3.2 อคฺคิวจฺฉสุตฺต
เอวํ เม สุตํ— เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข วจฺฉโคตฺโต ปริพฺพาชโก เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข วจฺฉโคตฺโต ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ—
“กิํ นุ โข, โภ โคตม, ‘สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’ติ— เอวํทิฏฺฐิ ภวํ โคตโม”ติ? “น โข อหํ, วจฺฉ, เอวํทิฏฺฐิ— ‘สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’”ติ.
“กิํ ปน, โภ โคตม, ‘อสสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’ติ— เอวํทิฏฺฐิ ภวํ โคตโม”ติ? “น โข อหํ, วจฺฉ, เอวํทิฏฺฐิ— ‘อสสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’”ติ.
“กิํ นุ โข, โภ โคตม, ‘อนฺตวา โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’ติ— เอวํทิฏฺฐิ ภวํ โคตโม”ติ? “น โข อหํ, วจฺฉ, เอวํทิฏฺฐิ— ‘อนฺตวา โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’”ติ.
“กิํ ปน, โภ โคตม, ‘อนนฺตวา โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’ติ— เอวํทิฏฺฐิ ภวํ โคตโม”ติ? “น โข อหํ, วจฺฉ, เอวํทิฏฺฐิ— ‘อนนฺตวา โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’”ติ.
“กิํ นุ โข, โภ โคตม, ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีรํ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’ติ— เอวํทิฏฺฐิ ภวํ โคตโม”ติ? “น โข อหํ, วจฺฉ, เอวํทิฏฺฐิ— ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีรํ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’”ติ.
“กิํ ปน, โภ โคตม, ‘อญฺญํ ชีวํ อญฺญํ สรีรํ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’ติ— เอวํทิฏฺฐิ ภวํ โคตโม”ติ? “น โข อหํ, วจฺฉ, เอวํทิฏฺฐิ— ‘อญฺญํ ชีวํ อญฺญํ สรีรํ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’”ติ.
“กิํ นุ โข, โภ โคตม, ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’ติ— เอวํทิฏฺฐิ ภวํ โคตโม”ติ? “น โข อหํ, วจฺฉ, เอวํทิฏฺฐิ— ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’”ติ.
“กิํ ปน, โภ โคตม, ‘น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’ติ— เอวํทิฏฺฐิ ภวํ โคตโม”ติ? “น โข อหํ, วจฺฉ, เอวํทิฏฺฐิ— ‘น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’”ติ.
“กิํ นุ โข, โภ โคตม, ‘โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’ติ— เอวํทิฏฺฐิ ภวํ โคตโม”ติ? “น โข อหํ, วจฺฉ, เอวํทิฏฺฐิ— ‘โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’”ติ.
“กิํ ปน, โภ โคตม, ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’ติ— เอวํทิฏฺฐิ ภวํ โคตโม”ติ? “น โข อหํ, วจฺฉ, เอวํทิฏฺฐิ— ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’”ติ.
“‘กิํ นุ โข, โภ โคตม, สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺติ— เอวํทิฏฺฐิ ภวํ โคตโม’ติ อิติ ปุฏฺโฐ สมาโน ‘น โข อหํ, วจฺฉ, เอวํทิฏฺฐิ— สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’ติ วเทสิ. ‘กิํ ปน, โภ โคตม, อสสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺติ— เอวํทิฏฺฐิ ภวํ โคตโม’ติ อิติ ปุฏฺโฐ สมาโน ‘น โข อหํ, วจฺฉ, เอวํทิฏฺฐิ— อสสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’ติ วเทสิ. ‘กิํ นุ โข, โภ โคตม, อนฺตวา โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺติ— เอวํทิฏฺฐิ ภวํ โคตโม’ติ อิติ ปุฏฺโฐ สมาโน ‘น โข อหํ, วจฺฉ, เอวํทิฏฺฐิ— อนฺตวา โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’ติ วเทสิ. ‘กิํ ปน, โภ โคตม, อนนฺตวา โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺติ— เอวํทิฏฺฐิ ภวํ โคตโม’ติ อิติ ปุฏฺโฐ สมาโน ‘น โข อหํ, วจฺฉ, เอวํทิฏฺฐิ— อนนฺตวา โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’ติ วเทสิ. ‘กิํ นุ โข, โภ โคตม, ตํ ชีวํ ตํ สรีรํ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺติ— เอวํทิฏฺฐิ ภวํ โคตโม’ติ อิติ ปุฏฺโฐ สมาโน ‘น โข อหํ, วจฺฉ, เอวํทิฏฺฐิ— ตํ ชีวํ ตํ สรีรํ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’ติ วเทสิ. ‘กิํ ปน, โภ โคตม, อญฺญํ ชีวํ อญฺญํ สรีรํ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺติ— เอวํทิฏฺฐิ ภวํ โคตโม’ติ อิติ ปุฏฺโฐ สมาโน ‘น โข อหํ, วจฺฉ, เอวํทิฏฺฐิ— อญฺญํ ชีวํ อญฺญํ สรีรํ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’ติ วเทสิ. ‘กิํ นุ โข, โภ โคตม, โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺติ— เอวํทิฏฺฐิ ภวํ โคตโม’ติ อิติ ปุฏฺโฐ สมาโน ‘น โข อหํ, วจฺฉ, เอวํทิฏฺฐิ— โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’ติ วเทสิ.
