นิพฺเพธภาคิยญฺจ สุตฺตํ?
“น ตํ ทฬฺหํ พนฺธนมาหุ ธีรา,
ยทายสํ ทารุชปพฺพชญฺจ;
สารตฺตรตฺตา มณิกุณฺฑเลสุ,
ปุตฺเตสุ ทาเรสุ จ ยา อเปกฺขา”ติ.
อยํ สํกิเลโส.
“เอตํ ทฬฺหํ พนฺธนมาหุ ธีรา,
โอหารินํ สิถิลํ ทุปฺปมุญฺจํ;
เอตมฺปิ เฉตฺวาน ปริพฺพชนฺติ,
อนเปกฺขิโน กามสุขํ ปหายา”ติ.
อยํ นิพฺเพโธ. อิทํ สํกิเลสภาคิยญฺจ นิพฺเพธภาคิยญฺจ สุตฺตํ.
“ยญฺจ, ภิกฺขเว, เจเตติ, ยญฺจ ปกปฺเปติ, ยญฺจ อนุเสติ. อารมฺมณเมตํ โหติ วิญฺญาณสฺส ฐิติยา, อารมฺมเณ สติ ปติฏฺฐา วิญฺญาณสฺส โหติ, ตสฺมิํ ปติฏฺฐิเต วิญฺญาเณ วิรูเฬฺห อายติํ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ โหติ, อายติํ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติยา สติ อายติํ ชาติชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา สมฺภวนฺติ, เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหติ.
โน เจ, ภิกฺขเว, เจเตติ, โน เจ ปกปฺเปติ, อถ เจ อนุเสติ. อารมฺมณเมตํ โหติ วิญฺญาณสฺส ฐิติยา, อารมฺมเณ สติ ปติฏฺฐา วิญฺญาณสฺส โหติ, ตสฺมิํ ปติฏฺฐิเต วิญฺญาเณ วิรูเฬฺห อายติํ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ โหติ, อายติํ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติยา สติ อายติํ ชาติชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา สมฺภวนฺติ, เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหตี”ติ. อยํ สํกิเลโส.
“ยโต จ โข, ภิกฺขเว, โน เจว เจเตติ, โน จ ปกปฺเปติ, โน จ อนุเสติ. อารมฺมณเมตํ น โหติ วิญฺญาณสฺส ฐิติยา, อารมฺมเณ อสติ ปติฏฺฐา วิญฺญาณสฺส น โหติ, ตสฺมิํ อปฺปติฏฺฐิเต วิญฺญาเณ อวิรูเฬฺห อายติํ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ น โหติ, อายติํ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติยา อสติ อายติํ ชาติชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา นิรุชฺฌนฺติ. เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส นิโรโธ โหตี”ติ, อยํ นิพฺเพโธ. อิทํ สํกิเลสภาคิยญฺจ นิพฺเพธภาคิยญฺจ สุตฺตํ.
ตตฺถ กตมํ สํกิเลสภาคิยญฺจ อเสกฺขภาคิยญฺจ สุตฺตํ?
“‘สมุทฺโท สมุทฺโท’ติ โข, ภิกฺขเว, อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน ภาสติ. เนโส, ภิกฺขเว, อริยสฺส วินเย สมุทฺโท. มหา เอโส, ภิกฺขเว, อุทกราสิ มหาอุทกณฺณโว. จกฺขุ, ภิกฺขเว, ปุริสสฺส สมุทฺโท, ตสฺส รูปมโย เวโค”ติ. อยํ สํกิเลโส.
“โย ตํ รูปมยํ เวคํ สหติ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อตริ จกฺขุสมุทฺทํ สอูมิํ สาวฏฺฏํ สคหํ สรกฺขสํ ติณฺโณ ปารงฺคโต ถเล ติฏฺฐติ พฺราหฺมโณ”ติ. อยํ อเสกฺโข.
“โสตํ, ภิกฺขเว …เป… ฆานํ… ชิวฺหา… กาโย… มโน, ภิกฺขเว, ปุริสสฺส สมุทฺโท ตสฺส ธมฺมมโย เวโค”ติ. อยํ สํกิเลโส.
“โย ตํ ธมฺมมยํ เวคํ สหติ, อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อตริ มโนสมุทฺทํ สอูมิํ สาวฏฺฏํ สคหํ สรกฺขสํ ติณฺโณ ปารงฺคโต ถเล ติฏฺฐติ พฺราหฺมโณ”ติ. อยํ อเสกฺโข. อิทมโวจ ภควา. อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา—
“โย อิมํ สมุทฺทํ สคหํ สรกฺขสํ,
สอูมิํ สาวฏฺฏํ สภยํ ทุตฺตรํ อจฺจตริ;
ส เวทนฺตคู วุสิตพฺรหฺมจริโย,
โลกนฺตคู ปารคโตติ วุจฺจตี”ติ.
อยํ อเสกฺโข. อิทํ สํกิเลสภาคิยญฺจ อเสกฺขภาคิยญฺจ สุตฺตํ.
“ฉยิเม, ภิกฺขเว, พฬิสา โลกสฺมิํ อนยาย สตฺตานํ พฺยาพาธาย ปาณีนํ. กตเม ฉ? สนฺติ, ภิกฺขเว, จกฺขุวิญฺเญยฺยา รูปา อิฏฺฐา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียา, ตญฺเจ ภิกฺขุ อภินนฺทติ อภิวทติ อชฺโฌสาย ติฏฺฐติ, อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ คิลิตพฬิโส มารสฺส อนยํ อาปนฺโน, พฺยสนํ อาปนฺโน, ยถากามกรณีโย ปาปิมโต.
สนฺติ, ภิกฺขเว, โสตวิญฺเญยฺยา สทฺทา …เป… ฆานวิญฺเญยฺยา คนฺธา… ชิวฺหาวิญฺเญยฺยา รสา… กายวิญฺเญยฺยา โผฏฺฐพฺพา… มโนวิญฺเญยฺยา ธมฺมา อิฏฺฐา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียา, ตญฺเจ ภิกฺขุ อภินนฺทติ อภิวทติ อชฺโฌสาย ติฏฺฐติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ คิลิตพฬิโส มารสฺส อนยํ อาปนฺโน, พฺยสนํ อาปนฺโน, ยถากามกรณีโย ปาปิมโต”ติ. อยํ สํกิเลโส.
สนฺติ จ, ภิกฺขเว, จกฺขุวิญฺเญยฺยา รูปา อิฏฺฐา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียา, ตญฺเจ ภิกฺขุ นาภินนฺทติ นาภิวทติ นาชฺโฌสาย ติฏฺฐติ, อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น คิลิตพฬิโส มารสฺส, อเภทิ พฬิสํ, ปริเภทิ พฬิสํ, น อนยํ อาปนฺโน, น พฺยสนํ อาปนฺโน, น ยถากามกรณีโย ปาปิมโต.
สนฺติ จ, ภิกฺขเว, โสตวิญฺเญยฺยา สทฺทา …เป… มโนวิญฺเญยฺยา ธมฺมา อิฏฺฐา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียา, ตญฺเจ ภิกฺขุ นาภินนฺทติ นาภิวทติ, นาชฺโฌสาย ติฏฺฐติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น คิลิตพฬิโส มารสฺส, อเภทิ พฬิสํ, ปริเภทิ พฬิสํ, น อนยํ อาปนฺโน, น พฺยสนํ อาปนฺโน, น ยถากามกรณีโย ปาปิมโต”ติ. อยํ อเสกฺโข. อิทํ สํกิเลสภาคิยญฺจ อเสกฺขภาคิยญฺจ สุตฺตํ.
ตตฺถ กตมํ สํกิเลสภาคิยญฺจ นิพฺเพธภาคิยญฺจ อเสกฺขภาคิยญฺจ สุตฺตํ?
“อยํ โลโก สนฺตาปชาโต,
ผสฺสปเรโต โรคํ วทติ อตฺตโต;
เยน เยน หิ มญฺญนฺติ,
ตโต ตํ โหติ อญฺญถา.
อญฺญถาภาวี ภวสตฺโต โลโก,
ภวปเรโต ภวเมวาภินนฺทติ;
ยทภินนฺทติ ตํ ภยํ,
ยสฺส ภายติ ตํ ทุกฺขนฺ”ติ. อยํ สํกิเลโส.
“ภววิปฺปหานาย โข ปนิทํ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตี”ติ. อยํ นิพฺเพโธ.
“เย หิ เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา ภเวน ภวสฺส วิปฺปโมกฺขมาหํสุ, สพฺเพ เต ‘อวิปฺปมุตฺตา ภวสฺมา’ติ วทามิ. เย วา ปน เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา วิภเวน ภวสฺส นิสฺสรณมาหํสุ, สพฺเพ เต ‘อนิสฺสฏา ภวสฺมา’ติ วทามิ. อุปธิํ หิ ปฏิจฺจ ทุกฺขมิทํ สมฺโภตี”ติ. อยํ สํกิเลโส.
“สพฺพุปาทานกฺขยา นตฺถิ ทุกฺขสฺส สมฺภโว”ติ. อยํ นิพฺเพโธ.
“โลกมิมํ ปสฺส, ปุถู อวิชฺชาย ปเรตา ภูตา ภูตรตา, ภวา อปริมุตฺตา, เย หิ เกจิ ภวา สพฺพธิ สพฺพตฺถตาย, สพฺเพ เต ภวา อนิจฺจา ทุกฺขา วิปริณามธมฺมา”ติ. อยํ สํกิเลโส.
“เอวเมตํ ยถาภูตํ,
สมฺมปฺปญฺญาย ปสฺสโต;
ภวตณฺหา ปหียติ,
วิภวํ นาภินนฺทติ;
สพฺพโส ตณฺหานํ ขยา,
อเสสวิราคนิโรโธ นิพฺพานนฺ”ติ.
อยํ นิพฺเพโธ.
“ตสฺส นิพฺพุตสฺส ภิกฺขุโน,
อนุปาทา ปุนพฺภโว น โหติ;
อภิภูโต มาโร วิชิตสงฺคาโม,
อุปจฺจคา สพฺพภวานิ ตาที”ติ._
อยํ อเสกฺโข. อิทํ สํกิเลสภาคิยญฺจ นิพฺเพธภาคิยญฺจ อเสกฺขภาคิยญฺจ สุตฺตํ.
“จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา. กตเม จตฺตาโร? อนุโสตคามี ปฏิโสตคามี ฐิตตฺโต ติณฺโณ ปารงฺคโต ถเล ติฏฺฐติ พฺราหฺมโณ”ติ. ตตฺถ โยยํ ปุคฺคโล อนุโสตคามี, อยํ ปุคฺคโล สํกิเลสภาคิโย. ตตฺถ โยยํ ปุคฺคโล ปฏิโสตคามี โย จ ฐิตตฺโต, อิเม ทฺเว ปุคฺคลา นิพฺเพธภาคิยา. ตตฺถ โยยํ ปุคฺคโล ติณฺโณ ปารงฺคโต ถเล ติฏฺฐติ พฺราหฺมโณ, อยํ อเสกฺโข. อิทํ สํกิเลสภาคิยญฺจ นิพฺเพธภาคิยญฺจ อเสกฺขภาคิยญฺจ สุตฺตํ.
ตตฺถ กตมํ สํกิเลสภาคิยญฺจ วาสนาภาคิยญฺจ นิพฺเพธภาคิยญฺจ สุตฺตํ?
ฉฬาภิชาติโก อตฺถิ ปุคฺคโล กโณฺห กณฺหาภิชาติโก กณฺหํ ธมฺมํ อภิชายติ, อตฺถิ ปุคฺคโล กโณฺห กณฺหาภิชาติโก สุกฺกํ ธมฺมํ อภิชายติ, อตฺถิ ปุคฺคโล กโณฺห กณฺหาภิชาติโก อกณฺหํ อสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ อจฺจนฺตทิฏฺฐํ นิพฺพานํ อาราเธติ, อตฺถิ ปุคฺคโล สุกฺโก สุกฺกาภิชาติโก กณฺหํ ธมฺมํ อภิชายติ, อตฺถิ ปุคฺคโล สุกฺโก สุกฺกาภิชาติโก สุกฺกํ ธมฺมํ อภิชายติ, อตฺถิ ปุคฺคโล สุกฺโก สุกฺกาภิชาติโก อกณฺหํ อสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ อจฺจนฺตทิฏฺฐํ นิพฺพานํ อาราเธติ.
ตตฺถ โย จ ปุคฺคโล กโณฺห กณฺหาภิชาติโก กณฺหํ ธมฺมํ อภิชายติ, โย จ ปุคฺคโล สุกฺโก สุกฺกาภิชาติโก กณฺหํ ธมฺมํ อภิชายติ, อิเม ทฺเว ปุคฺคลา สํกิเลสภาคิยา.
