5.10 มารตชฺชนียสุตฺต
เอวํ เม สุตํ— เอกํ สมยํ อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ภคฺเคสุ วิหรติ สุสุมารคิเร เภสกฬาวเน มิคทาเย. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน อพฺโภกาเส จงฺกมติ. เตน โข ปน สมเยน มาโร ปาปิมา อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส กุจฺฉิคโต โหติ โกฏฺฐมนุปวิฏฺโฐ. อถ โข อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส เอตทโหสิ— “กิํ นุ โข เม กุจฺฉิ ครุคโร วิย? มาสาจิตํ มญฺเญ”ติ. อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน จงฺกมา โอโรหิตฺวา วิหารํ ปวิสิตฺวา ปญฺญตฺเต อาสเน นิสีทิ. นิสชฺช โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ปจฺจตฺตํ โยนิโส มนสากาสิ.
อทฺทสา โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน มารํ ปาปิมนฺตํ กุจฺฉิคตํ โกฏฺฐมนุปวิฏฺฐํ. ทิสฺวาน มารํ ปาปิมนฺตํ เอตทโวจ— “นิกฺขม, ปาปิม; นิกฺขม, ปาปิม. มา ตถาคตํ วิเหเสสิ, มา ตถาคตสาวกํ. มา เต อโหสิ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายา”ติ.
อถ โข มารสฺส ปาปิมโต เอตทโหสิ— “อชานเมว โข มํ อยํ สมโณ อปสฺสํ เอวมาห— ‘นิกฺขม, ปาปิม; นิกฺขม, ปาปิม. มา ตถาคตํ วิเหเสสิ, มา ตถาคตสาวกํ. มา เต อโหสิ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายา’ติ. โยปิสฺส โส สตฺถา โสปิ มํ เนว ขิปฺปํ ชาเนยฺย, กุโต ปน มํ อยํ สาวโก ชานิสฺสตี”ติ?
อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน มารํ ปาปิมนฺตํ เอตทโวจ— “เอวมฺปิ โข ตาหํ, ปาปิม, ชานามิ, มา ตฺวํ มญฺญิตฺโถ— ‘น มํ ชานาตี’ติ. มาโร ตฺวมสิ, ปาปิม; ตุยฺหญฺหิ, ปาปิม, เอวํ โหติ— ‘อชานเมว โข มํ อยํ สมโณ อปสฺสํ เอวมาห— นิกฺขม, ปาปิม; นิกฺขม, ปาปิม. มา ตถาคตํ วิเหเสสิ, มา ตถาคตสาวกํ. มา เต อโหสิ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายาติ. โยปิสฺส โส สตฺถา โสปิ มํ เนว ขิปฺปํ ชาเนยฺย, กุโต ปน มํ อยํ สาวโก ชานิสฺสตี’”ติ?
อถ โข มารสฺส ปาปิมโต เอตทโหสิ— “ชานเมว โข มํ อยํ สมโณ ปสฺสํ เอวมาห— ‘นิกฺขม, ปาปิม; นิกฺขม, ปาปิม. มา ตถาคตํ วิเหเสสิ, มา ตถาคตสาวกํ. มา เต อโหสิ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายา’”ติ. อถ โข มาโร ปาปิมา อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส มุขโต อุคฺคนฺตฺวา ปจฺจคฺคเฬ อฏฺฐาสิ.
อทฺทสา โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน มารํ ปาปิมนฺตํ ปจฺจคฺคเฬ ฐิตํ; ทิสฺวาน มารํ ปาปิมนฺตํ เอตทโวจ— “เอตฺถาปิ โข ตาหํ, ปาปิม, ปสฺสามิ; มา ตฺวํ มญฺญิตฺโถ ‘น มํ ปสฺสตี’ติ. เอโส ตฺวํ, ปาปิม, ปจฺจคฺคเฬ ฐิโต. ภูตปุพฺพาหํ, ปาปิม, ทูสี นาม มาโร อโหสิํ, ตสฺส เม กาฬี นาม ภคินี. ตสฺสา ตฺวํ ปุตฺโต. โส เม ตฺวํ ภาคิเนโยฺย อโหสิ. เตน โข ปน, ปาปิม, สมเยน กกุสนฺโธ ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ โลเก อุปฺปนฺโน โหติ. กกุสนฺธสฺส โข ปน, ปาปิม, ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส วิธุรสญฺชีวํ นาม สาวกยุคํ อโหสิ อคฺคํ ภทฺทยุคํ. ยาวตา โข ปน, ปาปิม, กกุสนฺธสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สาวกา. เตสุ น จ โกจิ อายสฺมตา วิธุเรน สมสโม โหติ ยทิทํ ธมฺมเทสนาย. อิมินา โข เอวํ, ปาปิม, ปริยาเยน อายสฺมโต วิธุรสฺส วิธุโรเตว สมญฺญา อุทปาทิ.
