Skip to content

5.2 เสลสุตฺต

396.
1191

เอวํ เม สุตํ—  เอกํ สมยํ ภควา องฺคุตฺตราเปสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสํเฆน สทฺธิํ อฑฺฒเตฬเสหิ ภิกฺขุสเตหิ เยน อาปณํ นาม องฺคุตฺตราปานํ นิคโม ตทวสริ. อสฺโสสิ โข เกณิโย ชฏิโล—  “สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต องฺคุตฺตราเปสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสํเฆน สทฺธิํ อฑฺฒเตฬเสหิ ภิกฺขุสเตหิ อาปณํ อนุปฺปตฺโต. ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต—  ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ. โส อิมํ โลกํ สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณิํ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติ. โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยญฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ. สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี”ติ.

1192

อถ โข เกณิโย ชฏิโล เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข เกณิยํ ชฏิลํ ภควา ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิ. อถ โข เกณิโย ชฏิโล ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิโต สมาทปิโต สมุตฺเตชิโต สมฺปหํสิโต ภควนฺตํ เอตทโวจ—  “อธิวาเสตุ เม ภวํ โคตโม สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธิํ ภิกฺขุสํเฆนา”ติ. เอวํ วุตฺเต, ภควา เกณิยํ ชฏิลํ เอตทโวจ—  “มหา โข, เกณิย, ภิกฺขุสํโฆ อฑฺฒเตฬสานิ ภิกฺขุสตานิ, ตฺวญฺจ พฺราหฺมเณสุ อภิปฺปสนฺโน”ติ.

1193

ทุติยมฺปิ โข เกณิโย ชฏิโล ภควนฺตํ เอตทโวจ—  “กิญฺจาปิ โข, โภ โคตม, มหา ภิกฺขุสํโฆ อฑฺฒเตฬสานิ ภิกฺขุสตานิ, อหญฺจ พฺราหฺมเณสุ อภิปฺปสนฺโน; อธิวาเสตุ เม ภวํ โคตโม สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธิํ ภิกฺขุสํเฆนา”ติ. ทุติยมฺปิ โข ภควา เกณิยํ ชฏิลํ เอตทโวจ—  “มหา โข, เกณิย, ภิกฺขุสํโฆ อฑฺฒเตฬสานิ ภิกฺขุสตานิ, ตฺวญฺจ พฺราหฺมเณสุ อภิปฺปสนฺโน”ติ.

1194

ตติยมฺปิ โข เกณิโย ชฏิโล ภควนฺตํ เอตทโวจ—  “กิญฺจาปิ โข, โภ โคตม, มหา ภิกฺขุสํโฆ อฑฺฒเตฬสานิ ภิกฺขุสตานิ, อหญฺจ พฺราหฺมเณสุ อภิปฺปสนฺโน; อธิวาเสตุ เม ภวํ โคตโม สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธิํ ภิกฺขุสํเฆนา”ติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน.

1195

อถ โข เกณิโย ชฏิโล ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฏฺฐายาสนา เยน สโก อสฺสโม เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มิตฺตามจฺเจ ญาติสาโลหิเต อามนฺเตสิ—  “สุณนฺตุ เม โภนฺโต, มิตฺตามจฺจา ญาติสาโลหิตา; สมโณ เม โคตโม นิมนฺติโต สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธิํ ภิกฺขุสํเฆน. เยน เม กายเวยฺยาวฏิกํ กเรยฺยาถา”ติ. “เอวํ, โภ”ติ โข เกณิยสฺส ชฏิลสฺส มิตฺตามจฺจา ญาติสาโลหิตา เกณิยสฺส ชฏิลสฺส ปฏิสฺสุตฺวา อปฺเปกจฺเจ อุทฺธนานิ ขณนฺติ, อปฺเปกจฺเจ กฏฺฐานิ ผาเลนฺติ, อปฺเปกจฺเจ ภาชนานิ โธวนฺติ, อปฺเปกจฺเจ อุทกมณิกํ ปติฏฺฐาเปนฺติ, อปฺเปกจฺเจ อาสนานิ ปญฺญเปนฺติ. เกณิโย ปน ชฏิโล สามํเยว มณฺฑลมาลํ ปฏิยาเทติ.