ตตฺถ โย จ ปุคฺคโล กโณฺห กณฺหาภิชาติโก สุกฺกํ ธมฺมํ อภิชายติ, โย จ ปุคฺคโล สุกฺโก สุกฺกาภิชาติโก สุกฺกํ ธมฺมํ อภิชายติ, อิเม ทฺเว ปุคฺคลา วาสนาภาคิยา.
ตตฺถ โย จ ปุคฺคโล กโณฺห กณฺหาภิชาติโก อกณฺหํ อสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ อจฺจนฺตทิฏฺฐํ นิพฺพานํ อาราเธติ, โย จ ปุคฺคโล สุกฺโก สุกฺกาภิชาติโก อกณฺหํ อสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ อจฺจนฺตทิฏฺฐํ นิพฺพานํ อาราเธติ, อิเม ทฺเว ปุคฺคลา นิพฺเพธภาคิยา, อิทํ สํกิเลสภาคิยญฺจ วาสนาภาคิยญฺจ นิพฺเพธภาคิยญฺจ สุตฺตํ.
“จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, กมฺมานิ. กตมานิ จตฺตาริ? อตฺถิ กมฺมํ กณฺหํ กณฺหวิปากํ, อตฺถิ กมฺมํ สุกฺกํ สุกฺกวิปากํ, อตฺถิ กมฺมํ กณฺหสุกฺกํ กณฺหสุกฺกวิปากํ, อตฺถิ กมฺมํ อกณฺหํ อสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมุตฺตมํ กมฺมเสฏฺฐํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตติ”.
ตตฺถ ยญฺจ กมฺมํ กณฺหํ กณฺหวิปากํ, ยญฺจ กมฺมํ กณฺหสุกฺกํ กณฺหสุกฺกวิปากํ, อยํ สํกิเลโส. ยญฺจ กมฺมํ สุกฺกํ สุกฺกวิปากํ, อยํ วาสนา. ยญฺจ กมฺมํ อกณฺหํ อสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมุตฺตมํ กมฺมเสฏฺฐํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตติ, อยํ นิพฺเพโธ. อิทํ สํกิเลสภาคิยญฺจ วาสนาภาคิยญฺจ นิพฺเพธภาคิยญฺจ สุตฺตํ.
ตตฺถ กตมํ วาสนาภาคิยญฺจ, นิพฺเพธภาคิยญฺจ สุตฺตํ?
“ลทฺธาน มานุสตฺตํ ทฺเว,
กิจฺจํ อกิจฺจเมว จ;
สุกิจฺจํ เจว ปุญฺญานิ,
สํโยชนวิปฺปหานํ วา”ติ.
“สุกิจฺจํ เจว ปุญฺญานี”ติ วาสนา. “สํโยชนวิปฺปหานํ วา”ติ นิพฺเพโธ.
“ปุญฺญานิ กริตฺวาน,
สคฺคา สคฺคํ วชนฺติ กตปุญฺญา;
สํโยชนปฺปหานา,
ชรามรณา วิปฺปมุจฺจนฺตี”ติ.
“ปุญฺญานิ กริตฺวาน, สคฺคา สคฺคํ วชนฺติ กตปุญฺญา”ติ วาสนา. “สํโยชนปฺปหานา ชรามรณา วิปฺปมุจฺจนฺตี”ติ นิพฺเพโธ. อิทํ วาสนาภาคิยญฺจ นิพฺเพธภาคิยญฺจ สุตฺตํ.
“ทฺเวมานิ, ภิกฺขเว, ปธานานิ. กตมานิ ทฺเว? โย จ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิเตสุ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ ปริจฺจชติ, โย จ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิเตสุ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหกฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพานนฺ”ติ. ตตฺถ โย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิเตสุ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ ปริจฺจชติ, อยํ วาสนา.
โย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิเตสุ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหกฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพานํ, อยํ นิพฺเพโธ. อิทํ วาสนาภาคิยญฺจ นิพฺเพธภาคิยญฺจ สุตฺตํ.
ตตฺถ ตณฺหาสํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ ตณฺหาปกฺเขเนว นิทฺทิสิตพฺพํ ตีหิ ตณฺหาหิ— กามตณฺหาย ภวตณฺหาย วิภวตณฺหาย. เยน เยน วา ปน วตฺถุนา อชฺโฌสิตา, เตน เตเนว นิทฺทิสิตพฺพํ, ตสฺสา วิตฺถาโร ฉตฺติํสตณฺหาชาลินิยา วิจริตานิ.
ตตฺถ ทิฏฺฐิสํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ ทิฏฺฐิปกฺเขเนว นิทฺทิสิตพฺพํ อุจฺเฉทสสฺสเตน, เยน เยน วา ปน วตฺถุนา ทิฏฺฐิวเสน อภินิวิสติ “อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ”ติ, เตน เตเนว นิทฺทิสิตพฺพํ, ตสฺสา วิตฺถาโร ทฺวาสฏฺฐิทิฏฺฐิคตานิ.
ตตฺถ ทุจฺจริตสํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ เจตนาย เจตสิกกมฺเมน นิทฺทิสิตพฺพํ ตีหิ ทุจฺจริเตหิ— กายทุจฺจริเตน วจีทุจฺจริเตน มโนทุจฺจริเตน, ตสฺส วิตฺถาโร ทสอกุสลกมฺมปถา.
ตตฺถ ตณฺหาโวทานภาคิยํ สุตฺตํ สมเถน นิทฺทิสิตพฺพํ, ทิฏฺฐิโวทานภาคิยํ สุตฺตํ วิปสฺสนาย นิทฺทิสิตพฺพํ, ทุจฺจริตโวทานภาคิยํ สุตฺตํ สุจริเตน นิทฺทิสิตพฺพํ— ตีณิ อกุสลมูลานิ. ตํ กิสฺส เหตุ? สํสารสฺส นิพฺพตฺติยา. ตถา นิพฺพตฺเต สํสาเร กายทุจฺจริตํ กายสุจริตํ วจีทุจฺจริตํ วจีสุจริตํ มโนทุจฺจริตํ มโนสุจริตํ อิมินา อสุเภน กมฺมวิปาเกน อิทํ พาลลกฺขณํ นิพฺพตฺตตีติ. อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ.
อิมินา สุเภน กมฺมวิปาเกน อิทํ มหาปุริสลกฺขณํ นิพฺพตฺตตีติ. อิทํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ.
ตตฺถ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ จตูหิ กิเลสภูมีหิ นิทฺทิสิตพฺพํ— อนุสยภูมิยา ปริยุฏฺฐานภูมิยา สํโยชนภูมิยา อุปาทานภูมิยา. สานุสยสฺส ปริยุฏฺฐานํ ชายติ, ปริยุฏฺฐิโต สํยุชฺชติ, สํยุชฺชนฺโต อุปาทิยติ, อุปาทานปจฺจยา ภโว, ภวปจฺจยา ชาติ, ชาติปจฺจยา ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา สมฺภวนฺติ, เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหติ. อิมาหิ จตูหิ กิเลสภูมีหิ สพฺเพ กิเลสา สงฺคหํ สโมสรณํ คจฺฉนฺติ, อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ.
วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ ตีหิ สุจริเตหิ นิทฺทิสิตพฺพํ, นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ จตูหิ สจฺเจหิ นิทฺทิสิตพฺพํ, อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ ตีหิ ธมฺเมหิ นิทฺทิสิตพฺพํ— พุทฺธธมฺเมหิ ปจฺเจกพุทฺธธมฺเมหิ สาวกภูมิยา. ฌายิวิสเย นิทฺทิสิตพฺพนฺติ.
ตตฺถ กตเม อฏฺฐารส มูลปทา? โลกิยํ โลกุตฺตรํ โลกิยญฺจ โลกุตฺตรญฺจ, สตฺตาธิฏฺฐานํ ธมฺมาธิฏฺฐานํ สตฺตาธิฏฺฐานญฺจ ธมฺมาธิฏฺฐานญฺจ, ญาณํ เญยฺยํ ญาณญฺจ เญยฺยญฺจ, ทสฺสนํ ภาวนา ทสฺสนญฺจ ภาวนา จ, สกวจนํ ปรวจนํ สกวจนญฺจ ปรวจนญฺจ, วิสชฺชนียํ อวิสชฺชนียํ วิสชฺชนียญฺจ อวิสชฺชนียญฺจ, กมฺมํ วิปาโก กมฺมญฺจ วิปาโก จ, กุสลํ อกุสลํ กุสลญฺจ อกุสลญฺจ, อนุญฺญาตํ ปฏิกฺขิตฺตํ อนุญฺญาตญฺจ ปฏิกฺขิตฺตญฺจ, ถโว จาติ.
ตตฺถ กตมํ โลกิยํ?
“น หิ ปาปํ กตํ กมฺมํ,
สชฺชุขีรํว มุจฺจติ;
ฑหนฺตํ พาลมเนฺวติ,
ภสฺมจฺฉนฺโนว ปาวโก”ติ.
อิทํ โลกิยํ.
“จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, อคติคมนานิ สพฺพํ …เป… นิหียเต ตสฺส ยโส กาฬปกฺเขว จนฺทิมา”ติ. อิทํ โลกิยํ.
“อฏฺฐิเม, ภิกฺขเว, โลกธมฺมา. กตเม อฏฺฐ? ลาโภ อลาโภ, ยโส อยโส, นินฺทา ปสํสา, สุขํ ทุกฺขํ. อิเม โข, ภิกฺขเว, อฏฺฐ โลกธมฺมา”ติ. อิทํ โลกิยํ.
ตตฺถ กตมํ โลกุตฺตรํ?
“ยสฺสินฺทฺริยานิ สมถงฺคตานิ,
อสฺสา ยถา สารถินา สุทนฺตา;
ปหีนมานสฺส อนาสวสฺส,
เทวาปิ ตสฺส ปิหยนฺติ ตาทิโน”ติ.
อิทํ โลกุตฺตรํ.
“ปญฺจิมานิ, ภิกฺขเว, อินฺทฺริยานิ โลกุตฺตรานิ. กตมานิ ปญฺจ? สทฺธินฺทฺริยํ วีริยินฺทฺริยํ สตินฺทฺริยํ สมาธินฺทฺริยํ ปญฺญินฺทฺริยํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ปญฺจินฺทฺริยานิ โลกุตฺตรานี”ติ. อิทํ โลกุตฺตรํ. (1)
ตตฺถ กตมํ โลกิยญฺจ โลกุตฺตรญฺจ?
“ลทฺธาน มานุสตฺตํ ทฺเว, กิจฺจํ อกิจฺจเมว จา”ติ ทฺเว คาถา. ยํ อิห “สุกิจฺจํ เจว ปุญฺญานี”ติ จ “ปุญฺญานิ กริตฺวาน, สคฺคา สคฺคํ วชนฺติ กตปุญฺญา”ติ จ. อิทํ โลกิยํ.
ยํ อิห “สํโยชนวิปฺปหานํ วา”ติ จ “สํโยชนปฺปหานา, ชรามรณา วิปฺปมุจฺจนฺตี”ติ จ, อิทํ โลกุตฺตรํ. อิทํ โลกิยญฺจ โลกุตฺตรญฺจ.
“วิญฺญาเณ เจ, ภิกฺขเว, อาหาเร สติ นามรูปสฺส อวกฺกนฺติ โหติ, นามรูปสฺส อวกฺกนฺติยา สติ ปุนพฺภโว โหติ, ปุนพฺภเว สติ ชาติ โหติ, ชาติยา สติ ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา สมฺภวนฺติ. เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มหารุกฺโข, ตสฺส ยานิ เจว มูลานิ อโธคมานิ ยานิ จ ติริยงฺคมานิ, สพฺพานิ ตานิ อุทฺธํ โอชํ อภิหรนฺติ. เอวํ หิ โส, ภิกฺขเว, มหารุกฺโข ตทาหาโร ตทุปาทาโน จิรํ ทีฆมทฺธานํ ติฏฺเฐยฺย. เอวเมว โข, ภิกฺขเว, วิญฺญาเณ อาหาเร สติ นามรูปสฺส อวกฺกนฺติ โหติ สพฺพํ …เป… เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหตี”ติ. อิทํ โลกิยํ.
