2.4 นนฺทาเปติวตฺถุ
“กาฬี ทุพฺพณฺณรูปาสิ,
ผรุสา ภีรุทสฺสนา;
ปิงฺคลาสิ กฬาราสิ,
น ตํ มญฺญามิ มานุสินฺ”ติ.
“อหํ นนฺทา นนฺทิเสน,
ภริยา เต ปุเร อหุํ;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน,
เปตโลกํ อิโต คตา”ติ.
“กิํ นุ กาเยน วาจาย,
มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;
กิสฺส กมฺมวิปาเกน,
เปตโลกํ อิโต คตา”ติ.
“จณฺฑี จ ผรุสา จาสิํ,
ตยิ จาปิ อคารวา;
ตาหํ ทุรุตฺตํ วตฺวาน,
เปตโลกํ อิโต คตา”ติ.
“หนฺทุตฺตรียํ ททามิ เต,
อิมํ ทุสฺสํ นิวาสย;_
อิมํ ทุสฺสํ นิวาเสตฺวา,_
เอหิ เนสฺสามิ ตํ ฆรํ.
วตฺถญฺจ อนฺนปานญฺจ,
ลจฺฉสิ ตฺวํ ฆรํ คตา;
ปุตฺเต จ เต ปสฺสิสฺสสิ,
สุณิสาโย จ ทกฺขสี”ติ.
“หตฺเถน หตฺเถ เต ทินฺนํ,
น มยฺหํ อุปกปฺปติ;
ภิกฺขู จ สีลสมฺปนฺเน,
วีตราเค พหุสฺสุเต.
ตปฺเปหิ อนฺนปาเนน,
มม ทกฺขิณมาทิส;
ตทาหํ สุขิตา เหสฺสํ,
สพฺพกามสมิทฺธินี”ติ.
สาธูติ โส ปฏิสฺสุตฺวา,
ทานํ วิปุลมากิริ;
อนฺนํ ปานํ ขาทนียํ,
วตฺถเสนาสนานิ จ;
ฉตฺตํ คนฺธญฺจ มาลญฺจ,
วิวิธา จ อุปาหนา.
ภิกฺขู จ สีลสมฺปนฺเน,
วีตราเค พหุสฺสุเต;
ตปฺเปตฺวา อนฺนปาเนน,
ตสฺสา ทกฺขิณมาทิสี.
สมนนฺตรานุทฺทิฏฺเฐ,
วิปาโก อุทปชฺชถ;
โภชนจฺฉาทนปานียํ,
ทกฺขิณาย อิทํ ผลํ.
ตโต สุทฺธา สุจิวสนา,
กาสิกุตฺตมธารินี;
วิจิตฺตวตฺถาภรณา,
สามิกํ อุปสงฺกมิ.
“อภิกฺกนฺเตน วณฺเณน,
ยา ตฺวํ ติฏฺฐสิ เทวเต;
โอภาเสนฺตี ทิสา สพฺพา,
โอสธี วิย ตารกา.
เกน เตตาทิโส วณฺโณ,
เกน เต อิธ มิชฺฌติ;
อุปฺปชฺชนฺติ จ เต โภคา,_
เย เกจิ มนโส ปิยา.
ปุจฺฉามิ ตํ เทวิ มหานุภาเว,
มนุสฺสภูตา กิมกาสิ ปุญฺญํ;
เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาวา,
วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี”ติ.
“อหํ นนฺทา นนฺทิเสน,
ภริยา เต ปุเร อหุํ;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน,
เปตโลกํ อิโต คตา.
ตว ทินฺเนน ทาเนน,
โมทามิ อกุโตภยา;
จิรํ ชีว คหปติ,
สห สพฺเพหิ ญาติภิ;
อโสกํ วิรชํ เขมํ,
อาวาสํ วสวตฺตินํ.
อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน,_
ทานํ ทตฺวา คหปติ;
วิเนยฺย มจฺเฉรมลํ สมูลํ,
อนินฺทิโต สคฺคมุเปหิ ฐานนฺ”ติ.
นนฺทาเปติวตฺถุ จตุตฺถํ.