1.10 อปณฺณกสุตฺต
เอวํ เม สุตํ— เอกํ สมยํ ภควา โกสเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสํเฆน สทฺธิํ เยน สาลา นาม โกสลานํ พฺราหฺมณคาโม ตทวสริ. อโสฺสสุํ โข สาเลยฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา— “สมโณ ขลุ โภ โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต โกสเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสํเฆน สทฺธิํ สาลํ อนุปฺปตฺโต. ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต— ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ. โส อิมํ โลกํ สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณิํ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติ. โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยญฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ. สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี”ติ. อถ โข สาเลยฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อปฺเปกจฺเจ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุ. อปฺเปกจฺเจ ภควตา สทฺธิํ สมฺโมทิํสุ; สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุ. อปฺเปกจฺเจ เยน ภควา เตนญฺชลิํ ปณาเมตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุ. อปฺเปกจฺเจ ภควโต สนฺติเก นามโคตฺตํ สาเวตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุ. อปฺเปกจฺเจ ตุณฺหีภูตา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุ.
เอกมนฺตํ นิสินฺเน โข สาเลยฺยเก พฺราหฺมณคหปติเก ภควา เอตทโวจ— “อตฺถิ ปน โว, คหปตโย, โกจิ มนาโป สตฺถา ยสฺมิํ โว อาการวตี สทฺธา ปฏิลทฺธา”ติ? “นตฺถิ โข โน, ภนฺเต, โกจิ มนาโป สตฺถา ยสฺมิํ โน อาการวตี สทฺธา ปฏิลทฺธา”ติ.
“มนาปํ โว, คหปตโย, สตฺถารํ อลภนฺเตหิ อยํ อปณฺณโก ธมฺโม สมาทาย วตฺติตพฺโพ. อปณฺณโก หิ, คหปตโย, ธมฺโม สมตฺโต สมาทินฺโน, โส โว ภวิสฺสติ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย. กตโม จ, คหปตโย, อปณฺณโก ธมฺโม?
สนฺติ, คหปตโย, เอเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺฐิโน— ‘นตฺถิ ทินฺนํ, นตฺถิ ยิฏฺฐํ, นตฺถิ หุตํ; นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, นตฺถิ อยํ โลโก, นตฺถิ ปโร โลโก; นตฺถิ มาตา, นตฺถิ ปิตา; นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา; นตฺถิ โลเก สมณพฺราหฺมณา สมฺมคฺคตา สมฺมา ปฏิปนฺนา เย อิมญฺจ โลกํ ปรญฺจ โลกํ สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’ติ. เตสํเยว โข, คหปตโย, สมณพฺราหฺมณานํ เอเก สมณพฺราหฺมณา อุชุวิปจฺจนีกวาทา. เต เอวมาหํสุ— ‘อตฺถิ ทินฺนํ, อตฺถิ ยิฏฺฐํ, อตฺถิ หุตํ; อตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก; อตฺถิ อยํ โลโก, อตฺถิ ปโร โลโก; อตฺถิ มาตา, อตฺถิ ปิตา; อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา; อตฺถิ โลเก สมณพฺราหฺมณา สมฺมคฺคตา สมฺมา ปฏิปนฺนา เย อิมญฺจ โลกํ ปรญฺจ โลกํ สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’ติ. ตํ กิํ มญฺญถ, คหปตโย— ‘นนุเม สมณพฺราหฺมณา อญฺญมญฺญสฺส อุชุวิปจฺจนีกวาทา’”ติ? “เอวํ, ภนฺเต”.
“ตตฺร, คหปตโย, เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺฐิโน— ‘นตฺถิ ทินฺนํ, นตฺถิ ยิฏฺฐํ …เป… เย อิมญฺจ โลกํ ปรญฺจ โลกํ สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’ติ เตสเมตํ ปาฏิกงฺขํ— ยมิทํ กายสุจริตํ, วจีสุจริตํ, มโนสุจริตํ— อิเม ตโย กุสเล ธมฺเม อภินิวชฺเชตฺวา ยมิทํ กายทุจฺจริตํ, วจีทุจฺจริตํ, มโนทุจฺจริตํ— อิเม ตโย อกุสเล ธมฺเม สมาทาย วตฺติสฺสนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? น หิ เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา ปสฺสนฺติ อกุสลานํ ธมฺมานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ, กุสลานํ ธมฺมานํ เนกฺขมฺเม อานิสํสํ โวทานปกฺขํ. สนฺตํเยว ปน ปรํ โลกํ ‘นตฺถิ ปโร โลโก’ ติสฺส ทิฏฺฐิ โหติ; สาสฺส โหติ มิจฺฉาทิฏฺฐิ. สนฺตํเยว โข ปน ปรํ โลกํ ‘นตฺถิ ปโร โลโก’ติ สงฺกปฺเปติ; สฺวาสฺส โหติ มิจฺฉาสงฺกปฺโป. สนฺตํเยว โข ปน ปรํ โลกํ ‘นตฺถิ ปโร โลโก’ติ วาจํ ภาสติ; สาสฺส โหติ มิจฺฉาวาจา. สนฺตํเยว โข ปน ปรํ โลกํ ‘นตฺถิ ปโร โลโก’ติ อาห; เย เต อรหนฺโต ปรโลกวิทุโน เตสมยํ ปจฺจนีกํ กโรติ. สนฺตํเยว โข ปน ปรํ โลกํ ‘นตฺถิ ปโร โลโก’ติ ปรํ สญฺญาเปติ; สาสฺส โหติ อสทฺธมฺมสญฺญตฺติ. ตาย จ ปน อสทฺธมฺมสญฺญตฺติยา อตฺตานุกฺกํเสติ, ปรํ วมฺเภติ. อิติ ปุพฺเพว โข ปนสฺส สุสีลฺยํ ปหีนํ โหติ, ทุสฺสีลฺยํ ปจฺจุปฏฺฐิตํ— อยญฺจ มิจฺฉาทิฏฺฐิ มิจฺฉาสงฺกปฺโป มิจฺฉาวาจา อริยานํ ปจฺจนีกตา อสทฺธมฺมสญฺญตฺติ อตฺตุกฺกํสนา ปรวมฺภนา. เอวมสฺสิเม อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ มิจฺฉาทิฏฺฐิปจฺจยา.
