4.1 อมฺพสกฺกรเปตวตฺถุ
เวสาลี นาม นครตฺถิ วชฺชีนํ,
ตตฺถ อหุ ลิจฺฉวิ อมฺพสกฺกโร;
ทิสฺวาน เปตํ นครสฺส พาหิรํ,
ตตฺเถว ปุจฺฉิตฺถ ตํ การณตฺถิโก.
“เสยฺยา นิสชฺชา นยิมสฺส อตฺถิ,
อภิกฺกโม นตฺถิ ปฏิกฺกโม จ;
อสิตปีตขายิตวตฺถโภคา,
ปริจาริกา สาปิ อิมสฺส นตฺถิ.
เย ญาตกา ทิฏฺฐสุตา สุหชฺชา,
อนุกมฺปกา ยสฺส อเหสุํ ปุพฺเพ;
ทฏฺฐุมฺปิ เต ทานิ น ตํ ลภนฺติ,
วิราชิตตฺโต หิ ชเนน เตน.
น โอคฺคตตฺตสฺส ภวนฺติ มิตฺตา,
ชหนฺติ มิตฺตา วิกลํ วิทิตฺวา;
อตฺถญฺจ ทิสฺวา ปริวารยนฺติ,
พหู มิตฺตา อุคฺคตตฺตสฺส โหนฺติ.
นิหีนตฺโต สพฺพโภเคหิ กิจฺโฉ,
สมฺมกฺขิโต สมฺปริภินฺนคตฺโต;
อุสฺสาวพินฺทูว ปลิมฺปมาโน,_
อชฺช สุเว ชีวิตสฺสูปโรโธ.
เอตาทิสํ อุตฺตมกิจฺฉปฺปตฺตํ,
อุตฺตาสิตํ ปุจิมนฺทสฺส สูเล;_
‘อถ ตฺวํ เกน วณฺเณน วเทสิ ยกฺข,
ชีว โภ ชีวิตเมว เสโยฺย’”ติ.
“สาโลหิโต เอส อโหสิ มยฺหํ,
อหํ สรามิ ปุริมาย ชาติยา;
ทิสฺวา จ เม การุญฺญมโหสิ ราช,
มา ปาปธมฺโม นิรยํ ปตายํ.
อิโต จุโต ลิจฺฉวิ เอส โปโส,_
สตฺตุสฺสทํ นิรยํ โฆรรูปํ;
อุปปชฺชติ ทุกฺกฏกมฺมการี,_
มหาภิตาปํ กฏุกํ ภยานกํ.
อเนกภาเคน คุเณน เสโยฺย,
อยเมว สูโล นิรเยน เตน;
เอกนฺตทุกฺขํ กฏุกํ ภยานกํ,
เอกนฺตติพฺพํ นิรยํ ปตายํ.
อิทญฺจ สุตฺวา วจนํ มเมโส,_
ทุกฺขูปนีโต วิชเหยฺย ปาณํ;
ตสฺมา อหํ สนฺติเก น ภณามิ,
มา เม กโต ชีวิตสฺสูปโรโธ”.
“อญฺญาโต เอโส ปุริสสฺส อตฺโถ,
อญฺญมฺปิ อิจฺฉามเส ปุจฺฉิตุํ ตุวํ;
โอกาสกมฺมํ สเจ โน กโรสิ,
ปุจฺฉาม ตํ โน น จ กุชฺฌิตพฺพนฺ”ติ.
“อทฺธา ปฏิญฺญา เม ตทา อหุ,
นาจิกฺขนา อปฺปสนฺนสฺส โหติ;
อกามา สทฺเธยฺยวโจติ กตฺวา,
ปุจฺฉสฺสุ มํ กามํ ยถา วิสยฺหนฺ”ติ.
