Skip to content

3.5 มาคณฺฑิยสุตฺต

207.
597

เอวํ เม สุตํ—  เอกํ สมยํ ภควา กุรูสุ วิหรติ กมฺมาสธมฺมํ นาม กุรูนํ นิคโม, ภารทฺวาชโคตฺตสฺส พฺราหฺมณสฺส อคฺยาคาเร ติณสนฺถารเก. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย กมฺมาสธมฺมํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. กมฺมาสธมฺมํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต เยน อญฺญตโร วนสณฺโฑ เตนุปสงฺกมิ ทิวาวิหาราย. ตํ วนสณฺฑํ อชฺโฌคาเหตฺวา อญฺญตรสฺมิํ รุกฺขมูเล ทิวาวิหารํ นิสีทิ. อถ โข มาคณฺฑิโย ปริพฺพาชโก ชงฺฆาวิหารํ อนุจงฺกมมาโน อนุวิจรมาโน เยน ภารทฺวาชโคตฺตสฺส พฺราหฺมณสฺส อคฺยาคารํ เตนุปสงฺกมิ. อทฺทสา โข มาคณฺฑิโย ปริพฺพาชโก ภารทฺวาชโคตฺตสฺส พฺราหฺมณสฺส อคฺยาคาเร ติณสนฺถารกํ ปญฺญตฺตํ. ทิสฺวาน ภารทฺวาชโคตฺตํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจ—  “กสฺส นฺวยํ โภโต ภารทฺวาชสฺส อคฺยาคาเร ติณสนฺถารโก ปญฺญตฺโต, สมณเสยฺยานุรูปํ มญฺเญ”ติ? “อตฺถิ, โภ มาคณฺฑิย, สมโณ โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต. ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต—  ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ. ตเสฺสสา โภโต โคตมสฺส เสยฺยา ปญฺญตฺตา”ติ. “ทุทฺทิฏฺฐํ วต, โภ ภารทฺวาช, อทฺทสาม; ทุทฺทิฏฺฐํ วต, โภ ภารทฺวาช, อทฺทสาม. เย มยํ ตสฺส โภโต โคตมสฺส ภูนหุโน เสยฺยํ อทฺทสามา”ติ. “รกฺขเสฺสตํ, มาคณฺฑิย, วาจํ; รกฺขเสฺสตํ, มาคณฺฑิย, วาจํ. พหู หิ ตสฺส โภโต โคตมสฺส ขตฺติยปณฺฑิตาปิ พฺราหฺมณปณฺฑิตาปิ คหปติปณฺฑิตาปิ สมณปณฺฑิตาปิ อภิปฺปสนฺนา วินีตา อริเย ญาเย ธมฺเม กุสเล”ติ. “สมฺมุขา เจปิ มยํ, โภ ภารทฺวาช, ตํ ภวนฺตํ โคตมํ ปเสฺสยฺยาม, สมฺมุขาปิ นํ วเทยฺยาม—  ‘ภูนหุ สมโณ โคตโม’ติ. ตํ กิสฺส เหตุ? เอวญฺหิ โน สุตฺเต โอจรตี”ติ. “สเจ ตํ โภโต มาคณฺฑิยสฺส อครุ อาโรเจยฺยามิ ตํ สมณสฺส โคตมสฺสา”ติ. “อปฺโปสฺสุกฺโก ภวํ ภารทฺวาโช วุตฺโตว นํ วเทยฺยา”ติ.

208.
598

อสฺโสสิ โข ภควา ทิพฺพาย โสตธาตุยา วิสุทฺธาย อติกฺกนฺตมานุสิกาย ภารทฺวาชโคตฺตสฺส พฺราหฺมณสฺส มาคณฺฑิเยน ปริพฺพาชเกน สทฺธิํ อิมํ กถาสลฺลาปํ. อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺฐิโต เยน ภารทฺวาชโคตฺตสฺส พฺราหฺมณสฺส อคฺยาคารํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา นิสีทิ ภควา ปญฺญตฺเต ติณสนฺถารเก. อถ โข ภารทฺวาชโคตฺโต พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข ภารทฺวาชโคตฺตํ พฺราหฺมณํ ภควา เอตทโวจ—  “อหุ ปน เต, ภารทฺวาช, มาคณฺฑิเยน ปริพฺพาชเกน สทฺธิํ อิมํเยว ติณสนฺถารกํ อารพฺภ โกจิเทว กถาสลฺลาโป”ติ? เอวํ วุตฺเต, ภารทฺวาชโคตฺโต พฺราหฺมโณ สํวิคฺโค โลมหฏฺฐชาโต ภควนฺตํ เอตทโวจ—  “เอตเทว โข ปน มยํ โภโต โคตมสฺส อาโรเจตุกามา. อถ จ ปน ภวํ โคตโม อนกฺขาตํเยว อกฺขาสี”ติ. อยญฺจ หิ ภควโต ภารทฺวาชโคตฺเตน พฺราหฺมเณน สทฺธิํ อนฺตรากถา วิปฺปกตา โหติ. อถ โข มาคณฺฑิโย ปริพฺพาชโก ชงฺฆาวิหารํ อนุจงฺกมมาโน อนุวิจรมาโน เยน ภารทฺวาชโคตฺตสฺส พฺราหฺมณสฺส อคฺยาคารํ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข มาคณฺฑิยํ ปริพฺพาชกํ ภควา เอตทโวจ—

209.
599

“จกฺขุํ โข, มาคณฺฑิย, รูปารามํ รูปรตํ รูปสมฺมุทิตํ. ตํ ตถาคตสฺส ทนฺตํ คุตฺตํ รกฺขิตํ สํวุตํ, ตสฺส จ สํวราย ธมฺมํ เทเสติ. อิทํ นุ เต เอตํ, มาคณฺฑิย, สนฺธาย ภาสิตํ—  ‘ภูนหุ สมโณ โคตโม’”ติ? “เอตเทว โข ปน เม, โภ โคตม, สนฺธาย ภาสิตํ—  ‘ภูนหุ สมโณ โคตโม’ติ. ตํ กิสฺส เหตุ? เอวญฺหิ โน สุตฺเต โอจรตี”ติ.