397.
1196

เตน โข ปน สมเยน เสโล พฺราหฺมโณ อาปเณ ปฏิวสติ ติณฺณํ เวทานํ ปารคู สนิฆณฺฑุเกฏุภานํ สากฺขรปฺปเภทานํ อิติหาสปญฺจมานํ, ปทโก, เวยฺยากรโณ, โลกายตมหาปุริสลกฺขเณสุ อนวโย, ตีณิ จ มาณวกสตานิ มนฺเต วาเจติ.

1197

เตน โข ปน สมเยน เกณิโย ชฏิโล เสเล พฺราหฺมเณ อภิปฺปสนฺโน โหติ. อถ โข เสโล พฺราหฺมโณ ตีหิ มาณวกสเตหิ ปริวุโต ชงฺฆาวิหารํ อนุจงฺกมมาโน อนุวิจรมาโน เยน เกณิยสฺส ชฏิลสฺส อสฺสโม เตนุปสงฺกมิ. อทฺทสา โข เสโล พฺราหฺมโณ เกณิยสฺส ชฏิลสฺส อสฺสเม อปฺเปกจฺเจ อุทฺธนานิ ขณนฺเต, อปฺเปกจฺเจ กฏฺฐานิ ผาเลนฺเต, อปฺเปกจฺเจ ภาชนานิ โธวนฺเต, อปฺเปกจฺเจ อุทกมณิกํ ปติฏฺฐาเปนฺเต, อปฺเปกจฺเจ อาสนานิ ปญฺญเปนฺเต, เกณิยํ ปน ชฏิลํ สามํเยว มณฺฑลมาลํ ปฏิยาเทนฺตํ. ทิสฺวาน เกณิยํ ชฏิลํ เอตทโวจ—  “กิํ นุ โภโต เกณิยสฺส อาวาโห วา ภวิสฺสติ วิวาโห วา ภวิสฺสติ มหายญฺโญ วา ปจฺจุปฏฺฐิโต, ราชา วา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร นิมนฺติโต สฺวาตนาย สทฺธิํ พลกาเยนา”ติ?

1198

“น เม, โภ เสล, อาวาโห ภวิสฺสติ นปิ วิวาโห ภวิสฺสติ นปิ ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร นิมนฺติโต สฺวาตนาย สทฺธิํ พลกาเยน; อปิ จ โข เม มหายญฺโญ ปจฺจุปฏฺฐิโต. อตฺถิ, โภ, สมโณ โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต องฺคุตฺตราเปสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสํเฆน สทฺธิํ อฑฺฒเตฬเสหิ ภิกฺขุสเตหิ อาปณํ อนุปฺปตฺโต. ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต—  ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ. โส เม นิมนฺติโต สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธิํ ภิกฺขุสํเฆนา”ติ.

1199

“พุทฺโธติ—  โภ เกณิย, วเทสิ”?

1200

“พุทฺโธติ—  โภ เสล, วทามิ”.

1201

“พุทฺโธติ—  โภ เกณิย, วเทสิ”?

1202

“พุทฺโธติ—  โภ เสล, วทามี”ติ.

398.
1203

อถ โข เสลสฺส พฺราหฺมณสฺส เอตทโหสิ—  “โฆโสปิ โข เอโส ทุลฺลโภ โลกสฺมิํ—  ยทิทํ ‘พุทฺโธ’ติ. อาคตานิ โข ปนมฺหากํ มนฺเตสุ ทฺวตฺติํสมหาปุริสลกฺขณานิ, เยหิ สมนฺนาคตสฺส มหาปุริสสฺส ทฺเวเยว คติโย ภวนฺติ อนญฺญา. สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี ธมฺมิโก ธมฺมราชา จาตุรนฺโต วิชิตาวี ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺโต สตฺตรตนสมนฺนาคโต. ตสฺสิมานิ สตฺต รตนานิ ภวนฺติ, เสยฺยถิทํ—  จกฺกรตนํ, หตฺถิรตนํ, อสฺสรตนํ, มณิรตนํ, อิตฺถิรตนํ, คหปติรตนํ, ปริณายกรตนเมว สตฺตมํ. ปโรสหสฺสํ โข ปนสฺส ปุตฺตา ภวนฺติ สูรา วีรงฺครูปา ปรเสนปฺปมทฺทนา. โส อิมํ ปถวิํ สาครปริยนฺตํ อทณฺเฑน อสตฺเถน ธมฺเมน อภิวิชิย อชฺฌาวสติ. สเจ ปน อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ, อรหํ โหติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก วิวฏฺฏจฺฉโท”.