“ยํ กิญฺจหํ จกฺขุนา ปสฺสิสฺสามิ,
สพฺพมฺปิ ตาหํ อภิสทฺทเหยฺยํ;
ทิสฺวาว ตํ โนปิ เจ สทฺทเหยฺยํ,
กเรยฺยาสิ เม ยกฺข นิยสฺสกมฺมนฺ”ติ.
“สจฺจปฺปฏิญฺญา ตว เมสา โหตุ,
สุตฺวาน ธมฺมํ ลภ สุปฺปสาทํ;
อญฺญตฺถิโก โน จ ปทุฏฺฐจิตฺโต,
ยํ เต สุตํ อสุตญฺจาปิ ธมฺมํ;
สพฺพมฺปิ อกฺขิสฺสํ ยถา ปชานนฺติ”.
“เสเตน อเสฺสน อลงฺกเตน,
อุปยาสิ สูลาวุตกสฺส สนฺติเก;_
ยานํ อิทํ อพฺภุตํ ทสฺสเนยฺยํ,
กิเสฺสตํ กมฺมสฺส อยํ วิปาโก”ติ.
“เวสาลิยา นครสฺส มชฺเฌ,
จิกฺขลฺลมคฺเค นรกํ อโหสิ;
โคสีสเมกาหํ ปสนฺนจิตฺโต,
เสตํ คเหตฺวา นรกสฺมิํ นิกฺขิปิํ.
เอตสฺมิํ ปาทานิ ปติฏฺฐเปตฺวา,
มยญฺจ อญฺเญ จ อติกฺกมิมฺหา;
ยานํ อิทํ อพฺภุตํ ทสฺสเนยฺยํ,
ตเสฺสว กมฺมสฺส อยํ วิปาโก”ติ.
“วณฺโณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสติ,
คนฺโธ จ เต สพฺพทิสา ปวายติ;
ยกฺขิทฺธิปตฺโตสิ มหานุภาโว,
นคฺโค จาสิ กิสฺส อยํ วิปาโก”ติ.
“อกฺโกธโน นิจฺจปสนฺนจิตฺโต,
สณฺหาหิ วาจาหิ ชนํ อุเปมิ;
ตเสฺสว กมฺมสฺส อยํ วิปาโก,
ทิพฺโพ เม วณฺโณ สตตํ ปภาสติ.
ยสญฺจ กิตฺติญฺจ ธมฺเม ฐิตานํ,
ทิสฺวาน มนฺเตมิ ปสนฺนจิตฺโต;
ตเสฺสว กมฺมสฺส อยํ วิปาโก,
ทิพฺโพ เม คนฺโธ สตตํ ปวายติ.
สหายานํ ติตฺถสฺมิํ นฺหายนฺตานํ,
ถเล คเหตฺวา นิทหิสฺส ทุสฺสํ;
ขิฑฺฑตฺถิโก โน จ ปทุฏฺฐจิตฺโต,
เตนมฺหิ นคฺโค กสิรา จ วุตฺตี”ติ.
“โย กีฬมาโน ปกโรติ ปาปํ,
ตเสฺสทิสํ กมฺมวิปากมาหุ;
อกีฬมาโน ปน โย กโรติ,
กิํ ตสฺส กมฺมสฺส วิปากมาหู”ติ.
“เย ทุฏฺฐสงฺกปฺปมนา มนุสฺสา,
กาเยน วาจาย จ สํกิลิฏฺฐา;
กายสฺส เภทา อภิสมฺปรายํ,
อสํสยํ เต นิรยํ อุเปนฺติ.
อปเร ปน สุคติมาสมานา,
ทาเน รตา สงฺคหิตตฺตภาวา;
กายสฺส เภทา อภิสมฺปรายํ,
อสํสยํ เต สุคติํ อุเปนฺตี”ติ.
“ตํ กินฺติ ชาเนยฺยมหํ อเวจฺจ,
กลฺยาณปาปสฺส อยํ วิปาโก;
กิํ วาหํ ทิสฺวา อภิสทฺทเหยฺยํ,
โก วาปิ มํ สทฺทหาเปยฺย เอตนฺ”ติ.
