1.10 ขลฺลาฏิยเปติวตฺถุ
“กา นุ อนฺโตวิมานสฺมิํ,
ติฏฺฐนฺตี นูปนิกฺขมิ;
อุปนิกฺขมสฺสุ ภทฺเท,_
ปสฺสาม ตํ พหิฏฺฐิตนฺ”ติ.
“อฏฺฏียามิ หรายามิ,
นคฺคา นิกฺขมิตุํ พหิ;
เกเสหมฺหิ ปฏิจฺฉนฺนา,
ปุญฺญํ เม อปฺปกํ กตนฺ”ติ.
“หนฺทุตฺตรียํ ททามิ เต,
อิทํ ทุสฺสํ นิวาสย;_
อิทํ ทุสฺสํ นิวาเสตฺวา,_
เอหิ นิกฺขม โสภเน;
อุปนิกฺขมสฺสุ ภทฺเท,_
ปสฺสาม ตํ พหิฏฺฐิตนฺ”ติ.
“หตฺเถน หตฺเถ เต ทินฺนํ,
น มยฺหํ อุปกปฺปติ;
เอเสตฺถุปาสโก สทฺโธ,
สมฺมาสมฺพุทฺธสาวโก.
เอตํ อจฺฉาทยิตฺวาน,
มม ทกฺขิณมาทิส;
ตถาหํ สุขิตา เหสฺสํ,
สพฺพกามสมิทฺธินี”ติ.
ตญฺจ เต นฺหาปยิตฺวาน,
วิลิมฺเปตฺวาน วาณิชา;
วตฺเถหจฺฉาทยิตฺวาน,
ตสฺสา ทกฺขิณมาทิสุํ.
สมนนฺตรานุทฺทิฏฺเฐ,
วิปาโก อุทปชฺชถ;
โภชนจฺฉาทนปานียํ,
ทกฺขิณาย อิทํ ผลํ.
ตโต สุทฺธา สุจิวสนา,
กาสิกุตฺตมธารินี;
หสนฺตี วิมานา นิกฺขมิ,
ทกฺขิณาย อิทํ ผลนฺติ.
“สุจิตฺตรูปํ รุจิรํ,
วิมานํ เต ปภาสติ;
เทวเต ปุจฺฉิตาจิกฺข,
กิสฺส กมฺมสฺสิทํ ผลนฺ”ติ.
“ภิกฺขุโน จรมานสฺส,
โทณินิมฺมชฺชนิํ อหํ;
อทาสิํ อุชุภูตสฺส,
วิปฺปสนฺเนน เจตสา.
ตสฺส กมฺมสฺส กุสลสฺส,
วิปากํ ทีฆมนฺตรํ;
อนุโภมิ วิมานสฺมิํ,
ตญฺจ ทานิ ปริตฺตกํ.
อุทฺธํ จตูหิ มาเสหิ,_
กาลกิริยา ภวิสฺสติ;
เอกนฺตกฏุกํ โฆรํ,
นิรยํ ปปติสฺสหํ.
จตุกฺกณฺณํ จตุทฺวารํ,
วิภตฺตํ ภาคโส มิตํ;
อโยปาการปริยนฺตํ,
อยสา ปฏิกุชฺชิตํ.
ตสฺส อโยมยา ภูมิ,
ชลิตา เตชสา ยุตา;
สมนฺตา โยชนสตํ,
ผริตฺวา ติฏฺฐติ สพฺพทา.
ตตฺถาหํ ทีฆมทฺธานํ,
ทุกฺขํ เวทิสฺส เวทนํ;
ผลญฺจ ปาปกมฺมสฺส,
ตสฺมา โสจามหํ ภุสนฺ”ติ.
ขลฺลาฏิยเปติวตฺถุ ทสมํ.