5.9 พฺรหฺมนิมนฺตนิกสุตฺต
เอวํ เม สุตํ— เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ— “ภิกฺขโว”ติ. “ภทนฺเต”ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจโสฺสสุํ. ภควา เอตทโวจ—
“เอกมิทาหํ, ภิกฺขเว, สมยํ อุกฺกฏฺฐายํ วิหรามิ สุภควเน สาลราชมูเล. เตน โข ปน, ภิกฺขเว, สมเยน พกสฺส พฺรหฺมุโน เอวรูปํ ปาปกํ ทิฏฺฐิคตํ อุปฺปนฺนํ โหติ— ‘อิทํ นิจฺจํ, อิทํ ธุวํ, อิทํ สสฺสตํ, อิทํ เกวลํ, อิทํ อจวนธมฺมํ, อิทญฺหิ น ชายติ น ชียติ น มียติ น จวติ น อุปปชฺชติ, อิโต จ ปนญฺญํ อุตฺตริ นิสฺสรณํ นตฺถี’ติ. อถ ขฺวาหํ, ภิกฺขเว, พกสฺส พฺรหฺมุโน เจตสา เจโตปริวิตกฺกมญฺญาย— เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิญฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิญฺเชยฺย; เอวเมว— อุกฺกฏฺฐายํ สุภควเน สาลราชมูเล อนฺตรหิโต ตสฺมิํ พฺรหฺมโลเก ปาตุรโหสิํ. อทฺทสา โข มํ, ภิกฺขเว, พโก พฺรหฺมา ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ; ทิสฺวาน มํ เอตทโวจ— ‘เอหิ โข, มาริส, สฺวาคตํ, มาริส. จิรสฺสํ โข, มาริส, อิมํ ปริยายมกาสิ ยทิทํ อิธาคมนาย. อิทญฺหิ, มาริส, นิจฺจํ, อิทํ ธุวํ, อิทํ สสฺสตํ, อิทํ เกวลํ, อิทํ อจวนธมฺมํ, อิทญฺหิ น ชายติ น ชียติ น มียติ น จวติ น อุปปชฺชติ. อิโต จ ปนญฺญํ อุตฺตริ นิสฺสรณํ นตฺถี’ติ.
เอวํ วุตฺเต, อหํ, ภิกฺขเว, พกํ พฺรหฺมานํ เอตทโวจํ— ‘อวิชฺชาคโต วต โภ พโก พฺรหฺมา, อวิชฺชาคโต วต โภ พโก พฺรหฺมา; ยตฺร หิ นาม อนิจฺจํเยว สมานํ นิจฺจนฺติ วกฺขติ, อทฺธุวํเยว สมานํ ธุวนฺติ วกฺขติ, อสสฺสตํเยว สมานํ สสฺสตนฺติ วกฺขติ, อเกวลํเยว สมานํ เกวลนฺติ วกฺขติ, จวนธมฺมํเยว สมานํ อจวนธมฺมนฺติ วกฺขติ; ยตฺถ จ ปน ชายติ ชียติ มียติ จวติ อุปปชฺชติ ตญฺจ วกฺขติ— “อิทญฺหิ น ชายติ น ชียติ น มียติ น จวติ น อุปปชฺชตี”ติ; สนฺตญฺจ ปนญฺญํ อุตฺตริ นิสฺสรณํ “นตฺถญฺญํ อุตฺตริ นิสฺสรณนฺ”ติ วกฺขตี’ติ.