“ทิสฺวา จ สุตฺวา อภิสทฺทหสฺสุ,
กลฺยาณปาปสฺส อยํ วิปาโก;
กลฺยาณปาเป อุภเย อสนฺเต,
สิยา นุ สตฺตา สุคตา ทุคฺคตา วา.
โน เจตฺถ กมฺมานิ กเรยฺยุํ มจฺจา,
กลฺยาณปาปานิ มนุสฺสโลเก;
นาเหสุํ สตฺตา สุคตา ทุคฺคตา วา,
หีนา ปณีตา จ มนุสฺสโลเก.
ยสฺมา จ กมฺมานิ กโรนฺติ มจฺจา,
กลฺยาณปาปานิ มนุสฺสโลเก;
ตสฺมา หิ สตฺตา สุคตา ทุคฺคตา วา,
หีนา ปณีตา จ มนุสฺสโลเก.
ทฺวยชฺช กมฺมานํ วิปากมาหุ,
สุขสฺส ทุกฺขสฺส จ เวทนียํ;
ตา เทวตาโย ปริจารยนฺติ,
ปจฺจนฺติ พาลา ทฺวยตํ อปสฺสิโน.
น มตฺถิ กมฺมานิ สยํกตานิ,
ทตฺวาปิ เม นตฺถิ โย อาทิเสยฺย;
อจฺฉาทนํ สยนมถนฺนปานํ,
เตนมฺหิ นคฺโค กสิรา จ วุตฺตี”ติ.
“สิยา นุ โข การณํ กิญฺจิ ยกฺข,
อจฺฉาทนํ เยน ตุวํ ลเภถ;
อาจิกฺข เม ตฺวํ ยทตฺถิ เหตุ,
สทฺธายิกํ เหตุวโจ สุโณมา”ติ.
“กปฺปิตโก นาม อิธตฺถิ ภิกฺขุ,
ฌายี สุสีโล อรหา วิมุตฺโต;
คุตฺตินฺทฺริโย สํวุตปาติโมกฺโข,
สีติภูโต อุตฺตมทิฏฺฐิปตฺโต.
สขิโล วทญฺญู สุวโจ สุมุโข,
สฺวาคโม สุปฺปฏิมุตฺตโก จ;
ปุญฺญสฺส เขตฺตํ อรณวิหารี,
เทวมนุสฺสานญฺจ ทกฺขิเณโยฺย.
สนฺโต วิธูโม อนีโฆ นิราโส,
มุตฺโต วิสโลฺล อมโม อวงฺโก;
นิรูปธี สพฺพปปญฺจขีโณ,
ติโสฺส วิชฺชา อนุปฺปตฺโต ชุติมา.
อปฺปญฺญาโต ทิสฺวาปิ น จ สุชาโน,
มุนีติ นํ วชฺชิสุ โวหรนฺติ;
ชานนฺติ ตํ ยกฺขภูตา อเนชํ,
กลฺยาณธมฺมํ วิจรนฺตํ โลเก.
ตสฺส ตุวํ เอกยุคํ ทุเว วา,
มมุทฺทิสิตฺวาน สเจ ทเทถ;
ปฏิคฺคหีตานิ จ ตานิ อสฺสุ,
มมญฺจ ปเสฺสถ สนฺนทฺธทุสฺสนฺ”ติ.
“กสฺมิํ ปเทเส สมณํ วสนฺตํ,
คนฺตฺวาน ปเสฺสมุ มยํ อิทานิ;
โย มชฺช กงฺขํ วิจิกิจฺฉิตญฺจ,
ทิฏฺฐีวิสูกานิ วิโนทเยยฺยา”ติ.
