3.7 จูฬหตฺถิปโทปมสุตฺต
เอวํ เม สุตํ— เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน ชาณุโสฺสณิ พฺราหฺมโณ สพฺพเสเตน วฬวาภิรเถน สาวตฺถิยา นิยฺยาติ ทิวาทิวสฺส. อทฺทสา โข ชาณุโสฺสณิ พฺราหฺมโณ ปิโลติกํ ปริพฺพาชกํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ. ทิสฺวาน ปิโลติกํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจ—
“หนฺท กุโต นุ ภวํ วจฺฉายโน อาคจฺฉติ ทิวาทิวสฺสา”ติ?
“อิโต หิ โข อหํ, โภ, อาคจฺฉามิ สมณสฺส โคตมสฺส สนฺติกา”ติ.
“ตํ กิํ มญฺญติ ภวํ วจฺฉายโน สมณสฺส โคตมสฺส ปญฺญาเวยฺยตฺติยํ ปณฺฑิโต มญฺเญ”ติ.
“โก จาหํ, โภ, โก จ สมณสฺส โคตมสฺส ปญฺญาเวยฺยตฺติยํ ชานิสฺสามิ. โสปิ นูนสฺส ตาทิโสว โย สมณสฺส โคตมสฺส ปญฺญาเวยฺยตฺติยํ ชาเนยฺยา”ติ.
“อุฬาราย ขลุ ภวํ วจฺฉายโน สมณํ โคตมํ ปสํสาย ปสํสตี”ติ.
“โก จาหํ, โภ, โก จ สมณํ โคตมํ ปสํสิสฺสามิ, ปสตฺถปสตฺโถว โส ภวํ โคตโม เสฏฺโฐ เทวมนุสฺสานนฺ”ติ.
“กํ ปน ภวํ วจฺฉายโน อตฺถวสํ สมฺปสฺสมาโน สมเณ โคตเม เอวํ อภิปฺปสนฺโน”ติ?
“เสยฺยถาปิ, โภ, กุสโล นาควนิโก นาควนํ ปวิเสยฺย. โส ปเสฺสยฺย นาควเน มหนฺตํ หตฺถิปทํ, ทีฆโต จ อายตํ, ติริยญฺจ วิตฺถตํ. โส นิฏฺฐํ คจฺเฉยฺย— ‘มหา วต โภ นาโค’ติ. เอวเมว โข อหํ, โภ, ยโต อทฺทสํ สมเณ โคตเม จตฺตาริ ปทานิ อถาหํ นิฏฺฐมคมํ— ‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภควา, สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม, สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสํโฆ’ติ.
กตมานิ จตฺตาริ? อิธาหํ, โภ, ปสฺสามิ เอกจฺเจ ขตฺติยปณฺฑิเต นิปุเณ กตปรปฺปวาเท วาลเวธิรูเป, เต ภินฺทนฺตา มญฺเญ จรนฺติ ปญฺญาคเตน ทิฏฺฐิคตานิ. เต สุณนฺติ— ‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม อมุกํ นาม คามํ วา นิคมํ วา โอสริสฺสตี’ติ. เต ปญฺหํ อภิสงฺขโรนฺติ— ‘อิมํ มยํ ปญฺหํ สมณํ โคตมํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉิสฺสาม. เอวญฺเจ โน ปุฏฺโฐ เอวํ พฺยากริสฺสติ, เอวมสฺส มยํ วาทํ อาโรเปสฺสาม. เอวญฺเจปิ โน ปุฏฺโฐ เอวํ พฺยากริสฺสติ, เอวมฺปิสฺส มยํ วาทํ อาโรเปสฺสามา’ติ. เต สุณนฺติ— ‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม อมุกํ นาม คามํ วา นิคมํ วา โอสโฏ’ติ. เต เยน สมโณ โคตโม เตนุปสงฺกมนฺติ. เต สมโณ โคตโม ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสติ สมาทเปติ สมุตฺเตเชติ สมฺปหํเสติ. เต สมเณน โคตเมน ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิตา สมาทปิตา สมุตฺเตชิตา สมฺปหํสิตา น เจว สมณํ โคตมํ ปญฺหํ ปุจฺฉนฺติ, กุโตสฺส วาทํ อาโรเปสฺสนฺติ? อญฺญทตฺถุ สมณเสฺสว โคตมสฺส สาวกา สมฺปชฺชนฺติ. ยทาหํ, โภ, สมเณ โคตเม อิมํ ปฐมํ ปทํ อทฺทสํ อถาหํ นิฏฺฐมคมํ— ‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภควา, สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม, สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสํโฆ’ติ. (1)