อายสฺมา ปน, ปาปิม, สญฺชีโว อรญฺญคโตปิ รุกฺขมูลคโตปิ สุญฺญาคารคโตปิ อปฺปกสิเรเนว สญฺญาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺชติ. ภูตปุพฺพํ, ปาปิม, อายสฺมา สญฺชีโว อญฺญตรสฺมิํ รุกฺขมูเล สญฺญาเวทยิตนิโรธํ สมาปนฺโน นิสินฺโน โหติ. อทฺทสํสุ โข, ปาปิม, โคปาลกา ปสุปาลกา กสฺสกา ปถาวิโน อายสฺมนฺตํ สญฺชีวํ อญฺญตรสฺมิํ รุกฺขมูเล สญฺญาเวทยิตนิโรธํ สมาปนฺนํ นิสินฺนํ; ทิสฺวาน เตสํ เอตทโหสิ— ‘อจฺฉริยํ วต โภ, อพฺภุตํ วต, โภ. อยํ สมโณ นิสินฺนโกว กาลงฺกโต. หนฺท นํ ทหามา’ติ. อถ โข เต, ปาปิม, โคปาลกา ปสุปาลกา กสฺสกา ปถาวิโน ติณญฺจ กฏฺฐญฺจ โคมยญฺจ สงฺกฑฺฒิตฺวา อายสฺมโต สญฺชีวสฺส กาเย อุปจินิตฺวา อคฺคิํ ทตฺวา ปกฺกมิํสุ. อถ โข, ปาปิม, อายสฺมา สญฺชีโว ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ตาย สมาปตฺติยา วุฏฺฐหิตฺวา จีวรานิ ปปฺโผเฏตฺวา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย คามํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. อทฺทสํสุ โข เต, ปาปิม, โคปาลกา ปสุปาลกา กสฺสกา ปถาวิโน อายสฺมนฺตํ สญฺชีวํ ปิณฺฑาย จรนฺตํ; ทิสฺวาน เนสํ เอตทโหสิ— ‘อจฺฉริยํ วต โภ, อพฺภุตํ วต, โภ. อยํ สมโณ นิสินฺนโกว กาลงฺกโต, สฺวายํ ปฏิสญฺชีวิโต’ติ. อิมินา โข เอวํ, ปาปิม, ปริยาเยน อายสฺมโต สญฺชีวสฺส สญฺชีโวเตว สมญฺญา อุทปาทิ.
อถ โข, ปาปิม, ทูสิสฺส มารสฺส เอตทโหสิ— ‘อิเมสํ โข อหํ ภิกฺขูนํ สีลวนฺตานํ กลฺยาณธมฺมานํ เนว ชานามิ อาคติํ วา คติํ วา. ยนฺนูนาหํ พฺราหฺมณคหปติเก อนฺวาวิเสยฺยํ— เอถ, ตุมฺเห ภิกฺขู สีลวนฺเต กลฺยาณธมฺเม อกฺโกสถ ปริภาสถ โรเสถ วิเหเสถ. อปฺเปว นาม ตุมฺเหหิ อกฺโกสิยมานานํ ปริภาสิยมานานํ โรสิยมานานํ วิเหสิยมานานํ สิยา จิตฺตสฺส อญฺญถตฺตํ, ยถา ตํ ทูสี มาโร ลเภถ โอตารนฺ’ติ. อถ โข เต, ปาปิม, ทูสี มาโร พฺราหฺมณคหปติเก อนฺวาวิสิ— ‘เอถ, ตุมฺเห ภิกฺขู สีลวนฺเต กลฺยาณธมฺเม อกฺโกสถ ปริภาสถ โรเสถ วิเหเสถ. อปฺเปว นาม ตุมฺเหหิ อกฺโกสิยมานานํ ปริภาสิยมานานํ โรสิยมานานํ วิเหสิยมานานํ สิยา จิตฺตสฺส อญฺญถตฺตํ, ยถา ตํ ทูสี มาโร ลเภถ โอตารนฺ’ติ.
