Skip to content

1.6 อุปาลิสุตฺต

56.
119

เอวํ เม สุตํ—  เอกํ สมยํ ภควา นาฬนฺทายํ วิหรติ ปาวาริกมฺพวเน. เตน โข ปน สมเยน นิคณฺโฐ นาฏปุตฺโต นาฬนฺทายํ ปฏิวสติ มหติยา นิคณฺฐปริสาย สทฺธิํ. อถ โข ทีฆตปสฺสี นิคณฺโฐ นาฬนฺทายํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต เยน ปาวาริกมฺพวนํ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺฐาสิ. เอกมนฺตํ ฐิตํ โข ทีฆตปสฺสิํ นิคณฺฐํ ภควา เอตทโวจ—  “สํวิชฺชนฺติ โข, ตปสฺสิ, อาสนานิ; สเจ อากงฺขสิ นิสีทา”ติ. เอวํ วุตฺเต, ทีฆตปสฺสี นิคณฺโฐ อญฺญตรํ นีจํ อาสนํ คเหตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข ทีฆตปสฺสิํ นิคณฺฐํ ภควา เอตทโวจ—  “กติ ปน, ตปสฺสิ, นิคณฺโฐ นาฏปุตฺโต กมฺมานิ ปญฺญเปติ ปาปสฺส กมฺมสฺส กิริยาย ปาปสฺส กมฺมสฺส ปวตฺติยา”ติ?

120

“น โข, อาวุโส โคตม, อาจิณฺณํ นิคณฺฐสฺส นาฏปุตฺตสฺส ‘กมฺมํ, กมฺมนฺ’ติ ปญฺญเปตุํ; ‘ทณฺฑํ, ทณฺฑนฺ’ติ โข, อาวุโส โคตม, อาจิณฺณํ นิคณฺฐสฺส นาฏปุตฺตสฺส ปญฺญเปตุนฺ”ติ.

121

“กติ ปน, ตปสฺสิ, นิคณฺโฐ นาฏปุตฺโต ทณฺฑานิ ปญฺญเปติ ปาปสฺส กมฺมสฺส กิริยาย ปาปสฺส กมฺมสฺส ปวตฺติยา”ติ?

122

“ตีณิ โข, อาวุโส โคตม, นิคณฺโฐ นาฏปุตฺโต ทณฺฑานิ ปญฺญเปติ ปาปสฺส กมฺมสฺส กิริยาย ปาปสฺส กมฺมสฺส ปวตฺติยาติ, เสยฺยถิทํ—  กายทณฺฑํ, วจีทณฺฑํ, มโนทณฺฑนฺ”ติ.

123

“กิํ ปน, ตปสฺสิ, อญฺญเทว กายทณฺฑํ, อญฺญํ วจีทณฺฑํ, อญฺญํ มโนทณฺฑนฺ”ติ?

124

“อญฺญเทว, อาวุโส โคตม, กายทณฺฑํ, อญฺญํ วจีทณฺฑํ, อญฺญํ มโนทณฺฑนฺ”ติ.

125

“อิเมสํ ปน, ตปสฺสิ, ติณฺณํ ทณฺฑานํ เอวํ ปฏิวิภตฺตานํ เอวํ ปฏิวิสิฏฺฐานํ กตมํ ทณฺฑํ นิคณฺโฐ นาฏปุตฺโต มหาสาวชฺชตรํ ปญฺญเปติ ปาปสฺส กมฺมสฺส กิริยาย ปาปสฺส กมฺมสฺส ปวตฺติยา, ยทิ วา กายทณฺฑํ, ยทิ วา วจีทณฺฑํ, ยทิ วา มโนทณฺฑนฺ”ติ?

126

“อิเมสํ โข, อาวุโส โคตม, ติณฺณํ ทณฺฑานํ เอวํ ปฏิวิภตฺตานํ เอวํ ปฏิวิสิฏฺฐานํ กายทณฺฑํ นิคณฺโฐ นาฏปุตฺโต มหาสาวชฺชตรํ ปญฺญเปติ ปาปสฺส กมฺมสฺส กิริยาย ปาปสฺส กมฺมสฺส ปวตฺติยา, โน ตถา วจีทณฺฑํ, โน ตถา มโนทณฺฑนฺ”ติ.

127

“กายทณฺฑนฺติ, ตปสฺสิ, วเทสิ”?

128

“กายทณฺฑนฺติ, อาวุโส โคตม, วทามิ”.

129

“กายทณฺฑนฺติ, ตปสฺสิ, วเทสิ”?

130

“กายทณฺฑนฺติ, อาวุโส โคตม, วทามิ”.

131

“กายทณฺฑนฺติ, ตปสฺสิ, วเทสิ”?

132

“กายทณฺฑนฺติ, อาวุโส โคตม, วทามี”ติ.

133

อิติห ภควา ทีฆตปสฺสิํ นิคณฺฐํ อิมสฺมิํ กถาวตฺถุสฺมิํ ยาวตติยกํ ปติฏฺฐาเปสิ.

57.
134

เอวํ วุตฺเต, ทีฆตปสฺสี นิคณฺโฐ ภควนฺตํ เอตทโวจ—  “ตฺวํ ปนาวุโส โคตม, กติ ทณฺฑานิ ปญฺญเปสิ ปาปสฺส กมฺมสฺส กิริยาย ปาปสฺส กมฺมสฺส ปวตฺติยา”ติ?

135

“น โข, ตปสฺสิ, อาจิณฺณํ ตถาคตสฺส ‘ทณฺฑํ, ทณฺฑนฺ’ติ ปญฺญเปตุํ; ‘กมฺมํ, กมฺมนฺ’ติ โข, ตปสฺสิ, อาจิณฺณํ ตถาคตสฺส ปญฺญเปตุนฺ”ติ?

136

“ตฺวํ ปนาวุโส โคตม, กติ กมฺมานิ ปญฺญเปสิ ปาปสฺส กมฺมสฺส กิริยาย ปาปสฺส กมฺมสฺส ปวตฺติยา”ติ?

137

“ตีณิ โข อหํ, ตปสฺสิ, กมฺมานิ ปญฺญเปมิ ปาปสฺส กมฺมสฺส กิริยาย ปาปสฺส กมฺมสฺส ปวตฺติยา, เสยฺยถิทํ—  กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, มโนกมฺมนฺ”ติ.

138

“กิํ ปนาวุโส โคตม, อญฺญเทว กายกมฺมํ, อญฺญํ วจีกมฺมํ, อญฺญํ มโนกมฺมนฺ”ติ?

139

“อญฺญเทว, ตปสฺสิ, กายกมฺมํ, อญฺญํ วจีกมฺมํ, อญฺญํ มโนกมฺมนฺ”ติ.

140

“อิเมสํ ปนาวุโส โคตม, ติณฺณํ กมฺมานํ เอวํ ปฏิวิภตฺตานํ เอวํ ปฏิวิสิฏฺฐานํ กตมํ กมฺมํ มหาสาวชฺชตรํ ปญฺญเปสิ ปาปสฺส กมฺมสฺส กิริยาย ปาปสฺส กมฺมสฺส ปวตฺติยา, ยทิ วา กายกมฺมํ, ยทิ วา วจีกมฺมํ, ยทิ วา มโนกมฺมนฺ”ติ?

141

“อิเมสํ โข อหํ, ตปสฺสิ, ติณฺณํ กมฺมานํ เอวํ ปฏิวิภตฺตานํ เอวํ ปฏิวิสิฏฺฐานํ มโนกมฺมํ มหาสาวชฺชตรํ ปญฺญเปมิ ปาปสฺส กมฺมสฺส กิริยาย ปาปสฺส กมฺมสฺส ปวตฺติยา, โน ตถา กายกมฺมํ, โน ตถา วจีกมฺมนฺ”ติ.

