1.6 ปญฺจปุตฺตขาทเปติวตฺถุ
“นคฺคา ทุพฺพณฺณรูปาสิ,
ทุคฺคนฺธา ปูติ วายสิ;
มกฺขิกาหิ ปริกิณฺณา,
กา นุ ตฺวํ อิธ ติฏฺฐสี”ติ.
“อหํ ภทนฺเต เปตีมฺหิ,
ทุคฺคตา ยมโลกิกา;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน,
เปตโลกํ อิโต คตา.
กาเลน ปญฺจ ปุตฺตานิ,
สายํ ปญฺจ ปุนาปเร;
วิชายิตฺวาน ขาทามิ,
เตปิ นา โหนฺติ เม อลํ.
ปริฑยฺหติ ธูมายติ,
ขุทาย หทยํ มม;
ปานียํ น ลเภ ปาตุํ,
ปสฺส มํ พฺยสนํ คตนฺ”ติ.
“กิํ นุ กาเยน วาจาย,
มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;
กิสฺส กมฺมวิปาเกน,
ปุตฺตมํสานิ ขาทสี”ติ.
“สปตี เม คพฺภินี อาสิ,
ตสฺสา ปาปํ อเจตยิํ;
สาหํ ปทุฏฺฐมนสา,
อกริํ คพฺภปาตนํ.
ตสฺสา ทฺเวมาสิโก คพฺโภ,
โลหิตญฺเญว ปคฺฆริ;
ตทสฺสา มาตา กุปิตา,
มยฺหํ ญาตี สมานยิ;
สปถญฺจ มํ กาเรสิ,
ปริภาสาปยี จ มํ.
สาหํ โฆรญฺจ สปถํ,
มุสาวาทํ อภาสิสํ;
ปุตฺตมํสานิ ขาทามิ,
สเจ ตํ ปกตํ มยา.
ตสฺส กมฺมสฺส วิปาเกน,
มุสาวาทสฺส จูภยํ;
ปุตฺตมํสานิ ขาทามิ,
ปุพฺพโลหิตมกฺขิตา”ติ.
ปญฺจปุตฺตขาทเปติวตฺถุ ฉฏฺฐํ.