3.8 มหาหตฺถิปโทปมสุตฺต
เอวํ เม สุตํ— เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ— “อาวุโส ภิกฺขเว”ติ. “อาวุโส”ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปจฺจโสฺสสุํ. อายสฺมา สาริปุตฺโต เอตทโวจ—
“เสยฺยถาปิ, อาวุโส, ยานิ กานิจิ ชงฺคลานํ ปาณานํ ปทชาตานิ สพฺพานิ ตานิ หตฺถิปเท สโมธานํ คจฺฉนฺติ, หตฺถิปทํ เตสํ อคฺคมกฺขายติ ยทิทํ มหนฺตตฺเตน; เอวเมว โข, อาวุโส, เย เกจิ กุสลา ธมฺมา สพฺเพเต จตูสุ อริยสจฺเจสุ สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. กตเมสุ จตูสุ? ทุกฺเข อริยสจฺเจ, ทุกฺขสมุทเย อริยสจฺเจ, ทุกฺขนิโรเธ อริยสจฺเจ, ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย อริยสจฺเจ.
กตมญฺจาวุโส, ทุกฺขํ อริยสจฺจํ? ชาติปิ ทุกฺขา, ชราปิ ทุกฺขา, มรณมฺปิ ทุกฺขํ, โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสาปิ ทุกฺขา, ยมฺปิจฺฉํ น ลภติ ตมฺปิ ทุกฺขํ; สํขิตฺเตน, ปญฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขา. กตเม จาวุโส, ปญฺจุปาทานกฺขนฺธา? เสยฺยถิทํ— รูปุปาทานกฺขนฺโธ, เวทนุปาทานกฺขนฺโธ, สญฺญุปาทานกฺขนฺโธ, สงฺขารุปาทานกฺขนฺโธ, วิญฺญาณุปาทานกฺขนฺโธ.
กตโม จาวุโส, รูปุปาทานกฺขนฺโธ? จตฺตาริ จ มหาภูตานิ, จตุนฺนญฺจ มหาภูตานํ อุปาทาย รูปํ.
กตมา จาวุโส, จตฺตาโร มหาภูตา? ปถวีธาตุ, อาโปธาตุ, เตโชธาตุ, วาโยธาตุ.
กตมา จาวุโส, ปถวีธาตุ? ปถวีธาตุ สิยา อชฺฌตฺติกา, สิยา พาหิรา. กตมา จาวุโส, อชฺฌตฺติกา ปถวีธาตุ? ยํ อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺตํ กกฺขฬํ ขริคตํ อุปาทินฺนํ, เสยฺยถิทํ— เกสา โลมา นขา ทนฺตา ตโจ มํสํ นฺหารุ อฏฺฐิ อฏฺฐิมิญฺชํ วกฺกํ หทยํ ยกนํ กิโลมกํ ปิหกํ ปปฺผาสํ อนฺตํ อนฺตคุณํ อุทริยํ กรีสํ, ยํ วา ปนญฺญมฺปิ กิญฺจิ อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺตํ กกฺขฬํ ขริคตํ อุปาทินฺนํ. อยํ วุจฺจตาวุโส, อชฺฌตฺติกา ปถวีธาตุ. ยา เจว โข ปน อชฺฌตฺติกา ปถวีธาตุ, ยา จ พาหิรา ปถวีธาตุ, ปถวีธาตุเรเวสา. ‘ตํ เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ— เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปญฺญาย ทฏฺฐพฺพํ. เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปญฺญาย ทิสฺวา ปถวีธาตุยา นิพฺพินฺทติ, ปถวีธาตุยา จิตฺตํ วิราเชติ.