142

“มโนกมฺมนฺติ, อาวุโส โคตม, วเทสิ”?

143

“มโนกมฺมนฺติ, ตปสฺสิ, วทามิ”.

144

“มโนกมฺมนฺติ, อาวุโส โคตม, วเทสิ”?

145

“มโนกมฺมนฺติ, ตปสฺสิ, วทามิ”.

146

“มโนกมฺมนฺติ, อาวุโส โคตม, วเทสิ”?

147

“มโนกมฺมนฺติ, ตปสฺสิ, วทามี”ติ.

148

อิติห ทีฆตปสฺสี นิคณฺโฐ ภควนฺตํ อิมสฺมิํ กถาวตฺถุสฺมิํ ยาวตติยกํ ปติฏฺฐาเปตฺวา อุฏฺฐายาสนา เยน นิคณฺโฐ นาฏปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ.

58.
149

เตน โข ปน สมเยน นิคณฺโฐ นาฏปุตฺโต มหติยา คิหิปริสาย สทฺธิํ นิสินฺโน โหติ พาลกินิยา ปริสาย อุปาลิปมุขาย. อทฺทสา โข นิคณฺโฐ นาฏปุตฺโต ทีฆตปสฺสิํ นิคณฺฐํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ; ทิสฺวาน ทีฆตปสฺสิํ นิคณฺฐํ เอตทโวจ—  “หนฺท กุโต นุ ตฺวํ, ตปสฺสิ, อาคจฺฉสิ ทิวา ทิวสฺสา”ติ? “อิโต หิ โข อหํ, ภนฺเต, อาคจฺฉามิ สมณสฺส โคตมสฺส สนฺติกา”ติ. “อหุ ปน เต, ตปสฺสิ, สมเณน โคตเมน สทฺธิํ โกจิเทว กถาสลฺลาโป”ติ? “อหุ โข เม, ภนฺเต, สมเณน โคตเมน สทฺธิํ โกจิเทว กถาสลฺลาโป”ติ. “ยถา กถํ ปน เต, ตปสฺสิ, อหุ สมเณน โคตเมน สทฺธิํ โกจิเทว กถาสลฺลาโป”ติ? อถ โข ทีฆตปสฺสี นิคณฺโฐ ยาวตโก อโหสิ ภควตา สทฺธิํ กถาสลฺลาโป ตํ สพฺพํ นิคณฺฐสฺส นาฏปุตฺตสฺส อาโรเจสิ. เอวํ วุตฺเต, นิคณฺโฐ นาฏปุตฺโต ทีฆตปสฺสิํ นิคณฺฐํ เอตทโวจ—  “สาธุ สาธุ, ตปสฺสิ. ยถา ตํ สุตวตา สาวเกน สมฺมเทว สตฺถุสาสนํ อาชานนฺเตน เอวเมว ทีฆตปสฺสินา นิคณฺเฐน สมณสฺส โคตมสฺส พฺยากตํ. กิญฺหิ โสภติ ฉโว มโนทณฺโฑ อิมสฺส เอวํ โอฬาริกสฺส กายทณฺฑสฺส อุปนิธาย. อถ โข กายทณฺโฑว มหาสาวชฺชตโร ปาปสฺส กมฺมสฺส กิริยาย ปาปสฺส กมฺมสฺส ปวตฺติยา, โน ตถา วจีทณฺโฑ, โน ตถา มโนทณฺโฑ”ติ.

59.
150

เอวํ วุตฺเต, อุปาลิ คหปติ นิคณฺฐํ นาฏปุตฺตํ เอตทโวจ—  “สาธุ สาธุ, ภนฺเต ทีฆตปสฺสี. ยถา ตํ สุตวตา สาวเกน สมฺมเทว สตฺถุสาสนํ อาชานนฺเตน เอวเมวํ ภทนฺเตน ตปสฺสินา สมณสฺส โคตมสฺส พฺยากตํ. กิญฺหิ โสภติ ฉโว มโนทณฺโฑ อิมสฺส เอวํ โอฬาริกสฺส กายทณฺฑสฺส อุปนิธาย. อถ โข กายทณฺโฑว มหาสาวชฺชตโร ปาปสฺส กมฺมสฺส กิริยาย ปาปสฺส กมฺมสฺส ปวตฺติยา, โน ตถา วจีทณฺโฑ, โน ตถา มโนทณฺโฑ. หนฺท จาหํ, ภนฺเต, คจฺฉามิ สมณสฺส โคตมสฺส อิมสฺมิํ กถาวตฺถุสฺมิํ วาทํ อาโรเปสฺสามิ. สเจ เม สมโณ โคตโม ตถา ปติฏฺฐหิสฺสติ ยถา ภทนฺเตน ตปสฺสินา ปติฏฺฐาปิตํ; เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส ทีฆโลมิกํ เอฬกํ โลเมสุ คเหตฺวา อากฑฺเฒยฺย ปริกฑฺเฒยฺย สมฺปริกฑฺเฒยฺย; เอวเมวาหํ สมณํ โคตมํ วาเทน วาทํ อากฑฺฒิสฺสามิ ปริกฑฺฒิสฺสามิ สมฺปริกฑฺฒิสฺสามิ. เสยฺยถาปิ นาม พลวา โสณฺฑิกากมฺมกาโร มหนฺตํ โสณฺฑิกากิลญฺชํ คมฺภีเร อุทกรหเท ปกฺขิปิตฺวา กณฺเณ คเหตฺวา อากฑฺเฒยฺย ปริกฑฺเฒยฺย สมฺปริกฑฺเฒยฺย; เอวเมวาหํ สมณํ โคตมํ วาเทน วาทํ อากฑฺฒิสฺสามิ ปริกฑฺฒิสฺสามิ สมฺปริกฑฺฒิสฺสามิ. เสยฺยถาปิ นาม พลวา โสณฺฑิกาธุตฺโต วาลํ กณฺเณ คเหตฺวา โอธุเนยฺย นิทฺธุเนยฺย นิปฺโผเฏยฺย; เอวเมวาหํ สมณํ โคตมํ วาเทน วาทํ โอธุนิสฺสามิ นิทฺธุนิสฺสามิ นิปฺโผเฏสฺสามิ. เสยฺยถาปิ นาม กุญฺชโร สฏฺฐิหายโน คมฺภีรํ โปกฺขรณิํ โอคาเหตฺวา สาณโธวิกํ นาม กีฬิตชาตํ กีฬติ; เอวเมวาหํ สมณํ โคตมํ สาณโธวิกํ มญฺเญ กีฬิตชาตํ กีฬิสฺสามิ. หนฺท จาหํ, ภนฺเต, คจฺฉามิ สมณสฺส โคตมสฺส อิมสฺมิํ กถาวตฺถุสฺมิํ วาทํ อาโรเปสฺสามี”ติ. “คจฺฉ ตฺวํ, คหปติ, สมณสฺส โคตมสฺส อิมสฺมิํ กถาวตฺถุสฺมิํ วาทํ อาโรเปหิ. อหํ วา หิ, คหปติ, สมณสฺส โคตมสฺส วาทํ อาโรเปยฺยํ, ทีฆตปสฺสี วา นิคณฺโฐ, ตฺวํ วา”ติ.

