4.2 รฏฺฐปาลสุตฺต
เอวํ เม สุตํ— เอกํ สมยํ ภควา กุรูสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสํเฆน สทฺธิํ เยน ถุลฺลโกฏฺฐิกํ นาม กุรูนํ นิคโม ตทวสริ. อโสฺสสุํ โข ถุลฺลโกฏฺฐิกา พฺราหฺมณคหปติกา— “สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต กุรูสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสํเฆน สทฺธิํ ถุลฺลโกฏฺฐิกํ อนุปฺปตฺโต. ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต— ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ. โส อิมํ โลกํ สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณิํ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติ. โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยญฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ. สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี”ติ.
อถ โข ถุลฺลโกฏฺฐิกา พฺราหฺมณคหปติกา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อปฺเปกจฺเจ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุ; อปฺเปกจฺเจ ภควตา สทฺธิํ สมฺโมทิํสุ, สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุ; อปฺเปกจฺเจ เยน ภควา เตนญฺชลิํ ปณาเมตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุ; อปฺเปกจฺเจ ภควโต สนฺติเก นามโคตฺตํ สาเวตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุ; อปฺเปกจฺเจ ตุณฺหีภูตา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺเน โข ถุลฺลโกฏฺฐิเก พฺราหฺมณคหปติเก ภควา ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิ.
เตน โข ปน สมเยน รฏฺฐปาโล นาม กุลปุตฺโต ตสฺมิํเยว ถุลฺลโกฏฺฐิเก อคฺคกุลสฺส ปุตฺโต ติสฺสํ ปริสายํ นิสินฺโน โหติ. อถ โข รฏฺฐปาลสฺส กุลปุตฺตสฺส เอตทโหสิ— “ยถา ยถา ขฺวาหํ ภควตา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานามิ, นยิทํ สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา เอกนฺตปริปุณฺณํ เอกนฺตปริสุทฺธํ สงฺขลิขิตํ พฺรหฺมจริยํ จริตุํ. ยนฺนูนาหํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺยนฺ”ติ. อถ โข ถุลฺลโกฏฺฐิกา พฺราหฺมณคหปติกา ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิตา สมาทปิตา สมุตฺเตชิตา สมฺปหํสิตา ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฏฺฐายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกมิํสุ. อถ โข รฏฺฐปาโล กุลปุตฺโต อจิรปกฺกนฺเตสุ ถุลฺลโกฏฺฐิเกสุ พฺราหฺมณคหปติเกสุ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข รฏฺฐปาโล กุลปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ— “ยถา ยถาหํ, ภนฺเต, ภควตา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานามิ, นยิทํ สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา เอกนฺตปริปุณฺณํ เอกนฺตปริสุทฺธํ สงฺขลิขิตํ พฺรหฺมจริยํ จริตุํ. อิจฺฉามหํ, ภนฺเต, เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตุํ. ลเภยฺยาหํ, ภนฺเต, ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, ลเภยฺยํ อุปสมฺปทํ. ปพฺพาเชตุ มํ ภควา”ติ. “อนุญฺญาโตสิ ปน ตฺวํ, รฏฺฐปาล, มาตาปิตูหิ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชายา”ติ? “น โขหํ, ภนฺเต, อนุญฺญาโต มาตาปิตูหิ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชายา”ติ. “น โข, รฏฺฐปาล, ตถาคตา อนนุญฺญาตํ มาตาปิตูหิ ปุตฺตํ ปพฺพาเชนฺตี”ติ. “สฺวาหํ, ภนฺเต, ตถา กริสฺสามิ ยถา มํ มาตาปิตโร อนุชานิสฺสนฺติ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชายา”ติ.
อถ โข รฏฺฐปาโล กุลปุตฺโต อุฏฺฐายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา เยน มาตาปิตโร เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มาตาปิตโร เอตทโวจ— “อมฺมตาตา, ยถา ยถาหํ ภควตา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานามิ, นยิทํ สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา เอกนฺตปริปุณฺณํ เอกนฺตปริสุทฺธํ สงฺขลิขิตํ พฺรหฺมจริยํ จริตุํ. อิจฺฉามหํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตุํ. อนุชานาถ มํ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชายา”ติ. เอวํ วุตฺเต, รฏฺฐปาลสฺส กุลปุตฺตสฺส มาตาปิตโร รฏฺฐปาลํ กุลปุตฺตํ เอตทโวจุํ— “ตฺวํ โขสิ, ตาต รฏฺฐปาล, อมฺหากํ เอกปุตฺตโก ปิโย มนาโป สุเขธิโต สุขปริภโต. น ตฺวํ, ตาต รฏฺฐปาล, กสฺสจิ ทุกฺขสฺส ชานาสิ. ( ) มรเณนปิ เต มยํ อกามกา วินา ภวิสฺสาม. กิํ ปน มยํ ตํ ชีวนฺตํ อนุชานิสฺสาม อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชายา”ติ?
ทุติยมฺปิ โข รฏฺฐปาโล กุลปุตฺโต …เป… ตติยมฺปิ โข รฏฺฐปาโล กุลปุตฺโต มาตาปิตโร เอตทโวจ— “อมฺมตาตา, ยถา ยถาหํ ภควตา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานามิ, นยิทํ สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา เอกนฺตปริปุณฺณํ เอกนฺตปริสุทฺธํ สงฺขลิขิตํ พฺรหฺมจริยํ จริตุํ. อิจฺฉามหํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตุํ. อนุชานาถ มํ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชายา”ติ.
ตติยมฺปิ โข รฏฺฐปาลสฺส กุลปุตฺตสฺส มาตาปิตโร รฏฺฐปาลํ กุลปุตฺตํ เอตทโวจุํ— “ตฺวํ โขสิ, ตาต รฏฺฐปาล, อมฺหากํ เอกปุตฺตโก ปิโย มนาโป สุเขธิโต สุขปริภโต. น ตฺวํ, ตาต รฏฺฐปาล, กสฺสจิ ทุกฺขสฺส ชานาสิ. มรเณนปิ เต มยํ อกามกา วินา ภวิสฺสาม. กิํ ปน มยํ ตํ ชีวนฺตํ อนุชานิสฺสาม อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชายา”ติ?