600

“โสตํ โข, มาคณฺฑิย, สทฺทารามํ …เป…  ฆานํ โข, มาคณฺฑิย คนฺธารามํ…  ชิวฺหา โข, มาคณฺฑิย, รสารามา รสรตา รสสมฺมุทิตา. สา ตถาคตสฺส ทนฺตา คุตฺตา รกฺขิตา สํวุตา, ตสฺสา จ สํวราย ธมฺมํ เทเสติ. อิทํ นุ เต เอตํ, มาคณฺฑิย, สนฺธาย ภาสิตํ—  ‘ภูนหุ สมโณ โคตโม’”ติ? “เอตเทว โข ปน เม, โภ โคตม, สนฺธาย ภาสิตํ—  ‘ภูนหุ สมโณ โคตโม’ติ. ตํ กิสฺส เหตุ? เอวญฺหิ โน สุตฺเต โอจรตี”ติ.

601

“กาโย โข, มาคณฺฑิย, โผฏฺฐพฺพาราโม โผฏฺฐพฺพรโต …เป…  มโน โข, มาคณฺฑิย, ธมฺมาราโม ธมฺมรโต ธมฺมสมฺมุทิโต. โส ตถาคตสฺส ทนฺโต คุตฺโต รกฺขิโต สํวุโต, ตสฺส จ สํวราย ธมฺมํ เทเสติ. อิทํ นุ เต เอตํ, มาคณฺฑิย, สนฺธาย ภาสิตํ—  ‘ภูนหุ สมโณ โคตโม’”ติ? “เอตเทว โข ปน เม, โภ โคตม, สนฺธาย ภาสิตํ—  ‘ภูนหุ สมโณ โคตโม’ติ. ตํ กิสฺส เหตุ? เอวญฺหิ โน สุตฺเต โอจรตี”ติ.

210.
602

“ตํ กิํ มญฺญสิ, มาคณฺฑิย—  ‘อิเธกจฺโจ จกฺขุวิญฺเญเยฺยหิ รูเปหิ ปริจาริตปุพฺโพ อสฺส อิฏฺเฐหิ กนฺเตหิ มนาเปหิ ปิยรูเปหิ กามูปสํหิเตหิ รชนีเยหิ, โส อปเรน สมเยน รูปานํเยว สมุทยญฺจ อตฺถงฺคมญฺจ อสฺสาทญฺจ อาทีนวญฺจ นิสฺสรณญฺจ ยถาภูตํ วิทิตฺวา รูปตณฺหํ ปหาย รูปปริฬาหํ ปฏิวิโนเทตฺวา วิคตปิปาโส อชฺฌตฺตํ วูปสนฺตจิตฺโต วิหเรยฺย. อิมสฺส ปน เต, มาคณฺฑิย, กิมสฺส วจนียนฺ’”ติ? “น กิญฺจิ, โภ โคตม”.

603

“ตํ กิํ มญฺญสิ, มาคณฺฑิย—  ‘อิเธกจฺโจ โสตวิญฺเญเยฺยหิ สทฺเทหิ …เป…  ฆานวิญฺเญเยฺยหิ คนฺเธหิ…  ชิวฺหาวิญฺเญเยฺยหิ รเสหิ…  กายวิญฺเญเยฺยหิ โผฏฺฐพฺเพหิ ปริจาริตปุพฺโพ อสฺส อิฏฺเฐหิ กนฺเตหิ มนาเปหิ ปิยรูเปหิ กามูปสํหิเตหิ รชนีเยหิ, โส อปเรน สมเยน โผฏฺฐพฺพานํเยว สมุทยญฺจ อตฺถงฺคมญฺจ อสฺสาทญฺจ อาทีนวญฺจ นิสฺสรณญฺจ ยถาภูตํ วิทิตฺวา โผฏฺฐพฺพตณฺหํ ปหาย โผฏฺฐพฺพปริฬาหํ ปฏิวิโนเทตฺวา วิคตปิปาโส อชฺฌตฺตํ วูปสนฺตจิตฺโต วิหเรยฺย. อิมสฺส ปน เต, มาคณฺฑิย, กิมสฺส วจนียนฺ’”ติ? “น กิญฺจิ, โภ โคตม”.