ตตฺร, คหปตโย, วิญฺญู ปุริโส อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ— ‘สเจ โข นตฺถิ ปโร โลโก เอวมยํ ภวํ ปุริสปุคฺคโล กายสฺส เภทา โสตฺถิมตฺตานํ กริสฺสติ; สเจ โข อตฺถิ ปโร โลโก, เอวมยํ ภวํ ปุริสปุคฺคโล กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชิสฺสติ. กามํ โข ปน มาหุ ปโร โลโก, โหตุ เนสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ สจฺจํ วจนํ; อถ จ ปนายํ ภวํ ปุริสปุคฺคโล ทิฏฺเฐว ธมฺเม วิญฺญูนํ คารโยฺห— ทุสฺสีโล ปุริสปุคฺคโล มิจฺฉาทิฏฺฐิ นตฺถิกวาโท’ติ. สเจ โข อตฺเถว ปโร โลโก, เอวํ อิมสฺส โภโต ปุริสปุคฺคลสฺส อุภยตฺถ กลิคฺคโห— ยญฺจ ทิฏฺเฐว ธมฺเม วิญฺญูนํ คารโยฺห, ยญฺจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชิสฺสติ. เอวมสฺสายํ อปณฺณโก ธมฺโม ทุสฺสมตฺโต สมาทินฺโน, เอกํสํ ผริตฺวา ติฏฺฐติ, ริญฺจติ กุสลํ ฐานํ.
ตตฺร, คหปตโย, เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺฐิโน— ‘อตฺถิ ทินฺนํ …เป… เย อิมญฺจ โลกํ ปรญฺจ โลกํ สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’ติ เตสเมตํ ปาฏิกงฺขํ— ยมิทํ กายทุจฺจริตํ, วจีทุจฺจริตํ, มโนทุจฺจริตํ— อิเม ตโย อกุสเล ธมฺเม อภินิวชฺเชตฺวา ยมิทํ กายสุจริตํ, วจีสุจริตํ, มโนสุจริตํ— อิเม ตโย กุสเล ธมฺเม สมาทาย วตฺติสฺสนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ปสฺสนฺติ หิ เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อกุสลานํ ธมฺมานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ, กุสลานํ ธมฺมานํ เนกฺขมฺเม อานิสํสํ โวทานปกฺขํ. สนฺตํเยว โข ปน ปรํ โลกํ ‘อตฺถิ ปโร โลโก’ ติสฺส ทิฏฺฐิ โหติ; สาสฺส โหติ สมฺมาทิฏฺฐิ. สนฺตํเยว โข ปน ปรํ โลกํ ‘อตฺถิ ปโร โลโก’ติ สงฺกปฺเปติ; สฺวาสฺส โหติ สมฺมาสงฺกปฺโป. สนฺตํเยว โข ปน ปรํ โลกํ ‘อตฺถิ ปโร โลโก’ติ วาจํ ภาสติ; สาสฺส โหติ สมฺมาวาจา. สนฺตํเยว โข ปน ปรํ โลกํ ‘อตฺถิ ปโร โลโก’ติ อาห; เย เต อรหนฺโต ปรโลกวิทุโน เตสมยํ น ปจฺจนีกํ กโรติ. สนฺตํเยว โข ปน ปรํ โลกํ ‘อตฺถิ ปโร โลโก’ติ ปรํ สญฺญาเปติ; สาสฺส โหติ สทฺธมฺมสญฺญตฺติ. ตาย จ ปน สทฺธมฺมสญฺญตฺติยา เนวตฺตานุกฺกํเสติ, น ปรํ วมฺเภติ. อิติ ปุพฺเพว โข ปนสฺส ทุสฺสีลฺยํ ปหีนํ โหติ, สุสีลฺยํ ปจฺจุปฏฺฐิตํ— อยญฺจ สมฺมาทิฏฺฐิ สมฺมาสงฺกปฺโป สมฺมาวาจา อริยานํ อปจฺจนีกตา สทฺธมฺมสญฺญตฺติ อนตฺตุกฺกํสนา อปรวมฺภนา. เอวมสฺสิเม อเนเก กุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ สมฺมาทิฏฺฐิปจฺจยา.
ตตฺร, คหปตโย, วิญฺญู ปุริโส อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ— ‘สเจ โข อตฺถิ ปโร โลโก, เอวมยํ ภวํ ปุริสปุคฺคโล กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชิสฺสติ. กามํ โข ปน มาหุ ปโร โลโก, โหตุ เนสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ สจฺจํ วจนํ; อถ จ ปนายํ ภวํ ปุริสปุคฺคโล ทิฏฺเฐว ธมฺเม วิญฺญูนํ ปาสํโส— สีลวา ปุริสปุคฺคโล สมฺมาทิฏฺฐิ อตฺถิกวาโท’ติ. สเจ โข อตฺเถว ปโร โลโก, เอวํ อิมสฺส โภโต ปุริสปุคฺคลสฺส อุภยตฺถ กฏคฺคโห— ยญฺจ ทิฏฺเฐว ธมฺเม วิญฺญูนํ ปาสํโส, ยญฺจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชิสฺสติ. เอวมสฺสายํ อปณฺณโก ธมฺโม สุสมตฺโต สมาทินฺโน อุภยํสํ ผริตฺวา ติฏฺฐติ, ริญฺจติ อกุสลํ ฐานํ.