60.
151

เอวํ วุตฺเต, ทีฆตปสฺสี นิคณฺโฐ นิคณฺฐํ นาฏปุตฺตํ เอตทโวจ—  “น โข เมตํ, ภนฺเต, รุจฺจติ ยํ อุปาลิ คหปติ สมณสฺส โคตมสฺส วาทํ อาโรเปยฺย. สมโณ หิ, ภนฺเต, โคตโม มายาวี อาวฏฺฏนิํ มายํ ชานาติ ยาย อญฺญติตฺถิยานํ สาวเก อาวฏฺเฏตี”ติ. “อฏฺฐานํ โข เอตํ, ตปสฺสิ, อนวกาโส ยํ อุปาลิ คหปติ สมณสฺส โคตมสฺส สาวกตฺตํ อุปคจฺเฉยฺย. ฐานญฺจ โข เอตํ วิชฺชติ ยํ สมโณ โคตโม อุปาลิสฺส คหปติสฺส สาวกตฺตํ อุปคจฺเฉยฺย. คจฺฉ ตฺวํ, คหปติ, สมณสฺส โคตมสฺส อิมสฺมิํ กถาวตฺถุสฺมิํ วาทํ อาโรเปหิ. อหํ วา หิ, คหปติ, สมณสฺส โคตมสฺส วาทํ อาโรเปยฺยํ, ทีฆตปสฺสี วา นิคณฺโฐ, ตฺวํ วา”ติ. ทุติยมฺปิ โข ทีฆตปสฺสี …เป…  ตติยมฺปิ โข ทีฆตปสฺสี นิคณฺโฐ นิคณฺฐํ นาฏปุตฺตํ เอตทโวจ—  “น โข เมตํ, ภนฺเต, รุจฺจติ ยํ อุปาลิ คหปติ สมณสฺส โคตมสฺส วาทํ อาโรเปยฺย. สมโณ หิ, ภนฺเต, โคตโม มายาวี อาวฏฺฏนิํ มายํ ชานาติ ยาย อญฺญติตฺถิยานํ สาวเก อาวฏฺเฏตี”ติ. “อฏฺฐานํ โข เอตํ, ตปสฺสิ, อนวกาโส ยํ อุปาลิ คหปติ สมณสฺส โคตมสฺส สาวกตฺตํ อุปคจฺเฉยฺย. ฐานญฺจ โข เอตํ วิชฺชติ ยํ สมโณ โคตโม อุปาลิสฺส คหปติสฺส สาวกตฺตํ อุปคจฺเฉยฺย. คจฺฉ ตฺวํ, คหปติ, สมณสฺส โคตมสฺส อิมสฺมิํ กถาวตฺถุสฺมิํ วาทํ อาโรเปหิ. อหํ วา หิ, คหปติ, สมณสฺส โคตมสฺส วาทํ อาโรเปยฺยํ, ทีฆตปสฺสี วา นิคณฺโฐ, ตฺวํ วา”ติ. “เอวํ, ภนฺเต”ติ โข อุปาลิ คหปติ นิคณฺฐสฺส นาฏปุตฺตสฺส ปฏิสฺสุตฺวา อุฏฺฐายาสนา นิคณฺฐํ นาฏปุตฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา เยน ปาวาริกมฺพวนํ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อุปาลิ คหปติ ภควนฺตํ เอตทโวจ—  “อาคมา นุ ขฺวิธ, ภนฺเต, ทีฆตปสฺสี นิคณฺโฐ”ติ?

152

“อาคมา ขฺวิธ, คหปติ, ทีฆตปสฺสี นิคณฺโฐ”ติ.

153

“อหุ โข ปน เต, ภนฺเต, ทีฆตปสฺสินา นิคณฺเฐน สทฺธิํ โกจิเทว กถาสลฺลาโป”ติ?

154

“อหุ โข เม, คหปติ, ทีฆตปสฺสินา นิคณฺเฐน สทฺธิํ โกจิเทว กถาสลฺลาโป”ติ.

155

“ยถา กถํ ปน เต, ภนฺเต, อหุ ทีฆตปสฺสินา นิคณฺเฐน สทฺธิํ โกจิเทว กถาสลฺลาโป”ติ?

156

อถ โข ภควา ยาวตโก อโหสิ ทีฆตปสฺสินา นิคณฺเฐน สทฺธิํ กถาสลฺลาโป ตํ สพฺพํ อุปาลิสฺส คหปติสฺส อาโรเจสิ.

61.
157

เอวํ วุตฺเต, อุปาลิ คหปติ ภควนฺตํ เอตทโวจ—  “สาธุ สาธุ, ภนฺเต ตปสฺสี. ยถา ตํ สุตวตา สาวเกน สมฺมเทว สตฺถุสาสนํ อาชานนฺเตน เอวเมวํ ทีฆตปสฺสินา นิคณฺเฐน ภควโต พฺยากตํ. กิญฺหิ โสภติ ฉโว มโนทณฺโฑ อิมสฺส เอวํ โอฬาริกสฺส กายทณฺฑสฺส อุปนิธาย? อถ โข กายทณฺโฑว มหาสาวชฺชตโร ปาปสฺส กมฺมสฺส กิริยาย ปาปสฺส กมฺมสฺส ปวตฺติยา, โน ตถา วจีทณฺโฑ, โน ตถา มโนทณฺโฑ”ติ. “สเจ โข ตฺวํ, คหปติ, สจฺเจ ปติฏฺฐาย มนฺเตยฺยาสิ สิยา โน เอตฺถ กถาสลฺลาโป”ติ. “สจฺเจ อหํ, ภนฺเต, ปติฏฺฐาย มนฺเตสฺสามิ; โหตุ โน เอตฺถ กถาสลฺลาโป”ติ.

62.
158

“ตํ กิํ มญฺญสิ, คหปติ, อิธสฺส นิคณฺโฐ อาพาธิโก ทุกฺขิโต พาฬฺหคิลาโน สีโตทกปฏิกฺขิตฺโต อุโณฺหทกปฏิเสวี. โส สีโตทกํ อลภมาโน กาลํ กเรยฺย. อิมสฺส ปน, คหปติ, นิคณฺโฐ นาฏปุตฺโต กตฺถูปปตฺติํ ปญฺญเปตี”ติ?

159

“อตฺถิ, ภนฺเต, มโนสตฺตา นาม เทวา ตตฺถ โส อุปปชฺชติ”.

160

“ตํ กิสฺส เหตุ”?

161

“อสุ หิ, ภนฺเต, มโนปฏิพทฺโธ กาลํ กโรตี”ติ.

162

“มนสิ กโรหิ, คหปติ, มนสิ กริตฺวา โข, คหปติ, พฺยากโรหิ. น โข เต สนฺธิยติ ปุริเมน วา ปจฺฉิมํ, ปจฺฉิเมน วา ปุริมํ. ภาสิตา โข ปน เต, คหปติ, เอสา วาจา—  ‘สจฺเจ อหํ, ภนฺเต, ปติฏฺฐาย มนฺเตสฺสามิ, โหตุ โน เอตฺถ กถาสลฺลาโป’”ติ. “กิญฺจาปิ, ภนฺเต, ภควา เอวมาห, อถ โข กายทณฺโฑว มหาสาวชฺชตโร ปาปสฺส กมฺมสฺส กิริยาย ปาปสฺส กมฺมสฺส ปวตฺติยา, โน ตถา วจีทณฺโฑ, โน ตถา มโนทณฺโฑ”ติ.

63.
163

“ตํ กิํ มญฺญสิ, คหปติ, อิธสฺส นิคณฺโฐ นาฏปุตฺโต จาตุยามสํวรสํวุโต สพฺพวาริวาริโต สพฺพวาริยุตฺโต สพฺพวาริธุโต สพฺพวาริผุโฏ. โส อภิกฺกมนฺโต ปฏิกฺกมนฺโต พหู ขุทฺทเก ปาเณ สงฺฆาตํ อาปาเทติ. อิมสฺส ปน, คหปติ, นิคณฺโฐ นาฏปุตฺโต กํ วิปากํ ปญฺญเปตี”ติ?