211.
604

“อหํ โข ปน, มาคณฺฑิย, ปุพฺเพ อคาริยภูโต สมาโน ปญฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคีภูโต ปริจาเรสิํ จกฺขุวิญฺเญเยฺยหิ รูเปหิ อิฏฺเฐหิ กนฺเตหิ มนาเปหิ ปิยรูเปหิ กามูปสํหิเตหิ รชนีเยหิ, โสตวิญฺเญเยฺยหิ สทฺเทหิ …เป…  ฆานวิญฺเญเยฺยหิ คนฺเธหิ…  ชิวฺหาวิญฺเญเยฺยหิ รเสหิ…  กายวิญฺเญเยฺยหิ โผฏฺฐพฺเพหิ อิฏฺเฐหิ กนฺเตหิ มนาเปหิ ปิยรูเปหิ กามูปสํหิเตหิ รชนีเยหิ. ตสฺส มยฺหํ, มาคณฺฑิย, ตโย ปาสาทา อเหสุํ—  เอโก วสฺสิโก, เอโก เหมนฺติโก, เอโก คิมฺหิโก. โส โข อหํ, มาคณฺฑิย, วสฺสิเก ปาสาเท วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส นิปฺปุริเสหิ ตูริเยหิ ปริจารยมาโน น เหฏฺฐาปาสาทํ โอโรหามิ. โส อปเรน สมเยน กามานํเยว สมุทยญฺจ อตฺถงฺคมญฺจ อสฺสาทญฺจ อาทีนวญฺจ นิสฺสรณญฺจ ยถาภูตํ วิทิตฺวา กามตณฺหํ ปหาย กามปริฬาหํ ปฏิวิโนเทตฺวา วิคตปิปาโส อชฺฌตฺตํ วูปสนฺตจิตฺโต วิหรามิ. โส อญฺเญ สตฺเต ปสฺสามิ กาเมสุ อวีตราเค กามตณฺหาหิ ขชฺชมาเน กามปริฬาเหน ปริฑยฺหมาเน กาเม ปฏิเสวนฺเต. โส เตสํ น ปิเหมิ, น ตตฺถ อภิรมามิ. ตํ กิสฺส เหตุ? ยาหยํ, มาคณฺฑิย, รติ, อญฺญเตฺรว กาเมหิ อญฺญตฺร อกุสเลหิ ธมฺเมหิ—  อปิ ทิพฺพํ สุขํ สมธิคยฺห ติฏฺฐติ—  ตาย รติยา รมมาโน หีนสฺส น ปิเหมิ, น ตตฺถ อภิรมามิ.

212.
605

เสยฺยถาปิ, มาคณฺฑิย, คหปติ วา คหปติปุตฺโต วา อฑฺโฒ มหทฺธโน มหาโภโค ปญฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคีภูโต ปริจาเรยฺย จกฺขุวิญฺเญเยฺยหิ รูเปหิ …เป…  โผฏฺฐพฺเพหิ อิฏฺเฐหิ กนฺเตหิ มนาเปหิ ปิยรูเปหิ กามูปสํหิเตหิ รชนีเยหิ. โส กาเยน สุจริตํ จริตฺวา วาจาย สุจริตํ จริตฺวา มนสา สุจริตํ จริตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺเชยฺย เทวานํ ตาวติํสานํ สหพฺยตํ. โส ตตฺถ นนฺทเน วเน อจฺฉราสงฺฆปริวุโต ทิพฺเพหิ ปญฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคีภูโต ปริจาเรยฺย. โส ปเสฺสยฺย คหปติํ วา คหปติปุตฺตํ วา ปญฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิตํ สมงฺคีภูตํ ปริจารยมานํ.

606

ตํ กิํ มญฺญสิ, มาคณฺฑิย, อปิ นุ โส เทวปุตฺโต นนฺทเน วเน อจฺฉราสงฺฆปริวุโต ทิพฺเพหิ ปญฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคีภูโต ปริจารยมาโน อมุสฺส คหปติสฺส วา คหปติปุตฺตสฺส วา ปิเหยฺย, มานุสกานํ วา ปญฺจนฺนํ กามคุณานํ มานุสเกหิ วา กาเมหิ อาวฏฺเฏยฺยา”ติ? “โน หิทํ, โภ โคตม. ตํ กิสฺส เหตุ? มานุสเกหิ, โภ โคตม, กาเมหิ ทิพฺพกามา อภิกฺกนฺตตรา จ ปณีตตรา จา”ติ.

607

“เอวเมว โข อหํ, มาคณฺฑิย, ปุพฺเพ อคาริยภูโต สมาโน ปญฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคีภูโต ปริจาเรสิํ จกฺขุวิญฺเญเยฺยหิ รูเปหิ อิฏฺเฐหิ กนฺเตหิ มนาเปหิ ปิยรูเปหิ กามูปสํหิเตหิ รชนีเยหิ, โสตวิญฺเญเยฺยหิ สทฺเทหิ …เป…  ฆานวิญฺเญเยฺยหิ คนฺเธหิ…  ชิวฺหาวิญฺเญเยฺยหิ รเสหิ…  กายวิญฺเญเยฺยหิ โผฏฺฐพฺเพหิ อิฏฺเฐหิ กนฺเตหิ มนาเปหิ ปิยรูเปหิ กามูปสํหิเตหิ รชนีเยหิ. โส อปเรน สมเยน กามานํเยว สมุทยญฺจ อตฺถงฺคมญฺจ อสฺสาทญฺจ อาทีนวญฺจ นิสฺสรณญฺจ ยถาภูตํ วิทิตฺวา กามตณฺหํ ปหาย กามปริฬาหํ ปฏิวิโนเทตฺวา วิคตปิปาโส อชฺฌตฺตํ วูปสนฺตจิตฺโต วิหรามิ. โส อญฺเญ สตฺเต ปสฺสามิ กาเมสุ อวีตราเค กามตณฺหาหิ ขชฺชมาเน กามปริฬาเหน ปริฑยฺหมาเน กาเม ปฏิเสวนฺเต, โส เตสํ น ปิเหมิ, น ตตฺถ อภิรมามิ. ตํ กิสฺส เหตุ? ยาหยํ, มาคณฺฑิย, รติ อญฺญเตฺรว กาเมหิ อญฺญตฺร อกุสเลหิ ธมฺเมหิ—  อปิ ทิพฺพํ สุขํ สมธิคยฺห ติฏฺฐติ—  ตาย รติยา รมมาโน หีนสฺส น ปิเหมิ, น ตตฺถ อภิรมามิ.