ปุน จปราหํ, โภ, ปสฺสามิ อิเธกจฺเจ พฺราหฺมณปณฺฑิเต …เป… (2) คหปติปณฺฑิเต …เป… (3) สมณปณฺฑิเต นิปุเณ กตปรปฺปวาเท วาลเวธิรูเป เต ภินฺทนฺตา มญฺเญ จรนฺติ ปญฺญาคเตน ทิฏฺฐิคตานิ. เต สุณนฺติ— ‘สมโณ ขลุ โภ โคตโม อมุกํ นาม คามํ วา นิคมํ วา โอสริสฺสตี’ติ. เต ปญฺหํ อภิสงฺขโรนฺติ ‘อิมํ มยํ ปญฺหํ สมณํ โคตมํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉิสฺสาม. เอวญฺเจ โน ปุฏฺโฐ เอวํ พฺยากริสฺสติ, เอวมสฺส มยํ วาทํ อาโรเปสฺสาม. เอวญฺเจปิ โน ปุฏฺโฐ เอวํ พฺยากริสฺสติ, เอวมฺปิสฺส มยํ วาทํ อาโรเปสฺสามา’ติ. เต สุณนฺติ ‘สมโณ ขลุ โภ โคตโม อมุกํ นาม คามํ วา นิคมํ วา โอสโฏ’ติ. เต เยน สมโณ โคตโม เตนุปสงฺกมนฺติ. เต สมโณ โคตโม ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสติ สมาทเปติ สมุตฺเตเชติ สมฺปหํเสติ. เต สมเณน โคตเมน ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิตา สมาทปิตา สมุตฺเตชิตา สมฺปหํสิตา น เจว สมณํ โคตมํ ปญฺหํ ปุจฺฉนฺติ, กุโตสฺส วาทํ อาโรเปสฺสนฺติ? อญฺญทตฺถุ สมณํเยว โคตมํ โอกาสํ ยาจนฺติ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชาย. เต สมโณ โคตโม ปพฺพาเชติ. เต ตตฺถ ปพฺพชิตา สมานา วูปกฏฺฐา อปฺปมตฺตา อาตาปิโน ปหิตตฺตา วิหรนฺตา นจิรเสฺสว— ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ, ตทนุตฺตรํ— พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเฐว ธมฺเม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรนฺติ. เต เอวมาหํสุ— ‘มนํ วต, โภ, อนสฺสาม, มนํ วต, โภ, ปนสฺสาม; มยญฺหิ ปุพฺเพ อสฺสมณาว สมานา สมณมฺหาติ ปฏิชานิมฺห, อพฺราหฺมณาว สมานา พฺราหฺมณมฺหาติ ปฏิชานิมฺห, อนรหนฺโตว สมานา อรหนฺตมฺหาติ ปฏิชานิมฺห. อิทานิ โขมฺห สมณา, อิทานิ โขมฺห พฺราหฺมณา, อิทานิ โขมฺห อรหนฺโต’ติ. ยทาหํ, โภ, สมเณ โคตเม อิมํ จตุตฺถํ ปทํ อทฺทสํ อถาหํ นิฏฺฐมคมํ— ‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภควา, สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม, สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสํโฆ’ติ. (4)
ยโต โข อหํ, โภ, สมเณ โคตเม อิมานิ จตฺตาริ ปทานิ อทฺทสํ อถาหํ นิฏฺฐมคมํ— ‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภควา, สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม, สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสํโฆ’”ติ.
เอวํ วุตฺเต, ชาณุโสฺสณิ พฺราหฺมโณ สพฺพเสตา วฬวาภิรถา โอโรหิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา เยน ภควา เตนญฺชลิํ ปณาเมตฺวา ติกฺขตฺตุํ อุทานํ อุทาเนสิ—
“นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส;
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส;
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสาติ.