“วิญฺญาเณ เจ, ภิกฺขเว, อาหาเร อสติ นามรูปสฺส อวกฺกนฺติ น โหติ, นามรูปสฺส อวกฺกนฺติยา อสติ ปุนพฺภโว น โหติ, ปุนพฺภเว อสติ ชาติ น โหติ, ชาติยา อสติ ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา นิรุชฺฌนฺติ. เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส นิโรโธ โหติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มหารุกฺโข อถ ปุริโส อาคจฺเฉยฺย กุทฺทาลปิฏกํ อาทาย, โส ตํ รุกฺขํ มูเล ฉินฺเทยฺย, มูเล เฉตฺวา ปลิขเณยฺย, ปลิขณิตฺวา มูลานิ อุทฺธเรยฺย อนฺตมโส อุสีรนาฬิมตฺตานิปิ. โส ตํ รุกฺขํ ขณฺฑาขณฺฑิกํ ฉินฺเทยฺย, ขณฺฑาขณฺฑิกํ ฉินฺทิตฺวา ผาเลยฺย, ผาเลตฺวา สกลิกํ สกลิกํ กเรยฺย, สกลิกํ สกลิกํ กริตฺวา วาตาตเป วิโสเสยฺย, วาตาตเป วิโสเสตฺวา อคฺคินา ฑเหยฺย, อคฺคินา ฑเหตฺวา มสิํ กเรยฺย, มสิํ กริตฺวา มหาวาเต วา โอผุเณยฺย, นทิยา วา สีฆโสตาย ปวาเหยฺย, เอวํ หิ โส, ภิกฺขเว, มหารุกฺโข อุจฺฉินฺนมูโล อสฺส ตาลาวตฺถุกโต อนภาวํกโต อายติํ อนุปฺปาทธมฺโม. เอวเมว โข, ภิกฺขเว, วิญฺญาเณ อาหาเร อสติ นามรูปสฺส อวกฺกนฺติ น โหติ, นามรูปสฺส อวกฺกนฺติยา อสติ สพฺพํ …เป… เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส นิโรโธ โหตี”ติ. อิทํ โลกุตฺตรํ. อิทํ โลกิยญฺจ โลกุตฺตรญฺจ. (2)
ตตฺถ กตมํ สตฺตาธิฏฺฐานํ?
“สพฺพา ทิสา อนุปริคมฺม เจตสา,
เนวชฺฌคา ปิยตรมตฺตนา กฺวจิ;
เอวํ ปิโย ปุถุ อตฺตา ปเรสํ,
ตสฺมา น หิํเส ปรมตฺตกาโม”ติ.
อิทํ สตฺตาธิฏฺฐานํ.
“เย เกจิ ภูตา ภวิสฺสนฺติ เย วาปิ,
สพฺเพ คมิสฺสนฺติ ปหาย เทหํ;
ตํ สพฺพชานิํ กุสโล วิทิตฺวา,
อาตาปิโย พฺรหฺมจริยํ จเรยฺยา”ติ.
อิทํ สตฺตาธิฏฺฐานํ.
“สตฺตหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคตํ กลฺยาณมิตฺตํ อปิ วิเวจิยมาเนน ปณามิยมาเนน คเล ปิสนมชฺชมาเนน ยาวชีวํ น วิชหิตพฺพํ. กตเมหิ สตฺตหิ? ปิโย จ โหติ มนาโป จ ครุ จ ภาวนีโย จ วตฺตา จ วจนกฺขโม จ คมฺภีรญฺจ กถํ กตฺตา โหติ, โน จ อฏฺฐาเน นิโยเชติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, สตฺตหิ …เป… น วิชหิตพฺพํ. อิทมโวจ ภควา. อิทํ วตฺวาน สุคโต, อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา—
“ปิโย ครุ ภาวนีโย,
วตฺตา จ วจนกฺขโม;
คมฺภีรญฺจ กถํ กตฺตา,
น จฏฺฐาเน นิโยชโก;
ตํ มิตฺตํ มิตฺตกาเมน,
ยาวชีวมฺปิ เสวิยนฺ”ติ.
อิทํ สตฺตาธิฏฺฐานํ.
ตตฺถ กตมํ ธมฺมาธิฏฺฐานํ?
“ยญฺจ กามสุขํ โลเก,
ยญฺจิทํ ทิวิยํ สุขํ;
ตณฺหกฺขยสุขเสฺสเต,
กลํ นาคฺฆนฺติ โสฬสินฺ”ติ.
อิทํ ธมฺมาธิฏฺฐานํ.
“สุสุขํ วต นิพฺพานํ,
สมฺมาสมฺพุทฺธเทสิตํ;
อโสกํ วิรชํ เขมํ,
ยตฺถ ทุกฺขํ นิรุชฺฌตี”ติ.
อิทํ ธมฺมาธิฏฺฐานํ. (3)
ตตฺถ กตมํ สตฺตาธิฏฺฐานญฺจ ธมฺมาธิฏฺฐานญฺจ
“มาตรํ ปิตรํ หนฺตฺวา,
ราชาโน ทฺเว จ ขตฺติเย;
รฏฺฐํ สานุจรํ หนฺตฺวา”ติ.
อิทํ ธมฺมาธิฏฺฐานํ.
“อนีโฆ ยาติ พฺราหฺมโณ”ติ.
อิทํ สตฺตาธิฏฺฐานํ.
อิทํ สตฺตาธิฏฺฐานญฺจ ธมฺมาธิฏฺฐานญฺจ.
“จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, อิทฺธิปาทา. กตเม จตฺตาโร? ฉนฺทสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคโต อิทฺธิปาโท, วีริย …เป… จิตฺต… วีมํสาสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคโต อิทฺธิปาโท”ติ. อิทํ ธมฺมาธิฏฺฐานํ.
โส กาเยปิ จิตฺตํ สโมทหติ, จิตฺเตปิ กายํ สโมทหติ, กาเย สุขสญฺญญฺจ ลหุสญฺญญฺจ โอกฺกมิตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิทํ สตฺตาธิฏฺฐานํ, อิทํ สตฺตาธิฏฺฐานญฺจ ธมฺมาธิฏฺฐานญฺจ. (4)
ตตฺถ กตมํ ญาณํ?
“ยํ ตํ โลกุตฺตรํ ญาณํ,
สพฺพญฺญู เยน วุจฺจติ;
น ตสฺส ปริหานตฺถิ,
สพฺพกาเล ปวตฺตตี”ติ.
อิทํ ญาณํ.
“ปญฺญา หิ เสฏฺฐา โลกสฺมิํ,
ยายํ นิพฺพานคามินี;
ยาย สมฺมา ปชานาติ,
ชาติมรณสงฺขยนฺ”ติ.
อิทํ ญาณํ.
ตตฺถ กตมํ เญยฺยํ?
“กิตฺตยิสฺสามิ เต สนฺติํ, (โธตกาติ ภควา)
ทิฏฺเฐ ธมฺเม อนีติหํ;
ยํ วิทิตฺวา สโต จรํ,
ตเร โลเก วิสตฺติกํ.
ตญฺจาหํ อภินนฺทามิ,
มเหสิ สนฺติมุตฺตมํ;
ยํ วิทิตฺวา สโต จรํ,
ตเร โลเก วิสตฺติกํ.
ยํ กิญฺจิ สมฺปชานาสิ, (โธตกาติ ภควา)
อุทฺธํ อโธ ติริยญฺจาปิ มชฺเฌ;_
เอตํ วิทิตฺวา สงฺโคติ โลเก,
ภวาภวาย มากาสิ ตณฺหนฺ”ติ.
อิทํ เญยฺยํ.
“จตุนฺนํ, ภิกฺขเว, อริยสจฺจานํ อนนุโพธา อปฺปฏิเวธา เอวมิทํ ทีฆมทฺธานํ สนฺธาวิตํ สํสริตํ มมญฺเจว ตุมฺหากญฺจ …เป… ตยิทํ, ภิกฺขเว, ทุกฺขํ อริยสจฺจํ อนุพุทฺธํ ปฏิวิทฺธํ, ทุกฺขสมุทยํ อริยสจฺจํ อนุพุทฺธํ ปฏิวิทฺธํ, ทุกฺขนิโรธํ อริยสจฺจํ อนุพุทฺธํ ปฏิวิทฺธํ, ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา อริยสจฺจํ อนุพุทฺธํ ปฏิวิทฺธํ. อุจฺฉินฺนา ภวตณฺหา, ขีณา ภวเนตฺติ, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว”ติ. อิทมโวจ ภควา. อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา—
“จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ,
ยถาภูตํ อทสฺสนา;
สํสิตํ ทีฆมทฺธานํ,
ตาสุ ตาเสฺวว ชาติสุ.
ตานิ เอตานิ ทิฏฺฐานิ,
ภวเนตฺติ สมูหตา;
อุจฺฉินฺนํ มูลํ ทุกฺขสฺส,_
นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว”ติ.
อิทํ เญยฺยํ. (5)
ตตฺถ กตมํ ญาณญฺจ เญยฺยญฺจ? รูปํ อนิจฺจํ, เวทนา อนิจฺจา, สญฺญา อนิจฺจา, สงฺขารา อนิจฺจา, วิญฺญาณํ อนิจฺจนฺติ. อิทํ เญยฺยํ.
เอวํ ชานํ เอวํ ปสฺสํ อริยสาวโก “รูปํ อนิจฺจนฺ”ติ ปสฺสติ, “เวทนา อนิจฺจา”ติ ปสฺสติ, “สญฺญํ… สงฺขาเร… วิญฺญาณํ อนิจฺจนฺ”ติ ปสฺสตีติ. อิทํ ญาณํ.
โส ปริมุจฺจติ รูเปน, ปริมุจฺจติ เวทนาย, ปริมุจฺจติ สญฺญาย, ปริมุจฺจติ สงฺขาเรหิ, ปริมุจฺจติ วิญฺญาณมฺหา, ปริมุจฺจติ ทุกฺขสฺมาติ วทามีติ. อิทํ ญาณญฺจ เญยฺยญฺจ.
“สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา”ติ อิทํ เญยฺยํ. “ยทา ปญฺญาย ปสฺสตี”ติ อิทํ ญาณํ. “อถ นิพฺพินฺทติ ทุกฺเข เอส มคฺโค วิสุทฺธิยา”ติ อิทํ ญาณญฺจ เญยฺยญฺจ.
“สพฺเพ สงฺขารา ทุกฺขา”ติ อิทํ เญยฺยํ. “ยทา ปญฺญาย ปสฺสตี”ติ อิทํ ญาณํ. “อถ นิพฺพินฺทติ ทุกฺเข เอส มคฺโค วิสุทฺธิยา”ติ อิทํ ญาณญฺจ เญยฺยญฺจ.
“สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตา”ติ อิทํ เญยฺยํ. “ยทา ปญฺญาย ปสฺสตี”ติ อิทํ ญาณํ. “อถ นิพฺพินฺทติ ทุกฺเข เอส มคฺโค วิสุทฺธิยา”ติ อิทํ ญาณญฺจ เญยฺยญฺจ.
“เย หิ เกจิ, โสณ, สมณา วา พฺราหฺมณา วา อนิจฺเจน รูเปน ทุกฺเขน วิปริณามธมฺเมน ‘เสโยฺยหมสฺมี’ติ วา สมนุปสฺสนฺติ, ‘สทิโสหมสฺมี’ติ วา สมนุปสฺสนฺติ, ‘หีโนหมสฺมี’ติ วา สมนุปสฺสนฺติ. กิมญฺญตฺร ยถาภูตสฺส อทสฺสนา. อนิจฺจาย เวทนาย …เป… อนิจฺจาย สญฺญาย… อนิจฺเจหิ สงฺขาเรหิ… อนิจฺเจน วิญฺญาเณน ทุกฺเขน วิปริณามธมฺเมน ‘เสโยฺยหมสฺมี’ติ วา สมนุปสฺสนฺติ, ‘สทิโสหมสฺมี’ติ วา สมนุปสฺสนฺติ, ‘หีโนหมสฺมี’ติ วา สมนุปสฺสนฺติ, กิมญฺญตฺร ยถาภูตสฺส อทสฺสนา”ติ. อิทํ เญยฺยํ.
“เย จ โข เกจิ, โสณ, สมณา วา พฺราหฺมณา วา อนิจฺเจน รูเปน ทุกฺเขน วิปริณามธมฺเมน ‘เสโยฺยหมสฺมี’ติปิ น สมนุปสฺสนฺติ, ‘สทิโสหมสฺมี’ติปิ น สมนุปสฺสนฺติ, ‘หีโนหมสฺมี’ติปิ น สมนุปสฺสนฺติ, กิมญฺญตฺร ยถาภูตสฺส ทสฺสนา. อนิจฺจาย เวทนาย …เป… อนิจฺจาย สญฺญาย… อนิจฺเจหิ สงฺขาเรหิ… อนิจฺเจน วิญฺญาเณน ทุกฺเขน วิปริณามธมฺเมน ‘เสโยฺยหมสฺมี’ติปิ น สมนุปสฺสนฺติ, ‘สทิโสหมสฺมี’ติปิ น สมนุปสฺสนฺติ, ‘หีโนหมสฺมี’ติปิ น สมนุปสฺสนฺติ, กิมญฺญตฺร ยถาภูตสฺส ทสฺสนา”ติ. อิทํ ญาณํ.
อิทํ ญาณญฺจ เญยฺยญฺจ. (6)
ตตฺถ กตมํ ทสฺสนํ?
