1.11 นาคเปตวตฺถุ
“ปุรโตว เสเตน ปเลติ หตฺถินา,
มชฺเฌ ปน อสฺสตรีรเถน;
ปจฺฉา จ กญฺญา สิวิกาย นียติ,
โอภาสยนฺตี ทส สพฺพโส ทิสา.
ตุมฺเห ปน มุคฺครหตฺถปาณิโน,
รุทมฺมุขา ฉินฺนปภินฺนคตฺตา;
มนุสฺสภูตา กิมกตฺถ ปาปํ,
เยนญฺญมญฺญสฺส ปิวาถ โลหิตนฺ”ติ.
“ปุรโตว โย คจฺฉติ กุญฺชเรน,
เสเตน นาเคน จตุกฺกเมน;
อมฺหาก ปุตฺโต อหุ เชฏฺฐโก โส,
ทานานิ ทตฺวาน สุขี ปโมทติ.
โย โส มชฺเฌ อสฺสตรีรเถน,
จตุพฺภิ ยุตฺเตน สุวคฺคิเตน;
อมฺหาก ปุตฺโต อหุ มชฺฌิโม โส,
อมจฺฉรี ทานวตี วิโรจติ.
ยา สา จ ปจฺฉา สิวิกาย นียติ,
นารี สปญฺญา มิคมนฺทโลจนา;
อมฺหาก ธีตา อหุ สา กนิฏฺฐิกา,
ภาคฑฺฒภาเคน สุขี ปโมทติ.
เอเต จ ทานานิ อทํสุ ปุพฺเพ,
ปสนฺนจิตฺตา สมณพฺราหฺมณานํ;
มยํ ปน มจฺฉริโน อหุมฺห,
ปริภาสกา สมณพฺราหฺมณานํ;
เอเต จ ทตฺวา ปริจารยนฺติ,
มยญฺจ สุสฺสาม นโฬว ฉินฺโน”ติ.
“กิํ ตุมฺหากํ โภชนํ กิํ สยานํ,
กถญฺจ ยาเปถ สุปาปธมฺมิโน;
ปหูตโภเคสุ อนปฺปเกสุ,
สุขํ วิราธาย ทุกฺขชฺช ปตฺตา”ติ.
“อญฺญมญฺญํ วธิตฺวาน,
ปิวาม ปุพฺพโลหิตํ;
พหุํ ปิตฺวา น ธาตา โหม,
นจฺฉาทิมฺหเส มยํ.
อิจฺเจว มจฺจา ปริเทวยนฺติ,_
อทายกา เปจฺจ ยมสฺส ฐายิโน;
เย เต วิทิจฺจ อธิคมฺม โภเค,
น ภุญฺชเร นาปิ กโรนฺติ ปุญฺญํ.
เต ขุปฺปิปาสูปคตา ปรตฺถ,
ปจฺฉา จิรํ ฌายเร ฑยฺหมานา;
กมฺมานิ กตฺวาน ทุขุทฺรานิ,
อนุโภนฺติ ทุกฺขํ กฏุกปฺผลานิ.
อิตฺตรํ หิ ธนํ ธญฺญํ,_
อิตฺตรํ อิธ ชีวิตํ;_
อิตฺตรํ อิตฺตรโต ญตฺวา,_
ทีปํ กยิราถ ปณฺฑิโต.
เย เต เอวํ ปชานนฺติ,
นรา ธมฺมสฺส โกวิทา;
เต ทาเน นปฺปมชฺชนฺติ,
สุตฺวา อรหตํ วโจ”ติ.
นาคเปตวตฺถุ เอกาทสมํ.