อปฺเปว นาม มยมฺปิ กทาจิ กรหจิ เตน โภตา โคตเมน สทฺธิํ สมาคจฺเฉยฺยาม, อปฺเปว นาม สิยา โกจิเทว กถาสลฺลาโป”ติ.
อถ โข ชาณุโสฺสณิ พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ชาณุโสฺสณิ พฺราหฺมโณ ยาวตโก อโหสิ ปิโลติเกน ปริพฺพาชเกน สทฺธิํ กถาสลฺลาโป ตํ สพฺพํ ภควโต อาโรเจสิ. เอวํ วุตฺเต, ภควา ชาณุโสฺสณิํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจ— “น โข, พฺราหฺมณ, เอตฺตาวตา หตฺถิปโทปโม วิตฺถาเรน ปริปูโร โหติ. อปิ จ, พฺราหฺมณ, ยถา หตฺถิปโทปโม วิตฺถาเรน ปริปูโร โหติ ตํ สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ, ภาสิสฺสามี”ติ. “เอวํ, โภ”ติ โข ชาณุโสฺสณิ พฺราหฺมโณ ภควโต ปจฺจโสฺสสิ. ภควา เอตทโวจ—
“เสยฺยถาปิ, พฺราหฺมณ, นาควนิโก นาควนํ ปวิเสยฺย. โส ปเสฺสยฺย นาควเน มหนฺตํ หตฺถิปทํ, ทีฆโต จ อายตํ, ติริยญฺจ วิตฺถตํ. โย โหติ กุสโล นาควนิโก เนว ตาว นิฏฺฐํ คจฺฉติ— ‘มหา วต โภ นาโค’ติ. ตํ กิสฺส เหตุ? สนฺติ หิ, พฺราหฺมณ, นาควเน วามนิกา นาม หตฺถินิโย มหาปทา, ตาสํ เปตํ ปทํ อสฺสาติ.
โส ตมนุคจฺฉติ. ตมนุคจฺฉนฺโต ปสฺสติ นาควเน มหนฺตํ หตฺถิปทํ, ทีฆโต จ อายตํ, ติริยญฺจ วิตฺถตํ, อุจฺจา จ นิเสวิตํ. โย โหติ กุสโล นาควนิโก เนว ตาว นิฏฺฐํ คจฺฉติ— ‘มหา วต โภ นาโค’ติ. ตํ กิสฺส เหตุ? สนฺติ หิ, พฺราหฺมณ, นาควเน อุจฺจา กาฬาริกา นาม หตฺถินิโย มหาปทา, ตาสํ เปตํ ปทํ อสฺสาติ.
โส ตมนุคจฺฉติ. ตมนุคจฺฉนฺโต ปสฺสติ นาควเน มหนฺตํ หตฺถิปทํ, ทีฆโต จ อายตํ, ติริยญฺจ วิตฺถตํ, อุจฺจา จ นิเสวิตํ, อุจฺจา จ ทนฺเตหิ อารญฺชิตานิ. โย โหติ กุสโล นาควนิโก เนว ตาว นิฏฺฐํ คจฺฉติ— ‘มหา วต โภ นาโค’ติ. ตํ กิสฺส เหตุ? สนฺติ หิ, พฺราหฺมณ, นาควเน อุจฺจา กเณรุกา นาม หตฺถินิโย มหาปทา, ตาสํ เปตํ ปทํ อสฺสาติ.
โส ตมนุคจฺฉติ. ตมนุคจฺฉนฺโต ปสฺสติ นาควเน มหนฺตํ หตฺถิปทํ, ทีฆโต จ อายตํ, ติริยญฺจ วิตฺถตํ, อุจฺจา จ นิเสวิตํ, อุจฺจา จ ทนฺเตหิ อารญฺชิตานิ, อุจฺจา จ สาขาภงฺคํ. ตญฺจ นาคํ ปสฺสติ รุกฺขมูลคตํ วา อพฺโภกาสคตํ วา คจฺฉนฺตํ วา ติฏฺฐนฺตํ วา นิสินฺนํ วา นิปนฺนํ วา. โส นิฏฺฐํ คจฺฉติ— ‘อยเมว โส มหานาโค’ติ.
