2.5 สูจิโลมสุตฺต
เอวํ เม สุตํ— เอกํ สมยํ ภควา คยายํ วิหรติ ฏงฺกิตมญฺเจ สูจิโลมสฺส ยกฺขสฺส ภวเน. เตน โข ปน สมเยน ขโร จ ยกฺโข สูจิโลโม จ ยกฺโข ภควโต อวิทูเร อติกฺกมนฺติ. อถ โข ขโร ยกฺโข สูจิโลมํ ยกฺขํ เอตทโวจ— “เอโส สมโณ”ติ. “เนโส สมโณ, สมณโก เอโส. ยาวาหํ ชานามิ ยทิ วา โส สมโณ, ยทิ วา โส สมณโก”ติ.
อถ โข สูจิโลโม ยกฺโข เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควโต กายํ อุปนาเมสิ. อถ โข ภควา กายํ อปนาเมสิ. อถ โข สูจิโลโม ยกฺโข ภควนฺตํ เอตทโวจ— “ภายสิ มํ, สมณา”ติ? “น ขฺวาหํ ตํ, อาวุโส, ภายามิ; อปิ จ เต สมฺผโสฺส ปาปโก”ติ.
“ปญฺหํ ตํ, สมณ, ปุจฺฉิสฺสามิ. สเจ เม น พฺยากริสฺสสิ, จิตฺตํ วา เต ขิปิสฺสามิ, หทยํ วา เต ผาเลสฺสามิ, ปาเทสุ วา คเหตฺวา ปารคงฺคาย ขิปิสฺสามี”ติ.
“น ขฺวาหํ ตํ, อาวุโส, ปสฺสามิ สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย โย เม จิตฺตํ วา ขิเปยฺย หทยํ วา ผาเลยฺย ปาเทสุ วา คเหตฺวา ปารคงฺคาย ขิเปยฺย. อปิ จ ตฺวํ, อาวุโส, ปุจฺฉ ยทากงฺขสี”ติ. อถ โข สูจิโลโม ยกฺโข ภควนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ—
“ราโค จ โทโส จ กุโตนิทานา,
อรตี รตี โลมหํโส กุโตชา;
กุโต สมุฏฺฐาย มโนวิตกฺกา,
กุมารกา ธงฺกมิโวสฺสชนฺติ”. (1)
“ราโค จ โทโส จ อิโตนิทานา,
อรตี รตี โลมหํโส อิโตชา;
อิโต สมุฏฺฐาย มโนวิตกฺกา,_
กุมารกา ธงฺกมิโวสฺสชนฺติ. (2)
เสฺนหชา อตฺตสมฺภูตา,
นิโคฺรธเสฺสว ขนฺธชา;
ปุถู วิสตฺตา กาเมสุ,
มาลุวาว วิตตาวเน. (3)
เย นํ ปชานนฺติ ยโตนิทานํ,
เต นํ วิโนเทนฺติ สุโณหิ ยกฺข;
เต ทุตฺตรํ โอฆมิมํ ตรนฺติ,
อติณฺณปุพฺพํ อปุนพฺภวายา”ติ. (4)
สูจิโลมสุตฺตํ ปญฺจมํ.