164

“อสญฺเจตนิกํ, ภนฺเต, นิคณฺโฐ นาฏปุตฺโต โน มหาสาวชฺชํ ปญฺญเปตี”ติ.

165

“สเจ ปน, คหปติ, เจเตตี”ติ?

166

“มหาสาวชฺชํ, ภนฺเต, โหตี”ติ.

167

“เจตนํ ปน, คหปติ, นิคณฺโฐ นาฏปุตฺโต กิสฺมิํ ปญฺญเปตี”ติ?

168

“มโนทณฺฑสฺมิํ, ภนฺเต”ติ.

169

“มนสิ กโรหิ, คหปติ, มนสิ กริตฺวา โข, คหปติ, พฺยากโรหิ. น โข เต สนฺธิยติ ปุริเมน วา ปจฺฉิมํ, ปจฺฉิเมน วา ปุริมํ. ภาสิตา โข ปน เต, คหปติ, เอสา วาจา—  ‘สจฺเจ อหํ, ภนฺเต, ปติฏฺฐาย มนฺเตสฺสามิ; โหตุ โน เอตฺถ กถาสลฺลาโป’”ติ. “กิญฺจาปิ, ภนฺเต, ภควา เอวมาห, อถ โข กายทณฺโฑว มหาสาวชฺชตโร ปาปสฺส กมฺมสฺส กิริยาย ปาปสฺส กมฺมสฺส ปวตฺติยา, โน ตถา วจีทณฺโฑ, โน ตถา มโนทณฺโฑ”ติ.

64.
170

“ตํ กิํ มญฺญสิ, คหปติ, อยํ นาฬนฺทา อิทฺธา เจว ผีตา จ พหุชนา อากิณฺณมนุสฺสา”ติ?

171

“เอวํ, ภนฺเต, อยํ นาฬนฺทา อิทฺธา เจว ผีตา จ พหุชนา อากิณฺณมนุสฺสา”ติ.

172

“ตํ กิํ มญฺญสิ, คหปติ, อิธ ปุริโส อาคจฺเฉยฺย อุกฺขิตฺตาสิโก. โส เอวํ วเทยฺย—  ‘อหํ ยาวติกา อิมิสฺสา นาฬนฺทาย ปาณา เต เอเกน ขเณน เอเกน มุหุตฺเตน เอกํ มํสขลํ เอกํ มํสปุญฺชํ กริสฺสามี’ติ. ตํ กิํ มญฺญสิ, คหปติ, ปโหติ นุ โข โส ปุริโส ยาวติกา อิมิสฺสา นาฬนฺทาย ปาณา เต เอเกน ขเณน เอเกน มุหุตฺเตน เอกํ มํสขลํ เอกํ มํสปุญฺชํ กาตุนฺ”ติ?

173

“ทสปิ, ภนฺเต, ปุริสา, วีสมฺปิ, ภนฺเต, ปุริสา, ติํสมฺปิ, ภนฺเต, ปุริสา, จตฺตารีสมฺปิ, ภนฺเต, ปุริสา, ปญฺญาสมฺปิ, ภนฺเต, ปุริสา นปฺปโหนฺติ ยาวติกา อิมิสฺสา นาฬนฺทาย ปาณา เต เอเกน ขเณน เอเกน มุหุตฺเตน เอกํ มํสขลํ เอกํ มํสปุญฺชํ กาตุํ. กิญฺหิ โสภติ เอโก ฉโว ปุริโส”ติ.

174

“ตํ กิํ มญฺญสิ, คหปติ, อิธ อาคจฺเฉยฺย สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปตฺโต. โส เอวํ วเทยฺย—  ‘อหํ อิมํ นาฬนฺทํ เอเกน มโนปโทเสน ภสฺมํ กริสฺสามี’ติ. ตํ กิํ มญฺญสิ, คหปติ, ปโหติ นุ โข โส สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปตฺโต อิมํ นาฬนฺทํ เอเกน มโนปโทเสน ภสฺมํ กาตุนฺ”ติ?

175

“ทสปิ, ภนฺเต, นาฬนฺทา, วีสมฺปิ นาฬนฺทา, ติํสมฺปิ นาฬนฺทา, จตฺตารีสมฺปิ นาฬนฺทา, ปญฺญาสมฺปิ นาฬนฺทา ปโหติ โส สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปตฺโต เอเกน มโนปโทเสน ภสฺมํ กาตุํ. กิญฺหิ โสภติ เอกา ฉวา นาฬนฺทา”ติ.

176

“มนสิ กโรหิ, คหปติ, มนสิ กริตฺวา โข, คหปติ, พฺยากโรหิ. น โข เต สนฺธิยติ ปุริเมน วา ปจฺฉิมํ, ปจฺฉิเมน วา ปุริมํ. ภาสิตา โข ปน เต, คหปติ, เอสา วาจา—  ‘สจฺเจ อหํ, ภนฺเต, ปติฏฺฐาย มนฺเตสฺสามิ; โหตุ โน เอตฺถ กถาสลฺลาโป’”ติ.

177

“กิญฺจาปิ, ภนฺเต, ภควา เอวมาห, อถ โข กายทณฺโฑว มหาสาวชฺชตโร ปาปสฺส กมฺมสฺส กิริยาย ปาปสฺส กมฺมสฺส ปวตฺติยา, โน ตถา วจีทณฺโฑ, โน ตถา มโนทณฺโฑ”ติ.

65.
178

“ตํ กิํ มญฺญสิ, คหปติ, สุตํ เต ทณฺฑกีรญฺญํ กาลิงฺคารญฺญํ มชฺฌารญฺญํ มาตงฺคารญฺญํ อรญฺญํ อรญฺญภูตนฺ”ติ?

179

“เอวํ, ภนฺเต, สุตํ เม ทณฺฑกีรญฺญํ กาลิงฺคารญฺญํ มชฺฌารญฺญํ มาตงฺคารญฺญํ อรญฺญํ อรญฺญภูตนฺ”ติ.

180

“ตํ กิํ มญฺญสิ, คหปติ, กินฺติ เต สุตํ เกน ตํ ทณฺฑกีรญฺญํ กาลิงฺคารญฺญํ มชฺฌารญฺญํ มาตงฺคารญฺญํ อรญฺญํ อรญฺญภูตนฺ”ติ?

181

“สุตํ เมตํ, ภนฺเต, อิสีนํ มโนปโทเสน ตํ ทณฺฑกีรญฺญํ กาลิงฺคารญฺญํ มชฺฌารญฺญํ มาตงฺคารญฺญํ อรญฺญํ อรญฺญภูตนฺ”ติ.

182

“มนสิ กโรหิ, คหปติ, มนสิ กริตฺวา โข, คหปติ, พฺยากโรหิ. น โข เต สนฺธิยติ ปุริเมน วา ปจฺฉิมํ, ปจฺฉิเมน วา ปุริมํ. ภาสิตา โข ปน เต, คหปติ, เอสา วาจา—  ‘สจฺเจ อหํ, ภนฺเต, ปติฏฺฐาย มนฺเตสฺสามิ; โหตุ โน เอตฺถ กถาสลฺลาโป’”ติ.

66.
183

“ปุริเมเนวาหํ, ภนฺเต, โอปมฺเมน ภควโต อตฺตมโน อภิรทฺโธ. อปิ จาหํ อิมานิ ภควโต วิจิตฺรานิ ปญฺหปฏิภานานิ โสตุกาโม, เอวาหํ ภควนฺตํ ปจฺจนีกํ กาตพฺพํ อมญฺญิสฺสํ. อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต, อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต. เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย—  ‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติ; เอวเมวํ ภควตา อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมญฺจ ภิกฺขุสํฆญฺจ. อุปาสกํ มํ ภควา ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คตนฺ”ติ.