อถ โข เต, ปาปิม, พฺราหฺมณคหปติกา อนฺวาวิสิฏฺฐา ทูสินา มาเรน ภิกฺขู สีลวนฺเต กลฺยาณธมฺเม อกฺโกสนฺติ ปริภาสนฺติ โรเสนฺติ วิเหเสนฺติ— ‘อิเม ปน มุณฺฑกา สมณกา อิพฺภา กิณฺหา พนฺธุปาทาปจฺจา “ฌายิโนสฺมา ฌายิโนสฺมา”ติ ปตฺตกฺขนฺธา อโธมุขา มธุรกชาตา ฌายนฺติ ปชฺฌายนฺติ นิชฺฌายนฺติ อปชฺฌายนฺติ. เสยฺยถาปิ นาม อุลูโก รุกฺขสาขายํ มูสิกํ มคฺคยมาโน ฌายติ ปชฺฌายติ นิชฺฌายติ อปชฺฌายติ; เอวเมวิเม มุณฺฑกา สมณกา อิพฺภา กิณฺหา พนฺธุปาทาปจฺจา “ฌายิโนสฺมา ฌายิโนสฺมา”ติ ปตฺตกฺขนฺธา อโธมุขา มธุรกชาตา ฌายนฺติ ปชฺฌายนฺติ นิชฺฌายนฺติ อปชฺฌายนฺติ. เสยฺยถาปิ นาม โกตฺถุ นทีตีเร มจฺเฉ มคฺคยมาโน ฌายติ ปชฺฌายติ นิชฺฌายติ อปชฺฌายติ; เอวเมวิเม มุณฺฑกา สมณกา อิพฺภา กิณฺหา พนฺธุปาทาปจฺจา “ฌายิโนสฺมา ฌายิโนสฺมา”ติ ปตฺตกฺขนฺธา อโธมุขา มธุรกชาตา ฌายนฺติ ปชฺฌายนฺติ นิชฺฌายนฺติ อปชฺฌายนฺติ. เสยฺยถาปิ นาม พิฬาโร สนฺธิสมลสงฺกฏีเร มูสิกํ มคฺคยมาโน ฌายติ ปชฺฌายติ นิชฺฌายติ อปชฺฌายติ; เอวเมวิเม มุณฺฑกา สมณกา อิพฺภา กิณฺหา พนฺธุปาทาปจฺจา “ฌายิโนสฺมา ฌายิโนสฺมา”ติ ปตฺตกฺขนฺธา อโธมุขา มธุรกชาตา ฌายนฺติ ปชฺฌายนฺติ นิชฺฌายนฺติ อปชฺฌายนฺติ. เสยฺยถาปิ นาม คทฺรโภ วหจฺฉินฺโน สนฺธิสมลสงฺกฏีเร ฌายติ ปชฺฌายติ นิชฺฌายติ อปชฺฌายติ; เอวเมวิเม มุณฺฑกา สมณกา อิพฺภา กิณฺหา พนฺธุปาทาปจฺจา “ฌายิโนสฺมา ฌายิโนสฺมา”ติ ปตฺตกฺขนฺธา อโธมุขา มธุรกชาตา ฌายนฺติ ปชฺฌายนฺติ นิชฺฌายนฺติ อปชฺฌายนฺตี’ติ.
เย โข ปน, ปาปิม, เตน สมเยน มนุสฺสา กาลํ กโรนฺติ เยภุเยฺยน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺติ.
อถ โข, ปาปิม, กกุสนฺโธ ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภิกฺขู อามนฺเตสิ— ‘อนฺวาวิฏฺฐา โข, ภิกฺขเว, พฺราหฺมณคหปติกา ทูสินา มาเรน— เอถ, ตุมฺเห ภิกฺขู สีลวนฺเต กลฺยาณธมฺเม อกฺโกสถ ปริภาสถ โรเสถ วิเหเสถ, อปฺเปว นาม ตุมฺเหหิ อกฺโกสิยมานานํ ปริภาสิยมานานํ โรสิยมานานํ วิเหสิยมานานํ สิยา จิตฺตสฺส อญฺญถตฺตํ, ยถา ตํ ทูสี มาโร ลเภถ โอตารนฺ’ติ. เอถ, ตุมฺเห, ภิกฺขเว, เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรถ, ตถา ทุติยํ, ตถา ตติยํ, ตถา จตุตฺถํ. อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ เมตฺตาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาพชฺเฌน ผริตฺวา วิหรถ. กรุณาสหคเตน เจตสา …เป… มุทิตาสหคเตน เจตสา …เป… อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรถ, ตถา ทุติยํ, ตถา ตติยํ, ตถา จตุตฺถํ. อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาพชฺเฌน ผริตฺวา วิหรถา’ติ.