“เย อริยสจฺจานิ วิภาวยนฺติ,
คมฺภีรปญฺเญน สุเทสิตานิ;
กิญฺจาปิ เต โหนฺติ ภุสํ ปมตฺตา,
น เต ภวํ อฏฺฐมมาทิยนฺตี”ติ.
อิทํ ทสฺสนํ.
“ยถินฺทขีโล ปถวิสฺสิโต สิยา,
จตุพฺภิ วาเตหิ อสมฺปกมฺปิโย;
ตถูปมํ สปฺปุริสํ วทามิ,
โย อริยสจฺจานิ อเวจฺจ ปสฺสตี”ติ.
อิทํ ทสฺสนํ.
“จตูหิ, ภิกฺขเว, โสตาปตฺติยงฺเคหิ สมนฺนาคโต อริยสาวโก อากงฺขมาโน อตฺตนาว อตฺตานํ พฺยากเรยฺย ‘ขีณนิรโยมฺหิ, ขีณติรจฺฉานโยนิ, ขีณเปตฺติวิสโย, ขีณาปายทุคฺคติวินิปาโต, โสตาปนฺโนหมสฺมิ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ, สตฺตกฺขตฺตุปรมํ เทเว จ มนุเสฺส จ สนฺธาวิตฺวา สํสริตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสามี’ติ. กตเมหิ จตูหิ? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวกสฺส ตถาคเต สทฺธา นิวิฏฺฐา ปติฏฺฐิตา วิรูฬฺหา มูลชาตา อสํหาริยา สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา เกนจิ วา โลกสฺมิํ สห ธมฺเมน, ธมฺเม โข ปน นิฏฺฐํ คโต โหติ, สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม สนฺทิฏฺฐิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิญฺญูหิ, ยทิทํ มทนิมฺมทโน …เป… นิโรโธ นิพฺพานํ, สห ธมฺมิยา โข ปนสฺส โหนฺติ อิฏฺฐา กนฺตา ปิยา มนาปา คิหี เจว ปพฺพชิตา จ. อริยกนฺเตหิ โข ปน สีเลหิ สมนฺนาคโต โหติ อขณฺเฑหิ อจฺฉิทฺเทหิ อสพเลหิ อกมฺมาเสหิ ภุชิเสฺสหิ วิญฺญุปฺปสฏฺเฐหิ อปรามฏฺเฐหิ สมาธิสํวตฺตนิเกหิ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ โสตาปตฺติยงฺเคหิ สมนฺนาคโต อริยสาวโก อากงฺขมาโน อตฺตนาว อตฺตานํ พฺยากเรยฺย ‘ขีณนิรโยมฺหิ, ขีณติรจฺฉานโยนิ, ขีณเปตฺติวิสโย, ขีณาปายทุคฺคติวินิปาโต, โสตาปนฺโนหมสฺมิ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ, สตฺตกฺขตฺตุปรมํ เทเว จ มนุเสฺส จ สนฺธาวิตฺวา สํสริตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสามี’”ติ.
อิทํ ทสฺสนํ.
ตตฺถ กตมา ภาวนา?
“ยสฺสินฺทฺริยานิ ภาวิตานิ,
อชฺฌตฺตํ พหิทฺธา จ สพฺพโลเก;
นิพฺพิชฺฌ อิมํ ปรญฺจ โลกํ,
กาลํ กงฺขติ ภาวิโต ส ทนฺโต”ติ.
อยํ ภาวนา.
“จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, ธมฺมปทานิ. กตมานิ จตฺตาริ? อนภิชฺฌา ธมฺมปทํ, อพฺยาปาโท ธมฺมปทํ, สมฺมาสติ ธมฺมปทํ, สมฺมาสมาธิ ธมฺมปทํ, อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ ธมฺมปทานี”ติ. อยํ ภาวนา. (7)
ตตฺถ กตมํ ทสฺสนญฺจ ภาวนา จ? “ปญฺจ ฉินฺเท ปญฺจ ชเห”ติ อิทํ ทสฺสนํ. “ปญฺจ จุตฺตริ ภาวเย. ปญฺจ สงฺคาติโค ภิกฺขุ, โอฆติณฺโณติ วุจฺจตี”ติ อยํ ภาวนา. อิทํ ทสฺสนญฺจ ภาวนา จ.
“ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, อินฺทฺริยานิ. กตมานิ ตีณิ, อนญฺญาตญฺญสฺสามีตินฺทฺริยํ อญฺญินฺทฺริยํ อญฺญาตาวินฺทฺริยํ. กตมญฺจ, ภิกฺขเว, อนญฺญาตญฺญสฺสามีตินฺทฺริยํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อนภิสเมตสฺส ทุกฺขสฺส อริยสจฺจสฺส อภิสมยาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ, อนภิสเมตสฺส ทุกฺขสมุทยสฺส อริยสจฺจสฺส …เป… ทุกฺขนิโรธสฺส …เป… ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย อริยสจฺจสฺส อภิสมยาย ฉนฺทํ ชเนติ วายมติ วีริยํ อารภติ จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ. อิทํ, ภิกฺขเว, อนญฺญาตญฺญสฺสามีตินฺทฺริยนฺ”ติ. อิทํ ทสฺสนํ.
“กตมญฺจ, ภิกฺขเว, อญฺญินฺทฺริยํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ‘อิทํ ทุกฺขนฺ’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’ติ …เป… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. อิทํ, ภิกฺขเว, อญฺญินฺทฺริยํ.
กตมญฺจ, ภิกฺขเว, อญฺญาตาวินฺทฺริยํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติํ ทิฏฺเฐว ธมฺเม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ, ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานาติ. อิทํ, ภิกฺขเว, อญฺญาตาวินฺทฺริยนฺ”ติ. อยํ ภาวนา.
อิทํ ทสฺสนญฺจ ภาวนา จ. (8)
ตตฺถ กตมํ สกวจนํ?
“สพฺพปาปสฺส อกรณํ,
กุสลสฺส อุปสมฺปทา;
สจิตฺตปริโยทาปนํ,
เอตํ พุทฺธาน สาสนนฺ”ติ.
อิทํ สกวจนํ.
“ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, พาลสฺส พาลลกฺขณานิ พาลนิมิตฺตานิ พาลาปทานานิ, เยหิ พาลํ พาโลติ ปเร สญฺชานนฺติ. กตมานิ ตีณิ? พาโล, ภิกฺขเว, ทุจฺจินฺติตจินฺตี จ โหติ, ทุพฺภาสิตภาสี จ โหติ, ทุกฺกฏกมฺมการี จ โหติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ พาลสฺส พาลลกฺขณานิ พาลนิมิตฺตานิ พาลาปทานานิ.
ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, ปณฺฑิตสฺส ปณฺฑิตลกฺขณานิ ปณฺฑิตนิมิตฺตานิ ปณฺฑิตาปทานานิ, เยหิ ปณฺฑิตํ ปณฺฑิโตติ ปเร สญฺชานนฺติ. กตมานิ ตีณิ? ปณฺฑิโต, ภิกฺขเว, สุจินฺติตจินฺตี จ โหติ, สุภาสิตภาสี จ โหติ, สุกตกมฺมการี จ โหติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ ปณฺฑิตสฺส ปณฺฑิตลกฺขณานิ ปณฺฑิตนิมิตฺตานิ ปณฺฑิตาปทานานี”ติ.
อิทํ สกวจนํ.
ตตฺถ กตมํ ปรวจนํ?
“ปถวีสโม นตฺถิ วิตฺถโต,
นินฺโน ปาตาลสโม น วิชฺชติ;
เมรุสโม นตฺถิ อุนฺนโต,
จกฺกวตฺติสทิโส นตฺถิ โปริโส”ติ.
อิทํ ปรวจนํ.
“‘โหตุ, เทวานมินฺท, สุภาสิเตน ชโยติ. โหตุ, เวปจิตฺติ, สุภาสิเตน ชโยติ. ภณ, เวปจิตฺติ, คาถนฺ’ติ. อถ โข, ภิกฺขเว, เวปจิตฺติ อสุรินฺโท อิมํ คาถํ อภาสิ—
‘ภิโยฺย พาลา ปกุชฺเฌยฺยุํ,
โน จสฺส ปฏิเสธโก;
ตสฺมา ภุเสน ทณฺเฑน,
ธีโร พาลํ นิเสธเย’ติ.
ภาสิตาย โข ปน, ภิกฺขเว, เวปจิตฺตินา อสุรินฺเทน คาถาย อสุรา อนุโมทิํสุ, เทวา ตุณฺหี อเหสุํ. อถ โข, ภิกฺขเว, เวปจิตฺติ อสุรินฺโท สกฺกํ เทวานมินฺทํ เอตทโวจ— ‘ภณ, เทวานมินฺท, คาถนฺ’ติ. เอวํ วุตฺเต, ภิกฺขเว, สกฺโก เทวานมินฺโท อิมํ คาถํ อภาสิ—
‘เอตเทว อหํ มญฺเญ,
พาลสฺส ปฏิเสธนํ;
ปรํ สงฺกุปิตํ ญตฺวา,
โย สโต อุปสมฺมตี’ติ.
ภาสิตาย โข ปน, ภิกฺขเว, สกฺเกน เทวานมินฺเทน คาถาย เทวา อนุโมทิํสุ, อสุรา ตุณฺหี อเหสุํ. อถ โข, ภิกฺขเว, สกฺโก เทวานมินฺโท เวปจิตฺติํ อสุรินฺทํ เอตทโวจ— ‘ภณ, เวปจิตฺติ, คาถนฺ’ติ. เอวํ วุตฺเต, ภิกฺขเว, เวปจิตฺติ อสุรินฺโท อิมํ คาถํ อภาสิ—
‘เอตเทว ติติกฺขาย,
วชฺชํ ปสฺสามิ วาสว;
ยทา นํ มญฺญติ พาโล,
ภยา มฺยายํ ติติกฺขติ;
อชฺฌารุหติ ทุมฺเมโธ,
โคว ภิโยฺย ปลายินนฺ’ติ.
ภาสิตาย โข ปน, ภิกฺขเว, เวปจิตฺตินา อสุรินฺเทน คาถาย อสุรา อนุโมทิํสุ, เทวา ตุณฺหี อเหสุํ. อถ โข เวปจิตฺติ อสุรินฺโท สกฺกํ เทวานมินฺทํ เอตทโวจ— ‘ภณ, เทวานมินฺท, คาถนฺ’ติ. เอวํ วุตฺเต, ภิกฺขเว, สกฺโก เทวานมินฺโท อิมา คาถาโย อภาสิ—
‘กามํ มญฺญตุ วา มา วา,
ภยา มฺยายํ ติติกฺขติ;
สทตฺถปรมา อตฺถา,
ขนฺตฺยา ภิโยฺย น วิชฺชติ.
โย หเว พลวา สนฺโต,
ทุพฺพลสฺส ติติกฺขติ;
ตมาหุ ปรมํ ขนฺติํ,
นิจฺจํ ขมติ ทุพฺพโล.
อพลํ ตํ พลํ อาหุ,
ยสฺส พาลพลํ พลํ;
พลสฺส ธมฺมคุตฺตสฺส,
ปฏิวตฺตา น วิชฺชติ.
ตเสฺสว เตน ปาปิโย,
โย กุทฺธํ ปฏิกุชฺฌติ;
กุทฺธํ อปฺปฏิกุชฺฌนฺโต,
สงฺคามํ เชติ ทุชฺชยํ.
อุภินฺนมตฺถํ จรติ,_
อตฺตโน จ ปรสฺส จ;
ปรํ สงฺกุปิตํ ญตฺวา,
โย สโต อุปสมฺมติ.
อุภินฺนํ ติกิจฺฉนฺตานํ,_
อตฺตโน จ ปรสฺส จ;
ชนา มญฺญนฺติ พาโลติ,
เย ธมฺมสฺส อโกวิทา’ติ.
ภาสิตาสุ โข ปน, ภิกฺขเว, สกฺเกน เทวานมินฺเทน คาถาสุ เทวา อนุโมทิํสุ, อสุรา ตุณฺหี อเหสุนฺ”ติ. อิทํ ปรวจนํ. (9)
ตตฺถ กตมํ สกวจนญฺจ ปรวจนญฺจ?
ยญฺจ ปตฺตํ ยญฺจ ปตฺตพฺพํ อุภยเมตํ รชานุกิณฺณํ อาตุรสฺสานุสิกฺขโต. เย จ สิกฺขาสารา สีลํ วตํ ชีวิตํ พฺรหฺมจริยํ อุปฏฺฐานสารา, อยเมโก อนฺโต. เย จ เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺฐิโน “นตฺถิ กาเมสุ โทโส”ติ, อยํ ทุติโย อนฺโต. อิจฺเจเต อุโภ อนฺตา กฏสิวฑฺฒนา กฏสิโย ทิฏฺฐิํ วฑฺเฒนฺติ. เอเต อุโภ อนฺเต อนภิญฺญาย โอลียนฺติ เอเก อติธาวนฺติ เอเกติ. อิทํ ปรวจนํ.