เอวเมว โข, พฺราหฺมณ, อิธ ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา. โส อิมํ โลกํ สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณิํ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติ. โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยญฺชนํ; เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ. ตํ ธมฺมํ สุณาติ คหปติ วา คหปติปุตฺโต วา อญฺญตรสฺมิํ วา กุเล ปจฺจาชาโต. โส ตํ ธมฺมํ สุตฺวา ตถาคเต สทฺธํ ปฏิลภติ. โส เตน สทฺธาปฏิลาเภน สมนฺนาคโต อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ— ‘สมฺพาโธ ฆราวาโส รโชปโถ, อพฺโภกาโส ปพฺพชฺชา. นยิทํ สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา เอกนฺตปริปุณฺณํ เอกนฺตปริสุทฺธํ สงฺขลิขิตํ พฺรหฺมจริยํ จริตุํ. ยนฺนูนาหํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺยนฺ’ติ. โส อปเรน สมเยน อปฺปํ วา โภคกฺขนฺธํ ปหาย มหนฺตํ วา โภคกฺขนฺธํ ปหาย อปฺปํ วา ญาติปริวฏฺฏํ ปหาย มหนฺตํ วา ญาติปริวฏฺฏํ ปหาย เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ.
โส เอวํ ปพฺพชิโต สมาโน ภิกฺขูนํ สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ ลชฺชี ทยาปนฺโน สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรติ.
อทินฺนาทานํ ปหาย อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ ทินฺนาทายี ทินฺนปาฏิกงฺขี. อเถเนน สุจิภูเตน อตฺตนา วิหรติ.
อพฺรหฺมจริยํ ปหาย พฺรหฺมจารี โหติ อาราจารี วิรโต เมถุนา คามธมฺมา.
มุสาวาทํ ปหาย มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ สจฺจวาที สจฺจสนฺโธ เถโต ปจฺจยิโก อวิสํวาทโก โลกสฺส.
ปิสุณํ วาจํ ปหาย ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ, อิโต สุตฺวา น อมุตฺร อกฺขาตา อิเมสํ เภทาย, อมุตฺร วา สุตฺวา น อิเมสํ อกฺขาตา อมูสํ เภทาย. อิติ ภินฺนานํ วา สนฺธาตา สหิตานํ วา อนุปฺปทาตา, สมคฺคาราโม สมคฺครโต สมคฺคนนฺที สมคฺคกรณิํ วาจํ ภาสิตา โหติ.
ผรุสํ วาจํ ปหาย ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ. ยา สา วาจา เนลา กณฺณสุขา เปมนียา หทยงฺคมา โปรี พหุชนกนฺตา พหุชนมนาปา ตถารูปิํ วาจํ ภาสิตา โหติ.
สมฺผปฺปลาปํ ปหาย สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต โหติ กาลวาที ภูตวาที อตฺถวาที ธมฺมวาที วินยวาที, นิธานวติํ วาจํ ภาสิตา กาเลน สาปเทสํ ปริยนฺตวติํ อตฺถสํหิตํ.
โส พีชคามภูตคามสมารมฺภา ปฏิวิรโต โหติ, เอกภตฺติโก โหติ รตฺตูปรโต, วิรโต วิกาลโภชนา, นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนา ปฏิวิรโต โหติ, มาลาคนฺธวิเลปนธารณมณฺฑนวิภูสนฏฺฐานา ปฏิวิรโต โหติ, อุจฺจาสยนมหาสยนา ปฏิวิรโต โหติ, ชาตรูปรชตปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ, อามกธญฺญปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ, อามกมํสปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ, อิตฺถิกุมาริกปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ, ทาสิทาสปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ, อเชฬกปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ, กุกฺกุฏสูกรปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ, หตฺถิควาสฺสวฬวปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ, เขตฺตวตฺถุปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ, ทูเตยฺยปหิณคมนานุโยคา ปฏิวิรโต โหติ, กยวิกฺกยา ปฏิวิรโต โหติ, ตุลากูฏกํสกูฏมานกูฏา ปฏิวิรโต โหติ, อุกฺโกฏนวญฺจนนิกติสาจิโยคา ปฏิวิรโต โหติ, เฉทนวธพนฺธนวิปราโมสอาโลปสหสาการา ปฏิวิรโต โหติ.
