2.9 องฺกุรเปตวตฺถุ
“ยสฺส อตฺถาย คจฺฉาม,
กมฺโพชํ ธนหารกา;
อยํ กามทโท ยกฺโข,
อิมํ ยกฺขํ นยามเส._
อิมํ ยกฺขํ คเหตฺวาน,_
สาธุเกน ปสยฺห วา;
ยานํ อาโรปยิตฺวาน,
ขิปฺปํ คจฺฉาม ทฺวารกนฺ”ติ.
“ยสฺส รุกฺขสฺส ฉายาย,
นิสีเทยฺย สเยยฺย วา;
น ตสฺส สาขํ ภญฺเชยฺย,
มิตฺตทุพฺโภ หิ ปาปโก”ติ.
“ยสฺส รุกฺขสฺส ฉายาย,
นิสีเทยฺย สเยยฺย วา;
ขนฺธมฺปิ ตสฺส ฉินฺเทยฺย,
อตฺโถ เจ ตาทิโส สิยา”ติ.
“ยสฺส รุกฺขสฺส ฉายาย,
นิสีเทยฺย สเยยฺย วา;
น ตสฺส ปตฺตํ ภินฺเทยฺย,
มิตฺตทุพฺโภ หิ ปาปโก”ติ.
“ยสฺส รุกฺขสฺส ฉายาย,
นิสีเทยฺย สเยยฺย วา;
สมูลมฺปิ ตํ อพฺพุเห,
อตฺโถ เจ ตาทิโส สิยา”ติ.
“ยเสฺสกรตฺติมฺปิ ฆเร วเสยฺย,
ยตฺถนฺนปานํ ปุริโส ลเภถ;
น ตสฺส ปาปํ มนสาปิ จินฺตเย,
กตญฺญุตา สปฺปุริเสหิ วณฺณิตา.
ยเสฺสกรตฺติมฺปิ ฆเร วเสยฺย,
อนฺเนน ปาเนน อุปฏฺฐิโต สิยา;
น ตสฺส ปาปํ มนสาปิ จินฺตเย,
อทุพฺภปาณี ทหเต มิตฺตทุพฺภิํ.
โย ปุพฺเพ กตกลฺยาโณ,
ปจฺฉา ปาเปน หิํสติ;
อลฺลปาณิหโต โปโส,
น โส ภทฺรานิ ปสฺสตี”ติ.
“นาหํ เทเวน วา มนุเสฺสน วา,
อิสฺสริเยน วาหํ สุปฺปสโยฺห;_
ยกฺโขหมสฺมิ ปรมิทฺธิปตฺโต,
ทูรงฺคโม วณฺณพลูปปนฺโน”ติ.
“ปาณิ เต สพฺพโส วณฺโณ,
ปญฺจธาโร มธุสฺสโว;
นานารสา ปคฺฆรนฺติ,
มญฺเญหํ ตํ ปุรินฺททนฺ”ติ.
“นามฺหิ เทโว น คนฺธพฺโพ,
นาปิ สกฺโก ปุรินฺทโท;
เปตํ มํ องฺกุร ชานาหิ,
โรรุวมฺหา อิธาคตนฺ”ติ.
“กิํสีโล กิํสมาจาโร,
โรรุวสฺมิํ ปุเร ตุวํ;
เกน เต พฺรหฺมจริเยน,
ปุญฺญํ ปาณิมฺหิ อิชฺฌตี”ติ.
“ตุนฺนวาโย ปุเร อาสิํ,
โรรุวสฺมิํ ตทา อหํ;
สุกิจฺฉวุตฺติ กปโณ,
น เม วิชฺชติ ทาตเว.
นิเวสนญฺจ เม อาสิ,
อสยฺหสฺส อุปนฺติเก;
สทฺธสฺส ทานปติโน,
กตปุญฺญสฺส ลชฺชิโน.
ตตฺถ ยาจนกายนฺติ,
นานาโคตฺตา วนิพฺพกา;
เต จ มํ ตตฺถ ปุจฺฉนฺติ,
อสยฺหสฺส นิเวสนํ.
กตฺถ คจฺฉาม ภทฺทํ โว,
กตฺถ ทานํ ปทียติ;
เตสาหํ ปุฏฺโฐ อกฺขามิ,
อสยฺหสฺส นิเวสนํ.