เย จ โข เต อุโภ อนฺเต อภิญฺญาย ตตฺร จ น อเหสุํ, เตน จ อมญฺญิํสุ, วฏฺฏํ เตสํ นตฺถิ ปญฺญาปนายาติ. อิทํ สกวจนํ. อยํ อุทาโน สกวจนญฺจ ปรวจนญฺจ.
ราชา ปเสนทิ โกสโล ภควนฺตํ เอตทโวจ— อิธ มยฺหํ, ภนฺเต, รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ “เกสํ นุ โข ปิโย อตฺตา, เกสํ อปฺปิโย อตฺตา”ติ. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอตทโหสิ— “เย จ โข เกจิ กาเยน ทุจฺจริตํ จรนฺติ, วาจาย ทุจฺจริตํ จรนฺติ, มนสา ทุจฺจริตํ จรนฺติ, เตสํ อปฺปิโย อตฺตา. กิญฺจาปิ เต เอวํ วเทยฺยุํ ‘ปิโย โน อตฺตา’ติ, อถ โข เตสํ อปฺปิโย อตฺตา. ตํ กิสฺส เหตุ? ยํ หิ อปฺปิโย อปฺปิยสฺส กเรยฺย, ตํ เต อตฺตนาว อตฺตโน กโรนฺติ, ตสฺมา เตสํ อปฺปิโย อตฺตา. เย จ โข เกจิ กาเยน สุจริตํ จรนฺติ, วาจาย สุจริตํ จรนฺติ, มนสา สุจริตํ จรนฺติ, เตสํ ปิโย อตฺตา. กิญฺจาปิ เต เอวํ วเทยฺยุํ ‘อปฺปิโย โน อตฺตา’ติ, อถ โข เตสํ ปิโย อตฺตา. ตํ กิสฺส เหตุ? ยํ หิ ปิโย ปิยสฺส กเรยฺย. ตํ เต อตฺตนาว อตฺตโน กโรนฺติ. ตสฺมา เตสํ ปิโย อตฺตา”ติ.
“เอวเมตํ, มหาราช, เอวเมตํ, มหาราช, เย หิ เกจิ, มหาราช, กาเยน ทุจฺจริตํ จรนฺติ, วาจาย ทุจฺจริตํ จรนฺติ, มนสา ทุจฺจริตํ จรนฺติ ตสฺมา เตสํ อปฺปิโย อตฺตา. กิญฺจาปิ เต เอวํ วเทยฺยุํ ‘ปิโย โน อตฺตา’ติ, อถ โข เตสํ อปฺปิโย อตฺตา. ตํ กิสฺส เหตุ? ยํ หิ, มหาราช, อปฺปิโย อปฺปิยสฺส กเรยฺย, ตํ เต อตฺตนาว อตฺตโน กโรนฺติ, ตสฺมา เตสํ อปฺปิโย อตฺตา. เย จ โข เกจิ มหาราช กาเยน สุจริตํ จรนฺติ, วาจาย สุจริตํ จรนฺติ, มนสา สุจริตํ จรนฺติ, เตสํ ปิโย อตฺตา. กิญฺจาปิ เต เอวํ วเทยฺยุํ ‘อปฺปิโย โน อตฺตา’ติ, อถ โข เตสํ ปิโย อตฺตา. ตํ กิสฺส เหตุ? ยํ หิ, มหาราช, ปิโย ปิยสฺส กเรยฺย, ตํ เต อตฺตนาว อตฺตโน กโรนฺติ, ตสฺมา เตสํ ปิโย อตฺตาติ. อิทมโวจ ภควา …เป… สตฺถา—
“อตฺตานญฺเจ ปิยํ ชญฺญา,
น นํ ปาเปน สํยุเช;
น หิ ตํ สุลภํ โหติ,
สุขํ ทุกฺกฏการินา.
อนฺตเกนาธิปนฺนสฺส,
ชหโต มานุสํ ภวํ;
กิํ หิ ตสฺส สกํ โหติ,
กิญฺจ อาทาย คจฺฉติ;
กิญฺจสฺส อนุคํ โหติ,
ฉายาว อนปายินี.
อุโภ ปุญฺญญฺจ ปาปญฺจ,_
ยํ มจฺโจ กุรุเต อิธ;
ตญฺหิ ตสฺส สกํ โหติ,
ตํว อาทาย คจฺฉติ;
ตํวสฺส อนุคํ โหติ,
ฉายาว อนปายินี.
ตสฺมา กเรยฺย กลฺยาณํ,
นิจยํ สมฺปรายิกํ;
ปุญฺญานิ ปรโลกสฺมิํ,
ปติฏฺฐา โหนฺติ ปาณินนฺ”ติ.
อิทํ สุตฺตํ ปรวจนํ. อนุคีติ สกวจนํ. อิทํ สกวจนญฺจ ปรวจนญฺจ. (10)
ตตฺถ กตมํ วิสชฺชนียํ?
ปเญฺห ปุจฺฉิเต อิทํ อภิญฺเญยฺยํ, อิทํ ปริญฺเญยฺยํ, อิทํ ปหาตพฺพํ, อิทํ ภาเวตพฺพํ, อิทํ สจฺฉิกาตพฺพํ, อิเม ธมฺมา เอวํคหิตา อิทํ ผลํ นิพฺพตฺตยนฺติ. เตสํ เอวํคหิตานํ อยมตฺโถ อิติ อิทํ วิสชฺชนียํ. “อุฬาโร พุทฺโธ ภควา”ติ พุทฺเธาฬารตํ ธมฺมสฺวากฺขาตตํ สํฆสุปฺปฏิปตฺติญฺจ เอกํเสเนว นิทฺทิเส. “สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา”ติ “สพฺเพ สงฺขารา ทุกฺขา”ติ “สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตา”ติ เอกํเสเนว นิทฺทิเส. ยํ วา ปนญฺญมฺปิ เอวํ ชาติยํ. อิทํ วิสชฺชนียํ.
ตตฺถ กตมํ อวิสชฺชนียํ?
“อากงฺขโต เต นรทมฺมสารถิ,
เทวา มนุสฺสา มนสา วิจินฺติตํ;
สพฺเพ น ชญฺญา กสิณาปิ ปาณิโน,
สนฺตํ สมาธิํ อรณํ นิเสวโต;
กินฺตํ ภควา อากงฺขตี”ติ.
อิทํ อวิสชฺชนียํ.
เอตฺตโก ภควา สีลกฺขนฺเธ สมาธิกฺขนฺเธ ปญฺญากฺขนฺเธ วิมุตฺติกฺขนฺเธ วิมุตฺติญาณทสฺสนกฺขนฺเธ อิริยายํ ปภาเว หิเตสิตายํ กรุณายํ อิทฺธิยนฺติ. อิทํ อวิสชฺชนียํ.
“ตถาคตสฺส, ภิกฺขเว, อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส โลเก อุปฺปาทา ติณฺณํ รตนานํ อุปฺปาโท พุทฺธรตนสฺส ธมฺมรตนสฺส สํฆรตนสฺส”. กิํปมาณานิ ตีณิ รตนานีติ? อิทํ อวิสชฺชนียํ.
พุทฺธวิสโย อวิสชฺชนีโย. ปุคฺคลปโรปรญฺญุตา อวิสชฺชนียา. “ปุพฺพา, ภิกฺขเว, โกฏิ น ปญฺญายติ อวิชฺชานีวรณานํ สตฺตานํ ตณฺหาสํโยชนานํ สกิํ นิรยํ สกิํ ติรจฺฉานโยนิํ สกิํ เปตฺติวิสยํ สกิํ อสุรโยนิํ สกิํ เทเว สกิํ มนุเสฺส สนฺธาวิตํ สํสริตํ”. กตมา ปุพฺพา โกฏีติ อวิสชฺชนียํ. น ปญฺญายตีติ สาวกานํ ญาณเวกเลฺลน. ทุวิธา พุทฺธานํ ภควนฺตานํ เทสนา อตฺตูปนายิกา จ ปรูปนายิกา จ. น ปญฺญายตีติ ปรูปนายิกา. นตฺถิ พุทฺธานํ ภควนฺตานํ อวิชานนาติ อตฺตูปนายิกา. ยถา ภควา โกกาลิกํ ภิกฺขุํ อารพฺภ อญฺญตรํ ภิกฺขุํ เอวมาห—
“เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติขาริโก โกสลโก ติลวาโห …เป… น เตฺวว เอโก อพฺพุโท นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ อพฺพุทา นิรยา, เอวเมโก นิรพฺพุโท นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ นิรพฺพุทา นิรยา, เอวเมโก อพโพ นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ อพพา นิรยา, เอวเมโก อฏโฏ นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ อฏฏา นิรยา, เอวเมโก อหโห นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ อหหา นิรยา, เอวเมโก กุมุโท นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ กุมุทา นิรยา, เอวเมโก โสคนฺธิโก นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ โสคนฺธิกา นิรยา, เอวเมโก อุปฺปลโก นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ อุปฺปลกา นิรยา, เอวเมโก ปุณฺฑรีโก นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ ปุณฺฑรีกา นิรยา, เอวเมโก ปทุโม นิรโย. ปทุเม ปน, ภิกฺขุ, นิรเย โกกาลิโก ภิกฺขุ อุปปนฺโน สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนสุ จิตฺตํ อาฆาเตตฺวา”ติ. ยํ วา ปน กิญฺจิ ภควา อาห— “อยํ อปฺปเมโยฺย อสงฺเขโยฺย”ติ. สพฺพํ ตํ อวิสชฺชนียํ. อิทํ อวิสชฺชนียํ. (11)
ตตฺถ กตมํ วิสชฺชนียญฺจ อวิสชฺชนียญฺจ, ยทา โส อุปโก อาชีวโก ภควนฺตํ อาห— “กุหิํ, อาวุโส โคตม, คมิสฺสสี”ติ. ภควา อาห—
“พาราณสิํ คมิสฺสามิ,
อหํ ตํ อมตทุนฺทุภิํ;
ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตตุํ,
โลเก อปฺปฏิวตฺติยนฺ”ติ.
อุปโก อาชีวโก อาห— “‘ชิโน’ติ โข อาวุโส, โภ โคตม, ปฏิชานาสี”ติ. ภควา อาห—
“มาทิสา เว ชินา โหนฺติ,
เย ปตฺตา อาสวกฺขยํ;
ชิตา เม ปาปกา ธมฺมา,
ตสฺมาหํ อุปกา ชิโน”ติ.
กถํ ชิโน เกน ชิโนติ วิสชฺชนียํ. กตโม ชิโนติ อวิสชฺชนียํ. กตโม อาสวกฺขโย, ราคกฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโยติ วิสชฺชนียํ. กิตฺตโก อาสวกฺขโยติ อวิสชฺชนียํ. อิทํ วิสชฺชนียญฺจ อวิสชฺชนียญฺจ.
อตฺถิ ตถาคโตติ วิสชฺชนียํ. อตฺถิ รูปนฺติ วิสชฺชนียํ. รูปํ ตถาคโตติ อวิสชฺชนียํ. รูปวา ตถาคโตติ อวิสชฺชนียํ. รูเป ตถาคโตติ อวิสชฺชนียํ. ตถาคเต รูปนฺติ อวิสชฺชนียํ. เอวํ อตฺถิ เวทนา …เป… สญฺญา… สงฺขารา… อตฺถิ วิญฺญาณนฺติ วิสชฺชนียํ. วิญฺญาณํ ตถาคโตติ อวิสชฺชนียํ. วิญฺญาณวา ตถาคโตติ อวิสชฺชนียํ. วิญฺญาเณ ตถาคโตติ อวิสชฺชนียํ. ตถาคเต วิญฺญาณนฺติ อวิสชฺชนียํ. อญฺญตฺร รูเปน ตถาคโตติ อวิสชฺชนียํ. อญฺญตฺร เวทนาย …เป… สญฺญาย… สงฺขาเรหิ… วิญฺญาเณน ตถาคโตติ อวิสชฺชนียํ. อยํ โส ตถาคโต อรูปโก… อเวทนโก… อสญฺญโก… อสงฺขารโก… อวิญฺญาณโกติ อวิสชฺชนียํ. อิทํ วิสชฺชนียญฺจ อวิสชฺชนียญฺจ.
ปสฺสติ ภควา ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต จวมาเน อุปปชฺชมาเน เอวํ สพฺพํ …เป… ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาตีติ วิสชฺชนียํ. กตเม สตฺตา, กตโม ตถาคโตติ อวิสชฺชนียํ. อิทํ วิสชฺชนียญฺจ อวิสชฺชนียญฺจ.