67.
184

“อนุวิจฺจการํ โข, คหปติ, กโรหิ, อนุวิจฺจกาโร ตุมฺหาทิสานํ ญาตมนุสฺสานํ สาธุ โหตี”ติ. “อิมินาปาหํ, ภนฺเต, ภควโต ภิโยฺยโส มตฺตาย อตฺตมโน อภิรทฺโธ ยํ มํ ภควา เอวมาห—  ‘อนุวิจฺจการํ โข, คหปติ, กโรหิ, อนุวิจฺจกาโร ตุมฺหาทิสานํ ญาตมนุสฺสานํ สาธุ โหตี’ติ. มญฺหิ, ภนฺเต, อญฺญติตฺถิยา สาวกํ ลภิตฺวา เกวลกปฺปํ นาฬนฺทํ ปฏากํ ปริหเรยฺยุํ—  ‘อุปาลิ อมฺหากํ คหปติ สาวกตฺตํ อุปคโต’ติ. อถ จ ปน มํ ภควา เอวมาห—  ‘อนุวิจฺจการํ โข, คหปติ, กโรหิ, อนุวิจฺจกาโร ตุมฺหาทิสานํ ญาตมนุสฺสานํ สาธุ โหตี’ติ. เอสาหํ, ภนฺเต, ทุติยมฺปิ ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมญฺจ ภิกฺขุสํฆญฺจ. อุปาสกํ มํ ภควา ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คตนฺ”ติ.

68.
185

“ทีฆรตฺตํ โข เต, คหปติ, นิคณฺฐานํ โอปานภูตํ กุลํ เยน เนสํ อุปคตานํ ปิณฺฑกํ ทาตพฺพํ มญฺเญยฺยาสี”ติ. “อิมินาปาหํ, ภนฺเต, ภควโต ภิโยฺยโส มตฺตาย อตฺตมโน อภิรทฺโธ ยํ มํ ภควา เอวมาห—  ‘ทีฆรตฺตํ โข เต, คหปติ, นิคณฺฐานํ โอปานภูตํ กุลํ เยน เนสํ อุปคตานํ ปิณฺฑกํ ทาตพฺพํ มญฺเญยฺยาสี’ติ. สุตํ เมตํ, ภนฺเต, สมโณ โคตโม เอวมาห—  ‘มยฺหเมว ทานํ ทาตพฺพํ, นาญฺเญสํ ทานํ ทาตพฺพํ; มยฺหเมว สาวกานํ ทานํ ทาตพฺพํ, นาญฺเญสํ สาวกานํ ทานํ ทาตพฺพํ; มยฺหเมว ทินฺนํ มหปฺผลํ, นาญฺเญสํ ทินฺนํ มหปฺผลํ; มยฺหเมว สาวกานํ ทินฺนํ มหปฺผลํ, นาญฺเญสํ สาวกานํ ทินฺนํ มหปฺผลนฺ’ติ. อถ จ ปน มํ ภควา นิคณฺเฐสุปิ ทาเน สมาทเปติ. อปิ จ, ภนฺเต, มยเมตฺถ กาลํ ชานิสฺสาม. เอสาหํ, ภนฺเต, ตติยมฺปิ ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมญฺจ ภิกฺขุสํฆญฺจ. อุปาสกํ มํ ภควา ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คตนฺ”ติ.

69.
186

อถ โข ภควา อุปาลิสฺส คหปติสฺส อนุปุพฺพิํ กถํ กเถสิ, เสยฺยถิทํ—  ทานกถํ สีลกถํ สคฺคกถํ, กามานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ, เนกฺขมฺเม อานิสํสํ ปกาเสสิ. ยทา ภควา อญฺญาสิ อุปาลิํ คหปติํ กลฺลจิตฺตํ มุทุจิตฺตํ วินีวรณจิตฺตํ อุทคฺคจิตฺตํ ปสนฺนจิตฺตํ, อถ ยา พุทฺธานํ สามุกฺกํสิกา ธมฺมเทสนา ตํ ปกาเสสิ—  ทุกฺขํ, สมุทยํ, นิโรธํ, มคฺคํ. เสยฺยถาปิ นาม สุทฺธํ วตฺถํ อปคตกาฬกํ สมฺมเทว รชนํ ปฏิคฺคเณฺหยฺย; เอวเมว อุปาลิสฺส คหปติสฺส ตสฺมิํเยว อาสเน วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ—  “ยํ กิญฺจิ สมุทยธมฺมํ สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺมนฺ”ติ. อถ โข อุปาลิ คหปติ ทิฏฺฐธมฺโม ปตฺตธมฺโม วิทิตธมฺโม ปริโยคาฬฺหธมฺโม ติณฺณวิจิกิจฺโฉ วิคตกถํกโถ เวสารชฺชปฺปตฺโต อปรปฺปจฺจโย สตฺถุสาสเน ภควนฺตํ เอตทโวจ—  “หนฺท จ ทานิ มยํ, ภนฺเต, คจฺฉาม, พหุกิจฺจา มยํ พหุกรณียา”ติ. “ยสฺสทานิ ตฺวํ, คหปติ, กาลํ มญฺญสี”ติ.

70.
187

อถ โข อุปาลิ คหปติ ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฏฺฐายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา เยน สกํ นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา โทวาริกํ อามนฺเตสิ—  “อชฺชตคฺเค, สมฺม โทวาริก, อาวรามิ ทฺวารํ นิคณฺฐานํ นิคณฺฐีนํ, อนาวฏํ ทฺวารํ ภควโต ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนํ อุปาสกานํ อุปาสิกานํ. สเจ โกจิ นิคณฺโฐ อาคจฺฉติ ตเมนํ ตฺวํ เอวํ วเทยฺยาสิ—  ‘ติฏฺฐ, ภนฺเต, มา ปาวิสิ. อชฺชตคฺเค อุปาลิ คหปติ สมณสฺส โคตมสฺส สาวกตฺตํ อุปคโต. อาวฏํ ทฺวารํ นิคณฺฐานํ นิคณฺฐีนํ, อนาวฏํ ทฺวารํ ภควโต ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนํ อุปาสกานํ อุปาสิกานํ. สเจ เต, ภนฺเต, ปิณฺฑเกน อตฺโถ, เอตฺเถว ติฏฺฐ, เอตฺเถว เต อาหริสฺสนฺตี’”ติ. “เอวํ, ภนฺเต”ติ โข โทวาริโก อุปาลิสฺส คหปติสฺส ปจฺจโสฺสสิ.

71.
188

อสฺโสสิ โข ทีฆตปสฺสี นิคณฺโฐ—  “อุปาลิ กิร คหปติ สมณสฺส โคตมสฺส สาวกตฺตํ อุปคโต”ติ. อถ โข ทีฆตปสฺสี นิคณฺโฐ เยน นิคณฺโฐ นาฏปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา นิคณฺฐํ นาฏปุตฺตํ เอตทโวจ—  “สุตํ เมตํ, ภนฺเต, อุปาลิ กิร คหปติ สมณสฺส โคตมสฺส สาวกตฺตํ อุปคโต”ติ. “อฏฺฐานํ โข เอตํ, ตปสฺสิ, อนวกาโส ยํ อุปาลิ คหปติ สมณสฺส โคตมสฺส สาวกตฺตํ อุปคจฺเฉยฺย. ฐานญฺจ โข เอตํ วิชฺชติ ยํ สมโณ โคตโม อุปาลิสฺส คหปติสฺส สาวกตฺตํ อุปคจฺเฉยฺยา”ติ. ทุติยมฺปิ โข ทีฆตปสฺสี นิคณฺโฐ …เป…  ตติยมฺปิ โข ทีฆตปสฺสี นิคณฺโฐ นิคณฺฐํ นาฏปุตฺตํ เอตทโวจ—  “สุตํ เมตํ, ภนฺเต …เป…  อุปาลิสฺส คหปติสฺส สาวกตฺตํ อุปคจฺเฉยฺยา”ติ. “หนฺทาหํ, ภนฺเต, คจฺฉามิ ยาว ชานามิ ยทิ วา อุปาลิ คหปติ สมณสฺส โคตมสฺส สาวกตฺตํ อุปคโต ยทิ วา โน”ติ. “คจฺฉ ตฺวํ, ตปสฺสิ, ชานาหิ ยทิ วา อุปาลิ คหปติ สมณสฺส โคตมสฺส สาวกตฺตํ อุปคโต ยทิ วา โน”ติ.