1204

“กหํ ปน, โภ เกณิย, เอตรหิ โส ภวํ โคตโม วิหรติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ”ติ? เอวํ วุตฺเต, เกณิโย ชฏิโล ทกฺขิณํ พาหุํ ปคฺคเหตฺวา เสลํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจ—  “เยเนสา, โภ เสล, นีลวนราชี”ติ. อถ โข เสโล พฺราหฺมโณ ตีหิ มาณวกสเตหิ สทฺธิํ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ. อถ โข เสโล พฺราหฺมโณ เต มาณวเก อามนฺเตสิ—  “อปฺปสทฺทา โภนฺโต อาคจฺฉนฺตุ ปเท ปทํ นิกฺขิปนฺตา; ทุราสทา หิ เต ภควนฺโต สีหาว เอกจรา. ยทา จาหํ, โภ, สมเณน โคตเมน สทฺธิํ มนฺเตยฺยํ, มา เม โภนฺโต อนฺตรนฺตรา กถํ โอปาเตถ. กถาปริโยสานํ เม ภวนฺโต อาคเมนฺตู”ติ. อถ โข เสโล พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข เสโล พฺราหฺมโณ ภควโต กาเย ทฺวตฺติํสมหาปุริสลกฺขณานิ สมนฺเนสิ.

1205

อทฺทสา โข เสโล พฺราหฺมโณ ภควโต กาเย ทฺวตฺติํสมหาปุริสลกฺขณานิ, เยภุเยฺยน ฐเปตฺวา ทฺเว. ทฺวีสุ มหาปุริสลกฺขเณสุ กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ นาธิมุจฺจติ น สมฺปสีทติ—  โกโสหิเต จ วตฺถคุเยฺห ปหูตชิวฺหตาย จ. อถ โข ภควโต เอตทโหสิ—  “ปสฺสติ โข เม อยํ เสโล พฺราหฺมโณ ทฺวตฺติํสมหาปุริสลกฺขณานิ, เยภุเยฺยน ฐเปตฺวา ทฺเว. ทฺวีสุ มหาปุริสลกฺขเณสุ กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ นาธิมุจฺจติ น สมฺปสีทติ—  โกโสหิเต จ วตฺถคุเยฺห ปหูตชิวฺหตาย จา”ติ. อถ โข ภควา ตถารูปํ อิทฺธาภิสงฺขารํ อภิสงฺขาสิ, ยถา อทฺทส เสโล พฺราหฺมโณ ภควโต โกโสหิตํ วตฺถคุยฺหํ. อถ โข ภควา ชิวฺหํ นินฺนาเมตฺวา อุโภปิ กณฺณโสตานิ อนุมสิ ปฏิมสิ; อุโภปิ นาสิกโสตานิ อนุมสิ ปฏิมสิ; เกวลมฺปิ นลาฏมณฺฑลํ ชิวฺหาย ฉาเทสิ. อถ โข เสลสฺส พฺราหฺมณสฺส เอตทโหสิ—  “สมนฺนาคโต โข สมโณ โคตโม ทฺวตฺติํสมหาปุริสลกฺขเณหิ ปริปุณฺเณหิ, โน อปริปุณฺเณหิ; โน จ โข นํ ชานามิ พุทฺโธ วา โน วา. สุตํ โข ปน เมตํ พฺราหฺมณานํ วุทฺธานํ มหลฺลกานํ อาจริยปาจริยานํ ภาสมานานํ—  ‘เย เต ภวนฺติ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา เต สเก วณฺเณ ภญฺญมาเน อตฺตานํ ปาตุกโรนฺตี’ติ. ยนฺนูนาหํ สมณํ โคตมํ สมฺมุขา สารุปฺปาหิ คาถาหิ อภิตฺถเวยฺยนฺ”ติ.