ปคฺคยฺห ทกฺขิณํ พาหุํ,
เอตฺถ คจฺฉถ ภทฺทํ โว;
เอตฺถ ทานํ ปทียติ,
อสยฺหสฺส นิเวสเน.
เตน ปาณิ กามทโท,
เตน ปาณิ มธุสฺสโว;
เตน เม พฺรหฺมจริเยน,
ปุญฺญํ ปาณิมฺหิ อิชฺฌตี”ติ.
“น กิร ตฺวํ อทา ทานํ,
สกปาณีหิ กสฺสจิ;
ปรสฺส ทานํ อนุโมทมาโน,
ปาณิํ ปคฺคยฺห ปาวทิ.
เตน ปาณิ กามทโท,
เตน ปาณิ มธุสฺสโว;
เตน เต พฺรหฺมจริเยน,
ปุญฺญํ ปาณิมฺหิ อิชฺฌติ.
โย โส ทานมทา ภนฺเต,
ปสนฺโน สกปาณิภิ;
โส หิตฺวา มานุสํ เทหํ,
กิํ นุ โส ทิสตํ คโต”ติ.
“นาหํ ปชานามิ อสยฺหสาหิโน,
องฺคีรสสฺส คติํ อาคติํ วา;
สุตญฺจ เม เวสฺสวณสฺส สนฺติเก,
สกฺกสฺส สหพฺยตํ คโต อสโยฺห”ติ.
“อลเมว กาตุํ กลฺยาณํ,
ทานํ ทาตุํ ยถารหํ;
ปาณิํ กามททํ ทิสฺวา,
โก ปุญฺญํ น กริสฺสติ.
โส หิ นูน อิโต คนฺตฺวา,
อนุปฺปตฺวาน ทฺวารกํ;
ทานํ ปฏฺฐปยิสฺสามิ,
ยํ มมสฺส สุขาวหํ.
ทสฺสามนฺนญฺจ ปานญฺจ,
วตฺถเสนาสนานิ จ;
ปปญฺจ อุทปานญฺจ,
ทุคฺเค สงฺกมนานิ จา”ติ.
“เกน เต องฺคุลี กุณา,
มุขญฺจ กุณลีกตํ;
อกฺขีนิ จ ปคฺฆรนฺติ,
กิํ ปาปํ ปกตํ ตยา”ติ.
“องฺคีรสสฺส คหปติโน,
สทฺธสฺส ฆรเมสิโน;
ตสฺสาหํ ทานวิสฺสคฺเค,
ทาเน อธิกโต อหุํ.
ตตฺถ ยาจนเก ทิสฺวา,
อาคเต โภชนตฺถิเก;
เอกมนฺตํ อปกฺกมฺม,
อกาสิํ กุณลิํ มุขํ.
เตน เม องฺคุลี กุณา,
มุขญฺจ กุณลีกตํ;
อกฺขีนิ เม ปคฺฆรนฺติ,
ตํ ปาปํ ปกตํ มยา”ติ.
“ธมฺเมน เต กาปุริส,
มุขญฺจ กุณลีกตํ;
อกฺขีนิ จ ปคฺฆรนฺติ,
ยํ ตํ ปรสฺส ทานสฺส;
อกาสิ กุณลิํ มุขํ.
กถํ หิ ทานํ ททมาโน,
กเรยฺย ปรปตฺติยํ;
อนฺนํ ปานํ ขาทนียํ,
วตฺถเสนาสนานิ จ.
โส หิ นูน อิโต คนฺตฺวา,
อนุปฺปตฺวาน ทฺวารกํ;
ทานํ ปฏฺฐปยิสฺสามิ,
ยํ มมสฺส สุขาวหํ.
ทสฺสามนฺนญฺจ ปานญฺจ,
วตฺถเสนาสนานิ จ;
ปปญฺจ อุทปานญฺจ,
ทุคฺเค สงฺกมนานิ จา”ติ.
ตโต หิ โส นิวตฺติตฺวา,
อนุปฺปตฺวาน ทฺวารกํ;
ทานํ ปฏฺฐปยิ องฺกุโร,
ยํตุมสฺส สุขาวหํ.
อทา อนฺนญฺจ ปานญฺจ,
วตฺถเสนาสนานิ จ;
ปปญฺจ อุทปานญฺจ,
วิปฺปสนฺเนน เจตสา.