213.
608

เสยฺยถาปิ, มาคณฺฑิย, กุฏฺฐี ปุริโส อรุคตฺโต ปกฺกคตฺโต กิมีหิ ขชฺชมาโน นเขหิ วณมุขานิ วิปฺปตจฺฉมาโน องฺคารกาสุยา กายํ ปริตาเปยฺย. ตสฺส มิตฺตามจฺจา ญาติสาโลหิตา ภิสกฺกํ สลฺลกตฺตํ อุปฏฺฐาเปยฺยุํ. ตสฺส โส ภิสกฺโก สลฺลกตฺโต เภสชฺชํ กเรยฺย. โส ตํ เภสชฺชํ อาคมฺม กุฏฺเฐหิ ปริมุจฺเจยฺย, อโรโค อสฺส สุขี เสรี สยํวสี เยน กามํ คโม. โส อญฺญํ กุฏฺฐิํ ปุริสํ ปเสฺสยฺย อรุคตฺตํ ปกฺกคตฺตํ กิมีหิ ขชฺชมานํ นเขหิ วณมุขานิ วิปฺปตจฺฉมานํ องฺคารกาสุยา กายํ ปริตาเปนฺตํ.

609

ตํ กิํ มญฺญสิ, มาคณฺฑิย, อปิ นุ โส ปุริโส อมุสฺส กุฏฺฐิสฺส ปุริสสฺส ปิเหยฺย องฺคารกาสุยา วา เภสชฺชํ ปฏิเสวนาย วา”ติ? “โน หิทํ, โภ โคตม. ตํ กิสฺส เหตุ? โรเค หิ, โภ โคตม, สติ เภสชฺเชน กรณียํ โหติ, โรเค อสติ น เภสชฺเชน กรณียํ โหตี”ติ.

610

“เอวเมว โข อหํ, มาคณฺฑิย, ปุพฺเพ อคาริยภูโต สมาโน ปญฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคีภูโต ปริจาเรสิํ, จกฺขุวิญฺเญเยฺยหิ รูเปหิ อิฏฺเฐหิ กนฺเตหิ มนาเปหิ ปิยรูเปหิ กามูปสํหิเตหิ รชนีเยหิ, โสตวิญฺเญเยฺยหิ สทฺเทหิ …เป…  ฆานวิญฺเญเยฺยหิ คนฺเธหิ…  ชิวฺหาวิญฺเญเยฺยหิ รเสหิ…  กายวิญฺเญเยฺยหิ โผฏฺฐพฺเพหิ อิฏฺเฐหิ กนฺเตหิ มนาเปหิ ปิยรูเปหิ กามูปสํหิเตหิ รชนีเยหิ. โส อปเรน สมเยน กามานํเยว สมุทยญฺจ อตฺถงฺคมญฺจ อสฺสาทญฺจ อาทีนวญฺจ นิสฺสรณญฺจ ยถาภูตํ วิทิตฺวา กามตณฺหํ ปหาย กามปริฬาหํ ปฏิวิโนเทตฺวา วิคตปิปาโส อชฺฌตฺตํ วูปสนฺตจิตฺโต วิหรามิ. โส อญฺเญ สตฺเต ปสฺสามิ กาเมสุ อวีตราเค กามตณฺหาหิ ขชฺชมาเน กามปริฬาเหน ปริฑยฺหมาเน กาเม ปฏิเสวนฺเต. โส เตสํ น ปิเหมิ, น ตตฺถ อภิรมามิ. ตํ กิสฺส เหตุ? ยาหยํ, มาคณฺฑิย, รติ, อญฺญเตฺรว กาเมหิ อญฺญตฺร อกุสเลหิ ธมฺเมหิ—  อปิ ทิพฺพํ สุขํ สมธิคยฺห ติฏฺฐติ—  ตาย รติยา รมมาโน หีนสฺส น ปิเหมิ, น ตตฺถ อภิรมามิ.

214.
611

เสยฺยถาปิ, มาคณฺฑิย, กุฏฺฐี ปุริโส อรุคตฺโต ปกฺกคตฺโต กิมีหิ ขชฺชมาโน นเขหิ วณมุขานิ วิปฺปตจฺฉมาโน องฺคารกาสุยา กายํ ปริตาเปยฺย. ตสฺส มิตฺตามจฺจา ญาติสาโลหิตา ภิสกฺกํ สลฺลกตฺตํ อุปฏฺฐาเปยฺยุํ. ตสฺส โส ภิสกฺโก สลฺลกตฺโต เภสชฺชํ กเรยฺย. โส ตํ เภสชฺชํ อาคมฺม กุฏฺเฐหิ ปริมุจฺเจยฺย, อโรโค อสฺส สุขี เสรี สยํวสี เยน กามํ คโม. ตเมนํ ทฺเว พลวนฺโต ปุริสา นานาพาหาสุ คเหตฺวา องฺคารกาสุํ อุปกฑฺเฒยฺยุํ.

612

ตํ กิํ มญฺญสิ, มาคณฺฑิย, อปิ นุ โส ปุริโส อิติ จิติเจว กายํ สนฺนาเมยฺยา”ติ? “เอวํ, โภ โคตม. ตํ กิสฺส เหตุ? อสุ หิ, โภ โคตม, อคฺคิ ทุกฺขสมฺผโสฺส เจว มหาภิตาโป จ มหาปริฬาโห จา”ติ.