“เอโส นิสินฺโน กปินจฺจนายํ,
ปริวาริโต เทวตาหิ พหูหิ;
ธมฺมิํ กถํ ภาสติ สจฺจนาโม,
สกสฺมิมาเจรเก อปฺปมตฺโต”ติ.
“ตถาหํ กสฺสามิ คนฺตฺวา อิทานิ,
อจฺฉาทยิสฺสํ สมณํ ยุเคน;
ปฏิคฺคหิตานิ จ ตานิ อสฺสุ,
ตุวญฺจ ปเสฺสมุ สนฺนทฺธทุสฺสนฺ”ติ.
“มา อกฺขเณ ปพฺพชิตํ อุปาคมิ,
สาธุ โว ลิจฺฉวิ เนส ธมฺโม;
ตโต จ กาเล อุปสงฺกมิตฺวา,
ตตฺเถว ปสฺสาหิ รโห นิสินฺนนฺ”ติ.
ตถาติ วตฺวา อคมาสิ ตตฺถ,
ปริวาริโต ทาสคเณน ลิจฺฉวิ;
โส ตํ นครํ อุปสงฺกมิตฺวา,
วาสูปคจฺฉิตฺถ สเก นิเวสเน.
ตโต จ กาเล คิหิกิจฺจานิ กตฺวา,
นฺหตฺวา ปิวิตฺวา จ ขณํ ลภิตฺวา;
วิเจยฺย เปฬาโต จ ยุคานิ อฏฺฐ,
คาหาปยี ทาสคเณน ลิจฺฉวิ.
โส ตํ ปเทสํ อุปสงฺกมิตฺวา,
ตํ อทฺทส สมณํ สนฺตจิตฺตํ;
ปฏิกฺกนฺตํ โคจรโต นิวตฺตํ,
สีติภูตํ รุกฺขมูเล นิสินฺนํ.
ตเมนมโวจ อุปสงฺกมิตฺวา,
อปฺปาพาธํ ผาสุวิหารญฺจ ปุจฺฉิ;
“เวสาลิยํ ลิจฺฉวิหํ ภทนฺเต,
ชานนฺติ มํ ลิจฺฉวิ อมฺพสกฺกโร.
อิมานิ เม อฏฺฐ ยุคา สุภานิ,_
ปฏิคณฺห ภนฺเต ปททามิ ตุยฺหํ;
เตเนว อตฺเถน อิธาคโตสฺมิ,
ยถา อหํ อตฺตมโน ภเวยฺยนฺ”ติ.
“ทูรโตว สมณพฺราหฺมณา จ,
นิเวสนํ เต ปริวชฺชยนฺติ;
ปตฺตานิ ภิชฺชนฺติ จ เต นิเวสเน,
สงฺฆาฏิโย จาปิ วิทาลยนฺติ.
อถาปเร ปาทกุฐาริกาหิ,
อวํสิรา สมณา ปาตยนฺติ;
เอตาทิสํ ปพฺพชิตา วิเหสํ,
ตยา กตํ สมณา ปาปุณนฺติ.
ติเณน เตลมฺปิ น ตฺวํ อทาสิ,
มุฬฺหสฺส มคฺคมฺปิ น ปาวทาสิ;
อนฺธสฺส ทณฺฑํ สยมาทิยาสิ,
เอตาทิโส กทริโย อสํวุโต ตุวํ;
อถ ตฺวํ เกน วณฺเณน กิเมว ทิสฺวา,
อเมฺหหิ สห สํวิภาคํ กโรสี”ติ.
“ปจฺเจมิ ภนฺเต ยํ ตฺวํ วเทสิ,
วิเหสยิํ สมเณ พฺราหฺมเณ จ;
ขิฑฺฑตฺถิโก โน จ ปทุฏฺฐจิตฺโต,
เอตมฺปิ เม ทุกฺกฏเมว ภนฺเต.