อถ โข รฏฺฐปาโล กุลปุตฺโต— “น มํ มาตาปิตโร อนุชานนฺติ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชายา”ติ ตตฺเถว อนนฺตรหิตาย ภูมิยา นิปชฺชิ— “อิเธว เม มรณํ ภวิสฺสติ ปพฺพชฺชา วา”ติ. อถ โข รฏฺฐปาโล กุลปุตฺโต เอกมฺปิ ภตฺตํ น ภุญฺชิ, ทฺเวปิ ภตฺตานิ น ภุญฺชิ, ตีณิปิ ภตฺตานิ น ภุญฺชิ, จตฺตาริปิ ภตฺตานิ น ภุญฺชิ, ปญฺจปิ ภตฺตานิ น ภุญฺชิ, ฉปิ ภตฺตานิ น ภุญฺชิ, สตฺตปิ ภตฺตานิ น ภุญฺชิ. อถ โข รฏฺฐปาลสฺส กุลปุตฺตสฺส มาตาปิตโร รฏฺฐปาลํ กุลปุตฺตํ เอตทโวจุํ— “ตฺวํ โขสิ, ตาต รฏฺฐปาล, อมฺหากํ เอกปุตฺตโก ปิโย มนาโป สุเขธิโต สุขปริภโต. น ตฺวํ, ตาต รฏฺฐปาล, กสฺสจิ, ทุกฺขสฺส ชานาสิ. มรเณนปิ เต มยํ อกามกา วินา ภวิสฺสาม. กิํ ปน มยํ ตํ ชีวนฺตํ อนุชานิสฺสาม อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชาย. อุฏฺเฐหิ, ตาต รฏฺฐปาล, ภุญฺช จ ปิว จ ปริจาเรหิ จ; ภุญฺชนฺโต ปิวนฺโต ปริจาเรนฺโต กาเม ปริภุญฺชนฺโต ปุญฺญานิ กโรนฺโต อภิรมสฺสุ. น ตํ มยํ อนุชานาม อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชาย. มรเณนปิ เต มยํ อกามกา วินา ภวิสฺสาม. กิํ ปน มยํ ตํ ชีวนฺตํ อนุชานิสฺสาม อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชายา”ติ? เอวํ วุตฺเต, รฏฺฐปาโล กุลปุตฺโต ตุณฺหี อโหสิ. ทุติยมฺปิ โข รฏฺฐปาลสฺส กุลปุตฺตสฺส มาตาปิตโร รฏฺฐปาลํ กุลปุตฺตํ เอตทโวจุํ …เป… ทุติยมฺปิ โข รฏฺฐปาโล กุลปุตฺโต ตุณฺหี อโหสิ.
ตติยมฺปิ โข รฏฺฐปาลสฺส กุลปุตฺตสฺส มาตาปิตโร รฏฺฐปาลํ กุลปุตฺตํ เอตทโวจุํ— “ตฺวํ โขสิ, ตาต รฏฺฐปาล, อมฺหากํ เอกปุตฺตโก ปิโย มนาโป สุเขธิโต สุขปริภโต. น ตฺวํ, ตาต รฏฺฐปาล, กสฺสจิ ทุกฺขสฺส ชานาสิ. มรเณนปิ เต มยํ อกามกา วินา ภวิสฺสาม, กิํ ปน มยํ ตํ ชีวนฺตํ อนุชานิสฺสาม อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชาย. อุฏฺเฐหิ, ตาต รฏฺฐปาล, ภุญฺช จ ปิว จ ปริจาเรหิ จ; ภุญฺชนฺโต ปิวนฺโต ปริจาเรนฺโต กาเม ปริภุญฺชนฺโต ปุญฺญานิ กโรนฺโต อภิรมสฺสุ. น ตํ มยํ อนุชานาม อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชาย. มรเณนปิ เต มยํ อกามกา วินา ภวิสฺสาม. กิํ ปน มยํ ตํ ชีวนฺตํ อนุชานิสฺสาม อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชายา”ติ? ตติยมฺปิ โข รฏฺฐปาโล กุลปุตฺโต ตุณฺหี อโหสิ.
อถ โข รฏฺฐปาลสฺส กุลปุตฺตสฺส สหายกา เยน รฏฺฐปาโล กุลปุตฺโต เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา รฏฺฐปาลํ กุลปุตฺตํ เอตทโวจุํ— “ตฺวํ โขสิ, สมฺม รฏฺฐปาล, มาตาปิตูนํ เอกปุตฺตโก ปิโย มนาโป สุเขธิโต สุขปริภโต. น ตฺวํ, สมฺม รฏฺฐปาล, กสฺสจิ ทุกฺขสฺส ชานาสิ. มรเณนปิ เต มาตาปิตโร อกามกา วินา ภวิสฺสนฺติ. กิํ ปน เต ตํ ชีวนฺตํ อนุชานิสฺสนฺติ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชาย. อุฏฺเฐหิ, สมฺม รฏฺฐปาล, ภุญฺช จ ปิว จ ปริจาเรหิ จ; ภุญฺชนฺโต ปิวนฺโต ปริจาเรนฺโต กาเม ปริภุญฺชนฺโต ปุญฺญานิ กโรนฺโต อภิรมสฺสุ. น ตํ มาตาปิตโร อนุชานิสฺสนฺติ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชาย. มรเณนปิ เต มาตาปิตโร อกามกา วินา ภวิสฺสนฺติ. กิํ ปน เต ตํ ชีวนฺตํ อนุชานิสฺสนฺติ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชายา”ติ? เอวํ วุตฺเต, รฏฺฐปาโล กุลปุตฺโต ตุณฺหี อโหสิ.
ทุติยมฺปิ โข… ตติยมฺปิ โข รฏฺฐปาลสฺส กุลปุตฺตสฺส สหายกา รฏฺฐปาลํ กุลปุตฺตํ เอตทโวจุํ— “ตฺวํ โขสิ, สมฺม รฏฺฐปาล, มาตาปิตูนํ เอกปุตฺตโก ปิโย มนาโป สุเขธิโต สุขปริภโต, น ตฺวํ, สมฺม รฏฺฐปาล, กสฺสจิ ทุกฺขสฺส ชานาสิ, มรเณนปิ เต มาตาปิตโร อกามกา วินา ภวิสฺสนฺติ. กิํ ปน เต ตํ ชีวนฺตํ อนุชานิสฺสนฺติ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชาย? อุฏฺเฐหิ, สมฺม รฏฺฐปาล, ภุญฺช จ ปิว จ ปริจาเรหิ จ, ภุญฺชนฺโต ปิวนฺโต ปริจาเรนฺโต กาเม ปริภุญฺชนฺโต ปุญฺญานิ กโรนฺโต อภิรมสฺสุ. น ตํ มาตาปิตโร อนุชานิสฺสนฺติ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชาย, มรเณนปิ เต มาตาปิตโร อกามกา วินา ภวิสฺสนฺติ. กิํ ปน เต ตํ ชีวนฺตํ อนุชานิสฺสนฺติ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชายา”ติ? ตติยมฺปิ โข รฏฺฐปาโล กุลปุตฺโต ตุณฺหี อโหสิ.