สนฺติ, คหปตโย, เอเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺฐิโน— ‘กโรโต การยโต, ฉินฺทโต เฉทาปยโต, ปจโต ปาจาปยโต, โสจยโต โสจาปยโต, กิลมโต กิลมาปยโต, ผนฺทโต ผนฺทาปยโต, ปาณมติปาตยโต, อทินฺนํ อาทิยโต, สนฺธิํ ฉินฺทโต, นิโลฺลปํ หรโต, เอกาคาริกํ กโรโต, ปริปนฺเถ ติฏฺฐโต, ปรทารํ คจฺฉโต, มุสา ภณโต; กโรโต น กรียติ ปาปํ. ขุรปริยนฺเตน เจปิ จกฺเกน โย อิมิสฺสา ปถวิยา ปาเณ เอกํ มํสขลํ เอกํ มํสปุญฺชํ กเรยฺย, นตฺถิ ตโตนิทานํ ปาปํ, นตฺถิ ปาปสฺส อาคโม. ทกฺขิณญฺเจปิ คงฺคาย ตีรํ คจฺเฉยฺย หนนฺโต ฆาเตนฺโต, ฉินฺทนฺโต เฉทาเปนฺโต, ปจนฺโต ปาเจนฺโต; นตฺถิ ตโตนิทานํ ปาปํ, นตฺถิ ปาปสฺส อาคโม. อุตฺตรญฺเจปิ คงฺคาย ตีรํ คจฺเฉยฺย ททนฺโต ทาเปนฺโต, ยชนฺโต ยชาเปนฺโต; นตฺถิ ตโตนิทานํ ปุญฺญํ, นตฺถิ ปุญฺญสฺส อาคโม. ทาเนน ทเมน สํยเมน สจฺจวชฺเชน นตฺถิ ปุญฺญํ, นตฺถิ ปุญฺญสฺส อาคโม’ติ. เตสํเยว โข, คหปตโย, สมณพฺราหฺมณานํ เอเก สมณพฺราหฺมณา อุชุวิปจฺจนีกวาทา เต เอวมาหํสุ— ‘กโรโต การยโต, ฉินฺทโต เฉทาปยโต, ปจโต ปาจาปยโต, โสจยโต โสจาปยโต, กิลมโต กิลมาปยโต, ผนฺทโต ผนฺทาปยโต, ปาณมติปาตยโต, อทินฺนํ อาทิยโต, สนฺธิํ ฉินฺทโต, นิโลฺลปํ หรโต, เอกาคาริกํ กโรโต, ปริปนฺเถ ติฏฺฐโต, ปรทารํ คจฺฉโต, มุสา ภณโต; กโรโต กรียติ ปาปํ. ขุรปริยนฺเตน เจปิ จกฺเกน โย อิมิสฺสา ปถวิยา ปาเณ เอกํ มํสขลํ เอกํ มํสปุญฺชํ กเรยฺย, อตฺถิ ตโตนิทานํ ปาปํ, อตฺถิ ปาปสฺส อาคโม. ทกฺขิณญฺเจปิ คงฺคาย ตีรํ คจฺเฉยฺย หนนฺโต ฆาเตนฺโต, ฉินฺทนฺโต เฉทาเปนฺโต, ปจนฺโต ปาเจนฺโต; อตฺถิ ตโตนิทานํ ปาปํ, อตฺถิ ปาปสฺส อาคโม. อุตฺตรญฺเจปิ คงฺคาย ตีรํ คจฺเฉยฺย ททนฺโต ทาเปนฺโต, ยชนฺโต ยชาเปนฺโต; อตฺถิ ตโตนิทานํ ปุญฺญํ, อตฺถิ ปุญฺญสฺส อาคโม. ทาเนน ทเมน สํยเมน สจฺจวชฺเชน อตฺถิ ปุญฺญํ, อตฺถิ ปุญฺญสฺส อาคโม’ติ. ตํ กิํ มญฺญถ, คหปตโย, นนุเม สมณพฺราหฺมณา อญฺญมญฺญสฺส อุชุวิปจฺจนีกวาทา”ติ? “เอวํ, ภนฺเต”.
“ตตฺร, คหปตโย, เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺฐิโน— ‘กโรโต การยโต, ฉินฺทโต เฉทาปยโต, ปจโต ปาจาปยโต, โสจยโต โสจาปยโต, กิลมโต กิลมาปยโต, ผนฺทโต ผนฺทาปยโต, ปาณมติปาตยโต, อทินฺนํ อาทิยโต, สนฺธิํ ฉินฺทโต, นิโลฺลปํ หรโต, เอกาคาริกํ กโรโต, ปริปนฺเถ ติฏฺฐโต, ปรทารํ คจฺฉโต, มุสา ภณโต; กโรโต น กรียติ ปาปํ. ขุรปริยนฺเตน เจปิ จกฺเกน โย อิมิสฺสา ปถวิยา ปาเณ เอกํ มํสขลํ เอกํ มํสปุญฺชํ กเรยฺย, นตฺถิ ตโตนิทานํ ปาปํ, นตฺถิ ปาปสฺส อาคโม. ทกฺขิณญฺเจปิ คงฺคาย ตีรํ คจฺเฉยฺย หนนฺโต ฆาเตนฺโต …เป… ทาเนน ทเมน สํยเมน สจฺจวชฺเชน นตฺถิ ปุญฺญํ, นตฺถิ ปุญฺญสฺส อาคโม’ติ เตสเมตํ ปาฏิกงฺขํ— ยมิทํ กายสุจริตํ, วจีสุจริตํ, มโนสุจริตํ— อิเม ตโย กุสเล ธมฺเม อภินิวชฺเชตฺวา ยมิทํ กายทุจฺจริตํ, วจีทุจฺจริตํ, มโนทุจฺจริตํ— อิเม ตโย อกุสเล ธมฺเม สมาทาย วตฺติสฺสนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? น หิ เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา ปสฺสนฺติ อกุสลานํ ธมฺมานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ, กุสลานํ ธมฺมานํ เนกฺขมฺเม อานิสํสํ โวทานปกฺขํ. สนฺตํเยว โข ปน กิริยํ ‘นตฺถิ กิริยา’ ติสฺส ทิฏฺฐิ โหติ; สาสฺส โหติ มิจฺฉาทิฏฺฐิ. สนฺตํเยว โข ปน กิริยํ ‘นตฺถิ กิริยา’ติ สงฺกปฺเปติ; สฺวาสฺส โหติ มิจฺฉาสงฺกปฺโป. สนฺตํเยว โข ปน กิริยํ ‘นตฺถิ กิริยา’ติ วาจํ ภาสติ; สาสฺส โหติ มิจฺฉาวาจา. สนฺตํเยว โข ปน กิริยํ ‘นตฺถิ กิริยา’ติ อาห, เย เต อรหนฺโต กิริยวาทา เตสมยํ ปจฺจนีกํ กโรติ. สนฺตํเยว โข ปน กิริยํ ‘นตฺถิ กิริยา’ติ ปรํ สญฺญาเปติ; สาสฺส โหติ อสทฺธมฺมสญฺญตฺติ. ตาย จ ปน อสทฺธมฺมสญฺญตฺติยา อตฺตานุกฺกํเสติ, ปรํ วมฺเภติ. อิติ ปุพฺเพว โข ปนสฺส สุสีลฺยํ ปหีนํ โหติ, ทุสฺสีลฺยํ ปจฺจุปฏฺฐิตํ— อยญฺจ มิจฺฉาทิฏฺฐิ มิจฺฉาสงฺกปฺโป มิจฺฉาวาจา อริยานํ ปจฺจนีกตา อสทฺธมฺมสญฺญตฺติ อตฺตุกฺกํสนา ปรวมฺภนา. เอวมสฺสิเม อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ มิจฺฉาทิฏฺฐิปจฺจยา.