399.
1206

อถ โข เสโล พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ สมฺมุขา สารุปฺปาหิ คาถาหิ อภิตฺถวิ—

1207

“ปริปุณฺณกาโย สุรุจิ,
สุชาโต จารุทสฺสโน;
สุวณฺณวณฺโณสิ ภควา,
สุสุกฺกทาโฐสิ วีริยวา.

1208

นรสฺส หิ สุชาตสฺส,
เย ภวนฺติ วิยญฺชนา;
สพฺเพ เต ตว กายสฺมิํ,
มหาปุริสลกฺขณา.

1209

ปสนฺนเนตฺโต สุมุโข,
พฺรหา อุชุ ปตาปวา;
มชฺเฌ สมณสํฆสฺส,
อาทิจฺโจว วิโรจสิ.

1210

กลฺยาณทสฺสโน ภิกฺขุ,
กญฺจนสนฺนิภตฺตโจ;
กิํ เต สมณภาเวน,
เอวํ อุตฺตมวณฺณิโน.

1211

ราชา อรหสิ ภวิตุํ,
จกฺกวตฺตี รเถสโภ;
จาตุรนฺโต วิชิตาวี,
ชมฺพุสณฺฑสฺส อิสฺสโร.

1212

ขตฺติยา โภคิราชาโน,
อนุยนฺตา ภวนฺตุ เต;
ราชาภิราชา มนุชินฺโท,
รชฺชํ กาเรหิ โคตม”.

1213

“ราชาหมสฺมิ เสลาติ,
ธมฺมราชา อนุตฺตโร;
ธมฺเมน จกฺกํ วตฺเตมิ,
จกฺกํ อปฺปฏิวตฺติยํ”.

1214

“สมฺพุทฺโธ ปฏิชานาสิ,
ธมฺมราชา อนุตฺตโร;
‘ธมฺเมน จกฺกํ วตฺเตมิ’,
อิติ ภาสสิ โคตม._

1215

โก นุ เสนาปติ โภโต,
สาวโก สตฺถุรนฺวโย;
โก เตตมนุวตฺเตติ,
ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติตํ”.

1216

“มยา ปวตฺติตํ จกฺกํ, (เสลาติ ภควา)
ธมฺมจกฺกํ อนุตฺตรํ;
สาริปุตฺโต อนุวตฺเตติ,
อนุชาโต ตถาคตํ.

1217

อภิญฺเญยฺยํ อภิญฺญาตํ,
ภาเวตพฺพญฺจ ภาวิตํ;
ปหาตพฺพํ ปหีนํ เม,
ตสฺมา พุทฺโธสฺมิ พฺราหฺมณ.

1218

วินยสฺสุ มยิ กงฺขํ,
อธิมุจฺจสฺสุ พฺราหฺมณ;
ทุลฺลภํ ทสฺสนํ โหติ,
สมฺพุทฺธานํ อภิณฺหโส.

1219

เยสํ เว ทุลฺลโภ โลเก,
ปาตุภาโว อภิณฺหโส;
โสหํ พฺราหฺมณ สมฺพุทฺโธ,
สลฺลกตฺโต อนุตฺตโร.

1220

พฺรหฺมภูโต อติตุโล,
มารเสนปฺปมทฺทโน;
สพฺพามิตฺเต วสี กตฺวา,
โมทามิ อกุโตภโย”.

1221

“อิมํ โภนฺโต นิสาเมถ,
ยถา ภาสติ จกฺขุมา;
สลฺลกตฺโต มหาวีโร,
สีโหว นทตี วเน.

1222

พฺรหฺมภูตํ อติตุลํ,
มารเสนปฺปมทฺทนํ;
โก ทิสฺวา นปฺปสีเทยฺย,
อปิ กณฺหาภิชาติโก.