ขิฑฺฑาย ยกฺโข ปสวิตฺวา ปาปํ,
เวเทติ ทุกฺขํ อสมตฺตโภคี;
ทหโร ยุวา นคฺคนิยสฺส ภาคี,
กิํ สุ ตโต ทุกฺขตรสฺส โหติ.
ตํ ทิสฺวา สํเวคมลตฺถํ ภนฺเต,
ตปฺปจฺจยา วาปิ ททามิ ทานํ;
ปฏิคณฺห ภนฺเต วตฺถยุคานิ อฏฺฐ,
ยกฺขสฺสิมา คจฺฉนฺตุ ทกฺขิณาโย”ติ.
“อทฺธา หิ ทานํ พหุธา ปสตฺถํ,
ททโต จ เต อกฺขยธมฺมมตฺถุ;
ปฏิคณฺหามิ เต วตฺถยุคานิ อฏฺฐ,
ยกฺขสฺสิมา คจฺฉนฺตุ ทกฺขิณาโย”ติ.
ตโต หิ โส อาจมยิตฺวา ลิจฺฉวิ,
เถรสฺส ทตฺวาน ยุคานิ อฏฺฐ;
ปฏิคฺคหิตานิ จ ตานิ อสฺสุ,
ยกฺขญฺจ ปเสฺสถ สนฺนทฺธทุสฺสํ.
ตมทฺทสา จนฺทนสารลิตฺตํ,
อาชญฺญมารูฬฺหมุฬารวณฺณํ;
อลงฺกตํ สาธุนิวตฺถทุสฺสํ,
ปริวาริตํ ยกฺขมหิทฺธิปตฺตํ.
โส ตํ ทิสฺวา อตฺตมโน อุทคฺโค,
ปหฏฺฐจิตฺโต จ สุภคฺครูโป;
กมฺมญฺจ ทิสฺวาน มหาวิปากํ,
สนฺทิฏฺฐิกํ จกฺขุนา สจฺฉิกตฺวา.
ตเมนมโวจ อุปสงฺกมิตฺวา,
“ทสฺสามิ ทานํ สมณพฺราหฺมณานํ;
น จาปิ เม กิญฺจิ อเทยฺยมตฺถิ,
ตุวญฺจ เม ยกฺข พหูปกาโร”ติ.
“ตุวญฺจ เม ลิจฺฉวิ เอกเทสํ,
อทาสิ ทานานิ อโมฆเมตํ;
สฺวาหํ กริสฺสามิ ตยาว สกฺขิํ,
อมานุโส มานุสเกน สทฺธินฺ”ติ.
“คตี จ พนฺธู จ ปรายณญฺจ,
มิตฺโต มมาสิ อถ เทวตา เม;
ยาจามิ ตํ ปญฺชลิโก ภวิตฺวา,
อิจฺฉามิ ตํ ยกฺข ปุนาปิ ทฏฺฐุนฺ”ติ._
“สเจ ตุวํ อสฺสทฺโธ ภวิสฺสสิ,
กทริยรูโป วิปฺปฏิปนฺนจิตฺโต;
ตฺวํ เนว มํ ลจฺฉสิ ทสฺสนาย,
ทิสฺวา จ ตํ โนปิ จ อาลปิสฺสํ.
สเจ ปน ตฺวํ ภวิสฺสสิ ธมฺมคารโว,
ทาเน รโต สงฺคหิตตฺตภาโว;
โอปานภูโต สมณพฺราหฺมณานํ,
เอวํ มมํ ลจฺฉสิ ทสฺสนาย.
ทิสฺวา จ ตํ อาลปิสฺสํ ภทนฺเต,
อิมญฺจ สูลโต ลหุํ ปมุญฺจ;_
ยโตนิทานํ อกริมฺห สกฺขิํ,
มญฺญามิ สูลาวุตกสฺส การณา.