613

“ตํ กิํ มญฺญสิ, มาคณฺฑิย, อิทาเนว นุ โข โส อคฺคิ ทุกฺขสมฺผโสฺส เจว มหาภิตาโป จ มหาปริฬาโห จ อุทาหุ ปุพฺเพปิ โส อคฺคิ ทุกฺขสมฺผโสฺส เจว มหาภิตาโป จ มหาปริฬาโห จา”ติ? “อิทานิ เจว, โภ โคตม, โส อคฺคิ ทุกฺขสมฺผโสฺส เจว มหาภิตาโป จ มหาปริฬาโห จ, ปุพฺเพปิ โส อคฺคิ ทุกฺขสมฺผโสฺส เจว มหาภิตาโป จ มหาปริฬาโห จ. อสุ จ, โภ โคตม, กุฏฺฐี ปุริโส อรุคตฺโต ปกฺกคตฺโต กิมีหิ ขชฺชมาโน นเขหิ วณมุขานิ วิปฺปตจฺฉมาโน อุปหตินฺทฺริโย ทุกฺขสมฺผเสฺสเยว อคฺคิสฺมิํ สุขมิติ วิปรีตสญฺญํ ปจฺจลตฺถา”ติ.

614

“เอวเมว โข, มาคณฺฑิย, อตีตมฺปิ อทฺธานํ กามา ทุกฺขสมฺผสฺสา เจว มหาภิตาปา จ มหาปริฬาหา จ, อนาคตมฺปิ อทฺธานํ กามา ทุกฺขสมฺผสฺสา เจว มหาภิตาปา จ มหาปริฬาหา จ, เอตรหิปิ ปจฺจุปฺปนฺนํ อทฺธานํ กามา ทุกฺขสมฺผสฺสา เจว มหาภิตาปา จ มหาปริฬาหา จ. อิเม จ, มาคณฺฑิย, สตฺตา กาเมสุ อวีตราคา กามตณฺหาหิ ขชฺชมานา กามปริฬาเหน ปริฑยฺหมานา อุปหตินฺทฺริยา ทุกฺขสมฺผเสฺสสุเยว กาเมสุ สุขมิติ วิปรีตสญฺญํ ปจฺจลตฺถุํ.

215.
615

เสยฺยถาปิ, มาคณฺฑิย, กุฏฺฐี ปุริโส อรุคตฺโต ปกฺกคตฺโต กิมีหิ ขชฺชมาโน นเขหิ วณมุขานิ วิปฺปตจฺฉมาโน องฺคารกาสุยา กายํ ปริตาเปติ. ยถา ยถา โข, มาคณฺฑิย, อสุ กุฏฺฐี ปุริโส อรุคตฺโต ปกฺกคตฺโต กิมีหิ ขชฺชมาโน นเขหิ วณมุขานิ วิปฺปตจฺฉมาโน องฺคารกาสุยา กายํ ปริตาเปติ ตถา ตถาสฺส ตานิ วณมุขานิ อสุจิตรานิ เจว โหนฺติ ทุคฺคนฺธตรานิ จ ปูติกตรานิ จ, โหติ เจว กาจิ สาตมตฺตา อสฺสาทมตฺตา—  ยทิทํ วณมุขานํ กณฺฑูวนเหตุ; เอวเมว โข, มาคณฺฑิย, สตฺตา กาเมสุ อวีตราคา กามตณฺหาหิ ขชฺชมานา กามปริฬาเหน จ ปริฑยฺหมานา กาเม ปฏิเสวนฺติ. ยถา ยถา โข, มาคณฺฑิย, สตฺตา กาเมสุ อวีตราคา กามตณฺหาหิ ขชฺชมานา กามปริฬาเหน จ ปริฑยฺหมานา กาเม ปฏิเสวนฺติ ตถา ตถา เตสํ เตสํ สตฺตานํ กามตณฺหา เจว ปวฑฺฒติ, กามปริฬาเหน จ ปริฑยฺหนฺติ, โหติ เจว สาตมตฺตา อสฺสาทมตฺตา—  ยทิทํ ปญฺจกามคุเณ ปฏิจฺจ.

616

ตํ กิํ มญฺญสิ, มาคณฺฑิย, อปิ นุ เต ทิฏฺโฐ วา สุโต วา ราชา วา ราชมหามตฺโต วา ปญฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคีภูโต ปริจารยมาโน กามตณฺหํ อปฺปหาย กามปริฬาหํ อปฺปฏิวิโนเทตฺวา วิคตปิปาโส อชฺฌตฺตํ วูปสนฺตจิตฺโต วิหาสิ วา วิหรติ วา วิหริสฺสติ วา”ติ? “โน หิทํ, โภ โคตม”.

617

“สาธุ, มาคณฺฑิย. มยาปิ โข เอตํ, มาคณฺฑิย, เนว ทิฏฺฐํ น สุตํ ราชา วา ราชมหามตฺโต วา ปญฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคีภูโต ปริจารยมาโน กามตณฺหํ อปฺปหาย กามปริฬาหํ อปฺปฏิวิโนเทตฺวา วิคตปิปาโส อชฺฌตฺตํ วูปสนฺตจิตฺโต วิหาสิ วา วิหรติ วา วิหริสฺสติ วา. อถ โข, มาคณฺฑิย, เย หิ เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา วิคตปิปาสา อชฺฌตฺตํ วูปสนฺตจิตฺตา วิหาสุํ วา วิหรนฺติ วา วิหริสฺสนฺติ วา สพฺเพ เต กามานํเยว สมุทยญฺจ อตฺถงฺคมญฺจ อสฺสาทญฺจ อาทีนวญฺจ นิสฺสรณญฺจ ยถาภูตํ วิทิตฺวา กามตณฺหํ ปหาย กามปริฬาหํ ปฏิวิโนเทตฺวา วิคตปิปาสา อชฺฌตฺตํ วูปสนฺตจิตฺตา วิหาสุํ วา วิหรนฺติ วา วิหริสฺสนฺติ วา”ติ. อถ โข ภควา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ—

618

“อาโรคฺยปรมา ลาภา,
นิพฺพานํ ปรมํ สุขํ;
อฏฺฐงฺคิโก จ มคฺคานํ,
เขมํ อมตคามินนฺ”ติ.