โหติ โข โส, อาวุโส, สมโย ยํ พาหิรา อาโปธาตุ ปกุปฺปติ. อนฺตรหิตา ตสฺมิํ สมเย พาหิรา ปถวีธาตุ โหติ. ตสฺสา หิ นาม, อาวุโส, พาหิราย ปถวีธาตุยา ตาว มหลฺลิกาย อนิจฺจตา ปญฺญายิสฺสติ, ขยธมฺมตา ปญฺญายิสฺสติ, วยธมฺมตา ปญฺญายิสฺสติ, วิปริณามธมฺมตา ปญฺญายิสฺสติ. กิํ ปนิมสฺส มตฺตฏฺฐกสฺส กายสฺส ตณฺหุปาทินฺนสฺส ‘อหนฺติ วา มมนฺติ วา อสฺมี’ติ วา? อถ ขฺวาสฺส โนเตเวตฺถ โหติ.
ตญฺเจ, อาวุโส, ภิกฺขุํ ปเร อกฺโกสนฺติ ปริภาสนฺติ โรเสนฺติ วิเหเสนฺติ, โส เอวํ ปชานาติ— ‘อุปฺปนฺนา โข เม อยํ โสตสมฺผสฺสชา ทุกฺขเวทนา. สา จ โข ปฏิจฺจ, โน อปฏิจฺจ. กิํ ปฏิจฺจ? ผสฺสํ ปฏิจฺจ’. โส ผโสฺส อนิจฺโจติ ปสฺสติ, เวทนา อนิจฺจาติ ปสฺสติ, สญฺญา อนิจฺจาติ ปสฺสติ, สงฺขารา อนิจฺจาติ ปสฺสติ, วิญฺญาณํ อนิจฺจนฺติ ปสฺสติ. ตสฺส ธาตารมฺมณเมว จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺฐติ อธิมุจฺจติ.
ตญฺเจ, อาวุโส, ภิกฺขุํ ปเร อนิฏฺเฐหิ อกนฺเตหิ อมนาเปหิ สมุทาจรนฺติ— ปาณิสมฺผเสฺสนปิ เลฑฺฑุสมฺผเสฺสนปิ ทณฺฑสมฺผเสฺสนปิ สตฺถสมฺผเสฺสนปิ. โส เอวํ ปชานาติ— ‘ตถาภูโต โข อยํ กาโย ยถาภูตสฺมิํ กาเย ปาณิสมฺผสฺสาปิ กมนฺติ, เลฑฺฑุสมฺผสฺสาปิ กมนฺติ, ทณฺฑสมฺผสฺสาปิ กมนฺติ, สตฺถสมฺผสฺสาปิ กมนฺติ. วุตฺตํ โข ปเนตํ ภควตา กกจูปโมวาเท— “อุภโตทณฺฑเกน เจปิ, ภิกฺขเว, กกเจน โจรา โอจรกา องฺคมงฺคานิ โอกนฺเตยฺยุํ, ตตฺราปิ โย มโน ปทูเสยฺย น เม โส เตน สาสนกโร”ติ. อารทฺธํ โข ปน เม วีริยํ ภวิสฺสติ อสลฺลีนํ, อุปฏฺฐิตา สติ อสมฺมุฏฺฐา, ปสฺสทฺโธ กาโย อสารทฺโธ, สมาหิตํ จิตฺตํ เอกคฺคํ. กามํ ทานิ อิมสฺมิํ กาเย ปาณิสมฺผสฺสาปิ กมนฺตุ, เลฑฺฑุสมฺผสฺสาปิ กมนฺตุ, ทณฺฑสมฺผสฺสาปิ กมนฺตุ, สตฺถสมฺผสฺสาปิ กมนฺตุ, กรียติ หิทํ พุทฺธานํ สาสนนฺ’ติ.