‘กิํ ปน, โภ โคตม, น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺติ— เอวํทิฏฺฐิ ภวํ โคตโม’ติ อิติ ปุฏฺโฐ สมาโน ‘น โข อหํ, วจฺฉ, เอวํทิฏฺฐิ— น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’ติ วเทสิ. ‘กิํ นุ โข, โภ โคตม, โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺติ— เอวํทิฏฺฐิ ภวํ โคตโม’ติ อิติ ปุฏฺโฐ สมาโน ‘น โข อหํ, วจฺฉ, เอวํทิฏฺฐิ— โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’ติ วเทสิ. ‘กิํ ปน, โภ โคตม, เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺติ— เอวํทิฏฺฐิ ภวํ โคตโม’ติ อิติ ปุฏฺโฐ สมาโน ‘น โข อหํ, วจฺฉ, เอวํทิฏฺฐิ— เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’ติ วเทสิ.
กิํ ปน โภ โคตโม อาทีนวํ สมฺปสฺสมาโน เอวํ อิมานิ สพฺพโส ทิฏฺฐิคตานิ อนุปคโต”ติ?
“‘สสฺสโต โลโก’ติ โข, วจฺฉ, ทิฏฺฐิคตเมตํ ทิฏฺฐิคหนํ ทิฏฺฐิกนฺตาโร ทิฏฺฐิวิสูกํ ทิฏฺฐิวิปฺผนฺทิตํ ทิฏฺฐิสํโยชนํ สทุกฺขํ สวิฆาตํ เสาปายาสํ สปริฬาหํ, น นิพฺพิทาย น วิราคาย น นิโรธาย น อุปสมาย น อภิญฺญาย น สมฺโพธาย น นิพฺพานาย สํวตฺตติ. ‘อสสฺสโต โลโก’ติ โข, วจฺฉ …เป… ‘อนฺตวา โลโก’ติ โข, วจฺฉ …เป… ‘อนนฺตวา โลโก’ติ โข, วจฺฉ …เป… ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีรนฺ’ติ โข, วจฺฉ …เป… ‘อญฺญํ ชีวํ อญฺญํ สรีรนฺ’ติ โข, วจฺฉ …เป… ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ โข, วจฺฉ …เป… ‘น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ โข, วจฺฉ …เป… ‘โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ โข, วจฺฉ …เป… ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ โข, วจฺฉ, ทิฏฺฐิคตเมตํ ทิฏฺฐิคหนํ ทิฏฺฐิกนฺตาโร ทิฏฺฐิวิสูกํ ทิฏฺฐิวิปฺผนฺทิตํ ทิฏฺฐิสํโยชนํ สทุกฺขํ สวิฆาตํ เสาปายาสํ สปริฬาหํ, น นิพฺพิทาย น วิราคาย น นิโรธาย น อุปสมาย น อภิญฺญาย น สมฺโพธาย น นิพฺพานาย สํวตฺตติ. อิมํ โข อหํ, วจฺฉ, อาทีนวํ สมฺปสฺสมาโน เอวํ อิมานิ สพฺพโส ทิฏฺฐิคตานิ อนุปคโต”ติ.