216.
619

เอวํ วุตฺเต, มาคณฺฑิโย ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ—  “อจฺฉริยํ, โภ โคตม, อพฺภุตํ, โภ โคตม. ยาว สุภาสิตญฺจิทํ โภตา โคตเมน—  ‘อาโรคฺยปรมา ลาภา, นิพฺพานํ ปรมํ สุขนฺ’ติ. มยาปิ โข เอตํ, โภ โคตม, สุตํ ปุพฺพกานํ ปริพฺพาชกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ—  ‘อาโรคฺยปรมา ลาภา, นิพฺพานํ ปรมํ สุขนฺ’ติ; ตยิทํ, โภ โคตม, สเมตี”ติ. “ยํ ปน เต เอตํ, มาคณฺฑิย, สุตํ ปุพฺพกานํ ปริพฺพาชกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ—  ‘อาโรคฺยปรมา ลาภา, นิพฺพานํ ปรมํ สุขนฺ’ติ, กตมํ ตํ อาโรคฺยํ, กตมํ ตํ นิพฺพานนฺ”ติ? เอวํ วุตฺเต, มาคณฺฑิโย ปริพฺพาชโก สกาเนว สุทํ คตฺตานิ ปาณินา อโนมชฺชติ—  “อิทนฺตํ, โภ โคตม, อาโรคฺยํ, อิทนฺตํ นิพฺพานํ. อหญฺหิ, โภ โคตม, เอตรหิ อโรโค สุขี, น มํ กิญฺจิ อาพาธตี”ติ.

217.
620

“เสยฺยถาปิ, มาคณฺฑิย, ชจฺจนฺโธ ปุริโส; โส น ปเสฺสยฺย กณฺหสุกฺกานิ รูปานิ, น ปเสฺสยฺย นีลกานิ รูปานิ, น ปเสฺสยฺย ปีตกานิ รูปานิ, น ปเสฺสยฺย โลหิตกานิ รูปานิ, น ปเสฺสยฺย มญฺชิฏฺฐกานิ รูปานิ, น ปเสฺสยฺย สมวิสมํ, น ปเสฺสยฺย ตารกรูปานิ, น ปเสฺสยฺย จนฺทิมสูริเย. โส สุเณยฺย จกฺขุมโต ภาสมานสฺส—  ‘เฉกํ วต, โภ, โอทาตํ วตฺถํ อภิรูปํ นิมฺมลํ สุจี’ติ. โส โอทาตปริเยสนํ จเรยฺย. ตเมนํ อญฺญตโร ปุริโส เตลมลิกเตน สาหุฬิจีเรน วญฺเจยฺย—  ‘อิทํ เต, อมฺโภ ปุริส, โอทาตํ วตฺถํ อภิรูปํ นิมฺมลํ สุจี’ติ. โส ตํ ปฏิคฺคเณฺหยฺย, ปฏิคฺคเหตฺวา ปารุเปยฺย, ปารุเปตฺวา อตฺตมโน อตฺตมนวาจํ นิจฺฉาเรยฺย—  ‘เฉกํ วต, โภ, โอทาตํ วตฺถํ อภิรูปํ นิมฺมลํ สุจี’ติ.

621

ตํ กิํ มญฺญสิ, มาคณฺฑิย, อปิ นุ โส ชจฺจนฺโธ ปุริโส ชานนฺโต ปสฺสนฺโต อมุํ เตลมลิกตํ สาหุฬิจีรํ ปฏิคฺคเณฺหยฺย, ปฏิคฺคเหตฺวา ปารุเปยฺย, ปารุเปตฺวา อตฺตมโน อตฺตมนวาจํ นิจฺฉาเรยฺย—  ‘เฉกํ วต, โภ, โอทาตํ วตฺถํ อภิรูปํ นิมฺมลํ สุจี’ติ อุทาหุ จกฺขุมโต สทฺธายา”ติ? “อชานนฺโต หิ, โภ โคตม, อปสฺสนฺโต โส ชจฺจนฺโธ ปุริโส อมุํ เตลมลิกตํ สาหุฬิจีรํ ปฏิคฺคเณฺหยฺย, ปฏิคฺคเหตฺวา ปารุเปยฺย, ปารุเปตฺวา อตฺตมโน อตฺตมนวาจํ นิจฺฉาเรยฺย—  ‘เฉกํ วต, โภ, โอทาตํ วตฺถํ อภิรูปํ นิมฺมลํ สุจี’ติ, จกฺขุมโต สทฺธายา”ติ. “เอวเมว โข, มาคณฺฑิย, อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา อนฺธา อจกฺขุกา อชานนฺตา อาโรคฺยํ, อปสฺสนฺตา นิพฺพานํ, อถ จ ปนิมํ คาถํ ภาสนฺติ—  ‘อาโรคฺยปรมา ลาภา, นิพฺพานํ ปรมํ สุขนฺ’ติ. ปุพฺพเกเหสา, มาคณฺฑิย, อรหนฺเตหิ สมฺมาสมฺพุทฺเธหิ คาถา ภาสิตา—

622

‘อาโรคฺยปรมา ลาภา,
นิพฺพานํ ปรมํ สุขํ;
อฏฺฐงฺคิโก จ มคฺคานํ,
เขมํ อมตคามินนฺ’ติ.