ตตฺร, คหปตโย, วิญฺญู ปุริโส อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ— ‘สเจ โข นตฺถิ กิริยา, เอวมยํ ภวํ ปุริสปุคฺคโล กายสฺส เภทา โสตฺถิมตฺตานํ กริสฺสติ; สเจ โข อตฺถิ กิริยา เอวมยํ ภวํ ปุริสปุคฺคโล กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชิสฺสติ. กามํ โข ปน มาหุ กิริยา, โหตุ เนสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ สจฺจํ วจนํ; อถ จ ปนายํ ภวํ ปุริสปุคฺคโล ทิฏฺเฐว ธมฺเม วิญฺญูนํ คารโยฺห— ทุสฺสีโล ปุริสปุคฺคโล มิจฺฉาทิฏฺฐิ อกิริยวาโท’ติ. สเจ โข อตฺเถว กิริยา, เอวํ อิมสฺส โภโต ปุริสปุคฺคลสฺส อุภยตฺถ กลิคฺคโห— ยญฺจ ทิฏฺเฐว ธมฺเม วิญฺญูนํ คารโยฺห, ยญฺจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชิสฺสติ. เอวมสฺสายํ อปณฺณโก ธมฺโม ทุสฺสมตฺโต สมาทินฺโน, เอกํสํ ผริตฺวา ติฏฺฐติ, ริญฺจติ กุสลํ ฐานํ.
ตตฺร, คหปตโย, เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺฐิโน— ‘กโรโต การยโต, ฉินฺทโต เฉทาปยโต, ปจโต ปาจาปยโต, โสจยโต โสจาปยโต, กิลมโต กิลมาปยโต, ผนฺทโต ผนฺทาปยโต, ปาณมติปาตยโต, อทินฺนํ อาทิยโต, สนฺธิํ ฉินฺทโต, นิโลฺลปํ หรโต, เอกาคาริกํ กโรโต, ปริปนฺเถ ติฏฺฐโต, ปรทารํ คจฺฉโต, มุสา ภณโต; กโรโต กรียติ ปาปํ. ขุรปริยนฺเตน เจปิ จกฺเกน โย อิมิสฺสา ปถวิยา ปาเณ เอกํ มํสขลํ เอกํ มํสปุญฺชํ กเรยฺย, อตฺถิ ตโตนิทานํ ปาปํ, อตฺถิ ปาปสฺส อาคโม. ทกฺขิณญฺเจปิ คงฺคาย ตีรํ คจฺเฉยฺย หนนฺโต ฆาเตนฺโต, ฉินฺทนฺโต เฉทาเปนฺโต, ปจนฺโต ปาเจนฺโต, อตฺถิ ตโตนิทานํ ปาปํ, อตฺถิ ปาปสฺส อาคโม. อุตฺตรญฺเจปิ คงฺคาย ตีรํ คจฺเฉยฺย ททนฺโต ทาเปนฺโต, ยชนฺโต ยชาเปนฺโต, อตฺถิ ตโตนิทานํ ปุญฺญํ, อตฺถิ ปุญฺญสฺส อาคโม. ทาเนน ทเมน สํยเมน สจฺจวชฺเชน อตฺถิ ปุญฺญํ, อตฺถิ ปุญฺญสฺส อาคโม’ติ เตสเมตํ ปาฏิกงฺขํ ยมิทํ กายทุจฺจริตํ, วจีทุจฺจริตํ, มโนทุจฺจริตํ— อิเม ตโย อกุสเล ธมฺเม อภินิวชฺเชตฺวา ยมิทํ กายสุจริตํ, วจีสุจริตํ, มโนสุจริตํ— อิเม ตโย กุสเล ธมฺเม สมาทาย วตฺติสฺสนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ปสฺสนฺติ หิ เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อกุสลานํ ธมฺมานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ, กุสลานํ ธมฺมานํ เนกฺขมฺเม อานิสํสํ โวทานปกฺขํ. สนฺตํเยว โข ปน กิริยํ ‘อตฺถิ กิริยา’ ติสฺส ทิฏฺฐิ โหติ; สาสฺส โหติ สมฺมาทิฏฺฐิ. สนฺตํเยว โข ปน กิริยํ ‘อตฺถิ กิริยา’ติ สงฺกปฺเปติ; สฺวาสฺส โหติ สมฺมาสงฺกปฺโป. สนฺตํเยว โข ปน กิริยํ ‘อตฺถิ กิริยา’ติ วาจํ ภาสติ; สาสฺส โหติ สมฺมาวาจา. สนฺตํเยว โข ปน กิริยํ ‘อตฺถิ กิริยา’ติ อาห; เย เต อรหนฺโต กิริยวาทา เตสมยํ น ปจฺจนีกํ กโรติ. สนฺตํเยว โข ปน กิริยํ ‘อตฺถิ กิริยา’ติ ปรํ สญฺญาเปติ; สาสฺส โหติ สทฺธมฺมสญฺญตฺติ. ตาย จ ปน สทฺธมฺมสญฺญตฺติยา เนวตฺตานุกฺกํเสติ, น ปรํ วมฺเภติ. อิติ ปุพฺเพว โข ปนสฺส ทุสฺสีลฺยํ ปหีนํ โหติ, สุสีลฺยํ ปจฺจุปฏฺฐิตํ— อยญฺจ สมฺมาทิฏฺฐิ สมฺมาสงฺกปฺโป สมฺมาวาจา อริยานํ อปจฺจนีกตา สทฺธมฺมสญฺญตฺติ อนตฺตุกฺกํสนา อปรวมฺภนา. เอวมสฺสิเม อเนเก กุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ สมฺมาทิฏฺฐิปจฺจยา.