“อตฺถิ ปน โภโต โคตมสฺส กิญฺจิ ทิฏฺฐิคตนฺ”ติ? “ทิฏฺฐิคตนฺติ โข, วจฺฉ, อปนีตเมตํ ตถาคตสฺส. ทิฏฺฐเญฺหตํ, วจฺฉ, ตถาคเตน— ‘อิติ รูปํ, อิติ รูปสฺส สมุทโย, อิติ รูปสฺส อตฺถงฺคโม; อิติ เวทนา, อิติ เวทนาย สมุทโย, อิติ เวทนาย อตฺถงฺคโม; อิติ สญฺญา, อิติ สญฺญาย สมุทโย, อิติ สญฺญาย อตฺถงฺคโม; อิติ สงฺขารา, อิติ สงฺขารานํ สมุทโย, อิติ สงฺขารานํ อตฺถงฺคโม; อิติ วิญฺญาณํ, อิติ วิญฺญาณสฺส สมุทโย, อิติ วิญฺญาณสฺส อตฺถงฺคโม’ติ. ตสฺมา ตถาคโต สพฺพมญฺญิตานํ สพฺพมถิตานํ สพฺพอหงฺการมมงฺการมานานุสยานํ ขยา วิราคา นิโรธา จาคา ปฏินิสฺสคฺคา อนุปาทา วิมุตฺโตติ วทามี”ติ.
“เอวํ วิมุตฺตจิตฺโต ปน, โภ โคตม, ภิกฺขุ กุหิํ อุปปชฺชตี”ติ? “อุปปชฺชตีติ โข, วจฺฉ, น อุเปติ”. “เตน หิ, โภ โคตม, น อุปปชฺชตี”ติ? “น อุปปชฺชตีติ โข, วจฺฉ, น อุเปติ”. “เตน หิ, โภ โคตม, อุปปชฺชติ จ น จ อุปปชฺชตี”ติ? “อุปปชฺชติ จ น จ อุปปชฺชตีติ โข, วจฺฉ, น อุเปติ”. “เตน หิ, โภ โคตม, เนว อุปปชฺชติ น น อุปปชฺชตี”ติ? “เนว อุปปชฺชติ น น อุปปชฺชตีติ โข, วจฺฉ, น อุเปติ”.
“‘เอวํ วิมุตฺตจิตฺโต ปน, โภ โคตม, ภิกฺขุ กุหิํ อุปปชฺชตี’ติ อิติ ปุฏฺโฐ สมาโน ‘อุปปชฺชตีติ โข, วจฺฉ, น อุเปตี’ติ วเทสิ. ‘เตน หิ, โภ โคตม, น อุปปชฺชตี’ติ อิติ ปุฏฺโฐ สมาโน ‘น อุปปชฺชตีติ โข, วจฺฉ, น อุเปตี’ติ วเทสิ. ‘เตน หิ, โภ โคตม, อุปปชฺชติ จ น จ อุปปชฺชตี’ติ อิติ ปุฏฺโฐ สมาโน ‘อุปปชฺชติ จ น จ อุปปชฺชตีติ โข, วจฺฉ, น อุเปตี’ติ วเทสิ. ‘เตน หิ, โภ โคตม, เนว อุปปชฺชติ น น อุปปชฺชตี’ติ อิติ ปุฏฺโฐ สมาโน ‘เนว อุปปชฺชติ น น อุปปชฺชตีติ โข, วจฺฉ, น อุเปตี’ติ วเทสิ. เอตฺถาหํ, โภ โคตม, อญฺญาณมาปาทิํ, เอตฺถ สมฺโมหมาปาทิํ. ยาปิ เม เอสา โภโต โคตมสฺส ปุริเมน กถาสลฺลาเปน อหุ ปสาทมตฺตา สาปิ เม เอตรหิ อนฺตรหิตา”ติ.