อถ โข, ภิกฺขเว, มาโร ปาปิมา อญฺญตรํ พฺรหฺมปาริสชฺชํ อนฺวาวิสิตฺวา มํ เอตทโวจ— ‘ภิกฺขุ ภิกฺขุ, เมตมาสโท เมตมาสโท, เอโส หิ, ภิกฺขุ, พฺรหฺมา มหาพฺรหฺมา อภิภู อนภิภูโต อญฺญทตฺถุทโส วสวตฺตี อิสฺสโร กตฺตา นิมฺมาตา เสฏฺโฐ สชิตา วสี ปิตา ภูตภพฺยานํ. อเหสุํ โข เย, ภิกฺขุ, ตยา ปุพฺเพ สมณพฺราหฺมณา โลกสฺมิํ ปถวีครหกา ปถวีชิคุจฺฉกา, อาปครหกา อาปชิคุจฺฉกา, เตชครหกา เตชชิคุจฺฉกา, วายครหกา วายชิคุจฺฉกา, ภูตครหกา ภูตชิคุจฺฉกา, เทวครหกา เทวชิคุจฺฉกา, ปชาปติครหกา ปชาปติชิคุจฺฉกา, พฺรหฺมครหกา พฺรหฺมชิคุจฺฉกา— เต กายสฺส เภทา ปาณุปจฺเฉทา หีเน กาเย ปติฏฺฐิตา อเหสุํ. เย ปน, ภิกฺขุ, ตยา ปุพฺเพ สมณพฺราหฺมณา โลกสฺมิํ ปถวีปสํสกา ปถวาภินนฺทิโน, อาปปสํสกา อาปาภินนฺทิโน, เตชปสํสกา เตชาภินนฺทิโน, วายปสํสกา วายาภินนฺทิโน, ภูตปสํสกา ภูตาภินนฺทิโน, เทวปสํสกา เทวาภินนฺทิโน, ปชาปติปสํสกา ปชาปตาภินนฺทิโน, พฺรหฺมปสํสกา พฺรหฺมาภินนฺทิโน— เต กายสฺส เภทา ปาณุปจฺเฉทา ปณีเต กาเย ปติฏฺฐิตา. ตํ ตาหํ, ภิกฺขุ, เอวํ วทามิ— “อิงฺฆ ตฺวํ, มาริส, ยเทว เต พฺรหฺมา อาห ตเทว ตฺวํ กโรหิ, มา ตฺวํ พฺรหฺมุโน วจนํ อุปาติวตฺติตฺโถ”. สเจ โข ตฺวํ, ภิกฺขุ, พฺรหฺมุโน วจนํ อุปาติวตฺติสฺสสิ, เสยฺยถาปิ นาม ปุริโส สิริํ อาคจฺฉนฺติํ ทณฺเฑน ปฏิปฺปณาเมยฺย, เสยฺยถาปิ วา ปน, ภิกฺขุ, ปุริโส นรกปฺปปาเต ปปตนฺโต หตฺเถหิ จ ปาเทหิ จ ปถวิํ วิราเธยฺย, เอวํ สมฺปทมิทํ, ภิกฺขุ, ตุยฺหํ ภวิสฺสติ. อิงฺฆ ตฺวํ, มาริส, ยเทว เต พฺรหฺมา อาห ตเทว ตฺวํ กโรหิ, มา ตฺวํ พฺรหฺมุโน วจนํ อุปาติวตฺติตฺโถ. นนุ ตฺวํ, ภิกฺขุ, ปสฺสสิ พฺรหฺมปริสํ สนฺนิปติตนฺ’ติ? อิติ โข มํ, ภิกฺขเว, มาโร ปาปิมา พฺรหฺมปริสํ อุปเนสิ.
เอวํ วุตฺเต, อหํ, ภิกฺขเว, มารํ ปาปิมนฺตํ เอตทโวจํ— ‘ชานามิ โข ตาหํ, ปาปิม; มา ตฺวํ มญฺญิตฺโถ— “น มํ ชานาตี”ติ. มาโร ตฺวมสิ, ปาปิม. โย เจว, ปาปิม, พฺรหฺมา, ยา จ พฺรหฺมปริสา, เย จ พฺรหฺมปาริสชฺชา, สพฺเพว ตว หตฺถคตา สพฺเพว ตว วสงฺคตา. ตุยฺหญฺหิ, ปาปิม, เอวํ โหติ— “เอโสปิ เม อสฺส หตฺถคโต, เอโสปิ เม อสฺส วสงฺคโต”ติ. อหํ โข ปน, ปาปิม, เนว ตว หตฺถคโต เนว ตว วสงฺคโต’ติ.