ตตฺร, คหปตโย, วิญฺญู ปุริโส อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ— ‘สเจ โข อตฺถิ กิริยา, เอวมยํ ภวํ ปุริสปุคฺคโล กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชิสฺสติ. กามํ โข ปน มาหุ กิริยา, โหตุ เนสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ สจฺจํ วจนํ; อถ จ ปนายํ ภวํ ปุริสปุคฺคโล ทิฏฺเฐว ธมฺเม วิญฺญูนํ ปาสํโส— สีลวา ปุริสปุคฺคโล สมฺมาทิฏฺฐิ กิริยวาโท’ติ. สเจ โข อตฺเถว กิริยา, เอวํ อิมสฺส โภโต ปุริสปุคฺคลสฺส อุภยตฺถ กฏคฺคโห— ยญฺจ ทิฏฺเฐว ธมฺเม วิญฺญูนํ ปาสํโส, ยญฺจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชิสฺสติ. เอวมสฺสายํ อปณฺณโก ธมฺโม สุสมตฺโต สมาทินฺโน, อุภยํสํ ผริตฺวา ติฏฺฐติ, ริญฺจติ อกุสลํ ฐานํ.
สนฺติ, คหปตโย, เอเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺฐิโน— ‘นตฺถิ เหตุ, นตฺถิ ปจฺจโย สตฺตานํ สํกิเลสาย; อเหตู อปฺปจฺจยา สตฺตา สงฺกิลิสฺสนฺติ. นตฺถิ เหตุ, นตฺถิ ปจฺจโย สตฺตานํ วิสุทฺธิยา; อเหตู อปฺปจฺจยา สตฺตา วิสุชฺฌนฺติ. นตฺถิ พลํ, นตฺถิ วีริยํ, นตฺถิ ปุริสถาโม, นตฺถิ ปุริสปรกฺกโม; สพฺเพ สตฺตา สพฺเพ ปาณา สพฺเพ ภูตา สพฺเพ ชีวา อวสา อพลา อวีริยา นิยติสํคติภาวปริณตา ฉเสฺววาภิชาตีสุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺตี’ติ. เตสํเยว โข, คหปตโย, สมณพฺราหฺมณานํ เอเก สมณพฺราหฺมณา อุชุวิปจฺจนีกวาทา. เต เอวมาหํสุ— ‘อตฺถิ เหตุ, อตฺถิ ปจฺจโย สตฺตานํ สํกิเลสาย; สเหตู สปฺปจฺจยา สตฺตา สงฺกิลิสฺสนฺติ. อตฺถิ เหตุ, อตฺถิ ปจฺจโย สตฺตานํ วิสุทฺธิยา; สเหตู สปฺปจฺจยา สตฺตา วิสุชฺฌนฺติ. อตฺถิ พลํ, อตฺถิ วีริยํ, อตฺถิ ปุริสถาโม, อตฺถิ ปุริสปรกฺกโม; น สพฺเพ สตฺตา สพฺเพ ปาณา สพฺเพ ภูตา สพฺเพ ชีวา อวสา อพลา อวีริยา นิยติสํคติภาวปริณตา ฉเสฺววาภิชาตีสุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺตี’ติ. ตํ กิํ มญฺญถ, คหปตโย, นนุเม สมณพฺราหฺมณา อญฺญมญฺญสฺส อุชุวิปจฺจนีกวาทา”ติ? “เอวํ, ภนฺเต”.