“อลญฺหิ เต, วจฺฉ, อญฺญาณาย, อลํ สมฺโมหาย. คมฺภีโร หายํ, วจฺฉ, ธมฺโม ทุทฺทโส ทุรนุโพโธ สนฺโต ปณีโต อตกฺกาวจโร นิปุโณ ปณฺฑิตเวทนีโย. โส ตยา ทุชฺชาโน อญฺญทิฏฺฐิเกน อญฺญขนฺติเกน อญฺญรุจิเกน อญฺญตฺรโยเคน อญฺญตฺราจริยเกน.
เตน หิ, วจฺฉ, ตญฺเญเวตฺถ ปฏิปุจฺฉิสฺสามิ; ยถา เต ขเมยฺย ตถา นํ พฺยากเรยฺยาสิ. ตํ กิํ มญฺญสิ, วจฺฉ, สเจ เต ปุรโต อคฺคิ ชเลยฺย, ชาเนยฺยาสิ ตฺวํ— ‘อยํ เม ปุรโต อคฺคิ ชลตี’”ติ? “สเจ เม, โภ โคตม, ปุรโต อคฺคิ ชเลยฺย, ชาเนยฺยาหํ— ‘อยํ เม ปุรโต อคฺคิ ชลตี’”ติ.
“สเจ ปน ตํ, วจฺฉ, เอวํ ปุจฺเฉยฺย— ‘โย เต อยํ ปุรโต อคฺคิ ชลติ อยํ อคฺคิ กิํ ปฏิจฺจ ชลตี’ติ, เอวํ ปุฏฺโฐ ตฺวํ, วจฺฉ, กินฺติ พฺยากเรยฺยาสี”ติ? “สเจ มํ, โภ โคตม, เอวํ ปุจฺเฉยฺย— ‘โย เต อยํ ปุรโต อคฺคิ ชลติ อยํ อคฺคิ กิํ ปฏิจฺจ ชลตี’ติ, เอวํ ปุฏฺโฐ อหํ, โภ โคตม, เอวํ พฺยากเรยฺยํ— ‘โย เม อยํ ปุรโต อคฺคิ ชลติ อยํ อคฺคิ ติณกฏฺฐุปาทานํ ปฏิจฺจ ชลตี’”ติ.
“สเจ เต, วจฺฉ, ปุรโต โส อคฺคิ นิพฺพาเยยฺย, ชาเนยฺยาสิ ตฺวํ— ‘อยํ เม ปุรโต อคฺคิ นิพฺพุโต’”ติ? “สเจ เม, โภ โคตม, ปุรโต โส อคฺคิ นิพฺพาเยยฺย, ชาเนยฺยาหํ— ‘อยํ เม ปุรโต อคฺคิ นิพฺพุโต’”ติ.
“สเจ ปน ตํ, วจฺฉ, เอวํ ปุจฺเฉยฺย— ‘โย เต อยํ ปุรโต อคฺคิ นิพฺพุโต โส อคฺคิ อิโต กตมํ ทิสํ คโต— ปุรตฺถิมํ วา ทกฺขิณํ วา ปจฺฉิมํ วา อุตฺตรํ วา’ติ, เอวํ ปุฏฺโฐ ตฺวํ, วจฺฉ, กินฺติ พฺยากเรยฺยาสี”ติ? “น อุเปติ, โภ โคตม, ยญฺหิ โส, โภ โคตม, อคฺคิ ติณกฏฺฐุปาทานํ ปฏิจฺจ อชลิ ตสฺส จ ปริยาทานา อญฺญสฺส จ อนุปหารา อนาหาโร นิพฺพุโตเตฺวว สงฺขฺยํ คจฺฉตี”ติ.
“เอวเมว โข, วจฺฉ, เยน รูเปน ตถาคตํ ปญฺญาปยมาโน ปญฺญาเปยฺย ตํ รูปํ ตถาคตสฺส ปหีนํ อุจฺฉินฺนมูลํ ตาลาวตฺถุกตํ อนภาวํกตํ อายติํ อนุปฺปาทธมฺมํ. รูปสงฺขยวิมุตฺโต โข, วจฺฉ, ตถาคโต คมฺภีโร อปฺปเมโยฺย ทุปฺปริโยคาโฬฺห— เสยฺยถาปิ มหาสมุทฺโท. อุปปชฺชตีติ น อุเปติ, น อุปปชฺชตีติ น อุเปติ, อุปปชฺชติ จ น จ อุปปชฺชตีติ น อุเปติ, เนว อุปปชฺชติ น น อุปปชฺชตีติ น อุเปติ.