อถ โข รฏฺฐปาลสฺส กุลปุตฺตสฺส สหายกา เยน รฏฺฐปาลสฺส กุลปุตฺตสฺส มาตาปิตโร เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา รฏฺฐปาลสฺส กุลปุตฺตสฺส มาตาปิตโร เอตทโวจุํ— “อมฺมตาตา, เอโส รฏฺฐปาโล กุลปุตฺโต ตตฺเถว อนนฺตรหิตาย ภูมิยา นิปนฺโน— ‘อิเธว เม มรณํ ภวิสฺสติ ปพฺพชฺชา วา’ติ. สเจ ตุมฺเห รฏฺฐปาลํ กุลปุตฺตํ นานุชานิสฺสถ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชาย, ตตฺเถว มรณํ อาคมิสฺสติ. สเจ ปน ตุมฺเห รฏฺฐปาลํ กุลปุตฺตํ อนุชานิสฺสถ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชาย, ปพฺพชิตมฺปิ นํ ทกฺขิสฺสถ. สเจ รฏฺฐปาโล กุลปุตฺโต นาภิรมิสฺสติ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชาย, กา ตสฺส อญฺญา คติ ภวิสฺสติ? อิเธว ปจฺจาคมิสฺสติ. อนุชานาถ รฏฺฐปาลํ กุลปุตฺตํ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชายา”ติ. “อนุชานาม, ตาตา, รฏฺฐปาลํ กุลปุตฺตํ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชาย. ปพฺพชิเตน จ ปน มาตาปิตโร อุทฺทเสฺสตพฺพา”ติ. อถ โข รฏฺฐปาลสฺส กุลปุตฺตสฺส สหายกา เยน รฏฺฐปาโล กุลปุตฺโต เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา รฏฺฐปาลํ กุลปุตฺตํ เอตทโวจุํ— “อุฏฺเฐหิ, สมฺม รฏฺฐปาล, อนุญฺญาโตสิ มาตาปิตูหิ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชาย. ปพฺพชิเตน จ ปน เต มาตาปิตโร อุทฺทเสฺสตพฺพา”ติ.
อถ โข รฏฺฐปาโล กุลปุตฺโต อุฏฺฐหิตฺวา พลํ คาเหตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข รฏฺฐปาโล กุลปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ— “อนุญฺญาโต อหํ, ภนฺเต, มาตาปิตูหิ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชาย. ปพฺพาเชตุ มํ ภควา”ติ. อลตฺถ โข รฏฺฐปาโล กุลปุตฺโต ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, อลตฺถ อุปสมฺปทํ. อถ โข ภควา อจิรูปสมฺปนฺเน อายสฺมนฺเต รฏฺฐปาเล อฑฺฒมาสุปสมฺปนฺเน ถุลฺลโกฏฺฐิเก ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน สาวตฺถิ เตน จาริกํ ปกฺกามิ. อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน สาวตฺถิ ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข อายสฺมา รฏฺฐปาโล เอโก วูปกฏฺโฐ อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต นจิรเสฺสว— ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ, ตทนุตฺตรํ— พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเฐว ธมฺเม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหาสิ. “ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา”ติ อพฺภญฺญาสิ. อญฺญตโร โข ปนายสฺมา รฏฺฐปาโล อรหตํ อโหสิ.
อถ โข อายสฺมา รฏฺฐปาโล เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา รฏฺฐปาโล ภควนฺตํ เอตทโวจ— “อิจฺฉามหํ, ภนฺเต, มาตาปิตโร อุทฺทเสฺสตุํ, สเจ มํ ภควา อนุชานาตี”ติ. อถ โข ภควา อายสฺมโต รฏฺฐปาลสฺส เจตสา เจโต ปริจฺจ มนสากาสิ. ยถา ภควา อญฺญาสิ— “อภพฺโพ โข รฏฺฐปาโล กุลปุตฺโต สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺติตุนฺ”ติ, อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ รฏฺฐปาลํ เอตทโวจ— “ยสฺสทานิ ตฺวํ, รฏฺฐปาล, กาลํ มญฺญสี”ติ. อถ โข อายสฺมา รฏฺฐปาโล อุฏฺฐายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา เสนาสนํ สํสาเมตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน ถุลฺลโกฏฺฐิกํ เตน จาริกํ ปกฺกามิ. อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน ถุลฺลโกฏฺฐิโก ตทวสริ. ตตฺร สุทํ อายสฺมา รฏฺฐปาโล ถุลฺลโกฏฺฐิเก วิหรติ รญฺโญ โกรพฺยสฺส มิคจีเร. อถ โข อายสฺมา รฏฺฐปาโล ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ถุลฺลโกฏฺฐิกํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. ถุลฺลโกฏฺฐิเก สปทานํ ปิณฺฑาย จรมาโน เยน สกปิตุ นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมโต รฏฺฐปาลสฺส ปิตา มชฺฌิมาย ทฺวารสาลาย อุลฺลิขาเปติ. อทฺทสา โข อายสฺมโต รฏฺฐปาลสฺส ปิตา อายสฺมนฺตํ รฏฺฐปาลํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ. ทิสฺวาน เอตทโวจ— “อิเมหิ มุณฺฑเกหิ สมณเกหิ อมฺหากํ เอกปุตฺตโก ปิโย มนาโป ปพฺพาชิโต”ติ. อถ โข อายสฺมา รฏฺฐปาโล สกปิตุ นิเวสเน เนว ทานํ อลตฺถ น ปจฺจกฺขานํ; อญฺญทตฺถุ อกฺโกสเมว อลตฺถ. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมโต รฏฺฐปาลสฺส ญาติทาสี อาภิโทสิกํ กุมฺมาสํ ฉฑฺเฑตุกามา โหติ. อถ โข อายสฺมา รฏฺฐปาโล ตํ ญาติทาสิํ เอตทโวจ— “สเจตํ, ภคินิ, ฉฑฺฑนียธมฺมํ, อิธ เม ปตฺเต อากิรา”ติ. อถ โข อายสฺมโต รฏฺฐปาลสฺส ญาติทาสี ตํ อาภิโทสิกํ กุมฺมาสํ อายสฺมโต รฏฺฐปาลสฺส ปตฺเต อากิรนฺตี หตฺถานญฺจ ปาทานญฺจ สรสฺส จ นิมิตฺตํ อคฺคเหสิ.
อถ โข อายสฺมโต รฏฺฐปาลสฺส ญาติทาสี เยนายสฺมโต รฏฺฐปาลสฺส มาตา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมโต รฏฺฐปาลสฺส มาตรํ เอตทโวจ— “ยคฺเฆเยฺย, ชาเนยฺยาสิ— ‘อยฺยปุตฺโต รฏฺฐปาโล อนุปฺปตฺโต’”ติ. “สเจ, เช, สจฺจํ ภณสิ, อทาสิํ ตํ กโรมี”ติ. อถ โข อายสฺมโต รฏฺฐปาลสฺส มาตา เยนายสฺมโต รฏฺฐปาลสฺส ปิตา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมโต รฏฺฐปาลสฺส ปิตรํ เอตทโวจ— “ยคฺเฆ, คหปติ, ชาเนยฺยาสิ— ‘รฏฺฐปาโล กิร กุลปุตฺโต อนุปฺปตฺโต’”ติ? เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา รฏฺฐปาโล ตํ อาภิโทสิกํ กุมฺมาสํ อญฺญตรํ กุฏฺฏมูลํ นิสฺสาย ปริภุญฺชติ. อถ โข อายสฺมโต รฏฺฐปาลสฺส ปิตา เยนายสฺมา รฏฺฐปาโล เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ รฏฺฐปาลํ เอตทโวจ— “อตฺถิ นาม, ตาต รฏฺฐปาล, อาภิโทสิกํ กุมฺมาสํ ปริภุญฺชิสฺสสิ? นนุ, ตาต รฏฺฐปาล, สกํ เคหํ คนฺตพฺพนฺ”ติ? “กุโต โน, คหปติ, อมฺหากํ เคหํ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตานํ? อนคารา มยํ, คหปติ. อคมมฺห โข เต, คหปติ, เคหํ, ตตฺถ เนว ทานํ อลตฺถมฺห น ปจฺจกฺขานํ; อญฺญทตฺถุ อกฺโกสเมว อลตฺถมฺหา”ติ. “เอหิ, ตาต รฏฺฐปาล, ฆรํ คมิสฺสามา”ติ. “อลํ, คหปติ, กตํ เม อชฺช ภตฺตกิจฺจํ”. “เตน หิ, ตาต รฏฺฐปาล, อธิวาเสหิ สฺวาตนาย ภตฺตนฺ”ติ. อธิวาเสสิ โข อายสฺมา รฏฺฐปาโล ตุณฺหีภาเวน. อถ โข อายสฺมโต รฏฺฐปาลสฺส ปิตา อายสฺมโต รฏฺฐปาลสฺส อธิวาสนํ วิทิตฺวา เยน สกํ นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มหนฺตํ หิรญฺญสุวณฺณสฺส ปุญฺชํ การาเปตฺวา กิลญฺเชหิ ปฏิจฺฉาเทตฺวา อายสฺมโต รฏฺฐปาลสฺส ปุราณทุติยิกา อามนฺเตสิ— “เอถ ตุมฺเห, วธุโย, เยน อลงฺกาเรน อลงฺกตา ปุพฺเพ รฏฺฐปาลสฺส กุลปุตฺตสฺส ปิยา โหถ มนาปา เตน อลงฺกาเรน อลงฺกโรถา”ติ.
อถ โข อายสฺมโต รฏฺฐปาลสฺส ปิตา ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน สเก นิเวสเน ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาทาเปตฺวา อายสฺมโต รฏฺฐปาลสฺส กาลํ อาโรเจสิ— “กาโล, ตาต รฏฺฐปาล, นิฏฺฐิตํ ภตฺตนฺ”ติ. อถ โข อายสฺมา รฏฺฐปาโล ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน สกปิตุ นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญตฺเต อาสเน นิสีทิ. อถ โข อายสฺมโต รฏฺฐปาลสฺส ปิตา ตํ หิรญฺญสุวณฺณสฺส ปุญฺชํ วิวราเปตฺวา อายสฺมนฺตํ รฏฺฐปาลํ เอตทโวจ— “อิทํ เต, ตาต รฏฺฐปาล, มาตุ มตฺติกํ ธนํ, อญฺญํ เปตฺติกํ, อญฺญํ ปิตามหํ. สกฺกา, ตาต รฏฺฐปาล, โภเค จ ภุญฺชิตุํ ปุญฺญานิ จ กาตุํ. เอหิ ตฺวํ, ตาต รฏฺฐปาล, หีนายาวตฺติตฺวา โภเค จ ภุญฺชสฺสุ ปุญฺญานิ จ กโรหี”ติ. “สเจ เม ตฺวํ, คหปติ, วจนํ กเรยฺยาสิ, อิมํ หิรญฺญสุวณฺณสฺส ปุญฺชํ สกเฏ อาโรเปตฺวา นิพฺพาหาเปตฺวา มชฺเฌคงฺคาย นทิยา โสเต โอปิลาเปยฺยาสิ. ตํ กิสฺส เหตุ? เย อุปฺปชฺชิสฺสนฺติ หิ เต, คหปติ, ตโตนิทานํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา”ติ. อถ โข อายสฺมโต รฏฺฐปาลสฺส ปุราณทุติยิกา ปจฺเจกํ ปาเทสุ คเหตฺวา อายสฺมนฺตํ รฏฺฐปาลํ เอตทโวจุํ— “กีทิสา นาม ตา, อยฺยปุตฺต, อจฺฉราโย ยาสํ ตฺวํ เหตุ พฺรหฺมจริยํ จรสี”ติ? “น โข มยํ, ภคินี, อจฺฉรานํ เหตุ พฺรหฺมจริยํ จรามา”ติ. “ภคินิวาเทน โน อยฺยปุตฺโต รฏฺฐปาโล สมุทาจรตี”ติ ตา ตตฺเถว มุจฺฉิตา ปปติํสุ. อถ โข อายสฺมา รฏฺฐปาโล ปิตรํ เอตทโวจ— “สเจ, คหปติ, โภชนํ ทาตพฺพํ, เทถ; มา โน วิเหเฐถา”ติ. “ภุญฺช, ตาต รฏฺฐปาล, นิฏฺฐิตํ ภตฺตนฺ”ติ. อถ โข อายสฺมโต รฏฺฐปาลสฺส ปิตา อายสฺมนฺตํ รฏฺฐปาลํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปสิ สมฺปวาเรสิ.
อถ โข อายสฺมา รฏฺฐปาโล ภุตฺตาวี โอนีตปตฺตปาณี ฐิตโกว อิมา คาถา อภาสิ—
“ปสฺส จิตฺตีกตํ พิมฺพํ,
อรุกายํ สมุสฺสิตํ;
อาตุรํ พหุสงฺกปฺปํ,
ยสฺส นตฺถิ ธุวํ ฐิติ.
ปสฺส จิตฺตีกตํ รูปํ,
มณินา กุณฺฑเลน จ;
อฏฺฐิ ตเจน โอนทฺธํ,
สห วตฺเถภิ โสภติ.
อลตฺตกกตา ปาทา,
มุขํ จุณฺณกมกฺขิตํ;
อลํ พาลสฺส โมหาย,
โน จ ปารคเวสิโน.
อฏฺฐาปทกตา เกสา,
เนตฺตา อญฺชนมกฺขิตา;
อลํ พาลสฺส โมหาย,
โน จ ปารคเวสิโน.
อญฺชนีว นวา จิตฺตา,
ปูติกาโย อลงฺกโต;
อลํ พาลสฺส โมหาย,
โน จ ปารคเวสิโน.