อตฺถิ ตถาคโตติ วิสชฺชนียํ. อตฺถิ ตถาคโต ปรํ มรณาติ อวิสชฺชนียํ. อิทํ วิสชฺชนียญฺจ อวิสชฺชนียญฺจ. (12)
ตตฺถ กตมํ กมฺมํ?
“อนฺตเกนาธิปนฺนสฺส,
ชหโต มานุสํ ภวํ;
กิํ หิ ตสฺส สกํ โหติ,
กิญฺจ อาทาย คจฺฉติ;
กิญฺจสฺส อนุคํ โหติ,
ฉายาว อนปายินี.
อุโภ ปุญฺญญฺจ ปาปญฺจ,_
ยํ มจฺโจ กุรุเต อิธ;
ตญฺหิ ตสฺส สกํ โหติ,
ตํว อาทาย คจฺฉติ;
ตํวสฺส อนุคํ โหติ,
ฉายาว อนปายินี”ติ.
อิทํ กมฺมํ.
“ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, พาลํ ปีฐสมารูฬฺหํ วา มญฺจสมารูฬฺหํ วา ฉมายํ วา เสมานํ ยานิสฺส ปุพฺเพ ปาปกานิ กมฺมานิ กตานิ กาเยน ทุจฺจริตานิ วาจาย ทุจฺจริตานิ มนสา ทุจฺจริตานิ, ตานิสฺส ตมฺหิ สมเย โอลมฺพนฺติ อชฺโฌลมฺพนฺติ อภิปฺปลมฺพนฺติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มหตํ ปพฺพตกูฏานํ ฉายา สายนฺหสมยํ ปถวิยํ โอลมฺพนฺติ อชฺโฌลมฺพนฺติ อภิปฺปลมฺพนฺติ. เอวเมว โข, ภิกฺขเว, พาลํ ปีฐสมารูฬฺหํ วา มญฺจสมารูฬฺหํ วา ฉมายํ วา เสมานํ ยานิสฺส ปุพฺเพ ปาปกานิ กมฺมานิ กตานิ กาเยน ทุจฺจริตานิ วาจาย ทุจฺจริตานิ มนสา ทุจฺจริตานิ, ตานิสฺส ตมฺหิ สมเย โอลมฺพนฺติ อชฺโฌลมฺพนฺติ อภิปฺปลมฺพนฺติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, พาลสฺส เอวํ โหติ ‘อกตํ วต เม กลฺยาณํ, อกตํ กุสลํ, อกตํ ภีรุตฺตาณํ. กตํ ปาปํ, กตํ ลุทฺทํ, กตํ กิพฺพิสํ, ยาวตา โภ อกตกลฺยาณานํ อกตกุสลานํ อกตภีรุตฺตาณานํ กตปาปานํ กตลุทฺทานํ กตกิพฺพิสานํ คติ, ตํ คติํ เปจฺจ คจฺฉามี’ติ, โส โสจติ กิลมติ ปริเทวติ อุรตฺตาฬิํ กนฺทติ สมฺโมหํ อาปชฺชตีติ.
ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ปณฺฑิตํ ปีฐสมารูฬฺหํ วา มญฺจสมารูฬฺหํ วา ฉมายํ วา เสมานํ ยานิสฺส ปุพฺเพ กลฺยาณานิ กมฺมานิ กตานิ กาเยน สุจริตานิ วาจาย สุจริตานิ มนสา สุจริตานิ, ตานิสฺส ตมฺหิ สมเย โอลมฺพนฺติ อชฺโฌลมฺพนฺติ อภิปฺปลมฺพนฺติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มหตํ ปพฺพตกูฏานํ ฉายา สายนฺหสมยํ ปถวิยํ โอลมฺพนฺติ อชฺโฌลมฺพนฺติ อภิปฺปลมฺพนฺติ. เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ปณฺฑิตํ ปีฐสมารูฬฺหํ วา มญฺจสมารูฬฺหํ วา ฉมายํ วา เสมานํ ยานิสฺส ปุพฺเพ กลฺยาณานิ กมฺมานิ กตานิ กาเยน สุจริตานิ วาจาย สุจริตานิ มนสา สุจริตานิ, ตานิสฺส ตมฺหิ สมเย โอลมฺพนฺติ อชฺโฌลมฺพนฺติ อภิปฺปลมฺพนฺติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, ปณฺฑิตสฺส ‘เอวํ โหติ อกตํ วต เม ปาปํ, อกตํ ลุทฺทํ, อกตํ กิพฺพิสํ. กตํ กลฺยาณํ, กตํ กุสลํ, กตํ ภีรุตฺตาณํ, ยาวตา โภ อกตปาปานํ อกตลุทฺทานํ อกตกิพฺพิสานํ กตกลฺยาณานํ กตกุสลานํ กตภีรุตฺตาณานํ คติ, ตํ คติํ เปจฺจ คจฺฉามี’ติ, โส น โสจติ น กิลมติ น ปริเทวติ น อุรตฺตาฬิํ กนฺทติ น สมฺโมหํ อาปชฺชติ, ‘กตํ เม ปุญฺญํ, อกตํ ปาปํ, ยา ภวิสฺสติ คติ อกตปาปสฺส อกตลุทฺทสฺส อกตกิพฺพิสสฺส กตปุญฺญสฺส กตกุสลสฺส กตภีรุตฺตาณสฺส, ตํ เปจฺจ ภเว คติํ ปจฺจนุภวิสฺสามี’ติ วิปฺปฏิสาโร น ชายติ. อวิปฺปฏิสาริโน โข, ภิกฺขเว, อิตฺถิยา วา ปุริสสฺส วา คิหิโน วา ปพฺพชิตสฺส วา ภทฺทกํ มรณํ ภทฺทิกา กาลํกิริยาติ วทามี”ติ. อิทํ กมฺมํ.
“ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, ทุจฺจริตานิ. กตมานิ ตีณิ, กายทุจฺจริตํ วจีทุจฺจริตํ มโนทุจฺจริตํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ ทุจฺจริตานิ. ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, สุจริตานิ. กตมานิ ตีณิ? กายสุจริตํ วจีสุจริตํ มโนสุจริตํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ สุจริตานิ”. อิทํ กมฺมํ.
ตตฺถ กตโม วิปาโก?
“ลาภา โว, ภิกฺขเว, สุลทฺธํ โว, ภิกฺขเว, ขโณ โว, ภิกฺขเว, ปฏิลทฺโธ พฺรหฺมจริยวาสาย. ทิฏฺฐา มยา, ภิกฺขเว, ฉผสฺสายตนิกา นาม นิรยา. ตตฺถ ยํ กิญฺจิ จกฺขุนา รูปํ ปสฺสติ อนิฏฺฐรูปํเยว ปสฺสติ, โน อิฏฺฐรูปํ. อกนฺตรูปํเยว ปสฺสติ, โน กนฺตรูปํ. อมนาปรูปํเยว ปสฺสติ, โน มนาปรูปํ.
ยํ กิญฺจิ โสเตน สทฺทํ สุณาติ …เป… ฆาเนน… ชิวฺหาย… กาเยน… ยํ กิญฺจิ มนสา ธมฺมํ วิชานาติ อนิฏฺฐธมฺมํเยว วิชานาติ, โน อิฏฺฐธมฺมํ. อกนฺตธมฺมํเยว วิชานาติ, โน กนฺตธมฺมํ. อมนาปธมฺมํเยว วิชานาติ, โน มนาปธมฺมํ. ลาภา โว, ภิกฺขเว, สุลทฺธํ โว, ภิกฺขเว, ขโณ โว, ภิกฺขเว, ปฏิลทฺโธ พฺรหฺมจริยวาสาย.
ทิฏฺฐา มยา, ภิกฺขเว, ฉผสฺสายตนิกา นาม สคฺคา. ตตฺถ ยํ กิญฺจิ จกฺขุนา รูปํ ปสฺสติ อิฏฺฐรูปํเยว ปสฺสติ, โน อนิฏฺฐรูปํ. กนฺตรูปํเยว ปสฺสติ, โน อกนฺตรูปํ. มนาปรูปํเยว ปสฺสติ, โน อมนาปรูปํ. ยํ กิญฺจิ โสเตน สทฺทํ สุณาติ …เป… ฆาเนน… ชิวฺหาย… กาเยน… มนสา ธมฺมํ วิชานาติ อิฏฺฐธมฺมํเยว วิชานาติ, โน อนิฏฺฐธมฺมํ. กนฺตธมฺมํเยว วิชานาติ, โน อกนฺตธมฺมํ. มนาปธมฺมํเยว วิชานาติ, โน อมนาปธมฺมํ. ลาภา โว, ภิกฺขเว, สุลทฺธํ โว, ภิกฺขเว, ขโณ โว, ภิกฺขเว, ปฏิลทฺโธ พฺรหฺมจริยวาสายา”ติ. อยํ วิปาโก.
“สฏฺฐิวสฺสสหสฺสานิ,
ปริปุณฺณานิ สพฺพโส;
นิรเย ปจฺจมานานํ,
กทา อนฺโต ภวิสฺสติ.
นตฺถิ อนฺโต กุโต อนฺโต,
น อนฺโต ปฏิทิสฺสติ;
ตทา หิ ปกตํ ปาปํ,
ตุยฺหํ มยฺหญฺจ มาริสา”ติ.
อยํ วิปาโก. (13)
ตตฺถ กตมํ กมฺมญฺจ วิปาโก จ?
“อธมฺมจารี หิ นโร ปมตฺโต,
ยหิํ ยหิํ คจฺฉติ ทุคฺคติํ โย;
โส นํ อธมฺโม จริโต หนาติ,
สยํ คหีโต ยถา กณฺหสปฺโป.
น หิ ธมฺโม อธมฺโม จ,
อุโภ สมวิปากิโน;_
อธมฺโม นิรยํ เนติ,
ธมฺโม ปาเปติ สุคฺคตินฺ”ติ.
อิทํ กมฺมญฺจ วิปาโก จ.
“มา, ภิกฺขเว, ปุญฺญานํ ภายิตฺถ, สุขเสฺสตํ, ภิกฺขเว, อธิวจนํ อิฏฺฐสฺส กนฺตสฺส ปิยสฺส มนาปสฺส ยทิทํ ปุญฺญานิ. อภิชานามิ โข ปนาหํ, ภิกฺขเว, ทีฆรตฺตํ กตานํ ปุญฺญานํ อิฏฺฐํ กนฺตํ ปิยํ มนาปํ วิปากํ ปจฺจนุภูตํ, สตฺต วสฺสานิ เมตฺตจิตฺตํ ภาเวตฺวา สตฺต สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป น อิมํ โลกํ ปุนราคมาสิํ. สํวฏฺฏมาเน สุทาหํ, ภิกฺขเว, กปฺเป อาภสฺสรูปโค โหมิ. วิวฏฺฏมาเน กปฺเป สุญฺญํ พฺรหฺมวิมานํ อุปปชฺชามิ. ตตฺร สุทาหํ, ภิกฺขเว, พฺรหฺมา โหมิ มหาพฺรหฺมา อภิภู อนภิภูโต อญฺญทตฺถุทโส วสวตฺตี. ฉตฺติํสกฺขตฺตุํ โข ปนาหํ, ภิกฺขเว, สกฺโก อโหสิํ เทวานมินฺโท, อเนกสตกฺขตฺตุํ ราชา อโหสิํ จกฺกวตฺตี ธมฺมิโก ธมฺมราชา จาตุรนฺโต วิชิตาวี ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺโต สตฺตรตนสมนฺนาคโต, โก ปน วาโท ปเทสรชฺชสฺส? ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตทโหสิ— ‘กิสฺส นุ โข เม อิทํ กมฺมสฺส ผลํ, กิสฺส กมฺมสฺส วิปาโก, เยนาหํ เอตรหิ เอวํมหิทฺธิโก เอวํมหานุภาโว’ติ. ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตทโหสิ— ‘ติณฺณํ โข เม อิทํ กมฺมานํ ผลํ, ติณฺณํ กมฺมานํ วิปาโก. เยนาหํ เอตรหิ เอวํมหิทฺธิโก เอวํมหานุภาโว’ติ. เสยฺยถิทํ— ทานสฺส ทมสฺส สํยมสฺสา”ติ. ตตฺถ ยญฺจ ทานํ โย จ ทโม โย จ สํยโม, อิทํ กมฺมํ. โย ตปฺปจฺจยา วิปาโก ปจฺจนุภูโต, อยํ วิปาโก. ตถา จูฬกมฺมวิภงฺโค วตฺตพฺโพ.