218.
623

สา เอตรหิ อนุปุพฺเพน ปุถุชฺชนคาถา. อยํ โข ปน, มาคณฺฑิย, กาโย โรคภูโต คณฺฑภูโต สลฺลภูโต อฆภูโต อาพาธภูโต, โส ตฺวํ อิมํ กายํ โรคภูตํ คณฺฑภูตํ สลฺลภูตํ อฆภูตํ อาพาธภูตํ—  ‘อิทนฺตํ, โภ โคตม, อาโรคฺยํ, อิทนฺตํ นิพฺพานนฺ’ติ วเทสิ. ตญฺหิ เต, มาคณฺฑิย, อริยํ จกฺขุํ นตฺถิ เยน ตฺวํ อริเยน จกฺขุนา อาโรคฺยํ ชาเนยฺยาสิ, นิพฺพานํ ปเสฺสยฺยาสี”ติ. “เอวํ ปสนฺโน อหํ โภโต โคตมสฺส. ปโหติ เม ภวํ โคตโม ตถา ธมฺมํ เทเสตุํ ยถาหํ อาโรคฺยํ ชาเนยฺยํ, นิพฺพานํ ปเสฺสยฺยนฺ”ติ.

219.
624

“เสยฺยถาปิ, มาคณฺฑิย, ชจฺจนฺโธ ปุริโส; โส น ปเสฺสยฺย กณฺหสุกฺกานิ รูปานิ, น ปเสฺสยฺย นีลกานิ รูปานิ, น ปเสฺสยฺย ปีตกานิ รูปานิ, น ปเสฺสยฺย โลหิตกานิ รูปานิ, น ปเสฺสยฺย มญฺชิฏฺฐกานิ รูปานิ, น ปเสฺสยฺย สมวิสมํ, น ปเสฺสยฺย ตารกรูปานิ, น ปเสฺสยฺย จนฺทิมสูริเย. ตสฺส มิตฺตามจฺจา ญาติสาโลหิตา ภิสกฺกํ สลฺลกตฺตํ อุปฏฺฐาเปยฺยุํ. ตสฺส โส ภิสกฺโก สลฺลกตฺโต เภสชฺชํ กเรยฺย. โส ตํ เภสชฺชํ อาคมฺม น จกฺขูนิ อุปฺปาเทยฺย, น จกฺขูนิ วิโสเธยฺย. ตํ กิํ มญฺญสิ, มาคณฺฑิย, นนุ โส เวชฺโช ยาวเทว กิลมถสฺส วิฆาตสฺส ภาคี อสฺสา”ติ? “เอวํ, โภ โคตม”.

625

“เอวเมว โข, มาคณฺฑิย, อหญฺเจ เต ธมฺมํ เทเสยฺยํ—  ‘อิทนฺตํ อาโรคฺยํ, อิทนฺตํ นิพฺพานนฺ’ติ, โส ตฺวํ อาโรคฺยํ น ชาเนยฺยาสิ, นิพฺพานํ น ปเสฺสยฺยาสิ. โส มมสฺส กิลมโถ, สา มมสฺส วิเหสา”ติ. “เอวํ ปสนฺโน อหํ โภโต โคตมสฺส. ปโหติ เม ภวํ โคตโม ตถา ธมฺมํ เทเสตุํ ยถาหํ อาโรคฺยํ ชาเนยฺยํ, นิพฺพานํ ปเสฺสยฺยนฺ”ติ.

220.
626

“เสยฺยถาปิ, มาคณฺฑิย, ชจฺจนฺโธ ปุริโส; โส น ปเสฺสยฺย กณฺหสุกฺกานิ รูปานิ, น ปเสฺสยฺย นีลกานิ รูปานิ, น ปเสฺสยฺย ปีตกานิ รูปานิ, น ปเสฺสยฺย โลหิตกานิ รูปานิ, น ปเสฺสยฺย มญฺชิฏฺฐกานิ รูปานิ, น ปเสฺสยฺย สมวิสมํ, น ปเสฺสยฺย ตารกรูปานิ, น ปเสฺสยฺย จนฺทิมสูริเย. โส สุเณยฺย จกฺขุมโต ภาสมานสฺส—  ‘เฉกํ วต, โภ, โอทาตํ วตฺถํ อภิรูปํ นิมฺมลํ สุจี’ติ. โส โอทาตปริเยสนํ จเรยฺย. ตเมนํ อญฺญตโร ปุริโส เตลมลิกเตน สาหุฬิจีเรน วญฺเจยฺย—  ‘อิทํ เต, อมฺโภ ปุริส, โอทาตํ วตฺถํ อภิรูปํ นิมฺมลํ สุจี’ติ. โส ตํ ปฏิคฺคเณฺหยฺย, ปฏิคฺคเหตฺวา ปารุเปยฺย. ตสฺส มิตฺตามจฺจา ญาติสาโลหิตา ภิสกฺกํ สลฺลกตฺตํ อุปฏฺฐาเปยฺยุํ. ตสฺส โส ภิสกฺโก สลฺลกตฺโต เภสชฺชํ กเรยฺย—  อุทฺธํวิเรจนํ อโธวิเรจนํ อญฺชนํ ปจฺจญฺชนํ นตฺถุกมฺมํ. โส ตํ เภสชฺชํ อาคมฺม จกฺขูนิ อุปฺปาเทยฺย, จกฺขูนิ วิโสเธยฺย. ตสฺส สห จกฺขุปฺปาทา โย อมุสฺมิํ เตลมลิกเต สาหุฬิจีเร ฉนฺทราโค โส ปหีเยถ. ตญฺจ นํ ปุริสํ อมิตฺตโตปิ ทเหยฺย, ปจฺจตฺถิกโตปิ ทเหยฺย, อปิ จ ชีวิตา โวโรเปตพฺพํ มญฺเญยฺย—  ‘ทีฆรตฺตํ วต, โภ, อหํ อิมินา ปุริเสน เตลมลิกเตน สาหุฬิจีเรน นิกโต วญฺจิโต ปลุทฺโธ—  อิทํ เต, อมฺโภ ปุริส, โอทาตํ วตฺถํ อภิรูปํ นิมฺมลํ สุจี’ติ. เอวเมว โข, มาคณฺฑิย, อหญฺเจ เต ธมฺมํ เทเสยฺยํ—  ‘อิทนฺตํ อาโรคฺยํ, อิทนฺตํ นิพฺพานนฺ’ติ. โส ตฺวํ อาโรคฺยํ ชาเนยฺยาสิ, นิพฺพานํ ปเสฺสยฺยาสิ. ตสฺส เต สห จกฺขุปฺปาทา โย ปญฺจสุปาทานกฺขนฺเธสุ ฉนฺทราโค โส ปหีเยถ; อปิ จ เต เอวมสฺส—  ‘ทีฆรตฺตํ วต โภ อหํ อิมินา จิตฺเตน นิกโต วญฺจิโต ปลุทฺโธ. อหญฺหิ รูปํเยว อุปาทิยมาโน อุปาทิยิํ, เวทนํเยว อุปาทิยมาโน อุปาทิยิํ, สญฺญํเยว อุปาทิยมาโน อุปาทิยิํ, สงฺขาเรเยว อุปาทิยมาโน อุปาทิยิํ, วิญฺญาณํเยว อุปาทิยมาโน อุปาทิยิํ. ตสฺส เม อุปาทานปจฺจยา ภโว, ภวปจฺจยา ชาติ, ชาติปจฺจยา ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา สมฺภวนฺติ; เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหตี’”ติ. “เอวํ ปสนฺโน อหํ โภโต โคตมสฺส. ปโหติ เม ภวํ โคตโม ตถา ธมฺมํ เทเสตุํ ยถาหํ อิมมฺหา อาสนา อนนฺโธ วุฏฺฐเหยฺยนฺ”ติ.