เอวํ วุตฺเต, ภิกฺขเว, พโก พฺรหฺมา มํ เอตทโวจ— ‘อหญฺหิ, มาริส, นิจฺจํเยว สมานํ “นิจฺจนฺ”ติ วทามิ, ธุวํเยว สมานํ “ธุวนฺ”ติ วทามิ, สสฺสตํเยว สมานํ “สสฺสตนฺ”ติ วทามิ, เกวลํเยว สมานํ “เกวลนฺ”ติ วทามิ, อจวนธมฺมํเยว สมานํ “อจวนธมฺมนฺ”ติ วทามิ, ยตฺถ จ ปน น ชายติ น ชียติ น มียติ น จวติ น อุปปชฺชติ ตเทวาหํ วทามิ— “อิทญฺหิ น ชายติ น ชียติ น มียติ น จวติ น อุปปชฺชตี”ติ. อสนฺตญฺจ ปนญฺญํ อุตฺตริ นิสฺสรณํ “นตฺถญฺญํ อุตฺตริ นิสฺสรณนฺ”ติ วทามิ. อเหสุํ โข, ภิกฺขุ, ตยา ปุพฺเพ สมณพฺราหฺมณา โลกสฺมิํ ยาวตกํ ตุยฺหํ กสิณํ อายุ ตาวตกํ เตสํ ตโปกมฺมเมว อโหสิ. เต โข เอวํ ชาเนยฺยุํ สนฺตญฺจ ปนญฺญํ อุตฺตริ นิสฺสรณํ “อตฺถญฺญํ อุตฺตริ นิสฺสรณนฺ”ติ, อสนฺตํ วา อญฺญํ อุตฺตริ นิสฺสรณํ “นตฺถญฺญํ อุตฺตริ นิสฺสรณนฺ”ติ. ตํ ตาหํ, ภิกฺขุ, เอวํ วทามิ— “น เจวญฺญํ อุตฺตริ นิสฺสรณํ ทกฺขิสฺสสิ, ยาวเทว จ ปน กิลมถสฺส วิฆาตสฺส ภาคี ภวิสฺสสิ. สเจ โข ตฺวํ, ภิกฺขุ, ปถวิํ อชฺโฌสิสฺสสิ, โอปสายิโก เม ภวิสฺสสิ วตฺถุสายิโก, ยถากามกรณีโย พาหิเตโยฺย. สเจ อาปํ… เตชํ… วายํ… ภูเต… เทเว… ปชาปติํ… พฺรหฺมํ อชฺโฌสิสฺสสิ, โอปสายิโก เม ภวิสฺสสิ วตฺถุสายิโก, ยถากามกรณีโย พาหิเตโยฺย”’ติ.
‘อหมฺปิ โข เอวํ, พฺรเหฺม, ชานามิ— “สเจ ปถวิํ อชฺโฌสิสฺสามิ, โอปสายิโก เต ภวิสฺสามิ วตฺถุสายิโก, ยถากามกรณีโย พาหิเตโยฺย. สเจ อาปํ… เตชํ… วายํ… ภูเต… เทเว… ปชาปติํ… พฺรหฺมํ อชฺโฌสิสฺสามิ, โอปสายิโก เต ภวิสฺสามิ วตฺถุสายิโก, ยถากามกรณีโย พาหิเตโยฺย”ติ อปิ จ เต อหํ, พฺรเหฺม, คติญฺจ ปชานามิ, ชุติญฺจ ปชานามิ— “เอวํ มหิทฺธิโก พโก พฺรหฺมา, เอวํ มหานุภาโว พโก พฺรหฺมา, เอวํ มเหสกฺโข พโก พฺรหฺมา”ติ.
ยถากถํ ปน เม ตฺวํ, มาริส, คติญฺจ ปชานาสิ, ชุติญฺจ ปชานาสิ— “เอวํ มหิทฺธิโก พโก พฺรหฺมา, เอวํ มหานุภาโว พโก พฺรหฺมา, เอวํ มเหสกฺโข พโก พฺรหฺมา”’ติ?
‘ยาวตา จนฺทิมสูริยา,
ปริหรนฺติ ทิสา ภนฺติ วิโรจนา;
ตาว สหสฺสธา โลโก,
เอตฺถ เต วตฺตเต วโส.
ปโรปรญฺจ ชานาสิ,
อโถ ราควิราคินํ;
อิตฺถภาวญฺญถาภาวํ,_
สตฺตานํ อาคติํ คตินฺติ.
เอวํ โข เต อหํ, พฺรเหฺม, คติญฺจ ปชานามิ ชุติญฺจ ปชานามิ— “เอวํ มหิทฺธิโก พโก พฺรหฺมา, เอวํ มหานุภาโว พโก พฺรหฺมา, เอวํ มเหสกฺโข พโก พฺรหฺมา”ติ.