“ตตฺร, คหปตโย, เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺฐิโน— ‘นตฺถิ เหตุ, นตฺถิ ปจฺจโย สตฺตานํ สํกิเลสาย; อเหตู อปฺปจฺจยา สตฺตา สงฺกิลิสฺสนฺติ. นตฺถิ เหตุ, นตฺถิ ปจฺจโย สตฺตานํ วิสุทฺธิยา; อเหตู อปฺปจฺจยา สตฺตา วิสุชฺฌนฺติ. นตฺถิ พลํ, นตฺถิ วีริยํ, นตฺถิ ปุริสถาโม, นตฺถิ ปุริสปรกฺกโม; สพฺเพ สตฺตา สพฺเพ ปาณา สพฺเพ ภูตา สพฺเพ ชีวา อวสา อพลา อวีริยา นิยติสํคติภาวปริณตา ฉเสฺววาภิชาตีสุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺตี’ติ เตสเมตํ ปาฏิกงฺขํ— ยมิทํ กายสุจริตํ, วจีสุจริตํ, มโนสุจริตํ— อิเม ตโย กุสเล ธมฺเม อภินิวชฺเชตฺวา ยมิทํ กายทุจฺจริตํ, วจีทุจฺจริตํ, มโนทุจฺจริตํ— อิเม ตโย อกุสเล ธมฺเม สมาทาย วตฺติสฺสนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? น หิ เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา ปสฺสนฺติ อกุสลานํ ธมฺมานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ, กุสลานํ ธมฺมานํ เนกฺขมฺเม อานิสํสํ โวทานปกฺขํ. สนฺตํเยว โข ปน เหตุํ ‘นตฺถิ เหตู’ ติสฺส ทิฏฺฐิ โหติ; สาสฺส โหติ มิจฺฉาทิฏฺฐิ. สนฺตํเยว โข ปน เหตุํ ‘นตฺถิ เหตู’ติ สงฺกปฺเปติ; สฺวาสฺส โหติ มิจฺฉาสงฺกปฺโป. สนฺตํเยว โข ปน เหตุํ ‘นตฺถิ เหตู’ติ วาจํ ภาสติ; สาสฺส โหติ มิจฺฉาวาจา. สนฺตํเยว โข ปน เหตุํ ‘นตฺถิ เหตู’ติ อาห; เย เต อรหนฺโต เหตุวาทา เตสมยํ ปจฺจนีกํ กโรติ. สนฺตํเยว โข ปน เหตุํ ‘นตฺถิ เหตู’ติ ปรํ สญฺญาเปติ; สาสฺส โหติ อสทฺธมฺมสญฺญตฺติ. ตาย จ ปน อสทฺธมฺมสญฺญตฺติยา อตฺตานุกฺกํเสติ, ปรํ วมฺเภติ. อิติ ปุพฺเพว โข ปนสฺส สุสีลฺยํ ปหีนํ โหติ, ทุสฺสีลฺยํ ปจฺจุปฏฺฐิตํ— อยญฺจ มิจฺฉาทิฏฺฐิ มิจฺฉาสงฺกปฺโป มิจฺฉาวาจา อริยานํ ปจฺจนีกตา อสทฺธมฺมสญฺญตฺติ อตฺตานุกฺกํสนา ปรวมฺภนา. เอวมสฺสิเม อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ มิจฺฉาทิฏฺฐิปจฺจยา.
ตตฺร, คหปตโย, วิญฺญู ปุริโส อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ— ‘สเจ โข นตฺถิ เหตุ, เอวมยํ ภวํ ปุริสปุคฺคโล กายสฺส เภทา ปรํ มรณา โสตฺถิมตฺตานํ กริสฺสติ; สเจ โข อตฺถิ เหตุ, เอวมยํ ภวํ ปุริสปุคฺคโล กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชิสฺสติ. กามํ โข ปน มาหุ เหตุ, โหตุ เนสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ สจฺจํ วจนํ; อถ จ ปนายํ ภวํ ปุริสปุคฺคโล ทิฏฺเฐว ธมฺเม วิญฺญูนํ คารโยฺห— ทุสฺสีโล ปุริสปุคฺคโล มิจฺฉาทิฏฺฐิ อเหตุกวาโท’ติ. สเจ โข อตฺเถว เหตุ, เอวํ อิมสฺส โภโต ปุริสปุคฺคลสฺส อุภยตฺถ กลิคฺคโห— ยญฺจ ทิฏฺเฐว ธมฺเม วิญฺญูนํ คารโยฺห, ยญฺจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชิสฺสติ. เอวมสฺสายํ อปณฺณโก ธมฺโม ทุสฺสมตฺโต สมาทินฺโน, เอกํสํ ผริตฺวา ติฏฺฐติ, ริญฺจติ กุสลํ ฐานํ.
ตตฺร, คหปตโย, เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺฐิโน— ‘อตฺถิ เหตุ, อตฺถิ ปจฺจโย สตฺตานํ สํกิเลสาย; สเหตู สปฺปจฺจยา สตฺตา สงฺกิลิสฺสนฺติ. อตฺถิ เหตุ, อตฺถิ ปจฺจโย สตฺตานํ วิสุทฺธิยา; สเหตู สปฺปจฺจยา สตฺตา วิสุชฺฌนฺติ. อตฺถิ พลํ, อตฺถิ วีริยํ, อตฺถิ ปุริสถาโม, อตฺถิ ปุริสปรกฺกโม; น สพฺเพ สตฺตา สพฺเพ ปาณา สพฺเพ ภูตา สพฺเพ ชีวา อวสา อพลา อวีริยา นิยติสํคติภาวปริณตา ฉเสฺววาภิชาตีสุ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทนฺตี’ติ เตสเมตํ ปาฏิกงฺขํ— ยมิทํ กายทุจฺจริตํ, วจีทุจฺจริตํ, มโนทุจฺจริตํ— อิเม ตโย อกุสเล ธมฺเม อภินิวชฺเชตฺวา ยมิทํ กายสุจริตํ, วจีสุจริตํ, มโนสุจริตํ— อิเม ตโย กุสเล ธมฺเม สมาทาย วตฺติสฺสนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ปสฺสนฺติ หิ เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อกุสลานํ ธมฺมานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ, กุสลานํ ธมฺมานํ เนกฺขมฺเม อานิสํสํ โวทานปกฺขํ. สนฺตํเยว โข ปน เหตุํ ‘อตฺถิ เหตู’ ติสฺส ทิฏฺฐิ โหติ; สาสฺส โหติ สมฺมาทิฏฺฐิ. สนฺตํเยว โข ปน เหตุํ ‘อตฺถิ เหตู’ติ สงฺกปฺเปติ; สฺวาสฺส โหติ สมฺมาสงฺกปฺโป. สนฺตํเยว โข ปน เหตุํ ‘อตฺถิ เหตู’ติ วาจํ ภาสติ; สาสฺส โหติ สมฺมาวาจา. สนฺตํเยว โข ปน เหตุํ ‘อตฺถิ เหตู’ติ อาห, เย เต อรหนฺโต เหตุวาทา เตสมยํ น ปจฺจนีกํ กโรติ. สนฺตํเยว โข ปน เหตุํ ‘อตฺถิ เหตู’ติ ปรํ สญฺญาเปติ; สาสฺส โหติ สทฺธมฺมสญฺญตฺติ. ตาย จ ปน สทฺธมฺมสญฺญตฺติยา เนวตฺตานุกฺกํเสติ, น ปรํ วมฺเภติ. อิติ ปุพฺเพว โข ปนสฺส ทุสฺสีลฺยํ ปหีนํ โหติ, สุสีลฺยํ ปจฺจุปฏฺฐิตํ— อยญฺจ สมฺมาทิฏฺฐิ สมฺมาสงฺกปฺโป สมฺมาวาจา อริยานํ อปจฺจนีกตา สทฺธมฺมสญฺญตฺติ อนตฺตุกฺกํสนา อปรวมฺภนา. เอวมสฺสิเม อเนเก กุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ สมฺมาทิฏฺฐิปจฺจยา.