อถ โข เต, ปาปิม, ภิกฺขู กกุสนฺเธน ภควตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน เอวํ โอวทิยมานา เอวํ อนุสาสิยมานา อรญฺญคตาปิ รุกฺขมูลคตาปิ สุญฺญาคารคตาปิ เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหริํสุ, ตถา ทุติยํ, ตถา ตติยํ, ตถา จตุตฺถํ. อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ เมตฺตาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาพชฺเฌน ผริตฺวา วิหริํสุ. กรุณาสหคเตน เจตสา …เป… มุทิตาสหคเตน เจตสา …เป… อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหริํสุ, ตถา ทุติยํ, ตถา ตติยํ, ตถา จตุตฺถํ. อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาพชฺเฌน ผริตฺวา วิหริํสุ.
อถ โข, ปาปิม, ทูสิสฺส มารสฺส เอตทโหสิ— ‘เอวมฺปิ โข อหํ กโรนฺโต อิเมสํ ภิกฺขูนํ สีลวนฺตานํ กลฺยาณธมฺมานํ เนว ชานามิ อาคติํ วา คติํ วา, ยนฺนูนาหํ พฺราหฺมณคหปติเก อนฺวาวิเสยฺยํ— “เอถ, ตุมฺเห ภิกฺขู สีลวนฺเต กลฺยาณธมฺเม สกฺกโรถ ครุํ กโรถ มาเนถ ปูเชถ, อปฺเปว นาม ตุมฺเหหิ สกฺกริยมานานํ ครุกริยมานานํ มานิยมานานํ ปูชิยมานานํ สิยา จิตฺตสฺส อญฺญถตฺตํ, ยถา ตํ ทูสี มาโร ลเภถ โอตารนฺ”’ติ.
อถ โข เต, ปาปิม, ทูสี มาโร พฺราหฺมณคหปติเก อนฺวาวิสิ— ‘เอถ, ตุมฺเห ภิกฺขู สีลวนฺเต กลฺยาณธมฺเม สกฺกโรถ ครุํ กโรถ มาเนถ ปูเชถ, อปฺเปว นาม ตุมฺเหหิ สกฺกริยมานานํ ครุกริยมานานํ มานิยมานานํ ปูชิยมานานํ สิยา จิตฺตสฺส อญฺญถตฺตํ, ยถา ตํ ทูสี มาโร ลเภถ โอตารนฺ’ติ. อถ โข เต, ปาปิม, พฺราหฺมณคหปติกา อนฺวาวิฏฺฐา ทูสินา มาเรน ภิกฺขู สีลวนฺเต กลฺยาณธมฺเม สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ มาเนนฺติ ปูเชนฺติ.
เย โข ปน, ปาปิม, เตน สมเยน มนุสฺสา กาลํ กโรนฺติ เยภุเยฺยน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺติ.
อถ โข, ปาปิม, กกุสนฺโธ ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภิกฺขู อามนฺเตสิ— ‘อนฺวาวิฏฺฐา โข, ภิกฺขเว, พฺราหฺมณคหปติกา ทูสินา มาเรน— “เอถ, ตุมฺเห ภิกฺขู สีลวนฺเต กลฺยาณธมฺเม สกฺกโรถ ครุํ กโรถ มาเนถ ปูเชถ, อปฺเปว นาม ตุมฺเหหิ สกฺกริยมานานํ ครุกริยมานานํ มานิยมานานํ ปูชิยมานานํ สิยา จิตฺตสฺส อญฺญถตฺตํ, ยถา ตํ ทูสี มาโร ลเภถ โอตารนฺ”ติ. เอถ, ตุมฺเห, ภิกฺขเว, อสุภานุปสฺสิโน กาเย วิหรถ, อาหาเร ปฏิกูลสญฺญิโน, สพฺพโลเก อนภิรติสญฺญิโน, สพฺพสงฺขาเรสุ อนิจฺจานุปสฺสิโน’ติ.
อถ โข เต, ปาปิม, ภิกฺขู กกุสนฺเธน ภควตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน เอวํ โอวทิยมานา เอวํ อนุสาสิยมานา อรญฺญคตาปิ รุกฺขมูลคตาปิ สุญฺญาคารคตาปิ อสุภานุปสฺสิโน กาเย วิหริํสุ, อาหาเร ปฏิกูลสญฺญิโน, สพฺพโลเก อนภิรติสญฺญิโน, สพฺพสงฺขาเรสุ อนิจฺจานุปสฺสิโน.