72.
189

อถ โข ทีฆตปสฺสี นิคณฺโฐ เยน อุปาลิสฺส คหปติสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ. อทฺทสา โข โทวาริโก ทีฆตปสฺสิํ นิคณฺฐํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ. ทิสฺวาน ทีฆตปสฺสิํ นิคณฺฐํ เอตทโวจ—  “ติฏฺฐ, ภนฺเต, มา ปาวิสิ. อชฺชตคฺเค อุปาลิ คหปติ สมณสฺส โคตมสฺส สาวกตฺตํ อุปคโต. อาวฏํ ทฺวารํ นิคณฺฐานํ นิคณฺฐีนํ, อนาวฏํ ทฺวารํ ภควโต ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนํ อุปาสกานํ อุปาสิกานํ. สเจ เต, ภนฺเต, ปิณฺฑเกน อตฺโถ, เอตฺเถว ติฏฺฐ, เอตฺเถว เต อาหริสฺสนฺตี”ติ. “น เม, อาวุโส, ปิณฺฑเกน อตฺโถ”ติ วตฺวา ตโต ปฏินิวตฺติตฺวา เยน นิคณฺโฐ นาฏปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา นิคณฺฐํ นาฏปุตฺตํ เอตทโวจ—  “สจฺจํเยว โข, ภนฺเต, ยํ อุปาลิ คหปติ สมณสฺส โคตมสฺส สาวกตฺตํ อุปคโต. เอตํ โข เต อหํ, ภนฺเต, นาลตฺถํ, น โข เม, ภนฺเต, รุจฺจติ ยํ อุปาลิ คหปติ สมณสฺส โคตมสฺส วาทํ อาโรเปยฺย. สมโณ หิ, ภนฺเต, โคตโม มายาวี อาวฏฺฏนิํ มายํ ชานาติ ยาย อญฺญติตฺถิยานํ สาวเก อาวฏฺเฏตีติ. อาวฏฺโฏ โข เต, ภนฺเต, อุปาลิ คหปติ สมเณน โคตเมน อาวฏฺฏนิยา มายายา”ติ. “อฏฺฐานํ โข เอตํ, ตปสฺสิ, อนวกาโส ยํ อุปาลิ คหปติ สมณสฺส โคตมสฺส สาวกตฺตํ อุปคจฺเฉยฺย. ฐานญฺจ โข เอตํ วิชฺชติ ยํ สมโณ โคตโม อุปาลิสฺส คหปติสฺส สาวกตฺตํ อุปคจฺเฉยฺยา”ติ. ทุติยมฺปิ โข ทีฆตปสฺสี นิคณฺโฐ นิคณฺฐํ นาฏปุตฺตํ เอตทโวจ—  “สจฺจํเยว, ภนฺเต …เป…  อุปาลิสฺส คหปติสฺส สาวกตฺตํ อุปคจฺเฉยฺยา”ติ. ตติยมฺปิ โข ทีฆตปสฺสี นิคณฺโฐ นิคณฺฐํ นาฏปุตฺตํ เอตทโวจ—  “สจฺจํเยว โข, ภนฺเต …เป…  อุปาลิสฺส คหปติสฺส สาวกตฺตํ อุปคจฺเฉยฺยา”ติ. “หนฺท จาหํ, ตปสฺสิ, คจฺฉามิ ยาว จาหํ สามํเยว ชานามิ ยทิ วา อุปาลิ คหปติ สมณสฺส โคตมสฺส สาวกตฺตํ อุปคโต ยทิ วา โน”ติ.

190

อถ โข นิคณฺโฐ นาฏปุตฺโต มหติยา นิคณฺฐปริสาย สทฺธิํ เยน อุปาลิสฺส คหปติสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ. อทฺทสา โข โทวาริโก นิคณฺฐํ นาฏปุตฺตํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ. ทิสฺวาน นิคณฺฐํ นาฏปุตฺตํ เอตทโวจ—  “ติฏฺฐ, ภนฺเต, มา ปาวิสิ. อชฺชตคฺเค อุปาลิ คหปติ สมณสฺส โคตมสฺส สาวกตฺตํ อุปคโต. อาวฏํ ทฺวารํ นิคณฺฐานํ นิคณฺฐีนํ, อนาวฏํ ทฺวารํ ภควโต ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนํ อุปาสกานํ อุปาสิกานํ. สเจ เต, ภนฺเต, ปิณฺฑเกน อตฺโถ, เอตฺเถว ติฏฺฐ, เอตฺเถว เต อาหริสฺสนฺตี”ติ. “เตน หิ, สมฺม โทวาริก, เยน อุปาลิ คหปติ เตนุปสงฺกม; อุปสงฺกมิตฺวา อุปาลิํ คหปติํ เอวํ วเทหิ—  ‘นิคณฺโฐ, ภนฺเต, นาฏปุตฺโต มหติยา นิคณฺฐปริสาย สทฺธิํ พหิทฺวารโกฏฺฐเก ฐิโต; โส เต ทสฺสนกาโม’”ติ. “เอวํ, ภนฺเต”ติ โข โทวาริโก นิคณฺฐสฺส นาฏปุตฺตสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เยน อุปาลิ คหปติ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อุปาลิํ คหปติํ เอตทโวจ—  “นิคณฺโฐ, ภนฺเต, นาฏปุตฺโต มหติยา นิคณฺฐปริสาย สทฺธิํ พหิทฺวารโกฏฺฐเก ฐิโต; โส เต ทสฺสนกาโม”ติ. “เตน หิ, สมฺม โทวาริก, มชฺฌิมาย ทฺวารสาลาย อาสนานิ ปญฺญเปหี”ติ. “เอวํ, ภนฺเต”ติ โข โทวาริโก อุปาลิสฺส คหปติสฺส ปฏิสฺสุตฺวา มชฺฌิมาย ทฺวารสาลาย อาสนานิ ปญฺญเปตฺวา เยน อุปาลิ คหปติ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อุปาลิํ คหปติํ เอตทโวจ—  “ปญฺญตฺตานิ โข, ภนฺเต, มชฺฌิมาย ทฺวารสาลาย อาสนานิ. ยสฺสทานิ กาลํ มญฺญสี”ติ.

