3.4 ทีฆนขสุตฺต
เอวํ เม สุตํ— เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต สูกรขตายํ. อถ โข ทีฆนโข ปริพฺพาชโก เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺฐาสิ. เอกมนฺตํ ฐิโต โข ทีฆนโข ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ— “อหญฺหิ, โภ โคตม, เอวํวาที เอวํทิฏฺฐิ— ‘สพฺพํ เม นกฺขมตี’”ติ. “ยาปิ โข เต เอสา, อคฺคิเวสฺสน, ทิฏฺฐิ— ‘สพฺพํ เม นกฺขมตี’ติ, เอสาปิ เต ทิฏฺฐิ นกฺขมตี”ติ? “เอสา เจ เม, โภ โคตม, ทิฏฺฐิ ขเมยฺย, ตํปสฺส ตาทิสเมว, ตํปสฺส ตาทิสเมวา”ติ. “อโต โข เต, อคฺคิเวสฺสน, พหู หิ พหุตรา โลกสฺมิํ เย เอวมาหํสุ— ‘ตํปสฺส ตาทิสเมว, ตํปสฺส ตาทิสเมวา’ติ. เต ตญฺเจว ทิฏฺฐิํ นปฺปชหนฺติ อญฺญญฺจ ทิฏฺฐิํ อุปาทิยนฺติ. อโต โข เต, อคฺคิเวสฺสน, ตนู หิ ตนุตรา โลกสฺมิํ เย เอวมาหํสุ— ‘ตํปสฺส ตาทิสเมว, ตํปสฺส ตาทิสเมวา’ติ. เต ตญฺเจว ทิฏฺฐิํ ปชหนฺติ อญฺญญฺจ ทิฏฺฐิํ น อุปาทิยนฺติ. สนฺตคฺคิเวสฺสน, เอเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺฐิโน— ‘สพฺพํ เม ขมตี’ติ; สนฺตคฺคิเวสฺสน, เอเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺฐิโน— ‘สพฺพํ เม นกฺขมตี’ติ; สนฺตคฺคิเวสฺสน, เอเก สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺฐิโน— ‘เอกจฺจํ เม ขมติ, เอกจฺจํ เม นกฺขมตี’ติ. ตตฺรคฺคิเวสฺสน, เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺฐิโน— ‘สพฺพํ เม ขมตี’ติ เตสมยํ ทิฏฺฐิ สาราคาย สนฺติเก, สญฺโญคาย สนฺติเก, อภินนฺทนาย สนฺติเก, อชฺโฌสานาย สนฺติเก, อุปาทานาย สนฺติเก; ตตฺรคฺคิเวสฺสน เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺฐิโน— ‘สพฺพํ เม นกฺขมตี’ติ เตสมยํ ทิฏฺฐิ อสาราคาย สนฺติเก, อสญฺโญคาย สนฺติเก, อนภินนฺทนาย สนฺติเก, อนชฺโฌสานาย สนฺติเก, อนุปาทานาย สนฺติเก”ติ.
เอวํ วุตฺเต, ทีฆนโข ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ— “อุกฺกํเสติ เม ภวํ โคตโม ทิฏฺฐิคตํ, สมุกฺกํเสติ เม ภวํ โคตโม ทิฏฺฐิคตนฺ”ติ.
“ตตฺรคฺคิเวสฺสน, เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺฐิโน— ‘เอกจฺจํ เม ขมติ, เอกจฺจํ เม นกฺขมตี’ติ. ยา หิ เตสํ ขมติ สายํ ทิฏฺฐิ สาราคาย สนฺติเก, สญฺโญคาย สนฺติเก, อภินนฺทนาย สนฺติเก, อชฺโฌสานาย สนฺติเก, อุปาทานาย สนฺติเก; ยา หิ เตสํ นกฺขมติ สายํ ทิฏฺฐิ อสาราคาย สนฺติเก, อสญฺโญคาย สนฺติเก, อนภินนฺทนาย สนฺติเก, อนชฺโฌสานาย สนฺติเก, อนุปาทานาย สนฺติเก. ตตฺรคฺคิเวสฺสน, เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺฐิโน— ‘สพฺพํ เม ขมตี’ติ ตตฺถ วิญฺญู ปุริโส อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ— ‘ยา โข เม อยํ ทิฏฺฐิ— สพฺพํ เม ขมตีติ, อิมญฺเจ อหํ ทิฏฺฐิํ ถามสา ปรามาสา อภินิวิสฺส โวหเรยฺยํ— อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺติ; ทฺวีหิ เม อสฺส วิคฺคโห— โย จายํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เอวํวาที เอวํทิฏฺฐิ— สพฺพํ เม นกฺขมตีติ, โย จายํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เอวํวาที เอวํทิฏฺฐิ— เอกจฺจํ เม ขมติ, เอกจฺจํ เม นกฺขมตีติ— อิเมหิ อสฺส ทฺวีหิ วิคฺคโห. อิติ วิคฺคเห สติ วิวาโท, วิวาเท สติ วิฆาโต, วิฆาเต สติ วิเหสา’. อิติ โส วิคฺคหญฺจ วิวาทญฺจ วิฆาตญฺจ วิเหสญฺจ อตฺตนิ สมฺปสฺสมาโน ตญฺเจว ทิฏฺฐิํ ปชหติ อญฺญญฺจ ทิฏฺฐิํ น อุปาทิยติ. เอวเมตาสํ ทิฏฺฐีนํ ปหานํ โหติ, เอวเมตาสํ ทิฏฺฐีนํ ปฏินิสฺสคฺโค โหติ.
