3.10 โลกสุตฺต
เอวํ เม สุตํ— เอกํ สมยํ ภควา อุรุเวลายํ วิหรติ นชฺชา เนรญฺชราย ตีเร โพธิรุกฺขมูเล ปฐมาภิสมฺพุทฺโธ. เตน โข ปน สมเยน ภควา สตฺตาหํ เอกปลฺลงฺเกน นิสินฺโน โหติ วิมุตฺติสุขปฏิสํเวที.
อถ โข ภควา ตสฺส สตฺตาหสฺส อจฺจเยน ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺฐหิตฺวา พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โวโลเกสิ. อทฺทสา โข ภควา พุทฺธจกฺขุนา โวโลเกนฺโต สตฺเต อเนเกหิ สนฺตาเปหิ สนฺตปฺปมาเน, อเนเกหิ จ ปริฬาเหหิ ปริฑยฺหมาเน— ราคเชหิปิ, โทสเชหิปิ, โมหเชหิปิ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ—
“อยํ โลโก สนฺตาปชาโต,
ผสฺสปเรโต โรคํ วทติ อตฺตโต;
เยน เยน หิ มญฺญติ,
ตโต ตํ โหติ อญฺญถา. (34)
อญฺญถาภาวี ภวสตฺโต โลโก,
ภวปเรโต ภวเมวาภินนฺทติ;
ยทภินนฺทติ ตํ ภยํ,
ยสฺส ภายติ ตํ ทุกฺขํ;
ภววิปฺปหานาย โข,
ปนิทํ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ. (35)
‘เย หิ เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา ภเวน ภวสฺส วิปฺปโมกฺขมาหํสุ, สพฺเพ เต อวิปฺปมุตฺตา ภวสฺมา’ติ วทามิ. ‘เย วา ปน เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา วิภเวน ภวสฺส นิสฺสรณมาหํสุ, สพฺเพ เต อนิสฺสฏา ภวสฺมา’ติ วทามิ.
อุปธิญฺหิ ปฏิจฺจ ทุกฺขมิทํ สมฺโภติ, สพฺพุปาทานกฺขยา นตฺถิ ทุกฺขสฺส สมฺภโว. โลกมิมํ ปสฺส; ปุถู อวิชฺชาย ปเรตา ภูตา ภูตรตา อปริมุตฺตา; เย หิ เกจิ ภวา สพฺพธิ สพฺพตฺถตาย สพฺเพ เต ภวา อนิจฺจา ทุกฺขา วิปริณามธมฺมาติ.
เอวเมตํ ยถาภูตํ,
สมฺมปฺปญฺญาย ปสฺสโต;
ภวตณฺหา ปหียติ,
วิภวํ นาภินนฺทติ;
สพฺพโส ตณฺหานํ ขยา,
อเสสวิราคนิโรโธ นิพฺพานํ. (36)
ตสฺส นิพฺพุตสฺส ภิกฺขุโน,
อนุปาทา ปุนพฺภโว น โหติ;
อภิภูโต มาโร วิชิตสงฺคาโม,
อุปจฺจคา สพฺพภวานิ ตาที”ติ. (37)_
ทสมํ.
นนฺทวคฺโค ตติโย.
ตสฺสุทฺทานํ
กมฺมํ นนฺโท ยโสโช จ,
สาริปุตฺโต จ โกลิโต;
ปิลินฺโท กสฺสโป ปิณฺโฑ,
สิปฺปํ โลเกน เต ทสาติ.