โส สนฺตุฏฺโฐ โหติ กายปริหาริเกน จีวเรน กุจฺฉิปริหาริเกน ปิณฺฑปาเตน. โส เยน เยเนว ปกฺกมติ สมาทาเยว ปกฺกมติ. เสยฺยถาปิ นาม ปกฺขี สกุโณ เยน เยเนว เฑติ สปตฺตภาโรว เฑติ; เอวเมว ภิกฺขุ สนฺตุฏฺโฐ โหติ กายปริหาริเกน จีวเรน กุจฺฉิปริหาริเกน ปิณฺฑปาเตน. โส เยน เยเนว ปกฺกมติ สมาทาเยว ปกฺกมติ. โส อิมินา อริเยน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต อชฺฌตฺตํ อนวชฺชสุขํ ปฏิสํเวเทติ.
โส จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยญฺชนคฺคาหี. ยตฺวาธิกรณเมนํ จกฺขุนฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ ตสฺส สํวราย ปฏิปชฺชติ, รกฺขติ จกฺขุนฺทฺริยํ, จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชติ. โสเตน สทฺทํ สุตฺวา …เป… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา… กาเยน โผฏฺฐพฺพํ ผุสิตฺวา… มนสา ธมฺมํ วิญฺญาย น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยญฺชนคฺคาหี. ยตฺวาธิกรณเมนํ มนินฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ ตสฺส สํวราย ปฏิปชฺชติ, รกฺขติ มนินฺทฺริยํ, มนินฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชติ. โส อิมินา อริเยน อินฺทฺริยสํวเรน สมนฺนาคโต อชฺฌตฺตํ อพฺยาเสกสุขํ ปฏิสํเวเทติ.
โส อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเต สมฺปชานการี โหติ, อาโลกิเต วิโลกิเต สมฺปชานการี โหติ, สมิญฺชิเต ปสาริเต สมฺปชานการี โหติ, สํฆาฏิปตฺตจีวรธารเณ สมฺปชานการี โหติ, อสิเต ปีเต ขายิเต สายิเต สมฺปชานการี โหติ, อุจฺจารปสฺสาวกมฺเม สมฺปชานการี โหติ, คเต ฐิเต นิสินฺเน สุตฺเต ชาคริเต ภาสิเต ตุณฺหีภาเว สมฺปชานการี โหติ.
โส อิมินา จ อริเยน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต, อิมาย จ อริยาย สนฺตุฏฺฐิยา สมนฺนาคโต อิมินา จ อริเยน อินฺทฺริยสํวเรน สมนฺนาคโต, อิมินา จ อริเยน สติสมฺปชญฺเญน สมนฺนาคโต วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภชติ อรญฺญํ รุกฺขมูลํ ปพฺพตํ กนฺทรํ คิริคุหํ สุสานํ วนปตฺถํ อพฺโภกาสํ ปลาลปุญฺชํ. โส ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต นิสีทติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา, อุชุํ กายํ ปณิธาย, ปริมุขํ สติํ อุปฏฺฐเปตฺวา. โส อภิชฺฌํ โลเก ปหาย วิคตาภิชฺเฌน เจตสา วิหรติ, อภิชฺฌาย จิตฺตํ ปริโสเธติ. พฺยาปาทปโทสํ ปหาย อพฺยาปนฺนจิตฺโต วิหรติ, สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี พฺยาปาทปโทสา จิตฺตํ ปริโสเธติ. ถินมิทฺธํ ปหาย วิคตถินมิทฺโธ วิหรติ อาโลกสญฺญี สโต สมฺปชาโน, ถินมิทฺธา จิตฺตํ ปริโสเธติ. อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหาย อนุทฺธโต วิหรติ, อชฺฌตฺตํ วูปสนฺตจิตฺโต อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจา จิตฺตํ ปริโสเธติ. วิจิกิจฺฉํ ปหาย ติณฺณวิจิกิจฺโฉ วิหรติ อกถํกถี กุสเลสุ ธมฺเมสุ, วิจิกิจฺฉาย จิตฺตํ ปริโสเธติ.