ตตฺรคฺคิเวสฺสน, เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺฐิโน— ‘สพฺพํ เม นกฺขมตี’ติ ตตฺถ วิญฺญู ปุริโส อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ— ‘ยา โข เม อยํ ทิฏฺฐิ— สพฺพํ เม นกฺขมตีติ, อิมญฺเจ อหํ ทิฏฺฐิํ ถามสา ปรามาสา อภินิวิสฺส โวหเรยฺยํ— อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺติ; ทฺวีหิ เม อสฺส วิคฺคโห— โย จายํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เอวํวาที เอวํทิฏฺฐิ— สพฺพํ เม ขมตีติ, โย จายํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เอวํวาที เอวํทิฏฺฐิ— เอกจฺจํ เม ขมติ เอกจฺจํ เม นกฺขมตีติ— อิเมหิ อสฺส ทฺวีหิ วิคฺคโห. อิติ วิคฺคเห สติ วิวาโท, วิวาเท สติ วิฆาโต, วิฆาเต สติ วิเหสา’. อิติ โส วิคฺคหญฺจ วิวาทญฺจ วิฆาตญฺจ วิเหสญฺจ อตฺตนิ สมฺปสฺสมาโน ตญฺเจว ทิฏฺฐิํ ปชหติ อญฺญญฺจ ทิฏฺฐิํ น อุปาทิยติ. เอวเมตาสํ ทิฏฺฐีนํ ปหานํ โหติ, เอวเมตาสํ ทิฏฺฐีนํ ปฏินิสฺสคฺโค โหติ.
ตตฺรคฺคิเวสฺสน, เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺฐิโน— ‘เอกจฺจํ เม ขมติ, เอกจฺจํ เม นกฺขมตี’ติ ตตฺถ วิญฺญู ปุริโส อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ— ‘ยา โข เม อยํ ทิฏฺฐิ— เอกจฺจํ เม ขมติ, เอกจฺจํ เม นกฺขมตีติ, อิมญฺเจ อหํ ทิฏฺฐิํ ถามสา ปรามาสา อภินิวิสฺส โวหเรยฺยํ— อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺติ; ทฺวีหิ เม อสฺส วิคฺคโห— โย จายํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เอวํวาที เอวํทิฏฺฐิ— สพฺพํ เม ขมตีติ, โย จายํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เอวํวาที เอวํทิฏฺฐิ— สพฺพํ เม นกฺขมตีติ— อิเมหิ อสฺส ทฺวีหิ วิคฺคโห. อิติ วิคฺคเห สติ วิวาโท, วิวาเท สติ วิฆาโต, วิฆาเต สติ วิเหสา’. อิติ โส วิคฺคหญฺจ วิวาทญฺจ วิฆาตญฺจ วิเหสญฺจ อตฺตนิ สมฺปสฺสมาโน ตญฺเจว ทิฏฺฐิํ ปชหติ อญฺญญฺจ ทิฏฺฐิํ น อุปาทิยติ. เอวเมตาสํ ทิฏฺฐีนํ ปหานํ โหติ, เอวเมตาสํ ทิฏฺฐีนํ ปฏินิสฺสคฺโค โหติ.