ตสฺส เจ, อาวุโส, ภิกฺขุโน เอวํ พุทฺธํ อนุสฺสรโต เอวํ ธมฺมํ อนุสฺสรโต เอวํ สํฆํ อนุสฺสรโต อุเปกฺขา กุสลนิสฺสิตา น สณฺฐาติ. โส เตน สํวิชฺชติ สํเวคํ อาปชฺชติ— ‘อลาภา วต เม, น วต เม ลาภา; ทุลฺลทฺธํ วต เม, น วต เม สุลทฺธํ, ยสฺส เม เอวํ พุทฺธํ อนุสฺสรโต, เอวํ ธมฺมํ อนุสฺสรโต, เอวํ สํฆํ อนุสฺสรโต, อุเปกฺขา กุสลนิสฺสิตา น สณฺฐาตี’ติ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, สุณิสา สสุรํ ทิสฺวา สํวิชฺชติ สํเวคํ อาปชฺชติ; เอวเมว โข, อาวุโส, ตสฺส เจ ภิกฺขุโน เอวํ พุทฺธํ อนุสฺสรโต, เอวํ ธมฺมํ อนุสฺสรโต, เอวํ สํฆํ อนุสฺสรโต, อุเปกฺขา กุสลนิสฺสิตา น สณฺฐาติ, โส เตน สํวิชฺชติ สํเวคํ อาปชฺชติ— ‘อลาภา วต เม, น วต เม ลาภา; ทุลฺลทฺธํ วต เม, น วต เม สุลทฺธํ, ยสฺส เม เอวํ พุทฺธํ อนุสฺสรโต เอวํ ธมฺมํ อนุสฺสรโต, เอวํ สํฆํ อนุสฺสรโต, อุเปกฺขา กุสลนิสฺสิตา น สณฺฐาตี’ติ. ตสฺส เจ, อาวุโส, ภิกฺขุโน เอวํ พุทฺธํ อนุสฺสรโต, เอวํ ธมฺมํ อนุสฺสรโต, เอวํ สํฆํ อนุสฺสรโต อุเปกฺขา กุสลนิสฺสิตา สณฺฐาติ, โส เตน อตฺตมโน โหติ. เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, ภิกฺขุโน พหุกตํ โหติ.
กตมา จาวุโส, อาโปธาตุ? อาโปธาตุ สิยา อชฺฌตฺติกา, สิยา พาหิรา. กตมา จาวุโส, อชฺฌตฺติกา อาโปธาตุ? ยํ อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺตํ อาโป อาโปคตํ อุปาทินฺนํ, เสยฺยถิทํ— ปิตฺตํ เสมฺหํ ปุพฺโพ โลหิตํ เสโท เมโท อสฺสุ วสา เขโฬ สิงฺฆาณิกา ลสิกา มุตฺตํ, ยํ วา ปนญฺญมฺปิ กิญฺจิ อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺตํ อาโป อาโปคตํ อุปาทินฺนํ— อยํ วุจฺจตาวุโส, อชฺฌตฺติกา อาโปธาตุ. ยา เจว โข ปน อชฺฌตฺติกา อาโปธาตุ ยา จ พาหิรา อาโปธาตุ, อาโปธาตุเรเวสา. ‘ตํ เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปญฺญาย ทฏฺฐพฺพํ. เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปญฺญาย ทิสฺวา อาโปธาตุยา นิพฺพินฺทติ, อาโปธาตุยา จิตฺตํ วิราเชติ.
โหติ โข โส, อาวุโส, สมโย ยํ พาหิรา อาโปธาตุ ปกุปฺปติ. สา คามมฺปิ วหติ, นิคมมฺปิ วหติ, นครมฺปิ วหติ, ชนปทมฺปิ วหติ, ชนปทปเทสมฺปิ วหติ. โหติ โข โส, อาวุโส, สมโย ยํ มหาสมุทฺเท โยชนสติกานิปิ อุทกานิ โอคจฺฉนฺติ, ทฺวิโยชนสติกานิปิ อุทกานิ โอคจฺฉนฺติ, ติโยชนสติกานิปิ อุทกานิ โอคจฺฉนฺติ, จตุโยชนสติกานิปิ อุทกานิ โอคจฺฉนฺติ, ปญฺจโยชนสติกานิปิ อุทกานิ โอคจฺฉนฺติ, ฉโยชนสติกานิปิ อุทกานิ โอคจฺฉนฺติ, สตฺตโยชนสติกานิปิ อุทกานิ โอคจฺฉนฺติ. โหติ โข โส, อาวุโส, สมโย ยํ มหาสมุทฺเท สตฺตตาลมฺปิ อุทกํ สณฺฐาติ, ฉตฺตาลมฺปิ อุทกํ สณฺฐาติ, ปญฺจตาลมฺปิ อุทกํ สณฺฐาติ, จตุตฺตาลมฺปิ อุทกํ สณฺฐาติ, ติตาลมฺปิ อุทกํ สณฺฐาติ, ทฺวิตาลมฺปิ อุทกํ สณฺฐาติ, ตาลมตฺตมฺปิ อุทกํ สณฺฐาติ. โหติ โข โส, อาวุโส, สมโย ยํ มหาสมุทฺเท สตฺตโปริสมฺปิ อุทกํ สณฺฐาติ, ฉปฺโปริสมฺปิ อุทกํ สณฺฐาติ, ปญฺจโปริสมฺปิ อุทกํ สณฺฐาติ, จตุปฺโปริสมฺปิ อุทกํ สณฺฐาติ, ติโปริสมฺปิ อุทกํ สณฺฐาติ, ทฺวิโปริสมฺปิ อุทกํ สณฺฐาติ, โปริสมตฺตมฺปิ อุทกํ สณฺฐาติ. โหติ โข โส, อาวุโส, สมโย ยํ มหาสมุทฺเท อฑฺฒโปริสมฺปิ อุทกํ สณฺฐาติ, กฏิมตฺตมฺปิ อุทกํ สณฺฐาติ, ชาณุกมตฺตมฺปิ อุทกํ สณฺฐาติ, โคปฺผกมตฺตมฺปิ อุทกํ สณฺฐาติ. โหติ โข โส, อาวุโส, สมโย, ยํ มหาสมุทฺเท องฺคุลิปพฺพเตมนมตฺตมฺปิ อุทกํ น โหติ. ตสฺสา หิ นาม, อาวุโส, พาหิราย อาโปธาตุยา ตาว มหลฺลิกาย อนิจฺจตา ปญฺญายิสฺสติ, ขยธมฺมตา ปญฺญายิสฺสติ, วยธมฺมตา ปญฺญายิสฺสติ, วิปริณามธมฺมตา ปญฺญายิสฺสติ. กิํ ปนิมสฺส มตฺตฏฺฐกสฺส กายสฺส ตณฺหุปาทินฺนสฺส ‘อหนฺติ วา มมนฺติ วา อสฺมี’ติ วา? อถ ขฺวาสฺส โนเตเวตฺถ โหติ …เป… ตสฺส เจ, อาวุโส, ภิกฺขุโน เอวํ พุทฺธํ อนุสฺสรโต, เอวํ ธมฺมํ อนุสฺสรโต, เอวํ สํฆํ อนุสฺสรโต อุเปกฺขา กุสลนิสฺสิตา สณฺฐาติ. โส เตน อตฺตมโน โหติ. เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, ภิกฺขุโน พหุกตํ โหติ.
กตมา จาวุโส, เตโชธาตุ? เตโชธาตุ สิยา อชฺฌตฺติกา, สิยา พาหิรา. กตมา จาวุโส, อชฺฌตฺติกา เตโชธาตุ? ยํ อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺตํ เตโช เตโชคตํ อุปาทินฺนํ, เสยฺยถิทํ— เยน จ สนฺตปฺปติ, เยน จ ชีรียติ, เยน จ ปริฑยฺหติ, เยน จ อสิตปีตขายิตสายิตํ สมฺมา ปริณามํ คจฺฉติ, ยํ วา ปนญฺญมฺปิ กิญฺจิ อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺตํ เตโช เตโชคตํ อุปาทินฺนํ— อยํ วุจฺจตาวุโส, อชฺฌตฺติกา เตโชธาตุ. ยา เจว โข ปน อชฺฌตฺติกา เตโชธาตุ ยา จ พาหิรา เตโชธาตุ, เตโชธาตุเรเวสา. ‘ตํ เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปญฺญาย ทฏฺฐพฺพํ. เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปญฺญาย ทิสฺวา เตโชธาตุยา นิพฺพินฺทติ, เตโชธาตุยา จิตฺตํ วิราเชติ.