โอทหิ มิคโว ปาสํ,
นาสทา วากรํ มิโค;
ภุตฺวา นิวาปํ คจฺฉาม,
กนฺทนฺเต มิคพนฺธเก”ติ.
อถ โข อายสฺมา รฏฺฐปาโล ฐิตโกว อิมา คาถา ภาสิตฺวา เยน รญฺโญ โกรพฺยสฺส มิคจีรํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อญฺญตรสฺมิํ รุกฺขมูเล ทิวาวิหารํ นิสีทิ.
อถ โข ราชา โกรโพฺย มิควํ อามนฺเตสิ— “โสเธหิ, สมฺม มิคว, มิคจีรํ อุยฺยานภูมิํ; คจฺฉาม สุภูมิํ ทสฺสนายา”ติ. “เอวํ, เทวา”ติ โข มิคโว รญฺโญ โกรพฺยสฺส ปฏิสฺสุตฺวา มิคจีรํ โสเธนฺโต อทฺทส อายสฺมนฺตํ รฏฺฐปาลํ อญฺญตรสฺมิํ รุกฺขมูเล ทิวาวิหารํ นิสินฺนํ. ทิสฺวาน เยน ราชา โกรโพฺย เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ราชานํ โกรพฺยํ เอตทโวจ— “สุทฺธํ โข เต, เทว, มิคจีรํ. อตฺถิ เจตฺถ รฏฺฐปาโล นาม กุลปุตฺโต อิมสฺมิํเยว ถุลฺลโกฏฺฐิเก อคฺคกุลสฺส ปุตฺโต ยสฺส ตฺวํ อภิณฺหํ กิตฺตยมาโน อโหสิ, โส อญฺญตรสฺมิํ รุกฺขมูเล ทิวาวิหารํ นิสินฺโน”ติ. “เตน หิ, สมฺม มิคว, อลํ ทานชฺช อุยฺยานภูมิยา. ตเมว ทานิ มยํ ภวนฺตํ รฏฺฐปาลํ ปยิรุปาสิสฺสามา”ติ. อถ โข ราชา โกรโพฺย “ยํ ตตฺถ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยตฺตํ ตํ สพฺพํ วิสฺสชฺเชถา”ติ วตฺวา ภทฺรานิ ภทฺรานิ ยานานิ โยชาเปตฺวา ภทฺรํ ยานํ อภิรุหิตฺวา ภเทฺรหิ ภเทฺรหิ ยาเนหิ ถุลฺลโกฏฺฐิกมฺหา นิยฺยาสิ มหจฺจราชานุภาเวน อายสฺมนฺตํ รฏฺฐปาลํ ทสฺสนาย. ยาวติกา ยานสฺส ภูมิ ยาเนน คนฺตฺวา ยานา ปจฺโจโรหิตฺวา ปตฺติโกว อุสฺสฏาย อุสฺสฏาย ปริสาย เยนายสฺมา รฏฺฐปาโล เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา รฏฺฐปาเลน สทฺธิํ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺฐาสิ. เอกมนฺตํ ฐิโต โข ราชา โกรโพฺย อายสฺมนฺตํ รฏฺฐปาลํ เอตทโวจ— “อิธ ภวํ รฏฺฐปาโล หตฺถตฺถเร นิสีทตู”ติ. “อลํ, มหาราช, นิสีท ตฺวํ; นิสินฺโน อหํ สเก อาสเน”ติ. นิสีทิ ราชา โกรโพฺย ปญฺญตฺเต อาสเน. นิสชฺช โข ราชา โกรโพฺย อายสฺมนฺตํ รฏฺฐปาลํ เอตทโวจ—
“จตฺตาริมานิ, โภ รฏฺฐปาล, ปาริชุญฺญานิ เยหิ ปาริชุญฺเญหิ สมนฺนาคตา อิเธกจฺเจ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ. กตมานิ จตฺตาริ? ชราปาริชุญฺญํ, พฺยาธิปาริชุญฺญํ, โภคปาริชุญฺญํ, ญาติปาริชุญฺญํ. กตมญฺจ, โภ รฏฺฐปาล, ชราปาริชุญฺญํ? อิธ, โภ รฏฺฐปาล, เอกจฺโจ ชิณฺโณ โหติ วุฑฺโฒ มหลฺลโก อทฺธคโต วโยอนุปฺปตฺโต. โส อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ— ‘อหํ โขมฺหิ เอตรหิ ชิณฺโณ วุฑฺโฒ มหลฺลโก อทฺธคโต วโยอนุปฺปตฺโต. น โข ปน มยา สุกรํ อนธิคตํ วา โภคํ อธิคนฺตุํ อธิคตํ วา โภคํ ผาติํ กาตุํ. ยนฺนูนาหํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺยนฺ’ติ. โส เตน ชราปาริชุญฺเญน สมนฺนาคโต เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ. อิทํ วุจฺจติ, โภ รฏฺฐปาล, ชราปาริชุญฺญํ. ภวํ โข ปน รฏฺฐปาโล เอตรหิ ทหโร ยุวา สุสุกาฬเกโส ภเทฺรน โยพฺพเนน สมนฺนาคโต ปฐเมน วยสา. ตํ โภโต รฏฺฐปาลสฺส ชราปาริชุญฺญํ นตฺถิ. กิํ ภวํ รฏฺฐปาโล ญตฺวา วา ทิสฺวา วา สุตฺวา วา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต? (1)
กตมญฺจ, โภ รฏฺฐปาล, พฺยาธิปาริชุญฺญํ? อิธ, โภ รฏฺฐปาล, เอกจฺโจ อาพาธิโก โหติ ทุกฺขิโต พาฬฺหคิลาโน. โส อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ— ‘อหํ โขมฺหิ เอตรหิ อาพาธิโก ทุกฺขิโต พาฬฺหคิลาโน. น โข ปน มยา สุกรํ อนธิคตํ วา โภคํ อธิคนฺตุํ อธิคตํ วา โภคํ ผาติํ กาตุํ. ยนฺนูนาหํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺยนฺ’ติ. โส เตน พฺยาธิปาริชุญฺเญน สมนฺนาคโต เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ. อิทํ วุจฺจติ, โภ รฏฺฐปาล, พฺยาธิปาริชุญฺญํ. ภวํ โข ปน รฏฺฐปาโล เอตรหิ อปฺปาพาโธ อปฺปาตงฺโก สมเวปากินิยา คหณิยา สมนฺนาคโต นาติสีตาย นาจฺจุณฺหาย. ตํ โภโต รฏฺฐปาลสฺส พฺยาธิปาริชุญฺญํ นตฺถิ. กิํ ภวํ รฏฺฐปาโล ญตฺวา วา ทิสฺวา วา สุตฺวา วา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต? (2)