73.
191

อถ โข อุปาลิ คหปติ เยน มชฺฌิมา ทฺวารสาลา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ยํ ตตฺถ อาสนํ อคฺคญฺจ เสฏฺฐญฺจ อุตฺตมญฺจ ปณีตญฺจ ตตฺถ สามํ นิสีทิตฺวา โทวาริกํ อามนฺเตสิ—  “เตน หิ, สมฺม โทวาริก, เยน นิคณฺโฐ นาฏปุตฺโต เตนุปสงฺกม; อุปสงฺกมิตฺวา นิคณฺฐํ นาฏปุตฺตํ เอวํ วเทหิ—  ‘อุปาลิ, ภนฺเต, คหปติ เอวมาห—  ปวิส กิร, ภนฺเต, สเจ อากงฺขสี’”ติ. “เอวํ, ภนฺเต”ติ โข โทวาริโก อุปาลิสฺส คหปติสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เยน นิคณฺโฐ นาฏปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา นิคณฺฐํ นาฏปุตฺตํ เอตทโวจ—  “อุปาลิ, ภนฺเต, คหปติ เอวมาห—  ‘ปวิส กิร, ภนฺเต, สเจ อากงฺขสี’”ติ. อถ โข นิคณฺโฐ นาฏปุตฺโต มหติยา นิคณฺฐปริสาย สทฺธิํ เยน มชฺฌิมา ทฺวารสาลา เตนุปสงฺกมิ. อถ โข อุปาลิ คหปติ—  ยํ สุทํ ปุพฺเพ ยโต ปสฺสติ นิคณฺฐํ นาฏปุตฺตํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวาน ตโต ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ยํ ตตฺถ อาสนํ อคฺคญฺจ เสฏฺฐญฺจ อุตฺตมญฺจ ปณีตญฺจ ตํ อุตฺตราสงฺเคน สมฺมชฺชิตฺวา ปริคฺคเหตฺวา นิสีทาเปติ โส—  ทานิ ยํ ตตฺถ อาสนํ อคฺคญฺจ เสฏฺฐญฺจ อุตฺตมญฺจ ปณีตญฺจ ตตฺถ สามํ นิสีทิตฺวา นิคณฺฐํ นาฏปุตฺตํ เอตทโวจ—  “สํวิชฺชนฺติ โข, ภนฺเต, อาสนานิ; สเจ อากงฺขสิ, นิสีทา”ติ. เอวํ วุตฺเต, นิคณฺโฐ นาฏปุตฺโต อุปาลิํ คหปติํ เอตทโวจ—  “อุมฺมตฺโตสิ ตฺวํ, คหปติ, ทตฺโตสิ ตฺวํ, คหปติ. ‘คจฺฉามหํ, ภนฺเต, สมณสฺส โคตมสฺส วาทํ อาโรเปสฺสามี’ติ คนฺตฺวา มหตาสิ วาทสงฺฆาเฏน ปฏิมุกฺโก อาคโต. เสยฺยถาปิ, คหปติ, ปุริโส อณฺฑหารโก คนฺตฺวา อุพฺภเตหิ อณฺเฑหิ อาคจฺเฉยฺย, เสยฺยถา วา ปน คหปติ ปุริโส อกฺขิกหารโก คนฺตฺวา อุพฺภเตหิ อกฺขีหิ อาคจฺเฉยฺย; เอวเมว โข ตฺวํ, คหปติ, ‘คจฺฉามหํ, ภนฺเต, สมณสฺส โคตมสฺส วาทํ อาโรเปสฺสามี’ติ คนฺตฺวา มหตาสิ วาทสงฺฆาเฏน ปฏิมุกฺโก อาคโต. อาวฏฺโฏสิ โข ตฺวํ, คหปติ, สมเณน โคตเมน อาวฏฺฏนิยา มายายา”ติ.

74.
192

“ภทฺทิกา, ภนฺเต, อาวฏฺฏนี มายา; กลฺยาณี, ภนฺเต, อาวฏฺฏนี มายา; ปิยา เม, ภนฺเต, ญาติสาโลหิตา อิมาย อาวฏฺฏนิยา อาวฏฺเฏยฺยุํ; ปิยานมฺปิ เม อสฺส ญาติสาโลหิตานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย; สพฺเพ เจปิ, ภนฺเต, ขตฺติยา อิมาย อาวฏฺฏนิยา อาวฏฺเฏยฺยุํ; สพฺเพสานมฺปิสฺส ขตฺติยานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย; สพฺเพ เจปิ, ภนฺเต, พฺราหฺมณา …เป…  เวสฺสา …เป…  สุทฺทา อิมาย อาวฏฺฏนิยา อาวฏฺเฏยฺยุํ; สพฺเพสานมฺปิสฺส สุทฺทานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย; สเทวโก เจปิ, ภนฺเต, โลโก สมารโก สพฺรหฺมโก สสฺสมณพฺราหฺมณี ปชา สเทวมนุสฺสา อิมาย อาวฏฺฏนิยา อาวฏฺเฏยฺยุํ; สเทวกสฺสปิสฺส โลกสฺส สมารกสฺส สพฺรหฺมกสฺส สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายาติ. เตน หิ, ภนฺเต, อุปมํ เต กริสฺสามิ. อุปมายปิเธกจฺเจ วิญฺญู ปุริสา ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานนฺติ.

75.
193

ภูตปุพฺพํ, ภนฺเต, อญฺญตรสฺส พฺราหฺมณสฺส ชิณฺณสฺส วุฑฺฒสฺส มหลฺลกสฺส ทหรา มาณวิกา ปชาปตี อโหสิ คพฺภินี อุปวิชญฺญา. อถ โข, ภนฺเต, สา มาณวิกา ตํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจ—  ‘คจฺฉ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, อาปณา มกฺกฏจฺฉาปกํ กิณิตฺวา อาเนหิ, โย เม กุมารกสฺส กีฬาปนโก ภวิสฺสตี’ติ. เอวํ วุตฺเต, โส พฺราหฺมโณ ตํ มาณวิกํ เอตทโวจ—  ‘อาคเมหิ ตาว, โภติ, ยาว วิชายติ. สเจ ตฺวํ, โภติ, กุมารกํ วิชายิสฺสสิ, ตสฺสา เต อหํ อาปณา มกฺกฏจฺฉาปกํ กิณิตฺวา อาเนสฺสามิ, โย เต กุมารกสฺส กีฬาปนโก ภวิสฺสติ. สเจ ปน ตฺวํ, โภติ, กุมาริกํ วิชายิสฺสสิ, ตสฺสา เต อหํ อาปณา มกฺกฏจฺฉาปิกํ กิณิตฺวา อาเนสฺสามิ, ยา เต กุมาริกาย กีฬาปนิกา ภวิสฺสตี’ติ. ทุติยมฺปิ โข, ภนฺเต, สา มาณวิกา …เป…  ตติยมฺปิ โข, ภนฺเต, สา มาณวิกา ตํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจ—  ‘คจฺฉ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, อาปณา มกฺกฏจฺฉาปกํ กิณิตฺวา อาเนหิ, โย เม กุมารกสฺส กีฬาปนโก ภวิสฺสตี’ติ.

194

อถ โข, ภนฺเต, โส พฺราหฺมโณ ตสฺสา มาณวิกาย สารตฺโต ปฏิพทฺธจิตฺโต อาปณา มกฺกฏจฺฉาปกํ กิณิตฺวา อาเนตฺวา ตํ มาณวิกํ เอตทโวจ—  ‘อยํ เต, โภติ, อาปณา มกฺกฏจฺฉาปโก กิณิตฺวา อานีโต, โย เต กุมารกสฺส กีฬาปนโก ภวิสฺสตี’ติ. เอวํ วุตฺเต, ภนฺเต, สา มาณวิกา ตํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจ—  ‘คจฺฉ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, อิมํ มกฺกฏจฺฉาปกํ อาทาย เยน รตฺตปาณิ รชกปุตฺโต เตนุปสงฺกม; อุปสงฺกมิตฺวา รตฺตปาณิํ รชกปุตฺตํ เอวํ วเทหิ—  อิจฺฉามหํ, สมฺม รตฺตปาณิ, อิมํ มกฺกฏจฺฉาปกํ ปีตาวเลปนํ นาม รงฺคชาตํ รชิตํ อาโกฏิตปจฺจาโกฏิตํ อุภโตภาควิมฏฺฐนฺ’ติ.