อตฺถิ โข, พฺรเหฺม, อญฺโญ กาโย, ตํ ตฺวํ น ชานาสิ น ปสฺสสิ; ตมหํ ชานามิ ปสฺสามิ. อตฺถิ โข, พฺรเหฺม, อาภสฺสรา นาม กาโย ยโต ตฺวํ จุโต อิธูปปนฺโน. ตสฺส เต อติจิรนิวาเสน สา สติ ปมุฏฺฐา, เตน ตํ ตฺวํ น ชานาสิ น ปสฺสสิ; ตมหํ ชานามิ ปสฺสามิ. เอวมฺปิ โข อหํ, พฺรเหฺม, เนว เต สมสโม อภิญฺญาย, กุโต นีเจยฺยํ? อถ โข อหเมว ตยา ภิโยฺย. อตฺถิ โข, พฺรเหฺม, สุภกิโณฺห นาม กาโย, เวหปฺผโล นาม กาโย, อภิภู นาม กาโย, ตํ ตฺวํ น ชานาสิ น ปสฺสสิ; ตมหํ ชานามิ ปสฺสามิ. เอวมฺปิ โข อหํ, พฺรเหฺม, เนว เต สมสโม อภิญฺญาย, กุโต นีเจยฺยํ? อถ โข อหเมว ตยา ภิโยฺย. ปถวิํ โข อหํ, พฺรเหฺม, ปถวิโต อภิญฺญาย ยาวตา ปถวิยา ปถวตฺเตน อนนุภูตํ ตทภิญฺญาย ปถวิํ นาปโหสิํ, ปถวิยา นาปโหสิํ, ปถวิโต นาปโหสิํ, ปถวิํ เมติ นาปโหสิํ, ปถวิํ นาภิวทิํ. เอวมฺปิ โข อหํ, พฺรเหฺม, เนว เต สมสโม อภิญฺญาย, กุโต นีเจยฺยํ? อถ โข อหเมว ตยา ภิโยฺย. อาปํ โข อหํ, พฺรเหฺม …เป… เตชํ โข อหํ, พฺรเหฺม …เป… วายํ โข อหํ, พฺรเหฺม …เป… ภูเต โข อหํ, พฺรเหฺม …เป… เทเว โข อหํ, พฺรเหฺม …เป… ปชาปติํ โข อหํ, พฺรเหฺม …เป… พฺรหฺมํ โข อหํ, พฺรเหฺม …เป… อาภสฺสเร โข อหํ, พฺรเหฺม …เป… สุภกิเณฺห โข อหํ, พฺรเหฺม… …เป… เวหปฺผเล โข อหํ, พฺรเหฺม …เป… อภิภุํ โข อหํ, พฺรเหฺม …เป… สพฺพํ โข อหํ, พฺรเหฺม, สพฺพโต อภิญฺญาย ยาวตา สพฺพสฺส สพฺพตฺเตน อนนุภูตํ ตทภิญฺญาย สพฺพํ นาปโหสิํ สพฺพสฺมิํ นาปโหสิํ สพฺพโต นาปโหสิํ สพฺพํ เมติ นาปโหสิํ, สพฺพํ นาภิวทิํ. เอวมฺปิ โข อหํ, พฺรเหฺม, เนว เต สมสโม อภิญฺญาย, กุโต นีเจยฺยํ? อถ โข อหเมว ตยา ภิโยฺย’ติ.
‘สเจ โข, มาริส, สพฺพสฺส สพฺพตฺเตน อนนุภูตํ, ตทภิญฺญาย มา เหว เต ริตฺตกเมว อโหสิ, ตุจฺฉกเมว อโหสีติ.
