2.6 กณฺหเปตวตฺถุ
“อุฏฺเฐหิ กณฺห กิํ เสสิ,
โก อตฺโถ สุปเนน เต;
โย จ ตุยฺหํ สโก ภาตา,
หทยํ จกฺขุ จ ทกฺขิณํ;
ตสฺส วาตา พลียนฺติ,
สสํ ชปฺปติ เกสวา”ติ.
“ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา,
โรหิเณยฺยสฺส เกสโว;
ตรมานรูโป วุฏฺฐาสิ,
ภาตุโสเกน อฏฺฏิโต.
กิํ นุ อุมฺมตฺตรูโปว,
เกวลํ ทฺวารกํ อิมํ;
สโส สโสติ ลปสิ,
กีทิสํ สสมิจฺฉสิ.
โสวณฺณมยํ มณิมยํ,
โลหมยํ อถ รูปิยมยํ;
สงฺขสิลาปวาฬมยํ,
การยิสฺสามิ เต สสํ.
สนฺติ อญฺเญปิ สสกา,
อรญฺญวนโคจรา;
เตปิ เต อานยิสฺสามิ,
กีทิสํ สสมิจฺฉสี”ติ.
“นาหเมเต สเส อิจฺเฉ,
เย สสา ปถวิสฺสิตา;
จนฺทโต สสมิจฺฉามิ,
ตํ เม โอหร เกสวา”ติ.
“โส นูน มธุรํ ญาติ,
ชีวิตํ วิชหิสฺสสิ;
อปตฺถิยํ ปตฺถยสิ,
จนฺทโต สสมิจฺฉสี”ติ.
“เอวญฺเจ กณฺห ชานาสิ,
ยถญฺญมนุสาสสิ;
กสฺมา ปุเร มตํ ปุตฺตํ,
อชฺชาปิ มนุโสจสิ.
น ยํ ลพฺภา มนุเสฺสน,
อมนุเสฺสน วา ปน;
ชาโต เม มา มริ ปุตฺโต,
กุโต ลพฺภา อลพฺภิยํ.
น มนฺตา มูลเภสชฺชา,
โอสเธหิ ธเนน วา;
สกฺกา อานยิตุํ กณฺห,
ยํ เปตมนุโสจสิ.
มหทฺธนา มหาโภคา,
รฏฺฐวนฺโตปิ ขตฺติยา;
ปหูตธนธญฺญาเส,
เตปิ โน อชรามรา.
ขตฺติยา พฺราหฺมณา เวสฺสา,
สุทฺทา จณฺฑาลปุกฺกุสา;
เอเต จญฺเญ จ ชาติยา,
เตปิ โน อชรามรา.
เย มนฺตํ ปริวตฺเตนฺติ,
ฉฬงฺคํ พฺรหฺมจินฺติตํ;
เอเต จญฺเญ จ วิชฺชาย,
เตปิ โน อชรามรา.
อิสโย วาปิ เย สนฺตา,_
สญฺญตตฺตา ตปสฺสิโน;
สรีรํ เตปิ กาเลน,
วิชหนฺติ ตปสฺสิโน.
ภาวิตตฺตา อรหนฺโต,
กตกิจฺจา อนาสวา;
นิกฺขิปนฺติ อิมํ เทหํ,
ปุญฺญปาปปริกฺขยา”ติ.
“อาทิตฺตํ วต มํ สนฺตํ,
ฆตสิตฺตํว ปาวกํ;
วารินา วิย โอสิญฺจํ,
สพฺพํ นิพฺพาปเย ทรํ.
อพฺพหี วต เม สลฺลํ,
โสกํ หทยนิสฺสิตํ;
โย เม โสกปเรตสฺส,
ปุตฺตโสกํ อปานุทิ.
สฺวาหํ อพฺพูฬฺหสโลฺลสฺมิ,
สีติภูโตสฺมิ นิพฺพุโต;
น โสจามิ น โรทามิ,
ตว สุตฺวาน ภาติก”.
เอวํ กโรนฺติ สปฺปญฺญา,
เย โหนฺติ อนุกมฺปกา;
นิวตฺตยนฺติ โสกมฺหา,
ฆโฏ เชฏฺฐํว ภาตรํ.
ยสฺส เอตาทิสา โหนฺติ,
อมจฺจา ปริจารกา;
สุภาสิเตน อเนฺวนฺติ,
ฆโฏ เชฏฺฐํว ภาตรนฺติ.
กณฺหเปตวตฺถุ ฉฏฺฐํ.