อถ โข, ปาปิม, กกุสนฺโธ ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย อายสฺมตา วิธุเรน ปจฺฉาสมเณน คามํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. อถ โข, ปาปิม, ทูสี มาโร อญฺญตรํ กุมารกํ อนฺวาวิสิตฺวา สกฺขรํ คเหตฺวา อายสฺมโต วิธุรสฺส สีเส ปหารมทาสิ; สีสํ โวภินฺทิ. อถ โข, ปาปิม, อายสฺมา วิธุโร ภินฺเนน สีเสน โลหิเตน คฬนฺเตน กกุสนฺธํเยว ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ ปิฏฺฐิโต ปิฏฺฐิโต อนุพนฺธิ. อถ โข, ปาปิม, กกุสนฺโธ ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ นาคาปโลกิตํ อปโลเกสิ— ‘น วายํ ทูสี มาโร มตฺตมญฺญาสี’ติ. สหาปโลกนาย จ ปน, ปาปิม, ทูสี มาโร ตมฺหา จ ฐานา จวิ มหานิรยญฺจ อุปปชฺชิ.
ตสฺส โข ปน, ปาปิม, มหานิรยสฺส ตโย นามเธยฺยา โหนฺติ— ฉผสฺสายตนิโก อิติปิ, สงฺกุสมาหโต อิติปิ, ปจฺจตฺตเวทนิโย อิติปิ. อถ โข มํ, ปาปิม, นิรยปาลา อุปสงฺกมิตฺวา เอตทโวจุํ— ‘ยทา โข เต, มาริส, สงฺกุนา สงฺกุ หทเย สมาคจฺเฉยฺย. อถ นํ ตฺวํ ชาเนยฺยาสิ— “วสฺสสหสฺสํ เม นิรเย ปจฺจมานสฺสา”’ติ.
โส โข อหํ, ปาปิม, พหูนิ วสฺสานิ พหูนิ วสฺสสตานิ พหูนิ วสฺสสหสฺสานิ ตสฺมิํ มหานิรเย อปจฺจิํ. ทสวสฺสสหสฺสานิ ตเสฺสว มหานิรยสฺส อุสฺสเท อปจฺจิํ วุฏฺฐานิมํ นาม เวทนํ เวทิยมาโน. ตสฺส มยฺหํ, ปาปิม, เอวรูโป กาโย โหติ, เสยฺยถาปิ มนุสฺสสฺส. เอวรูปํ สีสํ โหติ, เสยฺยถาปิ มจฺฉสฺส.
กีทิโส นิรโย อาสิ,
ยตฺถ ทูสี อปจฺจถ;
วิธุรํ สาวกมาสชฺช,
กกุสนฺธญฺจ พฺราหฺมณํ.
สตํ อาสิ อโยสงฺกู,
สพฺเพ ปจฺจตฺตเวทนา;
อีทิโส นิรโย อาสิ,
ยตฺถ ทูสี อปจฺจถ;
วิธุรํ สาวกมาสชฺช,
กกุสนฺธญฺจ พฺราหฺมณํ.
โย เอตมภิชานาติ,
ภิกฺขุ พุทฺธสฺส สาวโก;
ตาทิสํ ภิกฺขุมาสชฺช,
กณฺห ทุกฺขํ นิคจฺฉสิ.
มชฺเฌ สรสฺส ติฏฺฐนฺติ,
วิมานา กปฺปฏฺฐายิโน;
เวฬุริยวณฺณา รุจิรา,
อจฺจิมนฺโต ปภสฺสรา;
อจฺฉรา ตตฺถ นจฺจนฺติ,
ปุถุ นานตฺตวณฺณิโย.
โย เอตมภิชานาติ,
ภิกฺขุ พุทฺธสฺส สาวโก;
ตาทิสํ ภิกฺขุมาสชฺช,
กณฺห ทุกฺขํ นิคจฺฉสิ.
โย เว พุทฺเธน โจทิโต,
ภิกฺขุ สํฆสฺส เปกฺขโต;
มิคารมาตุปาสาทํ,
ปาทงฺคุฏฺเฐน กมฺปยิ.
โย เอตมภิชานาติ,
ภิกฺขุ พุทฺธสฺส สาวโก;
ตาทิสํ ภิกฺขุมาสชฺช,
กณฺห ทุกฺขํ นิคจฺฉสิ.