เต อญฺญมญฺญํ อกริมฺห สกฺขิํ,
อยญฺจ สูลโต ลหุํ ปมุตฺโต;
สกฺกจฺจ ธมฺมานิ สมาจรนฺโต,
มุจฺเจยฺย โส นิรยา จ ตมฺหา;
กมฺมํ สิยา อญฺญตฺร เวทนียํ.
กปฺปิตกญฺจ อุปสงฺกมิตฺวา,
เตเนว สห สํวิภชิตฺวา กาเล;
สยํ มุเขนูปนิสชฺช ปุจฺฉ,
โส เต อกฺขิสฺสติ เอตมตฺถํ.
ตเมว ภิกฺขุํ อุปสงฺกมิตฺวา,
ปุจฺฉสฺสุ อญฺญตฺถิโก โน จ ปทุฏฺฐจิตฺโต;
โส เต สุตํ อสุตญฺจาปิ ธมฺมํ,
สพฺพมฺปิ อกฺขิสฺสติ ยถา ปชานนฺ”ติ.
โส ตตฺถ รหสฺสํ สมุลฺลปิตฺวา,
สกฺขิํ กริตฺวาน อมานุเสน;
ปกฺกามิ โส ลิจฺฉวีนํ สกาสํ,
อถ พฺรวิ ปริสํ สนฺนิสินฺนํ.
“สุณนฺตุ โภนฺโต มม เอกวากฺยํ,
วรํ วริสฺสํ ลภิสฺสามิ อตฺถํ;
สูลาวุโต ปุริโส ลุทฺทกมฺโม,
ปณิหิตทณฺโฑ อนุสตฺตรูโป.
เอตฺตาวตา วีสติรตฺติมตฺตา,
ยโต อาวุโต เนว ชีวติ น มโต;
ตาหํ โมจยิสฺสามิ ทานิ,
ยถามติํ อนุชานาตุ สํโฆ”ติ.
“เอตญฺจ อญฺญญฺจ ลหุํ ปมุญฺจ,
โก ตํ วเทถ ตถา กโรนฺตํ;
ยถา ปชานาสิ ตถา กโรหิ,
ยถามติํ อนุชานาติ สํโฆ”ติ.
โส ตํ ปเทสํ อุปสงฺกมิตฺวา,
สูลาวุตํ โมจยิ ขิปฺปเมว;
“มา ภายิ สมฺมา”ติ จ ตํ อโวจ,
ติกิจฺฉกานญฺจ อุปฏฺฐเปสิ.
“กปฺปิตกญฺจ อุปสงฺกมิตฺวา,
เตเนว สห สํวิภชิตฺวา กาเล;
สยํ มุเขนูปนิสชฺช ลิจฺฉวิ,
ตเถว ปุจฺฉิตฺถ นํ การณตฺถิโก.
สูลาวุโต ปุริโส ลุทฺทกมฺโม,
ปณิหิตทณฺโฑ อนุสตฺตรูโป;
เอตฺตาวตา วีสติรตฺติมตฺตา,
ยโต อาวุโต เนว ชีวติ น มโต.
โส โมจิโต คนฺตฺวา มยา อิทานิ,
เอตสฺส ยกฺขสฺส วโจ หิ ภนฺเต;
สิยา นุ โข การณํ กิญฺจิเทว,
เยน โส นิรยํ โน วเชยฺย.
อาจิกฺข ภนฺเต ยทิ อตฺถิ เหตุ,
สทฺธายิกํ เหตุวโจ สุโณม;
น เตสํ กมฺมานํ วินาสมตฺถิ,
อเวทยิตฺวา อิธ พฺยนฺติภาโว”ติ.
“สเจ ส ธมฺมานิ สมาจเรยฺย,
สกฺกจฺจ รตฺตินฺทิวมปฺปมตฺโต;
มุจฺเจยฺย โส นิรยา จ ตมฺหา,
กมฺมํ สิยา อญฺญตฺร เวทนียนฺ”ติ.