โก ฉาโต โก จ ตสิโต,
โก วตฺถํ ปริทหิสฺสติ;
กสฺส สนฺตานิ โยคฺคานิ,
อิโต โยเชนฺตุ วาหนํ._
โก ฉตฺติจฺฉติ คนฺธญฺจ,
โก มาลํ โก อุปาหนํ;
อิติสฺสุ ตตฺถ โฆเสนฺติ,_
กปฺปกา สูทมาคธา;
สทา สายญฺจ ปาโต จ,
องฺกุรสฺส นิเวสเน.
“‘สุขํ สุปติ องฺกุโร’,
อิติ ชานาติ มํ ชโน;_
ทุกฺขํ สุปามิ สินฺธก,
ยํ น ปสฺสามิ ยาจเก.
‘สุขํ สุปติ องฺกุโร’,
อิติ ชานาติ มํ ชโน;_
ทุกฺขํ สินฺธก สุปามิ,
อปฺปเก สุ วนิพฺพเก”ติ.
“สกฺโก เจ เต วรํ ทชฺชา,
ตาวติํสานมิสฺสโร;
กิสฺส สพฺพสฺส โลกสฺส,
วรมาโน วรํ วเร”ติ.
“สกฺโก เจ เม วรํ ทชฺชา,
ตาวติํสานมิสฺสโร;
กาลุฏฺฐิตสฺส เม สโต,
สูริยุคฺคมนํ ปติ;
ทิพฺพา ภกฺขา ปาตุภเวยฺยุํ,
สีลวนฺโต จ ยาจกา.
ททโต เม น ขีเยถ,
ทตฺวา นานุตเปยฺยหํ;
ททํ จิตฺตํ ปสาเทยฺยํ,
เอตํ สกฺกํ วรํ วเร”ติ.
“น สพฺพวิตฺตานิ ปเร ปเวจฺเฉ,
ทเทยฺย ทานญฺจ ธนญฺจ รกฺเข;
ตสฺมา หิ ทานา ธนเมว เสโยฺย,
อติปฺปทาเนน กุลา น โหนฺติ.
อทานมติทานญฺจ,
นปฺปสํสนฺติ ปณฺฑิตา;
ตสฺมา หิ ทานา ธนเมว เสโยฺย,
สเมน วตฺเตยฺย ส ธีรธมฺโม”ติ.
“อโห วต เร อหเมว ทชฺชํ,
สนฺโต จ มํ สปฺปุริสา ภเชยฺยุํ;
เมโฆว นินฺนานิ ปริปูรยนฺโต,
สนฺตปฺปเย สพฺพวนิพฺพกานํ.
ยสฺส ยาจนเก ทิสฺวา,
มุขวณฺโณ ปสีทติ;
ทตฺวา อตฺตมโน โหติ,
ตํ ฆรํ วสโต สุขํ.
ยสฺส ยาจนเก ทิสฺวา,
มุขวณฺโณ ปสีทติ;
ทตฺวา อตฺตมโน โหติ,
เอสา ยญฺญสฺส สมฺปทา.
ปุพฺเพว ทานา สุมโน,
ททํ จิตฺตํ ปสาทเย;
ทตฺวา อตฺตมโน โหติ,
เอสา ยญฺญสฺส สมฺปทา”ติ.
สฏฺฐิ วาหสหสฺสานิ,
องฺกุรสฺส นิเวสเน;
โภชนํ ทียเต นิจฺจํ,
ปุญฺญเปกฺขสฺส ชนฺตุโน.
ติสหสฺสานิ สูทานิ หิ,
อามุตฺตมณิกุณฺฑลา;
องฺกุรํ อุปชีวนฺติ,
ทาเน ยญฺญสฺส วาวฏา.
สฏฺฐิ ปุริสสหสฺสานิ,
อามุตฺตมณิกุณฺฑลา;
องฺกุรสฺส มหาทาเน,
กฏฺฐํ ผาเลนฺติ มาณวา.
โสฬสิตฺถิสหสฺสานิ,
สพฺพาลงฺการภูสิตา;
องฺกุรสฺส มหาทาเน,
วิธา ปิณฺเฑนฺติ นาริโย.
โสฬสิตฺถิสหสฺสานิ,
สพฺพาลงฺการภูสิตา;
องฺกุรสฺส มหาทาเน,
ทพฺพิคาหา อุปฏฺฐิตา.