วิญฺญาณํ อนิทสฺสนํ อนนฺตํ สพฺพโต ปภํ, ตํ ปถวิยา ปถวตฺเตน อนนุภูตํ, อาปสฺส อาปตฺเตน อนนุภูตํ, เตชสฺส เตชตฺเตน อนนุภูตํ, วายสฺส วายตฺเตน อนนุภูตํ, ภูตานํ ภูตตฺเตน อนนุภูตํ, เทวานํ เทวตฺเตน อนนุภูตํ, ปชาปติสฺส ปชาปติตฺเตน อนนุภูตํ, พฺรหฺมานํ พฺรหฺมตฺเตน อนนุภูตํ, อาภสฺสรานํ อาภสฺสรตฺเตน อนนุภูตํ, สุภกิณฺหานํ สุภกิณฺหตฺเตน อนนุภูตํ, เวหปฺผลานํ เวหปฺผลตฺเตน อนนุภูตํ, อภิภุสฺส อภิภุตฺเตน อนนุภูตํ, สพฺพสฺส สพฺพตฺเตน อนนุภูตํ.
หนฺท จรหิ เต, มาริส, ปสฺส อนฺตรธายามี’ติ. ‘หนฺท จรหิ เม ตฺวํ, พฺรเหฺม, อนฺตรธายสฺสุ, สเจ วิสหสี’ติ. อถ โข, ภิกฺขเว, พโก พฺรหฺมา— ‘อนฺตรธายิสฺสามิ สมณสฺส โคตมสฺส, อนฺตรธายิสฺสามิ สมณสฺส โคตมสฺสา’ติ เนวสฺสุ เม สกฺโกติ อนฺตรธายิตุํ.
เอวํ วุตฺเต, อหํ, ภิกฺขเว, พกํ พฺรหฺมานํ เอตทโวจํ— ‘หนฺท จรหิ เต พฺรเหฺม อนฺตรธายามี’ติ. ‘หนฺท จรหิ เม ตฺวํ, มาริส, อนฺตรธายสฺสุ สเจ วิสหสี’ติ. อถ โข อหํ, ภิกฺขเว, ตถารูปํ อิทฺธาภิสงฺขารํ อภิสงฺขาสิํ— ‘เอตฺตาวตา พฺรหฺมา จ พฺรหฺมปริสา จ พฺรหฺมปาริสชฺชา จ สทฺทญฺจ เม โสสฺสนฺติ, น จ มํ ทกฺขนฺตี’ติ. อนฺตรหิโต อิมํ คาถํ อภาสิํ—
‘ภเววาหํ ภยํ ทิสฺวา,
ภวญฺจ วิภเวสินํ;
ภวํ นาภิวทิํ กิญฺจิ,
นนฺทิญฺจ น อุปาทิยินฺ’ติ.
อถ โข, ภิกฺขเว, พฺรหฺมา จ พฺรหฺมปริสา จ พฺรหฺมปาริสชฺชา จ อจฺฉริยพฺภุตจิตฺตชาตา อเหสุํ— ‘อจฺฉริยํ วต โภ, อพฺภุตํ วต โภ. สมณสฺส โคตมสฺส มหิทฺธิกตา มหานุภาวตา, น จ วต โน อิโต ปุพฺเพ ทิฏฺโฐ วา, สุโต วา, อญฺโญ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เอวํ มหิทฺธิโก เอวํ มหานุภาโว ยถายํ สมโณ โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต. ภวรามาย วต, โภ, ปชาย ภวรตาย ภวสมฺมุทิตาย สมูลํ ภวํ อุทพฺพหี’ติ.
