2.8 จูฬเสฏฺฐิเปตวตฺถุ
“นคฺโค กิโส ปพฺพชิโตสิ ภนฺเต,
รตฺติํ กุหิํ คจฺฉสิ กิสฺส เหตุ;
อาจิกฺข เม ตํ อปิ สกฺกุเณมุ,
สพฺเพน วิตฺตํ ปฏิปาทเย ตุวนฺ”ติ.
“พาราณสี นครํ ทูรฆุฏฺฐํ,
ตตฺถาหํ คหปติ อฑฺฒโก อหุ ทีโน;
อทาตา เคธิตมโน อามิสสฺมิํ,
ทุสฺสีเลฺยน ยมวิสยมฺหิ ปตฺโต.
โส สูจิกาย กิลมิโต เตหิ,
เตเนว ญาตีสุ ยามิ อามิสกิญฺจิกฺขเหตุ;
อทานสีลา น จ สทฺทหนฺติ,
ทานผลํ โหติ ปรมฺหิ โลเก.
ธีตา จ มยฺหํ ลปเต อภิกฺขณํ,
‘ทสฺสามิ ทานํ ปิตูนํ ปิตามหานํ’;
ตมุปกฺขฏํ ปริวิสยนฺติ พฺราหฺมณา,
‘ยามิ อหํ อนฺธกวินฺทํ โภตฺตุนฺ’”ติ.
ตมโวจ ราชา “อนุภวิยาน ตมฺปิ,
เอยฺยาสิ ขิปฺปํ อหมปิ กสฺสํ ปูชํ;
อาจิกฺข เม ตํ ยทิ อตฺถิ เหตุ,
สทฺธายิตํ เหตุวโจ สุโณมา”ติ.
“ตถา”ติ วตฺวา อคมาสิ ตตฺถ,
ภุญฺชิํสุ ภตฺตํ น จ ทกฺขิณารหา;
ปจฺจาคมิ ราชคหํ ปุนาปรํ,
ปาตุรโหสิ ปุรโต ชนาธิปสฺส.
ทิสฺวาน เปตํ ปุนเทว อาคตํ,
ราชา อโวจ “อหมปิ กิํ ททามิ;
อาจิกฺข เม ตํ ยทิ อตฺถิ เหตุ,
เยน ตุวํ จิรตรํ ปีณิโต สิยา”ติ.
“พุทฺธญฺจ สํฆํ ปริวิสิยาน ราช,
อนฺเนน ปาเนน จ จีวเรน;
ตํ ทกฺขิณํ อาทิส เม หิตาย,
เอวํ อหํ จิรตรํ ปีณิโต สิยา”ติ.
ตโต จ ราชา นิปติตฺวา ตาวเท,
ทานํ สหตฺถา อตุลํ ททิตฺวา สํเฆ;
อาโรเจสิ ปกตํ ตถาคตสฺส,
ตสฺส จ เปตสฺส ทกฺขิณํ อาทิสิตฺถ.
โส ปูชิโต อติวิย โสภมาโน,
ปาตุรโหสิ ปุรโต ชนาธิปสฺส;
“ยกฺโขหมสฺมิ ปรมิทฺธิปตฺโต,
น มยฺหมตฺถิ สมา สทิสา มานุสา.
ปสฺสานุภาวํ อปริมิตํ มมยิทํ,
ตยานุทิฏฺฐํ อตุลํ ทตฺวา สํเฆ;
สนฺตปฺปิโต สตตํ สทา พหูหิ,
ยามิ อหํ สุขิโต มนุสฺสเทวา”ติ.
จูฬเสฏฺฐิเปตวตฺถุ อฏฺฐมํ.
ภาณวารํ ปฐมํ.