“อญฺญาโต เอโส ปุริสสฺส อตฺโถ,
มมมฺปิ ทานิ อนุกมฺป ภนฺเต;
อนุสาส มํ โอวท ภูริปญฺญ,
ยถา อหํ โน นิรยํ วเชยฺยนฺ”ติ.
“อชฺเชว พุทฺธํ สรณํ อุเปหิ,
ธมฺมญฺจ สํฆญฺจ ปสนฺนจิตฺโต;
ตเถว สิกฺขาย ปทานิ ปญฺจ,
อขณฺฑผุลฺลานิ สมาทิยสฺสุ.
ปาณาติปาตา วิรมสฺสุ ขิปฺปํ,
โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยสฺสุ;
อมชฺชโป มา จ มุสา อภาณี,
สเกน ทาเรน จ โหหิ ตุฏฺโฐ;
อิมญฺจ อริยํ อฏฺฐงฺควเรนุเปตํ,_
สมาทิยาหิ กุสลํ สุขุทฺรยํ.
จีวรํ ปิณฺฑปาตญฺจ,
ปจฺจยํ สยนาสนํ;
อนฺนํ ปานํ ขาทนียํ,
วตฺถเสนาสนานิ จ;
ททาหิ อุชุภูเตสุ,
วิปฺปสนฺเนน เจตสา.
ภิกฺขูปิ สีลสมฺปนฺเน,
วีตราเค พหุสฺสุเต;
ตปฺเปหิ อนฺนปาเนน,
สทา ปุญฺญํ ปวฑฺฒติ.
เอวญฺจ ธมฺมานิ สมาจรนฺโต,
สกฺกจฺจ รตฺตินฺทิวมปฺปมตฺโต;
มุญฺจ ตุวํ นิรยา จ ตมฺหา,
กมฺมํ สิยา อญฺญตฺร เวทนียนฺ”ติ.
“อชฺเชว พุทฺธํ สรณํ อุเปมิ,
ธมฺมญฺจ สํฆญฺจ ปสนฺนจิตฺโต;
ตเถว สิกฺขาย ปทานิ ปญฺจ,
อขณฺฑผุลฺลานิ สมาทิยามิ.
ปาณาติปาตา วิรมามิ ขิปฺปํ,
โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยามิ;
อมชฺชโป โน จ มุสา ภณามิ,
สเกน ทาเรน จ โหมิ ตุฏฺโฐ;
อิมญฺจ อริยํ อฏฺฐงฺควเรนุเปตํ,_
สมาทิยามิ กุสลํ สุขุทฺรยํ.
จีวรํ ปิณฺฑปาตญฺจ,
ปจฺจยํ สยนาสนํ;
อนฺนํ ปานํ ขาทนียํ,
วตฺถเสนาสนานิ จ.
ภิกฺขู จ สีลสมฺปนฺเน,
วีตราเค พหุสฺสุเต;
ททามิ น วิกมฺปามิ,
พุทฺธานํ สาสเน รโต”ติ.
เอตาทิโส ลิจฺฉวิ อมฺพสกฺกโร,
เวสาลิยํ อญฺญตโร อุปาสโก;
สทฺโธ มุทู การกโร จ ภิกฺขุ,
สํฆญฺจ สกฺกจฺจ ตทา อุปฏฺฐหิ.
สูลาวุโต จ อโรโค หุตฺวา,
เสรี สุขี ปพฺพชฺชํ อุปาคมิ;
ภิกฺขุญฺจ อาคมฺม กปฺปิตกุตฺตมํ,
อุโภปิ สามญฺญผลานิ อชฺฌคุํ._
เอตาทิสา สปฺปุริสาน เสวนา,
มหปฺผลา โหติ สตํ วิชานตํ;
สูลาวุโต อคฺคผลํ อผสฺสยิ,
ผลํ กนิฏฺฐํ ปน อมฺพสกฺกโรติ.
อมฺพสกฺกรเปตวตฺถุ ปฐมํ.