โหติ โข โส, อาวุโส, สมโย ยํ พาหิรา เตโชธาตุ ปกุปฺปติ. สา คามมฺปิ ทหติ, นิคมมฺปิ ทหติ, นครมฺปิ ทหติ, ชนปทมฺปิ ทหติ, ชนปทปเทสมฺปิ ทหติ. สา หริตนฺตํ วา ปนฺถนฺตํ วา เสลนฺตํ วา อุทกนฺตํ วา รมณียํ วา ภูมิภาคํ อาคมฺม อนาหารา นิพฺพายติ. โหติ โข โส, อาวุโส, สมโย ยํ กุกฺกุฏปตฺเตนปิ นฺหารุททฺทุเลนปิ อคฺคิํ คเวสนฺติ. ตสฺสา หิ นาม, อาวุโส, พาหิราย เตโชธาตุยา ตาว มหลฺลิกาย อนิจฺจตา ปญฺญายิสฺสติ, ขยธมฺมตา ปญฺญายิสฺสติ, วยธมฺมตา ปญฺญายิสฺสติ, วิปริณามธมฺมตา ปญฺญายิสฺสติ. กิํ ปนิมสฺส มตฺตฏฺฐกสฺส กายสฺส ตณฺหุปาทินฺนสฺส ‘อหนฺติ วา มมนฺติ วา อสฺมี’ติ วา? อถ ขฺวาสฺส โนเตเวตฺถ โหติ …เป… ตสฺส เจ, อาวุโส, ภิกฺขุโน เอวํ พุทฺธํ อนุสฺสรโต เอวํ ธมฺมํ อนุสฺสรโต เอวํ สํฆํ อนุสฺสรโต อุเปกฺขา กุสลนิสฺสิตา สณฺฐาติ, โส เตน อตฺตมโน โหติ. เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, ภิกฺขุโน พหุกตํ โหติ.
กตมา จาวุโส, วาโยธาตุ? วาโยธาตุ สิยา อชฺฌตฺติกา, สิยา พาหิรา. กตมา จาวุโส, อชฺฌตฺติกา วาโยธาตุ? ยํ อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺตํ วาโย วาโยคตํ อุปาทินฺนํ, เสยฺยถิทํ— อุทฺธงฺคมา วาตา, อโธคมา วาตา, กุจฺฉิสยา วาตา, โกฏฺฐาสยา วาตา, องฺคมงฺคานุสาริโน วาตา, อสฺสาโส ปสฺสาโส อิติ, ยํ วา ปนญฺญมฺปิ กิญฺจิ อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺตํ วาโย วาโยคตํ อุปาทินฺนํ— อยํ วุจฺจตาวุโส, อชฺฌตฺติกา วาโยธาตุ. ยา เจว โข ปน อชฺฌตฺติกา วาโยธาตุ, ยา จ พาหิรา วาโยธาตุ, วาโยธาตุเรเวสา. ‘ตํ เนตํ มม เนโสหมสฺมิ น เมโส อตฺตา’ติ เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปญฺญาย ทฏฺฐพฺพํ. เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปญฺญาย ทิสฺวา วาโยธาตุยา นิพฺพินฺทติ วาโยธาตุยา จิตฺตํ วิราเชติ.
โหติ โข โส, อาวุโส, สมโย ยํ พาหิรา วาโยธาตุ ปกุปฺปติ. สา คามมฺปิ วหติ, นิคมมฺปิ วหติ, นครมฺปิ วหติ, ชนปทมฺปิ วหติ, ชนปทปเทสมฺปิ วหติ. โหติ โข โส, อาวุโส, สมโย ยํ คิมฺหานํ ปจฺฉิเม มาเส ตาลวณฺเฏนปิ วิธูปเนนปิ วาตํ ปริเยสนฺติ, โอสฺสวเนปิ ติณานิ น อิจฺฉนฺติ. ตสฺสา หิ นาม, อาวุโส, พาหิราย วาโยธาตุยา ตาว มหลฺลิกาย อนิจฺจตา ปญฺญายิสฺสติ, ขยธมฺมตา ปญฺญายิสฺสติ, วยธมฺมตา ปญฺญายิสฺสติ, วิปริณามธมฺมตา ปญฺญายิสฺสติ. กิํ ปนิมสฺส มตฺตฏฺฐกสฺส กายสฺส ตณฺหุปาทินฺนสฺส ‘อหนฺติ วา มมนฺติ วา อสฺมี’ติ วา? อถ ขฺวาสฺส โนเตเวตฺถ โหติ.
