3.6 เสริณีเปติวตฺถุ
“นคฺคา ทุพฺพณฺณรูปาสิ,
กิสา ธมนิสนฺถตา;
อุปฺผาสุลิเก กิสิเก,_
กา นุ ตฺวํ อิธ ติฏฺฐสี”ติ.
“อหํ ภทนฺเต เปตีมฺหิ,
ทุคฺคตา ยมโลกิกา;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน,
เปตโลกํ อิโต คตา”ติ.
“กิํ นุ กาเยน วาจาย,
มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;
กิสฺส กมฺมวิปาเกน,
เปตโลกํ อิโต คตา”ติ.
“อนาวเฏสุ ติตฺเถสุ,
วิจินิํ อฑฺฒมาสกํ;
สนฺเตสุ เทยฺยธมฺเมสุ,
ทีปํ นากาสิมตฺตโน.
นทิํ อุเปมิ ตสิตา,
ริตฺตกา ปริวตฺตติ;
ฉายํ อุเปมิ อุเณฺหสุ,
อาตโป ปริวตฺตติ.
อคฺคิวณฺโณ จ เม วาโต,
ฑหนฺโต อุปวายติ;
เอตญฺจ ภนฺเต อรหามิ,
อญฺญญฺจ ปาปกํ ตโต.
คนฺตฺวาน หตฺถินิํ ปุรํ,
วชฺเชสิ มยฺห มาตรํ;
‘ธีตา จ เต มยา ทิฏฺฐา,
ทุคฺคตา ยมโลกิกา;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน,
เปตโลกํ อิโต คตา’.
อตฺถิ เม เอตฺถ นิกฺขิตฺตํ,
อนกฺขาตญฺจ ตํ มยา;
จตฺตาริสตสหสฺสานิ,
ปลฺลงฺกสฺส จ เหฏฺฐโต.
ตโต เม ทานํ ททตุ,
ตสฺสา จ โหตุ ชีวิกา;
ทานํ ทตฺวา จ เม มาตา,
ทกฺขิณํ อนุทิจฺฉตุ;
ตทาหํ สุขิตา เหสฺสํ,
สพฺพกามสมิทฺธินี”ติ.
“สาธู”ติ โส ปฏิสฺสุตฺวา,
คนฺตฺวาน หตฺถินิํ ปุรํ;
อโวจ ตสฺสา มาตรํ—
“ธีตา จ เต มยา ทิฏฺฐา,
ทุคฺคตา ยมโลกิกา;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน,
เปตโลกํ อิโต คตา.
สา มํ ตตฺถ สมาทเปสิ, ( )
วชฺเชสิ มยฺห มาตรํ;
‘ธีตา จ เต มยา ทิฏฺฐา,
ทุคฺคตา ยมโลกิกา;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน,
เปตโลกํ อิโต คตา.
อตฺถิ จ เม เอตฺถ นิกฺขิตฺตํ,
อนกฺขาตญฺจ ตํ มยา;
จตฺตาริสตสหสฺสานิ,
ปลฺลงฺกสฺส จ เหฏฺฐโต.
ตโต เม ทานํ ททตุ,
ตสฺสา จ โหตุ ชีวิกา;
ทานํ ทตฺวา จ เม มาตา,
ทกฺขิณํ อนุทิจฺฉตุ ( );
ตทาหํ สุขิตา เหสฺสํ,
สพฺพกามสมิทฺธินี’”ติ.
ตโต หิ สา ทานมทา,
ตสฺสา ทกฺขิณมาทิสี;
เปตี จ สุขิตา อาสิ,
ตสฺสา จาสิ สุชีวิกาติ.
เสริณีเปติวตฺถุ ฉฏฺฐํ.