อยํ โข ปนคฺคิเวสฺสน, กาโย รูปี จาตุมหาภูติโก มาตาเปตฺติกสมฺภโว โอทนกุมฺมาสูปจโย อนิจฺจุจฺฉาทนปริมทฺทนเภทนวิทฺธํสนธมฺโม, อนิจฺจโต ทุกฺขโต โรคโต คณฺฑโต สลฺลโต อฆโต อาพาธโต ปรโต ปโลกโต สุญฺญโต อนตฺตโต สมนุปสฺสิตพฺโพ. ตสฺสิมํ กายํ อนิจฺจโต ทุกฺขโต โรคโต คณฺฑโต สลฺลโต อฆโต อาพาธโต ปรโต ปโลกโต สุญฺญโต อนตฺตโต สมนุปสฺสโต โย กายสฺมิํ กายฉนฺโท กายเสฺนโห กายนฺวยตา สา ปหียติ.
ติโสฺส โข อิมา, อคฺคิเวสฺสน, เวทนา— สุขา เวทนา, ทุกฺขา เวทนา, อทุกฺขมสุขา เวทนา. ยสฺมิํ, อคฺคิเวสฺสน, สมเย สุขํ เวทนํ เวเทติ, เนว ตสฺมิํ สมเย ทุกฺขํ เวทนํ เวเทติ, น อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวเทติ; สุขํเยว ตสฺมิํ สมเย เวทนํ เวเทติ. ยสฺมิํ, อคฺคิเวสฺสน, สมเย ทุกฺขํ เวทนํ เวเทติ, เนว ตสฺมิํ สมเย สุขํ เวทนํ เวเทติ, น อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวเทติ; ทุกฺขํเยว ตสฺมิํ สมเย เวทนํ เวเทติ. ยสฺมิํ, อคฺคิเวสฺสน, สมเย อทุกฺขมสุขํ เวทนํ เวเทติ, เนว ตสฺมิํ สมเย สุขํ เวทนํ เวเทติ, น ทุกฺขํ เวทนํ เวเทติ; อทุกฺขมสุขํเยว ตสฺมิํ สมเย เวทนํ เวเทติ. สุขาปิ โข, อคฺคิเวสฺสน, เวทนา อนิจฺจา สงฺขตา ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา ขยธมฺมา วยธมฺมา วิราคธมฺมา นิโรธธมฺมา; ทุกฺขาปิ โข, อคฺคิเวสฺสน, เวทนา อนิจฺจา สงฺขตา ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา ขยธมฺมา วยธมฺมา วิราคธมฺมา นิโรธธมฺมา; อทุกฺขมสุขาปิ โข, อคฺคิเวสฺสน, เวทนา อนิจฺจา สงฺขตา ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา ขยธมฺมา วยธมฺมา วิราคธมฺมา นิโรธธมฺมา. เอวํ ปสฺสํ, อคฺคิเวสฺสน, สุตวา อริยสาวโก สุขายปิ เวทนาย นิพฺพินฺทติ, ทุกฺขายปิ เวทนาย นิพฺพินฺทติ, อทุกฺขมสุขายปิ เวทนาย นิพฺพินฺทติ; นิพฺพินฺทํ วิรชฺชติ, วิราคา วิมุจฺจติ. วิมุตฺตสฺมิํ, วิมุตฺตมิติ ญาณํ โหติ. ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานาติ. เอวํ วิมุตฺตจิตฺโต โข, อคฺคิเวสฺสน, ภิกฺขุ น เกนจิ สํวทติ, น เกนจิ วิวทติ, ยญฺจ โลเก วุตฺตํ เตน โวหรติ, อปรามสนฺ”ติ.
เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควโต ปิฏฺฐิโต ฐิโต โหติ ภควนฺตํ พีชยมาโน. อถ โข อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส เอตทโหสิ— “เตสํ เตสํ กิร โน ภควา ธมฺมานํ อภิญฺญา ปหานมาห, เตสํ เตสํ กิร โน สุคโต ธมฺมานํ อภิญฺญา ปฏินิสฺสคฺคมาหา”ติ. อิติ หิทํ อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปฏิสญฺจิกฺขโต อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจิ. ทีฆนขสฺส ปน ปริพฺพาชกสฺส วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ— “ยํ กิญฺจิ สมุทยธมฺมํ สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺมนฺ”ติ. อถ โข ทีฆนโข ปริพฺพาชโก ทิฏฺฐธมฺโม ปตฺตธมฺโม วิทิตธมฺโม ปริโยคาฬฺหธมฺโม ติณฺณวิจิกิจฺโฉ วิคตกถํกโถ เวสารชฺชปฺปตฺโต อปรปฺปจฺจโย สตฺถุสาสเน ภควนฺตํ เอตทโวจ— “อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม. เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย— ‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติ; เอวเมว โข โภตา โคตเมน อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมญฺจ ภิกฺขุสํฆญฺจ. อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คตนฺ”ติ.
ทีฆนขสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ จตุตฺถํ.