พหุํ พหูนํ ปาทาสิ,
จิรํ ปาทาสิ ขตฺติโย;
สกฺกจฺจญฺจ สหตฺถา จ,
จิตฺตีกตฺวา ปุนปฺปุนํ.
พหู มาเส จ ปกฺเข จ,
อุตุสํวจฺฉรานิ จ;_
มหาทานํ ปวตฺเตสิ,
องฺกุโร ทีฆมนฺตรํ.
เอวํ ทตฺวา ยชิตฺวา จ,
องฺกุโร ทีฆมนฺตรํ;
โส หิตฺวา มานุสํ เทหํ,
ตาวติํสูปโค อหุ.
กฏจฺฉุภิกฺขํ ทตฺวาน,
อนุรุทฺธสฺส อินฺทโก;
โส หิตฺวา มานุสํ เทหํ,
ตาวติํสูปโค อหุ.
ทสหิ ฐาเนหิ องฺกุรํ,
อินฺทโก อติโรจติ;_
รูเป สทฺเท รเส คนฺเธ,
โผฏฺฐพฺเพ จ มโนรเม.
อายุนา ยสสา เจว,
วณฺเณน จ สุเขน จ;
อาธิปจฺเจน องฺกุรํ,
อินฺทโก อติโรจติ._
( )
ตาวติํเส ยทา พุทฺโธ,
สิลายํ ปณฺฑุกมฺพเล;
ปาริจฺฉตฺตกมูลมฺหิ,
วิหาสิ ปุริสุตฺตโม.
ทสสุ โลกธาตูสุ,
สนฺนิปติตฺวาน เทวตา;
ปยิรุปาสนฺติ สมฺพุทฺธํ,
วสนฺตํ นคมุทฺธนิ.
น โกจิ เทโว วณฺเณน,
สมฺพุทฺธํ อติโรจติ;
สพฺเพ เทเว อติกฺกมฺม,
สมฺพุทฺโธว วิโรจติ.
โยชนานิ ทส ทฺเว จ,
องฺกุโรยํ ตทา อหุ;
อวิทูเรว พุทฺธสฺส,
อินฺทโก อติโรจติ._
โอโลเกตฺวาน สมฺพุทฺโธ,
องฺกุรญฺจาปิ อินฺทกํ;
ทกฺขิเณยฺยํ สมฺภาเวนฺโต,
อิทํ วจนมพฺรวิ._
“มหาทานํ ตยา ทินฺนํ,
องฺกุร ทีฆมนฺตรํ;
อติทูเร นิสินฺโนสิ,
อาคจฺฉ มม สนฺติเก”ติ.
โจทิโต ภาวิตตฺเตน,
องฺกุโร อิทมพฺรวิ;
“กิํ มยฺหํ เตน ทาเนน,
ทกฺขิเณเยฺยน สุญฺญตํ.
อยํ โส อินฺทโก ยกฺโข,
ทชฺชา ทานํ ปริตฺตกํ;
อติโรจติ อเมฺหหิ,
จนฺโท ตารคเณ ยถา”ติ.
“อุชฺชงฺคเล ยถา เขตฺเต,
พีชํ พหุมฺปิ โรปิตํ;
น วิปุลผลํ โหติ,
นปิ โตเสติ กสฺสกํ.
ตเถว ทานํ พหุกํ,
ทุสฺสีเลสุ ปติฏฺฐิตํ;
น วิปุลผลํ โหติ,
นปิ โตเสติ ทายกํ.
ยถาปิ ภทฺทเก เขตฺเต,
พีชํ อปฺปมฺปิ โรปิตํ;
สมฺมา ธารํ ปเวจฺฉนฺเต,
ผลํ โตเสติ กสฺสกํ.
ตเถว สีลวนฺเตสุ,
คุณวนฺเตสุ ตาทิสุ;
อปฺปกมฺปิ กตํ การํ,
ปุญฺญํ โหติ มหปฺผลนฺ”ติ.
วิเจยฺย ทานํ ทาตพฺพํ,
ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํ;
วิเจยฺย ทานํ ทตฺวาน,
สคฺคํ คจฺฉนฺติ ทายกา.
วิเจยฺย ทานํ สุคตปฺปสตฺถํ,
เย ทกฺขิเณยฺยา อิธ ชีวโลเก;
เอเตสุ ทินฺนานิ มหปฺผลานิ,
พีชานิ วุตฺตานิ ยถา สุเขตฺเตติ.
องฺกุรเปตวตฺถุ นวมํ.