ยาย เวทนาย ตถาคตํ ปญฺญาปยมาโน ปญฺญาเปยฺย สา เวทนา ตถาคตสฺส ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายติํ อนุปฺปาทธมฺมา. เวทนาสงฺขยวิมุตฺโต โข, วจฺฉ, ตถาคโต คมฺภีโร อปฺปเมโยฺย ทุปฺปริโยคาโฬฺห— เสยฺยถาปิ มหาสมุทฺโท. อุปปชฺชตีติ น อุเปติ, น อุปปชฺชตีติ น อุเปติ, อุปปชฺชติ จ น จ อุปปชฺชตีติ น อุเปติ, เนว อุปปชฺชติ น น อุปปชฺชตีติ น อุเปติ.
ยาย สญฺญาย ตถาคตํ ปญฺญาปยมาโน ปญฺญาเปยฺย สา สญฺญา ตถาคตสฺส ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายติํ อนุปฺปาทธมฺมา. สญฺญาสงฺขยวิมุตฺโต โข, วจฺฉ, ตถาคโต คมฺภีโร อปฺปเมโยฺย ทุปฺปริโยคาโฬฺห— เสยฺยถาปิ มหาสมุทฺโท. อุปปชฺชตีติ น อุเปติ, น อุปปชฺชตีติ น อุเปติ, อุปปชฺชติ จ น จ อุปปชฺชตีติ น อุเปติ, เนว อุปปชฺชติ น น อุปปชฺชตีติ น อุเปติ.
เยหิ สงฺขาเรหิ ตถาคตํ ปญฺญาปยมาโน ปญฺญาเปยฺย เต สงฺขารา ตถาคตสฺส ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายติํ อนุปฺปาทธมฺมา. สงฺขารสงฺขยวิมุตฺโต โข, วจฺฉ, ตถาคโต คมฺภีโร อปฺปเมโยฺย ทุปฺปริโยคาโฬฺห— เสยฺยถาปิ มหาสมุทฺโท. อุปปชฺชตีติ น อุเปติ, น อุปปชฺชตีติ น อุเปติ, อุปปชฺชติ จ น จ อุปปชฺชตีติ น อุเปติ, เนว อุปปชฺชติ น น อุปปชฺชตีติ น อุเปติ.
เยน วิญฺญาเณน ตถาคตํ ปญฺญาปยมาโน ปญฺญาเปยฺย ตํ วิญฺญาณํ ตถาคตสฺส ปหีนํ อุจฺฉินฺนมูลํ ตาลาวตฺถุกตํ อนภาวํกตํ อายติํ อนุปฺปาทธมฺมํ. วิญฺญาณสงฺขยวิมุตฺโต โข, วจฺฉ, ตถาคโต คมฺภีโร อปฺปเมโยฺย ทุปฺปริโยคาโฬฺห— เสยฺยถาปิ มหาสมุทฺโท. อุปปชฺชตีติ น อุเปติ, น อุปปชฺชตีติ น อุเปติ, อุปปชฺชติ จ น จ อุปปชฺชตีติ น อุเปติ, เนว อุปปชฺชติ น น อุปปชฺชตีติ น อุเปตี”ติ.
เอวํ วุตฺเต, วจฺฉโคตฺโต ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ— “เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, คามสฺส วา นิคมสฺส วา อวิทูเร มหาสาลรุกฺโข. ตสฺส อนิจฺจตา สาขาปลาสา ปลุชฺเชยฺยุํ, ตจปปฏิกา ปลุชฺเชยฺยุํ, เผคฺคู ปลุชฺเชยฺยุํ; โส อปเรน สมเยน อปคตสาขาปลาโส อปคตตจปปฏิโก อปคตเผคฺคุโก สุทฺโธ อสฺส, สาเร ปติฏฺฐิโต; เอวเมว โภโต โคตมสฺส ปาวจนํ อปคตสาขาปลาสํ อปคตตจปปฏิกํ อปคตเผคฺคุกํ สุทฺธํ, สาเร ปติฏฺฐิตํ. อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม …เป… อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คตนฺ”ติ.
อคฺคิวจฺฉสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ ทุติยํ.