กตมญฺจ, โภ รฏฺฐปาล, โภคปาริชุญฺญํ? อิธ, โภ รฏฺฐปาล, เอกจฺโจ อฑฺโฒ โหติ มหทฺธโน มหาโภโค. ตสฺส เต โภคา อนุปุพฺเพน ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ. โส อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ— ‘อหํ โข ปุพฺเพ อฑฺโฒ อโหสิํ มหทฺธโน มหาโภโค. ตสฺส เม เต โภคา อนุปุพฺเพน ปริกฺขยํ คตา. น โข ปน มยา สุกรํ อนธิคตํ วา โภคํ อธิคนฺตุํ อธิคตํ วา โภคํ ผาติํ กาตุํ. ยนฺนูนาหํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺยนฺ’ติ. โส เตน โภคปาริชุญฺเญน สมนฺนาคโต เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ. อิทํ วุจฺจติ, โภ รฏฺฐปาล, โภคปาริชุญฺญํ. ภวํ โข ปน รฏฺฐปาโล อิมสฺมิํเยว ถุลฺลโกฏฺฐิเก อคฺคกุลสฺส ปุตฺโต. ตํ โภโต รฏฺฐปาลสฺส โภคปาริชุญฺญํ นตฺถิ. กิํ ภวํ รฏฺฐปาโล ญตฺวา วา ทิสฺวา วา สุตฺวา วา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต? (3)
กตมญฺจ, โภ รฏฺฐปาล, ญาติปาริชุญฺญํ? อิธ, โภ รฏฺฐปาล, เอกจฺจสฺส พหู โหนฺติ มิตฺตามจฺจา ญาติสาโลหิตา. ตสฺส เต ญาตกา อนุปุพฺเพน ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ. โส อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ— ‘มมํ โข ปุพฺเพ พหู อเหสุํ มิตฺตามจฺจา ญาติสาโลหิตา. ตสฺส เม เต อนุปุพฺเพน ปริกฺขยํ คตา. น โข ปน มยา สุกรํ อนธิคตํ วา โภคํ อธิคนฺตุํ อธิคตํ วา โภคํ ผาติํ กาตุํ. ยนฺนูนาหํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺยนฺ’ติ. โส เตน ญาติปาริชุญฺเญน สมนฺนาคโต เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ. อิทํ วุจฺจติ, โภ รฏฺฐปาล, ญาติปาริชุญฺญํ. โภโต โข ปน รฏฺฐปาลสฺส อิมสฺมิํเยว ถุลฺลโกฏฺฐิเก พหู มิตฺตามจฺจา ญาติสาโลหิตา. ตํ โภโต รฏฺฐปาลสฺส ญาติปาริชุญฺญํ นตฺถิ. กิํ ภวํ รฏฺฐปาโล ญตฺวา วา ทิสฺวา วา สุตฺวา วา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต? (4)
อิมานิ โข, โภ รฏฺฐปาล, จตฺตาริ ปาริชุญฺญานิ, เยหิ ปาริชุญฺเญหิ สมนฺนาคตา อิเธกจฺเจ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ. ตานิ โภโต รฏฺฐปาลสฺส นตฺถิ. กิํ ภวํ รฏฺฐปาโล ญตฺวา วา ทิสฺวา วา สุตฺวา วา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต”ติ?
“อตฺถิ โข, มหาราช, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน จตฺตาโร ธมฺมุทฺเทสา อุทฺทิฏฺฐา, เย อหํ ญตฺวา จ ทิสฺวา จ สุตฺวา จ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต. กตเม จตฺตาโร? ‘อุปนิยฺยติ โลโก อทฺธุโว’ติ โข, มหาราช, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ปฐโม ธมฺมุทฺเทโส อุทฺทิฏฺโฐ, ยมหํ ญตฺวา จ ทิสฺวา จ สุตฺวา จ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต. ‘อตาโณ โลโก อนภิสฺสโร’ติ โข, มหาราช, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ทุติโย ธมฺมุทฺเทโส อุทฺทิฏฺโฐ, ยมหํ ญตฺวา จ ทิสฺวา จ สุตฺวา จ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต. ‘อสฺสโก โลโก, สพฺพํ ปหาย คมนียนฺ’ติ โข, มหาราช, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ตติโย ธมฺมุทฺเทโส อุทฺทิฏฺโฐ, ยมหํ ญตฺวา จ ทิสฺวา จ สุตฺวา จ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต. ‘อูโน โลโก อติตฺโต ตณฺหาทาโส’ติ โข, มหาราช, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน จตุตฺโถ ธมฺมุทฺเทโส อุทฺทิฏฺโฐ, ยมหํ ญตฺวา จ ทิสฺวา จ สุตฺวา จ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต. อิเม โข, มหาราช, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน จตฺตาโร ธมฺมุทฺเทสา อุทฺทิฏฺฐา, เย อหํ ญตฺวา จ ทิสฺวา จ สุตฺวา จ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต”ติ.
“‘อุปนิยฺยติ โลโก อทฺธุโว’ติ— ภวํ รฏฺฐปาโล อาห. อิมสฺส, โภ รฏฺฐปาล, ภาสิตสฺส กถํ อตฺโถ ทฏฺฐพฺโพ”ติ? “ตํ กิํ มญฺญสิ, มหาราช, ตฺวํ วีสติวสฺสุทฺเทสิโกปิ ปณฺณวีสติวสฺสุทฺเทสิโกปิ หตฺถิสฺมิมฺปิ กตาวี อสฺสสฺมิมฺปิ กตาวี รถสฺมิมฺปิ กตาวี ธนุสฺมิมฺปิ กตาวี ถรุสฺมิมฺปิ กตาวี อูรุพลี พาหุพลี อลมตฺโต สงฺคามาวจโร”ติ? “อโหสิํ อหํ, โภ รฏฺฐปาล, วีสติวสฺสุทฺเทสิโกปิ ปณฺณวีสติวสฺสุทฺเทสิโกปิ หตฺถิสฺมิมฺปิ กตาวี อสฺสสฺมิมฺปิ กตาวี รถสฺมิมฺปิ กตาวี ธนุสฺมิมฺปิ กตาวี ถรุสฺมิมฺปิ กตาวี อูรุพลี พาหุพลี อลมตฺโต สงฺคามาวจโร. อปฺเปกทาหํ, โภ รฏฺฐปาล, อิทฺธิมาว มญฺเญ น อตฺตโน พเลน สมสมํ สมนุปสฺสามี”ติ. “ตํ กิํ มญฺญสิ, มหาราช, เอวเมว ตฺวํ เอตรหิ อูรุพลี พาหุพลี อลมตฺโต สงฺคามาวจโร”ติ? “โน หิทํ, โภ รฏฺฐปาล. เอตรหิ ชิณฺโณ วุฑฺโฒ มหลฺลโก อทฺธคโต วโยอนุปฺปตฺโต อาสีติโก เม วโย วตฺตติ. อปฺเปกทาหํ, โภ รฏฺฐปาล, ‘อิธ ปาทํ กริสฺสามี’ติ อญฺเญเนว ปาทํ กโรมี”ติ. “อิทํ โข ตํ, มหาราช, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน สนฺธาย ภาสิตํ— ‘อุปนิยฺยติ โลโก อทฺธุโว’ติ, ยมหํ ญตฺวา จ ทิสฺวา จ สุตฺวา จ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต”ติ. “อจฺฉริยํ, โภ รฏฺฐปาล, อพฺภุตํ, โภ รฏฺฐปาล. ยาว สุภาสิตญฺจิทํ เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน— ‘อุปนิยฺยติ โลโก อทฺธุโว’ติ. อุปนิยฺยติ หิ, โภ รฏฺฐปาล, โลโก อทฺธุโว. (1)