ตตฺร, คหปตโย, วิญฺญู ปุริโส อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ— ‘สเจ โข อตฺถิ เหตุ, เอวมยํ ภวํ ปุริสปุคฺคโล กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชิสฺสติ. กามํ โข ปน มาหุ เหตุ, โหตุ เนสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ สจฺจํ วจนํ; อถ จ ปนายํ ภวํ ปุริสปุคฺคโล ทิฏฺเฐว ธมฺเม วิญฺญูนํ ปาสํโส— สีลวา ปุริสปุคฺคโล สมฺมาทิฏฺฐิ เหตุวาโท’ติ. สเจ โข อตฺถิ เหตุ, เอวํ อิมสฺส โภโต ปุริสปุคฺคลสฺส อุภยตฺถ กฏคฺคโห— ยญฺจ ทิฏฺเฐว ธมฺเม วิญฺญูนํ ปาสํโส, ยญฺจ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชิสฺสติ. เอวมสฺสายํ อปณฺณโก ธมฺโม สุสมตฺโต สมาทินฺโน, อุภยํสํ ผริตฺวา ติฏฺฐติ, ริญฺจติ อกุสลํ ฐานํ.
สนฺติ, คหปตโย, เอเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺฐิโน— ‘นตฺถิ สพฺพโส อารุปฺปา’ติ. เตสํเยว โข, คหปตโย, สมณพฺราหฺมณานํ เอเก สมณพฺราหฺมณา อุชุวิปจฺจนีกวาทา. เต เอวมาหํสุ— ‘อตฺถิ สพฺพโส อารุปฺปา’ติ. ตํ กิํ มญฺญถ, คหปตโย, นนุเม สมณพฺราหฺมณา อญฺญมญฺญสฺส อุชุวิปจฺจนีกวาทา”ติ? “เอวํ, ภนฺเต”.
“ตตฺร, คหปตโย, วิญฺญู ปุริโส อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ— เย โข เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺฐิโน— ‘นตฺถิ สพฺพโส อารุปฺปา’ติ, อิทํ เม อทิฏฺฐํ; เยปิ เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺฐิโน— ‘อตฺถิ สพฺพโส อารุปฺปา’ติ, อิทํ เม อวิทิตํ. อหญฺเจว โข ปน อชานนฺโต อปสฺสนฺโต เอกํเสน อาทาย โวหเรยฺยํ— อิทเมว สจฺจํ, โมฆมญฺญนฺติ, น เมตํ อสฺส ปติรูปํ. เย โข เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺฐิโน— ‘นตฺถิ สพฺพโส อารุปฺปา’ติ, สเจ เตสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ สจฺจํ วจนํ, ฐานเมตํ วิชฺชติ— เย เต เทวา รูปิโน มโนมยา, อปณฺณกํ เม ตตฺรูปปตฺติ ภวิสฺสติ. เย ปน เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺฐิโน— ‘อตฺถิ สพฺพโส อารุปฺปา’ติ, สเจ เตสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ สจฺจํ วจนํ, ฐานเมตํ วิชฺชติ— เย เต เทวา อรูปิโน สญฺญามยา, อปณฺณกํ เม ตตฺรูปปตฺติ ภวิสฺสติ. ทิสฺสนฺติ โข ปน รูปาธิกรณํ ทณฺฑาทานสตฺถาทานกลหวิคฺคหวิวาทตุวํตุวํเปสุญฺญมุสาวาทา. ‘นตฺถิ โข ปเนตํ สพฺพโส อรูเป’ติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย รูปานํเยว นิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย ปฏิปนฺโน โหติ.
สนฺติ, คหปตโย, เอเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺฐิโน— ‘นตฺถิ สพฺพโส ภวนิโรโธ’ติ. เตสํเยว โข, คหปตโย, สมณพฺราหฺมณานํ เอเก สมณพฺราหฺมณา อุชุวิปจฺจนีกวาทา. เต เอวมาหํสุ— ‘อตฺถิ สพฺพโส ภวนิโรโธ’ติ. ตํ กิํ มญฺญถ, คหปตโย, นนุเม สมณพฺราหฺมณา อญฺญมญฺญสฺส อุชุวิปจฺจนีกวาทา”ติ? “เอวํ, ภนฺเต”.
“ตตฺร, คหปตโย, วิญฺญู ปุริโส อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ— เย โข เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺฐิโน— ‘นตฺถิ สพฺพโส ภวนิโรโธ’ติ, อิทํ เม อทิฏฺฐํ; เยปิ เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺฐิโน— ‘อตฺถิ สพฺพโส ภวนิโรโธ’ติ, อิทํ เม อวิทิตํ. อหญฺเจว โข ปน อชานนฺโต อปสฺสนฺโต เอกํเสน อาทาย โวหเรยฺยํ— อิทเมว สจฺจํ, โมฆมญฺญนฺติ, น เมตํ อสฺส ปติรูปํ. เย โข เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺฐิโน— ‘นตฺถิ สพฺพโส ภวนิโรโธ’ติ, สเจ เตสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ สจฺจํ วจนํ, ฐานเมตํ วิชฺชติ— เย เต เทวา อรูปิโน สญฺญามยา อปณฺณกํ เม ตตฺรูปปตฺติ ภวิสฺสติ. เย ปน เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺฐิโน— ‘อตฺถิ สพฺพโส ภวนิโรโธ’ติ, สเจ เตสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ สจฺจํ วจนํ, ฐานเมตํ วิชฺชติ— ยํ ทิฏฺเฐว ธมฺเม ปรินิพฺพายิสฺสามิ. เย โข เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺฐิโน— ‘นตฺถิ สพฺพโส ภวนิโรโธ’ติ, เตสมยํ ทิฏฺฐิ สาราคาย สนฺติเก, สํโยคาย สนฺติเก, อภินนฺทนาย สนฺติเก, อชฺโฌสานาย สนฺติเก, อุปาทานาย สนฺติเก. เย ปน เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺฐิโน— ‘อตฺถิ สพฺพโส ภวนิโรโธ’ติ, เตสมยํ ทิฏฺฐิ อสาราคาย สนฺติเก, อสํโยคาย สนฺติเก, อนภินนฺทนาย สนฺติเก, อนชฺโฌสานาย สนฺติเก, อนุปาทานาย สนฺติเกติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย ภวานํเยว นิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย ปฏิปนฺโน โหติ.
