6.10 อุปฺปชฺชนฺติสุตฺต
เอวํ เม สุตํ— เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ—
“ยาวกีวญฺจ, ภนฺเต, ตถาคตา โลเก นุปฺปชฺชนฺติ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา ตาว อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา สกฺกตา โหนฺติ ครุกตา มานิตา ปูชิตา อปจิตา ลาภิโน จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ. ยโต จ โข, ภนฺเต, ตถาคตา โลเก อุปฺปชฺชนฺติ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา อถ อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา อสกฺกตา โหนฺติ อครุกตา อมานิตา อปูชิตา อนปจิตา น ลาภิโน จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ. ภควาเยว ทานิ, ภนฺเต, สกฺกโต โหติ ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต ลาภี จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ, ภิกฺขุสํโฆ จา”ติ.
“เอวเมตํ, อานนฺท, ยาวกีวญฺจ, อานนฺท, ตถาคตา โลเก นุปฺปชฺชนฺติ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา ตาว อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา สกฺกตา โหนฺติ ครุกตา มานิตา ปูชิตา อปจิตา ลาภิโน จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ. ยโต จ โข, อานนฺท, ตถาคตา โลเก อุปฺปชฺชนฺติ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา อถ อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา อสกฺกตา โหนฺติ อครุกตา อมานิตา อปูชิตา อนปจิตา น ลาภิโน จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ. ตถาคโตว ทานิ สกฺกโต โหติ ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต ลาภี จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานํ, ภิกฺขุสํโฆ จา”ติ.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ—
“โอภาสติ ตาว โส กิมิ,
ยาว น อุนฺนมเต ปภงฺกโร;
ส เวโรจนมฺหิ อุคฺคเต,
หตปฺปโภ โหติ น จาปิ ภาสติ. (72)
เอวํ โอภาสิตเมว ตกฺกิกานํ,
ยาว สมฺมาสมฺพุทฺธา โลเก นุปฺปชฺชนฺติ;
น ตกฺกิกา สุชฺฌนฺติ น จาปิ สาวกา,
ทุทฺทิฏฺฐี น ทุกฺขา ปมุจฺจเร”ติ. (73)
ทสมํ.
ตสฺสุทฺทานํ
อายุชฏิลเวกฺขณา,
ตโย ติตฺถิยา สุภูติ;
คณิกา อุปาติ นวโม,
อุปฺปชฺชนฺติ จ เต ทสาติ._
ชจฺจนฺธวคฺโค ฉฏฺโฐ.