195

อถ โข, ภนฺเต, โส พฺราหฺมโณ ตสฺสา มาณวิกาย สารตฺโต ปฏิพทฺธจิตฺโต ตํ มกฺกฏจฺฉาปกํ อาทาย เยน รตฺตปาณิ รชกปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา รตฺตปาณิํ รชกปุตฺตํ เอตทโวจ—  ‘อิจฺฉามหํ, สมฺม รตฺตปาณิ, อิมํ มกฺกฏจฺฉาปกํ ปีตาวเลปนํ นาม รงฺคชาตํ รชิตํ อาโกฏิตปจฺจาโกฏิตํ อุภโตภาควิมฏฺฐนฺ’ติ. เอวํ วุตฺเต, ภนฺเต, รตฺตปาณิ รชกปุตฺโต ตํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจ—  ‘อยํ โข เต, ภนฺเต, มกฺกฏจฺฉาปโก รงฺคกฺขโม หิ โข, โน อาโกฏนกฺขโม, โน วิมชฺชนกฺขโม’ติ. เอวเมว โข, ภนฺเต, พาลานํ นิคณฺฐานํ วาโท รงฺคกฺขโม หิ โข พาลานํ โน ปณฺฑิตานํ, โน อนุโยคกฺขโม, โน วิมชฺชนกฺขโม.

196

อถ โข, ภนฺเต, โส พฺราหฺมโณ อปเรน สมเยน นวํ ทุสฺสยุคํ อาทาย เยน รตฺตปาณิ รชกปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา รตฺตปาณิํ รชกปุตฺตํ เอตทโวจ—  ‘อิจฺฉามหํ, สมฺม รตฺตปาณิ, อิมํ นวํ ทุสฺสยุคํ ปีตาวเลปนํ นาม รงฺคชาตํ รชิตํ อาโกฏิตปจฺจาโกฏิตํ อุภโตภาควิมฏฺฐนฺ’ติ. เอวํ วุตฺเต, ภนฺเต, รตฺตปาณิ รชกปุตฺโต ตํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจ—  ‘อิทํ โข เต, ภนฺเต, นวํ ทุสฺสยุคํ รงฺคกฺขมญฺเจว อาโกฏนกฺขมญฺจ วิมชฺชนกฺขมญฺจา’ติ. เอวเมว โข, ภนฺเต, ตสฺส ภควโต วาโท อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส รงฺคกฺขโม เจว ปณฺฑิตานํ โน พาลานํ, อนุโยคกฺขโม จ วิมชฺชนกฺขโม จา”ติ.

197

“สราชิกา โข, คหปติ, ปริสา เอวํ ชานาติ—  ‘อุปาลิ คหปติ นิคณฺฐสฺส นาฏปุตฺตสฺส สาวโก’ติ. กสฺส ตํ, คหปติ, สาวกํ ธาเรมา”ติ? เอวํ วุตฺเต, อุปาลิ คหปติ อุฏฺฐายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา เยน ภควา เตนญฺชลิํ ปณาเมตฺวา นิคณฺฐํ นาฏปุตฺตํ เอตทโวจ—  “เตน หิ, ภนฺเต, สุโณหิ ยสฺสาหํ สาวโก”ติ—

76.
198

“ธีรสฺส วิคตโมหสฺส,
ปภินฺนขีลสฺส วิชิตวิชยสฺส;
อนีฆสฺส สุสมจิตฺตสฺส,
วุทฺธสีลสฺส สาธุปญฺญสฺส;
เวสมนฺตรสฺส วิมลสฺส,
ภควโต ตสฺส สาวโกหมสฺมิ.

199

อกถํกถิสฺส ตุสิตสฺส,
วนฺตโลกามิสสฺส มุทิตสฺส;
กตสมณสฺส มนุชสฺส,
อนฺติมสารีรสฺส นรสฺส;
อโนปมสฺส วิรชสฺส,
ภควโต ตสฺส สาวโกหมสฺมิ.

200

อสํสยสฺส กุสลสฺส,
เวนยิกสฺส สารถิวรสฺส;
อนุตฺตรสฺส รุจิรธมฺมสฺส,
นิกฺกงฺขสฺส ปภาสกสฺส;
มานจฺฉิทสฺส วีรสฺส,
ภควโต ตสฺส สาวโกหมสฺมิ.

201

นิสภสฺส อปฺปเมยฺยสฺส,
คมฺภีรสฺส โมนปตฺตสฺส;
เขมงฺกรสฺส เวทสฺส,
ธมฺมฏฺฐสฺส สํวุตตฺตสฺส;
สงฺคาติคสฺส มุตฺตสฺส,
ภควโต ตสฺส สาวโกหมสฺมิ.

202

นาคสฺส ปนฺตเสนสฺส,
ขีณสํโยชนสฺส มุตฺตสฺส;
ปฏิมนฺตกสฺส โธนสฺส,
ปนฺนธชสฺส วีตราคสฺส;
ทนฺตสฺส นิปฺปปญฺจสฺส,
ภควโต ตสฺส สาวโกหมสฺมิ.

203

อิสิสตฺตมสฺส อกุหสฺส,_
เตวิชฺชสฺส พฺรหฺมปตฺตสฺส;
นฺหาตกสฺส ปทกสฺส,
ปสฺสทฺธสฺส วิทิตเวทสฺส;
ปุรินฺททสฺส สกฺกสฺส,
ภควโต ตสฺส สาวโกหมสฺมิ.

204

อริยสฺส ภาวิตตฺตสฺส,
ปตฺติปตฺตสฺส เวยฺยากรณสฺส;
สติมโต วิปสฺสิสฺส,
อนภินตสฺส โน อปนตสฺส;
อเนชสฺส วสิปฺปตฺตสฺส,
ภควโต ตสฺส สาวโกหมสฺมิ.

205

สมุคฺคตสฺส ฌายิสฺส,
อนนุคตนฺตรสฺส สุทฺธสฺส;
อสิตสฺส หิตสฺส,
ปวิวิตฺตสฺส อคฺคปฺปตฺตสฺส;
ติณฺณสฺส ตารยนฺตสฺส,
ภควโต ตสฺส สาวโกหมสฺมิ.

206

สนฺตสฺส ภูริปญฺญสฺส,
มหาปญฺญสฺส วีตโลภสฺส;
ตถาคตสฺส สุคตสฺส,
อปฺปฏิปุคฺคลสฺส อสมสฺส;
วิสารทสฺส นิปุณสฺส,
ภควโต ตสฺส สาวโกหมสฺมิ.

207

ตณฺหจฺฉิทสฺส พุทฺธสฺส,
วีตธูมสฺส อนุปลิตฺตสฺส;
อาหุเนยฺยสฺส ยกฺขสฺส,
อุตฺตมปุคฺคลสฺส อตุลสฺส;_
มหโต ยสคฺคปตฺตสฺส,
ภควโต ตสฺส สาวโกหมสฺมี”ติ.

77.
208

“กทา สญฺญูฬฺหา ปน เต, คหปติ, อิเม สมณสฺส โคตมสฺส วณฺณา”ติ? “เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, นานาปุปฺผานํ มหาปุปฺผราสิ, ตเมนํ ทกฺโข มาลากาโร วา มาลาการนฺเตวาสี วา วิจิตฺตํ มาลํ คนฺเถยฺย; เอวเมว โข, ภนฺเต, โส ภควา อเนกวณฺโณ อเนกสตวณฺโณ. โก หิ, ภนฺเต, วณฺณารหสฺส วณฺณํ น กริสฺสตี”ติ? อถ โข นิคณฺฐสฺส นาฏปุตฺตสฺส ภควโต สกฺการํ อสหมานสฺส ตตฺเถว อุณฺหํ โลหิตํ มุขโต อุคฺคจฺฉีติ.

209

อุปาลิสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ ฉฏฺฐํ.