โส อิเม ปญฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปญฺญาย ทุพฺพลีกรเณ, วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิทมฺปิ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, ตถาคตปทํ อิติปิ, ตถาคตนิเสวิตํ อิติปิ, ตถาคตารญฺชิตํ อิติปิ. น เตฺวว ตาว อริยสาวโก นิฏฺฐํ คจฺฉติ— ‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภควา, สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม, สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสํโฆ’ติ.
ปุน จปรํ, พฺราหฺมณ, ภิกฺขุ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิทมฺปิ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ …เป… สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสํโฆ’ติ.
ปุน จปรํ, พฺราหฺมณ, ภิกฺขุ ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหรติ สโต จ สมฺปชาโน, สุขญฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทติ, ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิทมฺปิ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ …เป… สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสํโฆ’ติ.
ปุน จปรํ, พฺราหฺมณ, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา, ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา, อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิํ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิทมฺปิ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, ตถาคตปทํ อิติปิ, ตถาคตนิเสวิตํ อิติปิ, ตถาคตารญฺชิตํ อิติปิ. น เตฺวว ตาว อริยสาวโก นิฏฺฐํ คจฺฉติ— ‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภควา, สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม, สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสํโฆ’ติ.
โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ฐิเต อาเนญฺชปฺปตฺเต ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติญาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ. โส อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถิทํ— เอกมฺปิ ชาติํ, ทฺเวปิ ชาติโย …เป… อิติ สาการํ เสาทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. อิทมฺปิ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, ตถาคตปทํ อิติปิ, ตถาคตนิเสวิตํ อิติปิ, ตถาคตารญฺชิตํ อิติปิ. น เตฺวว ตาว อริยสาวโก นิฏฺฐํ คจฺฉติ— ‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภควา, สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม, สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสํโฆ’ติ.
โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ฐิเต อาเนญฺชปฺปตฺเต สตฺตานํ จุตูปปาตญาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ. โส ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน …เป… ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ. อิทมฺปิ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, ตถาคตปทํ อิติปิ, ตถาคตนิเสวิตํ อิติปิ, ตถาคตารญฺชิตํ อิติปิ. น เตฺวว ตาว อริยสาวโก นิฏฺฐํ คจฺฉติ— ‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภควา, สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม, สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสํโฆ’ติ.
โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ฐิเต อาเนญฺชปฺปตฺเต อาสวานํ ขยญาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ. โส ‘อิทํ ทุกฺขนฺ’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. ‘อิเม อาสวา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ อาสวสมุทโย’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ อาสวนิโรโธ’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ อาสวนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. อิทมฺปิ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, ตถาคตปทํ อิติปิ, ตถาคตนิเสวิตํ อิติปิ, ตถาคตารญฺชิตํ อิติปิ. น เตฺวว ตาว อริยสาวโก นิฏฺฐํ คโต โหติ, อปิ จ โข นิฏฺฐํ คจฺฉติ— ‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภควา, สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม, สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสํโฆ’ติ.
ตสฺส เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโต กามาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, ภวาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, อวิชฺชาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ. วิมุตฺตสฺมิํ วิมุตฺตมิติ ญาณํ โหติ. ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานาติ. อิทมฺปิ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, ตถาคตปทํ อิติปิ, ตถาคตนิเสวิตํ อิติปิ, ตถาคตารญฺชิตํ อิติปิ. เอตฺตาวตา โข, พฺราหฺมณ, อริยสาวโก นิฏฺฐํ คโต โหติ— ‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภควา, สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม, สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสํโฆ’ติ. เอตฺตาวตา โข, พฺราหฺมณ, หตฺถิปโทปโม วิตฺถาเรน ปริปูโร โหตี”ติ.
เอวํ วุตฺเต, ชาณุโสฺสณิ พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ— “อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม. เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย— ‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติ; เอวเมวํ โภตา โคตเมน อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉามิ, ธมฺมญฺจ, ภิกฺขุสํฆญฺจ. อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คตนฺ”ติ.
จูฬหตฺถิปโทปมสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ สตฺตมํ.