สํวิชฺชนฺเต โข, โภ รฏฺฐปาล, อิมสฺมิํ ราชกุเล หตฺถิกายาปิ อสฺสกายาปิ รถกายาปิ ปตฺติกายาปิ, อมฺหากํ อาปทาสุ ปริโยธาย วตฺติสฺสนฺติ. ‘อตาโณ โลโก อนภิสฺสโร’ติ— ภวํ รฏฺฐปาโล อาห. อิมสฺส ปน, โภ รฏฺฐปาล, ภาสิตสฺส กถํ อตฺโถ ทฏฺฐพฺโพ”ติ? “ตํ กิํ มญฺญสิ, มหาราช, อตฺถิ เต โกจิ อนุสายิโก อาพาโธ”ติ? “อตฺถิ เม, โภ รฏฺฐปาล, อนุสายิโก อาพาโธ. อปฺเปกทา มํ, โภ รฏฺฐปาล, มิตฺตามจฺจา ญาติสาโลหิตา ปริวาเรตฺวา ฐิตา โหนฺติ— ‘อิทานิ ราชา โกรโพฺย กาลํ กริสฺสติ, อิทานิ ราชา โกรโพฺย กาลํ กริสฺสตี’”ติ. “ตํ กิํ มญฺญสิ, มหาราช, ลภสิ ตฺวํ เต มิตฺตามจฺเจ ญาติสาโลหิเต— ‘อายนฺตุ เม โภนฺโต มิตฺตามจฺจา ญาติสาโลหิตา, สพฺเพว สนฺตา อิมํ เวทนํ สํวิภชถ, ยถาหํ ลหุกตริกํ เวทนํ เวทิเยยฺยนฺ’ติ— อุทาหุ ตฺวํเยว ตํ เวทนํ เวทิยสี”ติ? “นาหํ, โภ รฏฺฐปาล, ลภามิ เต มิตฺตามจฺเจ ญาติสาโลหิเต— ‘อายนฺตุ เม โภนฺโต มิตฺตามจฺจา ญาติสาโลหิตา, สพฺเพว สนฺตา อิมํ เวทนํ สํวิภชถ, ยถาหํ ลหุกตริกํ เวทนํ เวทิเยยฺยนฺ’ติ. อถ โข อหเมว ตํ เวทนํ เวทิยามี”ติ. “อิทํ โข ตํ, มหาราช, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน สนฺธาย ภาสิตํ— ‘อตาโณ โลโก อนภิสฺสโร’ติ, ยมหํ ญตฺวา จ ทิสฺวา จ สุตฺวา จ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต”ติ. “อจฺฉริยํ, โภ รฏฺฐปาล, อพฺภุตํ, โภ รฏฺฐปาล. ยาว สุภาสิตํ จิทํ เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน— ‘อตาโณ โลโก อนภิสฺสโร’ติ. อตาโณ หิ, โภ รฏฺฐปาล, โลโก อนภิสฺสโร. (2)
สํวิชฺชติ โข, โภ รฏฺฐปาล, อิมสฺมิํ ราชกุเล ปหูตํ หิรญฺญสุวณฺณํ ภูมิคตญฺจ เวหาสคตญฺจ. ‘อสฺสโก โลโก, สพฺพํ ปหาย คมนียนฺ’ติ— ภวํ รฏฺฐปาโล อาห. อิมสฺส ปน, โภ รฏฺฐปาล, ภาสิตสฺส กถํ อตฺโถ ทฏฺฐพฺโพ”ติ? “ตํ กิํ มญฺญสิ, มหาราช, ยถา ตฺวํ เอตรหิ ปญฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคีภูโต ปริจาเรสิ, ลจฺฉสิ ตฺวํ ปรตฺถาปิ— ‘เอวเมวาหํ อิเมเหว ปญฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคีภูโต ปริจาเรมี’ติ, อุทาหุ อญฺเญ อิมํ โภคํ ปฏิปชฺชิสฺสนฺติ, ตฺวํ ปน ยถากมฺมํ คมิสฺสสี”ติ? “ยถาหํ, โภ รฏฺฐปาล, เอตรหิ ปญฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคีภูโต ปริจาเรมิ, นาหํ ลจฺฉามิ ปรตฺถาปิ— ‘เอวเมว อิเมเหว ปญฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคีภูโต ปริจาเรมี’ติ. อถ โข อญฺเญ อิมํ โภคํ ปฏิปชฺชิสฺสนฺติ; อหํ ปน ยถากมฺมํ คมิสฺสามี”ติ. “อิทํ โข ตํ, มหาราช, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน สนฺธาย ภาสิตํ— ‘อสฺสโก โลโก, สพฺพํ ปหาย คมนียนฺ’ติ, ยมหํ ญตฺวา จ ทิสฺวา จ สุตฺวา จ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต”ติ. “อจฺฉริยํ, โภ รฏฺฐปาล, อพฺภุตํ, โภ รฏฺฐปาล. ยาว สุภาสิตํ จิทํ เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน— ‘อสฺสโก โลโก, สพฺพํ ปหาย คมนียนฺ’ติ. อสฺสโก หิ, โภ รฏฺฐปาล, โลโก สพฺพํ ปหาย คมนียํ. (3)
‘อูโน โลโก อติตฺโต ตณฺหาทาโส’ติ— ภวํ รฏฺฐปาโล อาห. อิมสฺส, โภ รฏฺฐปาล, ภาสิตสฺส กถํ อตฺโถ ทฏฺฐพฺโพ”ติ? “ตํ กิํ มญฺญสิ, มหาราช, ผีตํ กุรุํ อชฺฌาวสสี”ติ? “เอวํ, โภ รฏฺฐปาล, ผีตํ กุรุํ อชฺฌาวสามี”ติ. “ตํ กิํ มญฺญสิ, มหาราช, อิธ ปุริโส อาคจฺเฉยฺย ปุรตฺถิมาย ทิสาย สทฺธายิโก ปจฺจยิโก. โส ตํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วเทยฺย— ‘ยคฺเฆ, มหาราช, ชาเนยฺยาสิ, อหํ อาคจฺฉามิ ปุรตฺถิมาย ทิสาย? ตตฺถทฺทสํ มหนฺตํ ชนปทํ อิทฺธญฺเจว ผีตญฺจ พหุชนํ อากิณฺณมนุสฺสํ. พหู ตตฺถ หตฺถิกายา อสฺสกายา รถกายา ปตฺติกายา; พหุ ตตฺถ ธนธญฺญํ; พหุ ตตฺถ หิรญฺญสุวณฺณํ อกตญฺเจว กตญฺจ; พหุ ตตฺถ อิตฺถิปริคฺคโห. สกฺกา จ ตาวตเกเนว พลมตฺเตน อภิวิชินิตุํ. อภิวิชิน, มหาราชา’ติ, กินฺติ นํ กเรยฺยาสี”ติ? “ตมฺปิ มยํ, โภ รฏฺฐปาล, อภิวิชิย อชฺฌาวเสยฺยามา”ติ.