ยํ สุภสฺส มาณวสฺส โตเทยฺยปุตฺตสฺส เทสิตํ. ตตฺถ เย ธมฺมา อปฺปายุกทีฆายุกตาย สํวตฺตนฺติ พหฺวาพาธอปฺปาพาธตาย อปฺเปสกฺขมเหสกฺขตาย ทุพฺพณฺณสุวณฺณตาย นีจกุลิเกาจฺจกุลิกตาย อปฺปโภคมหาโภคตาย ทุปฺปญฺญปญฺญวนฺตตาย จ สํวตฺตนฺติ, อิทํ กมฺมํ. ยา ตตฺถ อปฺปายุกทีฆายุกตา …เป… ทุปฺปญฺญปญฺญวนฺตตา, อยํ วิปาโก. อิทํ กมฺมญฺจ วิปาโก จ. (14)
ตตฺถ กตมํ กุสลํ?
“วาจานุรกฺขี มนสา สุสํวุโต,
กาเยน จ นากุสลํ กยิรา;
เอเต ตโย กมฺมปเถ วิโสธเย,
อาราธเย มคฺคมิสิปฺปเวทิตนฺ”ติ.
อิทํ กุสลํ.
“ยสฺส กาเยน วาจาย,
มนสา นตฺถิ ทุกฺกฏํ;
สํวุตํ ตีหิ ฐาเนหิ,
ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณนฺ”ติ.
อิทํ กุสลํ.
“ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, กุสลมูลานิ. กตมานิ ตีณิ? อโลโภ กุสลมูลํ, อโทโส กุสลมูลํ, อโมโห กุสลมูลํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ กุสลมูลานิ”. อิทํ กุสลํ. “วิชฺชา, ภิกฺขเว, ปุพฺพงฺคมา กุสลานํ ธมฺมานํ สมาปตฺติยา อนุเทว หิรี โอตฺตปฺปญฺจา”ติ. อิทํ กุสลํ.
ตตฺถ กตมํ อกุสลํ?
“ยสฺส อจฺจนฺตทุสฺสีลฺยํ,
มาลุวา สาลมิโวตฺถตํ;
กโรติ โส ตถตฺตานํ,
ยถา นํ อิจฺฉตี ทิโส”ติ.
อิทํ อกุสลํ.
“อตฺตนา หิ กตํ ปาปํ,
อตฺตชํ อตฺตสมฺภวํ;
อภิมตฺถติ ทุมฺเมธํ,
วชิรํวสฺมมยํ มณินฺ”ติ.
อิทํ อกุสลํ.
“ทส กมฺมปเถ นิเสวิย,
อกุสลากุสเลหิ วิวชฺชิตา;
ครหา จ ภวนฺติ เทวเต,
พาลมตี นิรเยสุ ปจฺจเร”ติ.
อิทํ อกุสลํ.
“ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, อกุสลมูลานิ, กตมานิ ตีณิ? โลโภ อกุสลมูลํ, โทโส อกุสลมูลํ, โมโห อกุสลมูลํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ อกุสลมูลานิ”. อิทํ อกุสลํ. (15)
ตตฺถ กตมํ กุสลญฺจ อกุสลญฺจ?
“ยาทิสํ วปเต พีชํ,
ตาทิสํ หรเต ผลํ;
กลฺยาณการี กลฺยาณํ,
ปาปการี จ ปาปกนฺ”ติ.
ตตฺถ ยํ อาห— “กลฺยาณการี กลฺยาณนฺ”ติ, อิทํ กุสลํ. ยํ อาห— “ปาปการี จ ปาปกนฺ”ติ, อิทํ อกุสลํ. อิทํ กุสลญฺจ อกุสลญฺจ.
“สุเภน กมฺเมน วชนฺติ สุคฺคติํ,
อปายภูมิํ อสุเภน กมฺมุนา;
ขยา จ กมฺมสฺส วิมุตฺตเจตโส,
นิพฺพนฺติ เต โชติริวินฺธนกฺขยา”.
ตตฺถ ยํ อาห— “สุเภน กมฺเมน วชนฺติ สุคฺคตินฺ”ติ, อิทํ กุสลํ. ยํ อาห— “อปายภูมิํ อสุเภน กมฺมุนา”ติ, อิทํ อกุสลํ. อิทํ กุสลญฺจ อกุสลญฺจ. (16)
ตตฺถ กตมํ อนุญฺญาตํ?
“ยถาปิ ภมโร ปุปฺผํ,
วณฺณคนฺธมเหฐยํ;
ปเลติ รสมาทาย,
เอวํ คาเม มุนี จเร”ติ.
อิทํ อนุญฺญาตํ.
“ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ กรณียานิ. กตมานิ ตีณิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ, กายกมฺมวจีกมฺเมน สมนฺนาคโต กุสเลน ปริสุทฺธาชีโว. อารทฺธวีริโย โข ปน โหติ ถามวา ทฬฺหปรกฺกโม อนิกฺขิตฺตธุโร อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย กุสลานํ ธมฺมานํ ภาวนาย สจฺฉิกิริยาย. ปญฺญวา โข ปน โหติ อุทยตฺถคามินิยา ปญฺญาย สมนฺนาคโต อริยาย นิพฺเพธิกาย สมฺมา ทุกฺขกฺขยคามินิยา. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ตีณิ กรณียานี”ติ. อิทํ อนุญฺญาตํ.
“ทสยิเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา ปพฺพชิเตน อภิณฺหํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพา. กตเม ทส? ‘เววณฺณิยมฺหิ อชฺฌุปคโต’ติ ปพฺพชิเตน อภิณฺหํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ …เป… อิเม โข, ภิกฺขเว, ทส ธมฺมา ปพฺพชิเตน อภิณฺหํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพา”ติ. อิทํ อนุญฺญาตํ.
“ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, กรณียานิ. กตมานิ ตีณิ? กายสุจริตํ วจีสุจริตํ มโนสุจริตนฺติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ กรณียานี”ติ. อิทํ อนุญฺญาตํ.
ตตฺถ กตมํ ปฏิกฺขิตฺตํ?
“นตฺถิ ปุตฺตสมํ เปมํ,
นตฺถิ โคสมิตํ ธนํ;
นตฺถิ สูริยสมา อาภา,
สมุทฺทปรมา สรา”ติ.
ภควา อาห—
“นตฺถิ อตฺตสมํ เปมํ,
นตฺถิ ธญฺญสมํ ธนํ;
นตฺถิ ปญฺญาสมา อาภา,
วุฏฺฐิเวปรมา สรา”ติ.
เอตฺถ ยํ ปุริมกํ, อิทํ ปฏิกฺขิตฺตํ.
“ตีณิมานิ, ภิกฺขเว อกรณียานิ. กตมานิ ตีณิ? กายทุจฺจริตํ วจีทุจฺจริตํ มโนทุจฺจริตนฺติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ อกรณียานี”ติ. อิทํ ปฏิกฺขิตฺตํ. (17)
ตตฺถ กตมํ อนุญฺญาตญฺจ ปฏิกฺขิตฺตญฺจ?
“กิํสูธ ภีตา ชนตา อเนกา,
มคฺโค จเนกายตโน ปวุตฺโต;
ปุจฺฉามิ ตํ โคตม ภูริปญฺญ,
กิสฺมิํ ฐิโต ปรโลกํ น ภาเยติ.
วาจํ มนญฺจ ปณิธาย สมฺมา,
กาเยน ปาปานิ อกุพฺพมาโน;
พหฺวนฺนปานํ ฆรมาวสนฺโต,
สทฺโธ มุทู สํวิภาคี วทญฺญู;
เอเตสุ ธมฺเมสุ ฐิโต จตูสุ,
ธมฺเม ฐิโต ปรโลกํ น ภาเย”ติ.
ตตฺถ ยํ อาห— “วาจํ มนญฺจ ปณิธาย สมฺมา”ติ, อิทํ อนุญฺญาตํ. “กาเยน ปาปานิ อกุพฺพมาโน”ติ, อิทํ ปฏิกฺขิตฺตํ. “พหฺวนฺนปานํ ฆรมาวสนฺโต, สทฺโธ มุทู สํวิภาคี วทญฺญู. เอเตสุ ธมฺเมสุ ฐิโต จตูสุ, ธมฺเม ฐิโต ปรโลกํ น ภาเย”ติ, อิทํ อนุญฺญาตํ. อิทํ อนุญฺญาตญฺจ ปฏิกฺขิตฺตญฺจ.
“สพฺพปาปสฺส อกรณํ,
กุสลสฺส อุปสมฺปทา;
สจิตฺตปริโยทาปนํ,
เอตํ พุทฺธานสาสนํ”.
ตตฺถ ยํ อาห— “สพฺพปาปสฺส อกรณนฺ”ติ, อิทํ ปฏิกฺขิตฺตํ, ยํ อาห— “กุสลสฺส อุปสมฺปทา”ติ, อิทํ อนุญฺญาตํ. อิทํ อนุญฺญาตญฺจ ปฏิกฺขิตฺตญฺจ.
“กายสมาจารมฺปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ เสวิตพฺพมฺปิ อเสวิตพฺพมฺปิ. วจีสมาจารมฺปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ เสวิตพฺพมฺปิ อเสวิตพฺพมฺปิ. มโนสมาจารมฺปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ …เป… ปริเยสนมฺปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ เสวิตพฺพมฺปิ อเสวิตพฺพมฺปิ.
กายสมาจารมฺปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ เสวิตพฺพมฺปิ อเสวิตพฺพมฺปี”ติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, กิญฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ. ยถารูปญฺจ โข กายสมาจารํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, เอวรูโป กายสมาจาโร น เสวิตพฺโพ. ตตฺถ ยํ ชญฺญา กายสมาจารํ “อิมํ โข เม กายสมาจารํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺตี”ติ, เอวรูโป กายสมาจาโร เสวิตพฺโพ. “กายสมาจารมฺปาหํ เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ เสวิตพฺพมฺปิ อเสวิตพฺพมฺปี”ติ อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
“วจีสมาจารํ …เป… ปริเยสนมฺปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ เสวิตพฺพมฺปิ อเสวิตพฺพมฺปี”ติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, กิญฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ. ยถารูปญฺจ โข ปริเยสนํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, เอวรูปา ปริเยสนา น เสวิตพฺพา. ตตฺถ ยํ ชญฺญา ปริเยสนํ “อิมํ โข เม ปริเยสนํ เสวโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺตี”ติ, เอวรูปา ปริเยสนา เสวิตพฺพา.
“ปริเยสนมฺปาหํ, เทวานมินฺท, ทุวิเธน วทามิ เสวิตพฺพมฺปิ อเสวิตพฺพมฺปี”ติ อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
ตตฺถ ยํ อาห— “เสวิตพฺพมฺปี”ติ, อิทํ อนุญฺญาตํ. ยํ อาห— “น เสวิตพฺพมฺปี”ติ, อิทํ ปฏิกฺขิตฺตํ. อิทํ อนุญฺญาตญฺจ ปฏิกฺขิตฺตญฺจ. (18)
ตตฺถ กตโม ถโว?
“มคฺคานฏฺฐงฺคิโก เสฏฺโฐ,
สจฺจานํ จตุโร ปทา;
วิราโค เสฏฺโฐ ธมฺมานํ,
ทฺวิปทานญฺจ จกฺขุมา”ติ.
อยํ ถโว.
“ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, อคฺคานิ. กตมานิ ตีณิ? ยาวตา, ภิกฺขเว, สตฺตา อปทา วา ทฺวิปทา วา จตุปฺปทา วา พหุปฺปทา วา รูปิโน วา อรูปิโน วา สญฺญิโน วา อสญฺญิโน วา เนวสญฺญีนาสญฺญิโน วา, ตถาคโต เตสํ อคฺคมกฺขายติ เสฏฺฐมกฺขายติ ปวรมกฺขายติ, ยทิทํ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ. ยาวตา, ภิกฺขเว, ธมฺมานํ ปณฺณตฺติสงฺขตานํ วา อสงฺขตานํ วา, วิราโค เตสํ ธมฺมานํ อคฺคมกฺขายติ เสฏฺฐมกฺขายติ ปวรมกฺขายติ, ยทิทํ มทนิมฺมทโน …เป… นิโรโธ นิพฺพานํ. ยาวตา, ภิกฺขเว, สํฆานํ ปณฺณตฺติ คณานํ ปณฺณตฺติ มหาชนสนฺนิปาตานํ ปณฺณตฺติ, ตถาคตสาวกสํโฆ เตสํ อคฺคมกฺขายติ เสฏฺฐมกฺขายติ ปวรมกฺขายติ, ยทิทํ จตฺตาริ ปุริสยุคานิ อฏฺฐ ปุริสปุคฺคลา …เป… ปุญฺญกฺเขตฺตํ โลกสฺสา”ติ.
“สพฺพโลกุตฺตโร สตฺถา,
ธมฺโม จ กุสลกฺขโต;
คโณ จ นรสีหสฺส,
ตานิ ตีณิ วิสฺสิสฺสเร.
สมณปทุมสญฺจโย คโณ,
ธมฺมวโร จ วิทูนํ สกฺกโต;
นรวรทมโก จ จกฺขุมา,
ตานิ ตีณิ โลกสฺส อุตฺตริ.