โย เวชยนฺตํ ปาสาทํ,
ปาทงฺคุฏฺเฐน กมฺปยิ;
อิทฺธิพเลนุปตฺถทฺโธ,_
สํเวเชสิ จ เทวตา.
โย เอตมภิชานาติ,
ภิกฺขุ พุทฺธสฺส สาวโก;
ตาทิสํ ภิกฺขุมาสชฺช,
กณฺห ทุกฺขํ นิคจฺฉสิ.
โย เวชยนฺตปาสาเท,
สกฺกํ โส ปริปุจฺฉติ;
อปิ วาสว ชานาสิ,
ตณฺหากฺขยวิมุตฺติโย;
ตสฺส สกฺโก วิยากาสิ,
ปญฺหํ ปุฏฺโฐ ยถาตถํ.
โย เอตมภิชานาติ,
ภิกฺขุ พุทฺธสฺส สาวโก;
ตาทิสํ ภิกฺขุมาสชฺช,
กณฺห ทุกฺขํ นิคจฺฉสิ.
โย พฺรหฺมํ ปริปุจฺฉติ,
สุธมฺมายาภิโต สภํ;
อชฺชาปิ ตฺยาวุโส ทิฏฺฐิ,
ยา เต ทิฏฺฐิ ปุเร อหุ;
ปสฺสสิ วีติวตฺตนฺตํ,
พฺรหฺมโลเก ปภสฺสรํ.
ตสฺส พฺรหฺมา วิยากาสิ,
อนุปุพฺพํ ยถาตถํ;
น เม มาริส สา ทิฏฺฐิ,
ยา เม ทิฏฺฐิ ปุเร อหุ.
ปสฺสามิ วีติวตฺตนฺตํ,
พฺรหฺมโลเก ปภสฺสรํ;
โสหํ อชฺช กถํ วชฺชํ,
อหํ นิจฺโจมฺหิ สสฺสโต.
โย เอตมภิชานาติ,
ภิกฺขุ พุทฺธสฺส สาวโก;
ตาทิสํ ภิกฺขุมาสชฺช,
กณฺห ทุกฺขํ นิคจฺฉสิ.
โย มหาเมรุโน กูฏํ,
วิโมกฺเขน อผสฺสยิ;
วนํ ปุพฺพวิเทหานํ,
เย จ ภูมิสยา นรา.
โย เอตมภิชานาติ,
ภิกฺขุ พุทฺธสฺส สาวโก;
ตาทิสํ ภิกฺขุมาสชฺช,
กณฺห ทุกฺขํ นิคจฺฉสิ.
น เว อคฺคิ เจตยติ,
‘อหํ พาลํ ฑหามี’ติ;
พาโล จ ชลิตํ อคฺคิํ,
อาสชฺช นํ ส ฑยฺหติ.
เอวเมว ตุวํ มาร,
อาสชฺช นํ ตถาคตํ;
สยํ ฑหิสฺสสิ อตฺตานํ,
พาโล อคฺคิํว สมฺผุสํ.
อปุญฺญํ ปสวี มาโร,
อาสชฺช นํ ตถาคตํ;
กิํ นุ มญฺญสิ ปาปิม,
น เม ปาปํ วิปจฺจติ.
กโรโต จียติ ปาปํ,
จิรรตฺตาย อนฺตก;
มาร นิพฺพินฺท พุทฺธมฺหา,
อาสํ มากาสิ ภิกฺขุสุ.
อิติ มารํ อตชฺเชสิ,_
ภิกฺขุ เภสกฬาวเน;
ตโต โส ทุมฺมโน ยกฺโข,
ตตฺเถวนฺตรธายถา”ติ.
มารตชฺชนียสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ ทสมํ.
จูฬยมกวคฺโค นิฏฺฐิโต ปญฺจโม.
ตสฺสุทฺทานํ
สาเลยฺย เวรญฺชทุเว จ ตุฏฺฐิ,
จูฬมหาธมฺมสมาทานญฺจ;
วีมํสกา โกสมฺพิ จ พฺราหฺมโณ,
ทูสี จ มาโร ทสโม จ วคฺโค.
อิทํ วคฺคานมุทฺทานํ
มูลปริยาโย เจว,
สีหนาโท จ อุตฺตโม;
กกโจ เจว โคสิงฺโค,
สาเลโยฺย จ อิเม ปญฺจ.
มูลปณฺณาสกํ สมตฺตํ.