221.
627

“เตน หิ ตฺวํ, มาคณฺฑิย, สปฺปุริเส ภเชยฺยาสิ. ยโต โข ตฺวํ, มาคณฺฑิย, สปฺปุริเส ภชิสฺสสิ ตโต ตฺวํ, มาคณฺฑิย, สทฺธมฺมํ โสสฺสสิ; ยโต โข ตฺวํ, มาคณฺฑิย, สทฺธมฺมํ โสสฺสสิ ตโต ตฺวํ, มาคณฺฑิย, ธมฺมานุธมฺมํ ปฏิปชฺชิสฺสสิ; ยโต โข ตฺวํ, มาคณฺฑิย, ธมฺมานุธมฺมํ ปฏิปชฺชิสฺสสิ ตโต ตฺวํ, มาคณฺฑิย, สามํเยว ญสฺสสิ, สามํ ทกฺขิสฺสสิ—  อิเม โรคา คณฺฑา สลฺลา; อิธ โรคา คณฺฑา สลฺลา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ. ตสฺส เม อุปาทานนิโรธา ภวนิโรโธ, ภวนิโรธา ชาตินิโรโธ, ชาตินิโรธา ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา นิรุชฺฌนฺติ; เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส นิโรโธ โหตี”ติ.

222.
628

เอวํ วุตฺเต, มาคณฺฑิโย ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ—  “อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม. เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย—  ‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติ; เอวเมวํ โภตา โคตเมน อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมญฺจ ภิกฺขุสํฆญฺจ. ลเภยฺยาหํ โภโต โคตมสฺส สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, ลเภยฺยํ อุปสมฺปทนฺ”ติ. “โย โข, มาคณฺฑิย, อญฺญติตฺถิยปุพฺโพ อิมสฺมิํ ธมฺมวินเย อากงฺขติ ปพฺพชฺชํ, อากงฺขติ อุปสมฺปทํ, โส จตฺตาโร มาเส ปริวสติ; จตุนฺนํ มาสานํ อจฺจเยน อารทฺธจิตฺตา ภิกฺขู ปพฺพาเชนฺติ, อุปสมฺปาเทนฺติ ภิกฺขุภาวาย. อปิ จ เมตฺถ ปุคฺคลเวมตฺตตา วิทิตา”ติ. “สเจ, ภนฺเต, อญฺญติตฺถิยปุพฺพา อิมสฺมิํ ธมฺมวินเย อากงฺขนฺตา ปพฺพชฺชํ, อากงฺขนฺตา อุปสมฺปทํ จตฺตาโร มาเส ปริวสนฺติ, จตุนฺนํ มาสานํ อจฺจเยน อารทฺธจิตฺตา ภิกฺขู ปพฺพาเชนฺติ อุปสมฺปาเทนฺติ ภิกฺขุภาวาย; อหํ จตฺตาริ วสฺสานิ ปริวสิสฺสามิ, จตุนฺนํ วสฺสานํ อจฺจเยน อารทฺธจิตฺตา ภิกฺขู ปพฺพาเชนฺตุ, อุปสมฺปาเทนฺตุ ภิกฺขุภาวายา”ติ.

629

อลตฺถ โข มาคณฺฑิโย ปริพฺพาชโก ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, อลตฺถ อุปสมฺปทํ. อจิรูปสมฺปนฺโน โข ปนายสฺมา มาคณฺฑิโย เอโก วูปกฏฺโฐ อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต นจิรเสฺสว—  ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ, ตทนุตฺตรํ—  พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเฐว ธมฺเม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหาสิ. “ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา”ติ อพฺภญฺญาสิ. อญฺญตโร โข ปนายสฺมา มาคณฺฑิโย อรหตํ อโหสีติ.

630

มาคณฺฑิยสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ ปญฺจมํ.