จตฺตาโรเม, คหปตโย, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิํ. กตเม จตฺตาโร? อิธ, คหปตโย, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อตฺตนฺตโป โหติ อตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต. อิธ, คหปตโย, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ปรนฺตโป โหติ ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต. อิธ, คหปตโย, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อตฺตนฺตโป จ โหติ อตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต ปรนฺตโป จ ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต. อิธ, คหปตโย, เอกจฺโจ ปุคฺคโล เนวตฺตนฺตโป โหติ นาตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต น ปรนฺตโป น ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต; โส อนตฺตนฺตโป อปรนฺตโป ทิฏฺเฐว ธมฺเม นิจฺฉาโต นิพฺพุโต สีตีภูโต สุขปฺปฏิสํเวที พฺรหฺมภูเตน อตฺตนา วิหรติ.
กตโม จ, คหปตโย, ปุคฺคโล อตฺตนฺตโป อตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต? อิธ, คหปตโย, เอกจฺโจ ปุคฺคโล อเจลโก โหติ มุตฺตาจาโร หตฺถาปเลขโน …เป… อิติ เอวรูปํ อเนกวิหิตํ กายสฺส อาตาปนปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรติ. อยํ วุจฺจติ, คหปตโย, ปุคฺคโล อตฺตนฺตโป อตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต.
กตโม จ, คหปตโย, ปุคฺคโล ปรนฺตโป ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต? อิธ, คหปตโย, เอกจฺโจ ปุคฺคโล โอรพฺภิโก โหติ สูกริโก …เป… เย วา ปนญฺเญปิ เกจิ กุรูรกมฺมนฺตา. อยํ วุจฺจติ, คหปตโย, ปุคฺคโล ปรนฺตโป ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต.
กตโม จ, คหปตโย, ปุคฺคโล อตฺตนฺตโป จ อตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต ปรนฺตโป จ ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต? อิธ, คหปตโย, เอกจฺโจ ปุคฺคโล ราชา วา โหติ ขตฺติโย มุทฺธาวสิตฺโต …เป… เตปิ ทณฺฑตชฺชิตา ภยตชฺชิตา อสฺสุมุขา รุทมานา ปริกมฺมานิ กโรนฺติ. อยํ วุจฺจติ, คหปตโย, ปุคฺคโล อตฺตนฺตโป จ อตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต ปรนฺตโป จ ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต.
กตโม จ, คหปตโย, ปุคฺคโล เนวตฺตนฺตโป นาตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต น ปรนฺตโป น ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต; โส อนตฺตนฺตโป อปรนฺตโป ทิฏฺเฐว ธมฺเม นิจฺฉาโต นิพฺพุโต สีตีภูโต สุขปฺปฏิสํเวที พฺรหฺมภูเตน อตฺตนา วิหรติ? อิธ, คหปตโย, ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ …เป… โส อิเม ปญฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปญฺญาย ทุพฺพลีกรเณ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ …เป… ตติยํ ฌานํ …เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ.
โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ฐิเต อาเนญฺชปฺปตฺเต ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติญาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ. โส อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ เสยฺยถิทํ— เอกมฺปิ ชาติํ ทฺเวปิ ชาติโย …เป… อิติ สาการํ เสาทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ฐิเต อาเนญฺชปฺปตฺเต สตฺตานํ จุตูปปาตญาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ. โส ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ, สุคเต ทุคฺคเต …เป… ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ. โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ฐิเต อาเนญฺชปฺปตฺเต อาสวานํ ขยญาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ. โส ‘อิทํ ทุกฺขนฺ’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ …เป… ‘อยํ อาสวนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. ตสฺส เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโต กามาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, ภวาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, อวิชฺชาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ. วิมุตฺตสฺมิํ วิมุตฺตมิติ ญาณํ โหติ. ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานาติ. อยํ วุจฺจติ, คหปตโย, ปุคฺคโล เนวตฺตนฺตโป นาตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต น ปรนฺตโป น ปรปริตาปนานุโยคมนุยุตฺโต; โส อนตฺตนฺตโป อปรนฺตโป ทิฏฺเฐว ธมฺเม นิจฺฉาโต นิพฺพุโต สีตีภูโต สุขปฺปฏิสํเวที พฺรหฺมภูเตน อตฺตนา วิหรตี”ติ.
เอวํ วุตฺเต, สาเลยฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ— “อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม. เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย ‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติ; เอวเมวํ โภตา โคตเมน อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอเต มยํ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉาม ธมฺมญฺจ ภิกฺขุสํฆญฺจ. อุปาสเก โน ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คเต”ติ.
อปณฺณกสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ ทสมํ.
คหปติวคฺโค นิฏฺฐิโต ปฐโม.
ตสฺสุทฺทานํ
กนฺทรนาครเสขวโต จ,
โปตลิโย ปุน ชีวกภจฺโจ;
อุปาลิทมโถ กุกฺกุรอภโย,_
พหุเวทนียาปณฺณกโต ทสโม.