ตญฺเจ, อาวุโส, ภิกฺขุํ ปเร อกฺโกสนฺติ ปริภาสนฺติ โรเสนฺติ วิเหเสนฺติ. โส เอวํ ปชานาติ, อุปฺปนฺนา โข เม อยํ โสตสมฺผสฺสชา ทุกฺขา เวทนา. สา จ โข ปฏิจฺจ, โน อปฏิจฺจ. กิํ ปฏิจฺจ? ผสฺสํ ปฏิจฺจ. โสปิ ผโสฺส อนิจฺโจติ ปสฺสติ, เวทนา อนิจฺจาติ ปสฺสติ, สญฺญา อนิจฺจาติ ปสฺสติ, สงฺขารา อนิจฺจาติ ปสฺสติ, วิญฺญาณํ อนิจฺจนฺติ ปสฺสติ. ตสฺส ธาตารมฺมณเมว จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺฐติ อธิมุจฺจติ.
ตญฺเจ, อาวุโส, ภิกฺขุํ ปเร อนิฏฺเฐหิ อกนฺเตหิ อมนาเปหิ สมุทาจรนฺติ, ปาณิสมฺผเสฺสนปิ เลฑฺฑุสมฺผเสฺสนปิ ทณฺฑสมฺผเสฺสนปิ สตฺถสมฺผเสฺสนปิ. โส เอวํ ปชานาติ ‘ตถาภูโต โข อยํ กาโย ยถาภูตสฺมิํ กาเย ปาณิสมฺผสฺสาปิ กมนฺติ, เลฑฺฑุสมฺผสฺสาปิ กมนฺติ, ทณฺฑสมฺผสฺสาปิ กมนฺติ, สตฺถสมฺผสฺสาปิ กมนฺติ. วุตฺตํ โข ปเนตํ ภควตา กกจูปโมวาเท “อุภโตทณฺฑเกน เจปิ, ภิกฺขเว, กกเจน โจรา โอจรกา องฺคมงฺคานิ โอกนฺเตยฺยุํ. ตตฺราปิ โย มโน ปทูเสยฺย, น เม โส เตน สาสนกโร”ติ. อารทฺธํ โข ปน เม วีริยํ ภวิสฺสติ อสลฺลีนํ, อุปฏฺฐิตา สติ อสมฺมุฏฺฐา, ปสฺสทฺโธ กาโย อสารทฺโธ, สมาหิตํ จิตฺตํ เอกคฺคํ. กามํ ทานิ อิมสฺมิํ กาเย ปาณิสมฺผสฺสาปิ กมนฺตุ, เลฑฺฑุสมฺผสฺสาปิ กมนฺตุ, ทณฺฑสมฺผสฺสาปิ กมนฺตุ, สตฺถสมฺผสฺสาปิ กมนฺตุ. กรียติ หิทํ พุทฺธานํ สาสนนฺ’ติ.