สตฺถา จ อปฺปฏิสโม,
ธมฺโม จ สพฺโพ นิรุปทาโห;
อริโย จ คณวโร,
ตานิ ขลุ วิสฺสิสฺสเร ตีณิ.
สจฺจนาโม ชิโน เขโม สพฺพาภิภู,
สจฺจธมฺโม นตฺถญฺโญ ตสฺส อุตฺตริ;
อริยสํโฆ นิจฺจํ วิญฺญูนํ ปูชิโต,
ตานิ ตีณิ โลกสฺส อุตฺตริ.
เอกายนํ ชาติขยนฺตทสฺสี,
มคฺคํ ปชานาติ หิตานุกมฺปี;
เอเตน มคฺเคน ตริํสุ ปุพฺเพ,
ตริสฺสนฺติ เย จ ตรนฺติ โอฆํ.
ตํ ตาทิสํ เทวมนุสฺสเสฏฺฐํ,
สตฺตา นมสฺสนฺติ วิสุทฺธิเปกฺขา”ติ.
อยํ ถโวติ.
ตตฺถ โลกิยํ สุตฺตํ ทฺวีหิ สุตฺเตหิ นิทฺทิสิตพฺพํ สํกิเลสภาคิเยน จ วาสนาภาคิเยน จ. โลกุตฺตรมฺปิ สุตฺตํ ตีหิ สุตฺเตหิ นิทฺทิสิตพฺพํ ทสฺสนภาคิเยน จ ภาวนาภาคิเยน จ อเสกฺขภาคิเยน จ. โลกิยญฺจ โลกุตฺตรญฺจ. ยสฺมิํ สุตฺเต ยํ ยํ ปทํ ทิสฺสติ สํกิเลสภาคิยํ วา วาสนาภาคิยํ วา, เตน เตน โลกิยนฺติ นิทฺทิสิตพฺพํ, ทสฺสนภาคิยํ วา ภาวนาภาคิยํ วา อเสกฺขภาคิยํ วา ยํ ยํ ปทํ ทิสฺสติ เตน เตน โลกุตฺตรนฺติ นิทฺทิสิตพฺพํ.
วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ สํกิเลสภาคิยสฺส สุตฺตสฺส นิคฺฆาตาย, ทสฺสนภาคิยํ สุตฺตํ วาสนาภาคิยสฺส สุตฺตสฺส นิคฺฆาตาย, ภาวนาภาคิยํ สุตฺตํ ทสฺสนภาคิยสฺส สุตฺตสฺส ปฏินิสฺสคฺคาย, อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ ภาวนาภาคิยสฺส สุตฺตสฺส ปฏินิสฺสคฺคาย, อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ ทิฏฺฐธมฺมสุขวิหารตฺถํ.
โลกุตฺตรํ สุตฺตํ สตฺตาธิฏฺฐานํ ฉพฺพีสติยา ปุคฺคเลหิ นิทฺทิสิตพฺพํ, เต ตีหิ สุตฺเตหิ สมเนฺวสิตพฺพา ทสฺสนภาคิเยน ภาวนาภาคิเยน อเสกฺขภาคิเยน จาติ.
ตตฺถ ทสฺสนภาคิยํ สุตฺตํ ปญฺจหิ ปุคฺคเลหิ นิทฺทิสิตพฺพํ เอกพีชินา โกลํโกเลน สตฺตกฺขตฺตุปรเมน สทฺธานุสารินา ธมฺมานุสารินา จาติ, ทสฺสนภาคิยํ สุตฺตํ อิเมหิ ปญฺจหิ ปุคฺคเลหิ นิทฺทิสิตพฺพํ. ภาวนาภาคิยํ สุตฺตํ ทฺวาทสหิ ปุคฺคเลหิ นิทฺทิสิตพฺพํ สกทาคามิผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺเนน, สกทาคามินา, อนาคามิผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺเนน, อนาคามินา, อนฺตรา ปรินิพฺพายินา, อุปหจฺจ ปรินิพฺพายินา, อสงฺขารปรินิพฺพายินา, สสงฺขารปรินิพฺพายินา, อุทฺธํโสเตน อกนิฏฺฐคามินา, สทฺธาวิมุตฺเตน, ทิฏฺฐิปฺปตฺเตน, กายสกฺขินา จาติ, ภาวนาภาคิยํ สุตฺตํ อิเมหิ ทฺวาทสหิ ปุคฺคเลหิ นิทฺทิสิตพฺพํ. อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ นวหิ ปุคฺคเลหิ นิทฺทิสิตพฺพํ สทฺธาวิมุตฺเตน, ปญฺญาวิมุตฺเตน, สุญฺญตวิมุตฺเตน, อนิมิตฺตวิมุตฺเตน, อปฺปณิหิตวิมุตฺเตน, อุภโตภาควิมุตฺเตน สมสีสินา ปจฺเจกพุทฺธสมฺมาสมฺพุทฺเธหิ จาติ, อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ อิเมหิ นวหิ ปุคฺคเลหิ นิทฺทิสิตพฺพํ. เอวํ โลกุตฺตรํ สุตฺตํ สตฺตาธิฏฺฐานํ อิเมหิ ฉพฺพีสติยา ปุคฺคเลหิ นิทฺทิสิตพฺพํ.
โลกิยํ สุตฺตํ สตฺตาธิฏฺฐานํ เอกูนวีสติยา ปุคฺคเลหิ นิทฺทิสิตพฺพํ. เต จริเตหิ นิทฺทิฏฺฐา สมเนฺวสิตพฺพา เกจิ ราคจริตา, เกจิ โทสจริตา, เกจิ โมหจริตา, เกจิ ราคจริตา จ โทสจริตา จ, เกจิ ราคจริตา จ โมหจริตา จ, เกจิ โทสจริตา จ โมหจริตา จ, เกจิ ราคจริตา จ โทสจริตา จ โมหจริตา จ, ราคมุเข ฐิโต ราคจริโต, ราคมุเข ฐิโต โทสจริโต, ราคมุเข ฐิโต โมหจริโต, ราคมุเข ฐิโต ราคจริโต จ โทสจริโต จ โมหจริโต จ, โทสมุเข ฐิโต โทสจริโต, โทสมุเข ฐิโต โมหจริโต, โทสมุเข ฐิโต ราคจริโต, โทสมุเข ฐิโต ราคจริโต จ โทสจริโต จ โมหจริโต จ, โมหมุเข ฐิโต โมหจริโต, โมหมุเข ฐิโต ราคจริโต โมหมุเข ฐิโต โทสจริโต, โมหมุเข ฐิโต ราคจริโต จ โทสจริโต จ โมหจริโต จาติ, โลกิยํ สุตฺตํ สตฺตาธิฏฺฐานํ อิเมหิ เอกูนวีสติยา ปุคฺคเลหิ นิทฺทิสิตพฺพํ.
วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ สีลวนฺเตหิ นิทฺทิสิตพฺพํ, เต สีลวนฺโต ปญฺจ ปุคฺคลา ปกติสีลํ สมาทานสีลํ จิตฺตปฺปสาโท สมโถ วิปสฺสนา จาติ, วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ อิเมหิ ปญฺจหิ ปุคฺคเลหิ นิทฺทิสิตพฺพํ.
โลกุตฺตรํ สุตฺตํ ธมฺมาธิฏฺฐานํ ตีหิ สุตฺเตหิ นิทฺทิสิตพฺพํ ทสฺสนภาคิเยน ภาวนาภาคิเยน อเสกฺขภาคิเยน จ.
โลกิยญฺจ โลกุตฺตรญฺจ สตฺตาธิฏฺฐานญฺจ ธมฺมาธิฏฺฐานญฺจ อุภเยน นิทฺทิสิตพฺพํ, ญาณํ ปญฺญาย นิทฺทิสิตพฺพํ ปญฺญินฺทฺริเยน ปญฺญาพเลน อธิปญฺญาสิกฺขาย ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺเคน สมฺมาทิฏฺฐิยา ตีรณาย สนฺตีรณาย ธมฺเม ญาเณน อนฺวเย ญาเณน ขเย ญาเณน อนุปฺปาเท ญาเณน อนญฺญาตญฺญสฺสามีตินฺทฺริเยน อญฺญินฺทฺริเยน อญฺญาตาวินฺทฺริเยน จกฺขุนา วิชฺชาย พุทฺธิยา ภูริยา เมธาย, ยํ ยํ วา ปน ลพฺภติ, เตน เตน ปญฺญาธิวจเนน นิทฺทิสิตพฺพํ.
เญยฺยํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺเนหิ อชฺฌตฺติกพาหิเรหิ หีนปฺปณีเตหิ ทูรสนฺติเกหิ สงฺขตาสงฺขเตหิ กุสลากุสลาพฺยากเตหิ สงฺเขปโต วา ฉหิ อารมฺมเณหิ นิทฺทิสิตพฺพํ. ญาณญฺจ เญยฺยญฺจ ตทุภเยน นิทฺทิสิตพฺพํ, ปญฺญาปิ อารมฺมณภูตา เญยฺยํ, ยํ กิญฺจิ อารมฺมณภูตํ อชฺฌตฺติกํ วา พาหิรํ วา, สพฺพํ ตํ สงฺขเตน อสงฺขเตน จ นิทฺทิสิตพฺพํ.
ทสฺสนํ ภาวนา สกวจนํ ปรวจนํ วิสชฺชนียํ อวิสชฺชนียํ กมฺมํ วิปาโกติ สพฺพตฺถ ตทุภยํ สุตฺเต ยถา นิทฺทิฏฺฐํ, ตถา อุปธารยิตฺวา ลพฺภมานโต นิทฺทิสิตพฺพํ, ยํ วา ปน กิญฺจิ ภควา อญฺญตรวจนํ ภาสติ, สพฺพํ ตํ ยถานิทฺทิฏฺฐํ ธารยิตพฺพํ.
ทุวิโธ เหตุ ยญฺจ กมฺมํ เย จ กิเลสา, สมุทโย กิเลสา. ตตฺถ กิเลสา สํกิเลสภาคิเยน สุตฺเตน นิทฺทิสิตพฺพา. สมุทโย สํกิเลสภาคิเยน จ วาสนาภาคิเยน จ สุตฺเตน นิทฺทิสิตพฺโพ. ตตฺถ กุสลํ จตูหิ สุตฺเตหิ นิทฺทิสิตพฺพํ วาสนาภาคิเยน ทสฺสนภาคิเยน ภาวนาภาคิเยน อเสกฺขภาคิเยน จ. อกุสลํ สํกิเลสภาคิเยน สุตฺเตน นิทฺทิสิตพฺพํ. กุสลญฺจ อกุสลญฺจ ตทุภเยน นิทฺทิสิตพฺพํ. อนุญฺญาตํ ภควโต อนุญฺญาตาย นิทฺทิสิตพฺพํ, ตํ ปญฺจวิธํ สํวโร ปหานํ ภาวนา สจฺฉิกิริยา กปฺปิยานุโลโมติ, ยํ ทิสฺสติ ตาสุ ตาสุ ภูมีสุ, ตํ กปฺปิยานุโลเมน นิทฺทิสิตพฺพํ. ปฏิกฺขิตฺตํ ภควตา ปฏิกฺขิตฺตการเณน นิทฺทิสิตพฺพํ. อนุญฺญาตญฺจ ปฏิกฺขิตฺตญฺจ ตทุภเยน นิทฺทิสิตพฺพํ. ถโว ปสํสาย นิทฺทิสิตพฺโพ. โส ปญฺจวิเธน เวทิตพฺโพ ภควโต ธมฺมสฺส อริยสํฆสฺส อริยธมฺมานํ สิกฺขาย โลกิยคุณสมฺปตฺติยาติ. เอวํ ถโว ปญฺจวิเธน นิทฺทิสิตพฺโพ.
อินฺทฺริยภูมิ นวหิ ปเทหิ นิทฺทิสิตพฺพา, กิเลสภูมิ นวหิ ปเทหิ นิทฺทิสิตพฺพา, เอวเมตานิ อฏฺฐารส ปทานิ โหนฺติ นว ปทานิ กุสลานิ นว ปทานิ อกุสลานีติ, ตถาหิ วุตฺตํ “อฏฺฐารส มูลปทา กุหิํ ทฏฺฐพฺพา, สาสนปฺปฏฺฐาเน”ติ. เตนาห อายสฺมา มหากจฺจายโน—
“นวหิ จ ปเทหิ กุสลา,
นวหิ จ ยุชฺชนฺติ อกุสลปกฺขา;
เอเต โข มูลปทา,
ภวนฺติ อฏฺฐารส ปทานี”ติ.
นิยุตฺตํ สาสนปฺปฏฺฐานํ.
เอตฺตาวตา สมตฺตา เนตฺติ ยา อายสฺมตา มหากจฺจายเนน ภาสิตา ภควตา อนุโมทิตา มูลสงฺคีติยํ สงฺคีตาติ.