1223

โย มํ อิจฺฉติ อเนฺวตุ,
โย วา นิจฺฉติ คจฺฉตุ;
อิธาหํ ปพฺพชิสฺสามิ,_
วรปญฺญสฺส สนฺติเก”.

1224

“เอตญฺเจ รุจฺจติ โภโต,
สมฺมาสมฺพุทฺธสาสนํ;
มยมฺปิ ปพฺพชิสฺสาม,
วรปญฺญสฺส สนฺติเก”.

1225

พฺราหฺมณา ติสตา อิเม,
ยาจนฺติ ปญฺชลีกตา;
“พฺรหฺมจริยํ จริสฺสาม,
ภควา ตว สนฺติเก”.

1226

“สฺวากฺขาตํ พฺรหฺมจริยํ, (เสลาติ ภควา)
สนฺทิฏฺฐิกมกาลิกํ;
ยตฺถ อโมฆา ปพฺพชฺชา,
อปฺปมตฺตสฺส สิกฺขโต”ติ.

1227

อลตฺถ โข เสโล พฺราหฺมโณ สปริโส ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, อลตฺถ อุปสมฺปทํ.

400.
1228

อถ โข เกณิโย ชฏิโล ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน สเก อสฺสเม ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาทาเปตฺวา ภควโต กาลํ อาโรจาเปสิ—  “กาโล, โภ โคตม, นิฏฺฐิตํ ภตฺตนฺ”ติ. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน เกณิยสฺส ชฏิลสฺส อสฺสโม เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญตฺเต อาสเน นิสีทิ สทฺธิํ ภิกฺขุสํเฆน. อถ โข เกณิโย ชฏิโล พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสํฆํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปสิ, สมฺปวาเรสิ. อถ โข เกณิโย ชฏิโล ภควนฺตํ ภุตฺตาวิํ โอนีตปตฺตปาณิํ อญฺญตรํ นีจํ อาสนํ คเหตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข เกณิยํ ชฏิลํ ภควา อิมาหิ คาถาหิ อนุโมทิ—

1229

“อคฺคิหุตฺตมุขา ยญฺญา,
สาวิตฺตี ฉนฺทโส มุขํ;
ราชา มุขํ มนุสฺสานํ,
นทีนํ สาคโร มุขํ.

1230

นกฺขตฺตานํ มุขํ จนฺโท,
อาทิจฺโจ ตปตํ มุขํ;
ปุญฺญํ อากงฺขมานานํ,
สํโฆ เว ยชตํ มุขนฺ”ติ.

1231

อถ โข ภควา เกณิยํ ชฏิลํ อิมาหิ คาถาหิ อนุโมทิตฺวา อุฏฺฐายาสนา ปกฺกามิ.

1232

อถ โข อายสฺมา เสโล สปริโส เอโก วูปกฏฺโฐ อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต นจิรเสฺสว—  ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ, ตทนุตฺตรํ—  พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเฐว ธมฺเม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหาสิ. “ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา”ติ อพฺภญฺญาสิ. อญฺญตโร โข ปนายสฺมา เสโล สปริโส อรหตํ อโหสิ. อถ โข อายสฺมา เสโล สปริโส เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ จีวรํ กตฺวา เยน ภควา เตนญฺชลิํ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ คาถาหิ อชฺฌภาสิ—

1233

“ยํ ตํ สรณมาคมฺม,
อิโต อฏฺฐมิ จกฺขุมา;_
สตฺตรตฺเตน ภควา,
ทนฺตมฺห ตว สาสเน.

1234

ตุวํ พุทฺโธ ตุวํ สตฺถา,
ตุวํ มาราภิภู มุนิ;
ตุวํ อนุสเย เฉตฺวา,
ติณฺโณ ตาเรสิมํ ปชํ.

1235

อุปธี เต สมติกฺกนฺตา,_
อาสวา เต ปทาลิตา;
สีโหว อนุปาทาโน,
ปหีนภยเภรโว.

1236

ภิกฺขโว ติสตา อิเม,
ติฏฺฐนฺติ ปญฺชลีกตา;
ปาเท วีร ปสาเรหิ,
นาคา วนฺทนฺตุ สตฺถุโน”ติ.

1237

เสลสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ ทุติยํ.