ตสฺส เจ, อาวุโส, ภิกฺขุโน เอวํ พุทฺธํ อนุสฺสรโต, เอวํ ธมฺมํ อนุสฺสรโต, เอวํ สํฆํ อนุสฺสรโต อุเปกฺขา กุสลนิสฺสิตา น สณฺฐาติ. โส เตน สํวิชฺชติ สํเวคํ อาปชฺชติ— ‘อลาภา วต เม, น วต เม ลาภา; ทุลฺลทฺธํ วต เม, น วต เม สุลทฺธํ. ยสฺส เม เอวํ พุทฺธํ อนุสฺสรโต, เอวํ ธมฺมํ อนุสฺสรโต, เอวํ สํฆํ อนุสฺสรโต อุเปกฺขา กุสลนิสฺสิตา น สณฺฐาตี’ติ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, สุณิสา สสุรํ ทิสฺวา สํวิชฺชติ สํเวคํ อาปชฺชติ; เอวเมว โข, อาวุโส, ตสฺส เจ ภิกฺขุโน เอวํ พุทฺธํ อนุสฺสรโต, เอวํ ธมฺมํ อนุสฺสรโต, เอวํ สํฆํ อนุสฺสรโต, อุเปกฺขา กุสลนิสฺสิตา น สณฺฐาติ. โส เตน สํวิชฺชติ สํเวคํ อาปชฺชติ— ‘อลาภา วต เม, น วต เม ลาภา; ทุลฺลทฺธํ วต เม, น วต เม สุลทฺธํ. ยสฺส เม เอวํ พุทฺธํ อนุสฺสรโต, เอวํ ธมฺมํ อนุสฺสรโต, เอวํ สํฆํ อนุสฺสรโต, อุเปกฺขา กุสลนิสฺสิตา น สณฺฐาตี’ติ. ตสฺส เจ, อาวุโส, ภิกฺขุโน เอวํ พุทฺธํ อนุสฺสรโต, เอวํ ธมฺมํ อนุสฺสรโต, เอวํ สํฆํ อนุสฺสรโต, อุเปกฺขา กุสลนิสฺสิตา สณฺฐาติ, โส เตน อตฺตมโน โหติ. เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, ภิกฺขุโน พหุกตํ โหติ.
เสยฺยถาปิ, อาวุโส, กฏฺฐญฺจ ปฏิจฺจ วลฺลิญฺจ ปฏิจฺจ ติณญฺจ ปฏิจฺจ มตฺติกญฺจ ปฏิจฺจ อากาโส ปริวาริโต อคารนฺเตฺวว สงฺขํ คจฺฉติ; เอวเมว โข, อาวุโส, อฏฺฐิญฺจ ปฏิจฺจ นฺหารุญฺจ ปฏิจฺจ มํสญฺจ ปฏิจฺจ จมฺมญฺจ ปฏิจฺจ อากาโส ปริวาริโต รูปนฺเตฺวว สงฺขํ คจฺฉติ. อชฺฌตฺติกญฺเจว, อาวุโส, จกฺขุํ อปริภินฺนํ โหติ, พาหิรา จ รูปา น อาปาถํ อาคจฺฉนฺติ, โน จ ตชฺโช สมนฺนาหาโร โหติ, เนว ตาว ตชฺชสฺส วิญฺญาณภาคสฺส ปาตุภาโว โหติ. อชฺฌตฺติกญฺเจว, อาวุโส, จกฺขุํ อปริภินฺนํ โหติ พาหิรา จ รูปา อาปาถํ อาคจฺฉนฺติ, โน จ ตชฺโช สมนฺนาหาโร โหติ, เนว ตาว ตชฺชสฺส วิญฺญาณภาคสฺส ปาตุภาโว โหติ. ยโต จ โข, อาวุโส, อชฺฌตฺติกญฺเจว จกฺขุํ อปริภินฺนํ โหติ, พาหิรา จ รูปา อาปาถํ อาคจฺฉนฺติ, ตชฺโช จ สมนฺนาหาโร โหติ. เอวํ ตชฺชสฺส วิญฺญาณภาคสฺส ปาตุภาโว โหติ. ยํ ตถาภูตสฺส รูปํ ตํ รูปุปาทานกฺขนฺเธ สงฺคหํ คจฺฉติ, ยา ตถาภูตสฺส เวทนา สา เวทนุปาทานกฺขนฺเธ สงฺคหํ คจฺฉติ, ยา ตถาภูตสฺส สญฺญา สา สญฺญุปาทานกฺขนฺเธ สงฺคหํ คจฺฉติ, เย ตถาภูตสฺส สงฺขารา เต สงฺขารุปาทานกฺขนฺเธ สงฺคหํ คจฺฉนฺติ, ยํ ตถาภูตสฺส วิญฺญาณํ ตํ วิญฺญาณุปาทานกฺขนฺเธ สงฺคหํ คจฺฉติ.