“ตํ กิํ มญฺญสิ, มหาราช, อิธ ปุริโส อาคจฺเฉยฺย ปจฺฉิมาย ทิสาย… อุตฺตราย ทิสาย… ทกฺขิณาย ทิสาย… ปรสมุทฺทโต สทฺธายิโก ปจฺจยิโก. โส ตํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วเทยฺย— ‘ยคฺเฆ, มหาราช, ชาเนยฺยาสิ, อหํ อาคจฺฉามิ ปรสมุทฺทโต? ตตฺถทฺทสํ มหนฺตํ ชนปทํ อิทฺธญฺเจว ผีตญฺจ พหุชนํ อากิณฺณมนุสฺสํ. พหู ตตฺถ หตฺถิกายา อสฺสกายา รถกายา ปตฺติกายา; พหุ ตตฺถ ธนธญฺญํ; พหุ ตตฺถ หิรญฺญสุวณฺณํ อกตญฺเจว กตญฺจ; พหุ ตตฺถ อิตฺถิปริคฺคโห. สกฺกา จ ตาวตเกเนว พลมตฺเตน อภิวิชินิตุํ. อภิวิชิน, มหาราชา’ติ, กินฺติ นํ กเรยฺยาสี”ติ? “ตมฺปิ มยํ, โภ รฏฺฐปาล, อภิวิชิย อชฺฌาวเสยฺยามา”ติ. “อิทํ โข ตํ, มหาราช, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน สนฺธาย ภาสิตํ— ‘อูโน โลโก อติตฺโต ตณฺหาทาโส’ติ, ยมหํ ญตฺวา จ ทิสฺวา จ สุตฺวา จ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต”ติ. “อจฺฉริยํ, โภ รฏฺฐปาล, อพฺภุตํ, โภ รฏฺฐปาล. ยาว สุภาสิตญฺจิทํ เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน— ‘อูโน โลโก อติตฺโต ตณฺหาทาโส’ติ. อูโน หิ, โภ รฏฺฐปาล, โลโก อติตฺโต ตณฺหาทาโส”ติ.
อิทมโวจ อายสฺมา รฏฺฐปาโล. อิทํ วตฺวา อถาปรํ เอตทโวจ—
“ปสฺสามิ โลเก สธเน มนุเสฺส,
ลทฺธาน วิตฺตํ น ททนฺติ โมหา;
ลุทฺธา ธนํ สนฺนิจยํ กโรนฺติ,
ภิโยฺยว กาเม อภิปตฺถยนฺติ.
ราชา ปสยฺหา ปถวิํ วิชิตฺวา,
สสาครนฺตํ มหิมาวสนฺโต;
โอรํ สมุทฺทสฺส อติตฺตรูโป,
ปารํ สมุทฺทสฺสปิ ปตฺถเยถ.
ราชา จ อญฺเญ จ พหู มนุสฺสา,
อวีตตณฺหา มรณํ อุเปนฺติ;
อูนาว หุตฺวาน ชหนฺติ เทหํ,
กาเมหิ โลกมฺหิ น หตฺถิ ติตฺติ.
กนฺทนฺติ นํ ญาตี ปกิริย เกเส,
อโหวตา โน อมราติ จาหุ;
วตฺเถน นํ ปารุตํ นีหริตฺวา,
จิตํ สมาทาย ตโตฑหนฺติ.
โส ฑยฺหติ สูเลหิ ตุชฺชมาโน,
เอเกน วตฺเถน ปหาย โภเค;
น มียมานสฺส ภวนฺติ ตาณา,
ญาตีธ มิตฺตา อถ วา สหายา.
ทายาทกา ตสฺส ธนํ หรนฺติ,
สตฺโต ปน คจฺฉติ เยน กมฺมํ;
น มียมานํ ธนมเนฺวติ กิญฺจิ,
ปุตฺตา จ ทารา จ ธนญฺจ รฏฺฐํ.
น ทีฆมายุํ ลภเต ธเนน,
น จาปิ วิตฺเตน ชรํ วิหนฺติ;
อปฺปํ หิทํ ชีวิตมาหุ ธีรา,
อสสฺสตํ วิปฺปริณามธมฺมํ.
อฑฺฒา ทลิทฺทา จ ผุสนฺติ ผสฺสํ,
พาโล จ ธีโร จ ตเถว ผุฏฺโฐ;
พาโล จ พาลฺยา วธิโตว เสติ,
ธีโร จ น เวธติ ผสฺสผุฏฺโฐ.
ตสฺมา หิ ปญฺญาว ธเนน เสโยฺย,
ยาย โวสานมิธาธิคจฺฉติ;
อโพฺยสิตตฺตา หิ ภวาภเวสุ,
ปาปานิ กมฺมานิ กโรนฺติ โมหา.
อุเปติ คพฺภญฺจ ปรญฺจ โลกํ,_
สํสารมาปชฺช ปรมฺปราย;
ตสฺสปฺปปญฺโญ อภิสทฺทหนฺโต,
อุเปติ คพฺภญฺจ ปรญฺจ โลกํ._
โจโร ยถา สนฺธิมุเข คหิโต,
สกมฺมุนา หญฺญติ ปาปธมฺโม;
เอวํ ปชา เปจฺจ ปรมฺหิ โลเก,
สกมฺมุนา หญฺญติ ปาปธมฺโม.
กามาหิ จิตฺรา มธุรา มโนรมา,
วิรูปรูเปน มเถนฺติ จิตฺตํ;
อาทีนวํ กามคุเณสุ ทิสฺวา,
ตสฺมา อหํ ปพฺพชิโตมฺหิ ราช.
ทุมปฺผลาเนว ปตนฺติ มาณวา,
ทหรา จ วุฑฺฒา จ สรีรเภทา;
เอตมฺปิ ทิสฺวา ปพฺพชิโตมฺหิ ราช,
อปณฺณกํ สามญฺญเมว เสโยฺย”ติ.
รฏฺฐปาลสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ ทุติยํ.