อถ โข, ภิกฺขเว, มาโร ปาปิมา อญฺญตรํ พฺรหฺมปาริสชฺชํ อนฺวาวิสิตฺวา มํ เอตทโวจ— ‘สเจ โข ตฺวํ, มาริส, เอวํ ปชานาสิ, สเจ ตฺวํ เอวํ อนุพุทฺโธ, มา สาวเก อุปเนสิ, มา ปพฺพชิเต; มา สาวกานํ ธมฺมํ เทเสสิ, มา ปพฺพชิตานํ; มา สาวเกสุ เคธิมกาสิ, มา ปพฺพชิเตสุ. อเหสุํ โข, ภิกฺขุ, ตยา ปุพฺเพ สมณพฺราหฺมณา โลกสฺมิํ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา ปฏิชานมานา. เต สาวเก อุปเนสุํ ปพฺพชิเต, สาวกานํ ธมฺมํ เทเสสุํ ปพฺพชิตานํ, สาวเกสุ เคธิมกํสุ ปพฺพชิเตสุ, เต สาวเก อุปเนตฺวา ปพฺพชิเต, สาวกานํ ธมฺมํ เทเสตฺวา ปพฺพชิตานํ, สาวเกสุ เคธิตจิตฺตา ปพฺพชิเตสุ, กายสฺส เภทา ปาณุปจฺเฉทา หีเน กาเย ปติฏฺฐิตา. อเหสุํ เย ปน, ภิกฺขุ, ตยา ปุพฺเพ สมณพฺราหฺมณา โลกสฺมิํ อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา ปฏิชานมานา. เต น สาวเก อุปเนสุํ น ปพฺพชิเต, น สาวกานํ ธมฺมํ เทเสสุํ น ปพฺพชิตานํ, น สาวเกสุ เคธิมกํสุ น ปพฺพชิเตสุ, เต น สาวเก อุปเนตฺวา น ปพฺพชิเต, น สาวกานํ ธมฺมํ เทเสตฺวา น ปพฺพชิตานํ, น สาวเกสุ เคธิตจิตฺตา น ปพฺพชิเตสุ, กายสฺส เภทา ปาณุปจฺเฉทา ปณีเต กาเย ปติฏฺฐิตา. ตํ ตาหํ, ภิกฺขุ, เอวํ วทามิ— อิงฺฆ ตฺวํ, มาริส, อปฺโปสฺสุกฺโก ทิฏฺฐธมฺมสุขวิหารมนุยุตฺโต วิหรสฺสุ, อนกฺขาตํ กุสลญฺหิ, มาริส, มา ปรํ โอวทาหี’ติ.
เอวํ วุตฺเต, อหํ, ภิกฺขเว, มารํ ปาปิมนฺตํ เอตทโวจํ— ‘ชานามิ โข ตาหํ, ปาปิม, มา ตฺวํ มญฺญิตฺโถ— “น มํ ชานาตี”ติ. มาโร ตฺวมสิ, ปาปิม. น มํ ตฺวํ, ปาปิม, หิตานุกมฺปี เอวํ วเทสิ; อหิตานุกมฺปี มํ ตฺวํ, ปาปิม, เอวํ วเทสิ. ตุยฺหญฺหิ, ปาปิม, เอวํ โหติ— “เยสํ สมโณ โคตโม ธมฺมํ เทเสสฺสติ, เต เม วิสยํ อุปาติวตฺติสฺสนฺตี”ติ. อสมฺมาสมฺพุทฺธาว ปน เต, ปาปิม, สมานา สมฺมาสมฺพุทฺธามฺหาติ ปฏิชานิํสุ. อหํ โข ปน, ปาปิม, สมฺมาสมฺพุทฺโธว สมาโน สมฺมาสมฺพุทฺโธมฺหีติ ปฏิชานามิ. เทเสนฺโตปิ หิ, ปาปิม, ตถาคโต สาวกานํ ธมฺมํ ตาทิโสว อเทเสนฺโตปิ หิ, ปาปิม, ตถาคโต สาวกานํ ธมฺมํ ตาทิโสว. อุปเนนฺโตปิ หิ, ปาปิม, ตถาคโต สาวเก ตาทิโสว, อนุปเนนฺโตปิ หิ, ปาปิม, ตถาคโต สาวเก ตาทิโสว. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถาคตสฺส, ปาปิม, เย อาสวา สํกิเลสิกา โปโนพฺภวิกา สทรา ทุกฺขวิปากา อายติํ ชาติชรามรณิยา— เต ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายติํ อนุปฺปาทธมฺมา. เสยฺยถาปิ, ปาปิม, ตาโล มตฺถกจฺฉินฺโน อภพฺโพ ปุน วิรูฬฺหิยา; เอวเมว โข, ปาปิม, ตถาคตสฺส เย อาสวา สํกิเลสิกา โปโนพฺภวิกา สทรา ทุกฺขวิปากา อายติํ ชาติชรามรณิยา— เต ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายติํ อนุปฺปาทธมฺมา’ติ.
อิติ หิทํ มารสฺส จ อนาลปนตาย พฺรหฺมุโน จ อภินิมนฺตนตาย, ตสฺมา อิมสฺส เวยฺยากรณสฺส พฺรหฺมนิมนฺตนิกนฺเตฺวว อธิวจนนฺ”ติ.
พฺรหฺมนิมนฺตนิกสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ นวมํ.