โส เอวํ ปชานาติ— ‘เอวญฺหิ กิร อิเมสํ ปญฺจนฺนํ อุปาทานกฺขนฺธานํ สงฺคโห สนฺนิปาโต สมวาโย โหติ. วุตฺตํ โข ปเนตํ ภควตา— “โย ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ ปสฺสติ โส ธมฺมํ ปสฺสติ; โย ธมฺมํ ปสฺสติ โส ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ ปสฺสตี”ติ. ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา โข ปนิเม ยทิทํ ปญฺจุปาทานกฺขนฺธา. โย อิเมสุ ปญฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ ฉนฺโท อาลโย อนุนโย อชฺโฌสานํ โส ทุกฺขสมุทโย. โย อิเมสุ ปญฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ ฉนฺทราควินโย ฉนฺทราคปฺปหานํ, โส ทุกฺขนิโรโธ’ติ. เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, ภิกฺขุโน พหุกตํ โหติ.
อชฺฌตฺติกญฺเจว, อาวุโส, โสตํ อปริภินฺนํ โหติ …เป… ฆานํ อปริภินฺนํ โหติ… ชิวฺหา อปริภินฺนา โหติ… กาโย อปริภินฺโน โหติ… มโน อปริภินฺโน โหติ, พาหิรา จ ธมฺมา น อาปาถํ อาคจฺฉนฺติ โน จ ตชฺโช สมนฺนาหาโร โหติ, เนว ตาว ตชฺชสฺส วิญฺญาณภาคสฺส ปาตุภาโว โหติ. อชฺฌตฺติโก เจว, อาวุโส, มโน อปริภินฺโน โหติ, พาหิรา จ ธมฺมา อาปาถํ อาคจฺฉนฺติ, โน จ ตชฺโช สมนฺนาหาโร โหติ, เนว ตาว ตชฺชสฺส วิญฺญาณภาคสฺส ปาตุภาโว โหติ. ยโต จ โข, อาวุโส, อชฺฌตฺติโก เจว มโน อปริภินฺโน โหติ, พาหิรา จ ธมฺมา อาปาถํ อาคจฺฉนฺติ, ตชฺโช จ สมนฺนาหาโร โหติ, เอวํ ตชฺชสฺส วิญฺญาณภาคสฺส ปาตุภาโว โหติ. ยํ ตถาภูตสฺส รูปํ ตํ รูปุปาทานกฺขนฺเธ สงฺคหํ คจฺฉติ, ยา ตถาภูตสฺส เวทนา สา เวทนุปาทานกฺขนฺเธ สงฺคหํ คจฺฉติ, ยา ตถาภูตสฺส สญฺญา สา สญฺญุปาทานกฺขนฺเธ สงฺคหํ คจฺฉติ, เย ตถาภูตสฺส สงฺขารา เต สงฺขารุปาทานกฺขนฺเธ สงฺคหํ คจฺฉนฺติ, ยํ ตถาภูตสฺส วิญฺญาณํ ตํ วิญฺญาณุปาทานกฺขนฺเธ สงฺคหํ คจฺฉติ. โส เอวํ ปชานาติ— ‘เอวญฺหิ กิร อิเมสํ ปญฺจนฺนํ อุปาทานกฺขนฺธานํ สงฺคโห สนฺนิปาโต สมวาโย โหติ. วุตฺตํ โข ปเนตํ ภควตา— “โย ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ ปสฺสติ โส ธมฺมํ ปสฺสติ; โย ธมฺมํ ปสฺสติ โส ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ ปสฺสตี”ติ. ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา โข ปนิเม ยทิทํ ปญฺจุปาทานกฺขนฺธา. โย อิเมสุ ปญฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ ฉนฺโท อาลโย อนุนโย อชฺโฌสานํ โส ทุกฺขสมุทโย. โย อิเมสุ ปญฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ ฉนฺทราควินโย ฉนฺทราคปฺปหานํ โส ทุกฺขนิโรโธ’ติ. เอตฺตาวตาปิ โข, อาวุโส, ภิกฺขุโน พหุกตํ โหตี”ติ.
อิทมโวจ อายสฺมา สาริปุตฺโต. อตฺตมนา เต ภิกฺขู อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.
มหาหตฺถิปโทปมสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ อฏฺฐมํ.