1.2 ปญฺจตฺตยสุตฺต
เอวํ เม สุตํ— เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ— “ภิกฺขโว”ติ. “ภทนฺเต”ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจโสฺสสุํ. ภควา เอตทโวจ— “สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา อปรนฺตกปฺปิกา อปรนฺตานุทิฏฺฐิโน อปรนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิวุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ. ‘สญฺญี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา’ติ— อิตฺเถเก อภิวทนฺติ; ‘อสญฺญี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา’ติ— อิตฺเถเก อภิวทนฺติ; ‘เนวสญฺญีนาสญฺญี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา’ติ— อิตฺเถเก อภิวทนฺติ; สโต วา ปน สตฺตสฺส อุจฺเฉทํ วินาสํ วิภวํ ปญฺญเปนฺติ, ทิฏฺฐธมฺมนิพฺพานํ วา ปเนเก อภิวทนฺติ. อิติ สนฺตํ วา อตฺตานํ ปญฺญเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, สโต วา ปน สตฺตสฺส อุจฺเฉทํ วินาสํ วิภวํ ปญฺญเปนฺติ, ทิฏฺฐธมฺมนิพฺพานํ วา ปเนเก อภิวทนฺติ. อิติ อิมานิ ปญฺจ หุตฺวา ตีณิ โหนฺติ, ตีณิ หุตฺวา ปญฺจ โหนฺติ— อยมุทฺเทโส ปญฺจตฺตยสฺส.
ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา สญฺญิํ อตฺตานํ ปญฺญเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, รูปิํ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สญฺญิํ อตฺตานํ ปญฺญเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, อรูปิํ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สญฺญิํ อตฺตานํ ปญฺญเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, รูปิญฺจ อรูปิญฺจ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สญฺญิํ อตฺตานํ ปญฺญเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, เนวรูปิํ นารูปิํ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สญฺญิํ อตฺตานํ ปญฺญเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, เอกตฺตสญฺญิํ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สญฺญิํ อตฺตานํ ปญฺญเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, นานตฺตสญฺญิํ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สญฺญิํ อตฺตานํ ปญฺญเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, ปริตฺตสญฺญิํ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สญฺญิํ อตฺตานํ ปญฺญเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, อปฺปมาณสญฺญิํ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สญฺญิํ อตฺตานํ ปญฺญเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, เอตํ วา ปเนเกสํ อุปาติวตฺตตํ วิญฺญาณกสิณเมเก อภิวทนฺติ อปฺปมาณํ อาเนญฺชํ. ตยิทํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต อภิชานาติ. เย โข เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สญฺญิํ อตฺตานํ ปญฺญเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, รูปิํ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สญฺญิํ อตฺตานํ ปญฺญเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, อรูปิํ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สญฺญิํ อตฺตานํ ปญฺญเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, รูปิญฺจ อรูปิญฺจ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สญฺญิํ อตฺตานํ ปญฺญเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, เนวรูปิํ นารูปิํ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สญฺญิํ อตฺตานํ ปญฺญเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, เอกตฺตสญฺญิํ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สญฺญิํ อตฺตานํ ปญฺญเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, นานตฺตสญฺญิํ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สญฺญิํ อตฺตานํ ปญฺญเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, ปริตฺตสญฺญิํ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สญฺญิํ อตฺตานํ ปญฺญเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, อปฺปมาณสญฺญิํ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สญฺญิํ อตฺตานํ ปญฺญเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, ยา วา ปเนตาสํ สญฺญานํ ปริสุทฺธา ปรมา อคฺคา อนุตฺตริยา อกฺขายติ— ยทิ รูปสญฺญานํ ยทิ อรูปสญฺญานํ ยทิ เอกตฺตสญฺญานํ ยทิ นานตฺตสญฺญานํ. ‘นตฺถิ กิญฺจี’ติ อากิญฺจญฺญายตนเมเก อภิวทนฺติ อปฺปมาณํ อาเนญฺชํ. ‘ตยิทํ สงฺขตํ โอฬาริกํ อตฺถิ โข ปน สงฺขารานํ นิโรโธ อตฺเถตนฺ’ติ— อิติ วิทิตฺวา ตสฺส นิสฺสรณทสฺสาวี ตถาคโต ตทุปาติวตฺโต.
ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา อสญฺญิํ อตฺตานํ ปญฺญเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, รูปิํ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อสญฺญิํ อตฺตานํ ปญฺญเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, อรูปิํ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อสญฺญิํ อตฺตานํ ปญฺญเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, รูปิญฺจ อรูปิญฺจ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อสญฺญิํ อตฺตานํ ปญฺญเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, เนวรูปิํ นารูปิํ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อสญฺญิํ อตฺตานํ ปญฺญเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา. ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา สญฺญิํ อตฺตานํ ปญฺญเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา เตสเมเต ปฏิกฺโกสนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? สญฺญา โรโค สญฺญา คณฺโฑ สญฺญา สลฺลํ, เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ— ‘อสญฺญนฺ’ติ. ตยิทํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต อภิชานาติ เย โข เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อสญฺญิํ อตฺตานํ ปญฺญเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, รูปิํ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อสญฺญิํ อตฺตานํ ปญฺญเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, อรูปิํ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อสญฺญิํ อตฺตานํ ปญฺญเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, รูปิญฺจ อรูปิญฺจ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อสญฺญิํ อตฺตานํ ปญฺญเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, เนวรูปิํ นารูปิํ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อสญฺญิํ อตฺตานํ ปญฺญเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา. โย หิ โกจิ, ภิกฺขเว, สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เอวํ วเทยฺย— ‘อหมญฺญตฺร รูปา, อญฺญตฺร เวทนาย, อญฺญตฺร สญฺญาย, อญฺญตฺร สงฺขาเรหิ, วิญฺญาณสฺส อาคติํ วา คติํ วา จุติํ วา อุปปตฺติํ วา วุทฺธิํ วา วิรูฬฺหิํ วา เวปุลฺลํ วา ปญฺญเปสฺสามี’ติ— เนตํ ฐานํ วิชฺชติ. ‘ตยิทํ สงฺขตํ โอฬาริกํ อตฺถิ โข ปน สงฺขารานํ นิโรโธ อตฺเถตนฺ’ติ— อิติ วิทิตฺวา ตสฺส นิสฺสรณทสฺสาวี ตถาคโต ตทุปาติวตฺโต.
ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา เนวสญฺญีนาสญฺญิํ อตฺตานํ ปญฺญเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, รูปิํ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา เนวสญฺญีนาสญฺญิํ อตฺตานํ ปญฺญเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, อรูปิํ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา เนวสญฺญีนาสญฺญิํ อตฺตานํ ปญฺญเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, รูปิญฺจ อรูปิญฺจ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา เนวสญฺญีนาสญฺญิํ อตฺตานํ ปญฺญเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, เนวรูปิํ นารูปิํ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา เนวสญฺญีนาสญฺญิํ อตฺตานํ ปญฺญเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา. ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา สญฺญิํ อตฺตานํ ปญฺญเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา เตสเมเต ปฏิกฺโกสนฺติ, เยปิ เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อสญฺญิํ อตฺตานํ ปญฺญเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา เตสเมเต ปฏิกฺโกสนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? สญฺญา โรโค สญฺญา คณฺโฑ สญฺญา สลฺลํ, อสญฺญา สมฺโมโห, เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ— ‘เนวสญฺญานาสญฺญนฺ’ติ. ตยิทํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต อภิชานาติ. เย โข เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา เนวสญฺญีนาสญฺญิํ อตฺตานํ ปญฺญเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, รูปิํ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา เนวสญฺญีนาสญฺญิํ อตฺตานํ ปญฺญเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, อรูปิํ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา เนวสญฺญีนาสญฺญิํ อตฺตานํ ปญฺญเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, รูปิญฺจ อรูปิญฺจ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา เนวสญฺญีนาสญฺญิํ อตฺตานํ ปญฺญเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา, เนวรูปิํ นารูปิํ วา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา เนวสญฺญีนาสญฺญิํ อตฺตานํ ปญฺญเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา. เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา ทิฏฺฐสุตมุตวิญฺญาตพฺพสงฺขารมตฺเตน เอตสฺส อายตนสฺส อุปสมฺปทํ ปญฺญเปนฺติ, พฺยสนเญฺหตํ, ภิกฺขเว, อกฺขายติ เอตสฺส อายตนสฺส อุปสมฺปทาย. น เหตํ, ภิกฺขเว, อายตนํ สงฺขารสมาปตฺติปตฺตพฺพมกฺขายติ; สงฺขาราวเสสสมาปตฺติปตฺตพฺพเมตํ, ภิกฺขเว, อายตนมกฺขายติ. ‘ตยิทํ สงฺขตํ โอฬาริกํ อตฺถิ โข ปน สงฺขารานํ นิโรโธ อตฺเถตนฺ’ติ— อิติ วิทิตฺวา ตสฺส นิสฺสรณทสฺสาวี ตถาคโต ตทุปาติวตฺโต.
ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา สโต สตฺตสฺส อุจฺเฉทํ วินาสํ วิภวํ ปญฺญเปนฺติ, ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา สญฺญิํ อตฺตานํ ปญฺญเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา เตสเมเต ปฏิกฺโกสนฺติ, เยปิ เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อสญฺญิํ อตฺตานํ ปญฺญเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา เตสเมเต ปฏิกฺโกสนฺติ, เยปิ เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา เนวสญฺญีนาสญฺญิํ อตฺตานํ ปญฺญเปนฺติ อโรคํ ปรํ มรณา เตสเมเต ปฏิกฺโกสนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? สพฺเพปิเม โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา อุทฺธํ สรํ อาสตฺติํเยว อภิวทนฺติ— ‘อิติ เปจฺจ ภวิสฺสาม, อิติ เปจฺจ ภวิสฺสามา’ติ. เสยฺยถาปิ นาม วาณิชสฺส วาณิชฺชาย คจฺฉโต เอวํ โหติ— ‘อิโต เม อิทํ ภวิสฺสติ, อิมินา อิทํ ลจฺฉามี’ติ; เอวเมวิเม โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา วาณิชูปมา มญฺเญ ปฏิภนฺติ— ‘อิติ เปจฺจ ภวิสฺสาม, อิติ เปจฺจ ภวิสฺสามา’ติ. ตยิทํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต อภิชานาติ. เย โข เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สโต สตฺตสฺส อุจฺเฉทํ วินาสํ วิภวํ ปญฺญเปนฺติ เต สกฺกายภยา สกฺกายปริเชคุจฺฉา สกฺกายญฺเญว อนุปริธาวนฺติ อนุปริวตฺตนฺติ. เสยฺยถาปิ นาม สา คทฺทุลพทฺโธ ทเฬฺห ถมฺเภ วา ขิเล วา อุปนิพทฺโธ, ตเมว ถมฺภํ วา ขิลํ วา อนุปริธาวติ อนุปริวตฺตติ; เอวเมวิเม โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สกฺกายภยา สกฺกายปริเชคุจฺฉา สกฺกายญฺเญว อนุปริธาวนฺติ อนุปริวตฺตนฺติ. ‘ตยิทํ สงฺขตํ โอฬาริกํ อตฺถิ โข ปน สงฺขารานํ นิโรโธ อตฺเถตนฺ’ติ— อิติ วิทิตฺวา ตสฺส นิสฺสรณทสฺสาวี ตถาคโต ตทุปาติวตฺโต.
เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา อปรนฺตกปฺปิกา อปรนฺตานุทิฏฺฐิโน อปรนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิวุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ, สพฺเพ เต อิมาเนว ปญฺจายตนานิ อภิวทนฺติ เอเตสํ วา อญฺญตรํ.
สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา ปุพฺพนฺตกปฺปิกา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺฐิโน ปุพฺพนฺตํ อารพฺภ อเนกวิหิตานิ อธิวุตฺติปทานิ อภิวทนฺติ. ‘สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’ติ— อิตฺเถเก อภิวทนฺติ, ‘อสสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’ติ— อิตฺเถเก อภิวทนฺติ, ‘สสฺสโต จ อสสฺสโต จ อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’ติ— อิตฺเถเก อภิวทนฺติ, ‘เนวสสฺสโต นาสสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’ติ— อิตฺเถเก อภิวทนฺติ, ‘อนฺตวา อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’ติ— อิตฺเถเก อภิวทนฺติ, ‘อนนฺตวา อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’ติ— อิตฺเถเก อภิวทนฺติ, ‘อนฺตวา จ อนนฺตวา จ อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’ติ— อิตฺเถเก อภิวทนฺติ, ‘เนวนฺตวา นานนฺตวา อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’ติ— อิตฺเถเก อภิวทนฺติ, ‘เอกตฺตสญฺญี อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’ติ— อิตฺเถเก อภิวทนฺติ, ‘นานตฺตสญฺญี อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’ติ— อิตฺเถเก อภิวทนฺติ, ‘ปริตฺตสญฺญี อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’ติ— อิตฺเถเก อภิวทนฺติ, ‘อปฺปมาณสญฺญี อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’ติ— อิตฺเถเก อภิวทนฺติ, ‘เอกนฺตสุขี อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’ติ— อิตฺเถเก อภิวทนฺติ, ‘เอกนฺตทุกฺขี อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’ติ— อิตฺเถเก อภิวทนฺติ, ‘สุขทุกฺขี อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’ติ— อิตฺเถเก อภิวทนฺติ, ‘อทุกฺขมสุขี อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’ติ— อิตฺเถเก อภิวทนฺติ.
ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺฐิโน— ‘สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’ติ, เตสํ วต อญฺญเตฺรว สทฺธาย อญฺญตฺร รุจิยา อญฺญตฺร อนุสฺสวา อญฺญตฺร อาการปริวิตกฺกา อญฺญตฺร ทิฏฺฐินิชฺฌานกฺขนฺติยา ปจฺจตฺตํเยว ญาณํ ภวิสฺสติ ปริสุทฺธํ ปริโยทาตนฺติ— เนตํ ฐานํ วิชฺชติ. ปจฺจตฺตํ โข ปน, ภิกฺขเว, ญาเณ อสติ ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต ยทปิ เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา ตตฺถ ญาณภาคมตฺตเมว ปริโยทเปนฺติ ตทปิ เตสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ อุปาทานมกฺขายติ. ‘ตยิทํ สงฺขตํ โอฬาริกํ อตฺถิ โข ปน สงฺขารานํ นิโรโธ อตฺเถตนฺ’ติ— อิติ วิทิตฺวา ตสฺส นิสฺสรณทสฺสาวี ตถาคโต ตทุปาติวตฺโต.
ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต สมณพฺราหฺมณา เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺฐิโน— ‘อสสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ’ติ …เป… สสฺสโต จ อสสฺสโต จ อตฺตา จ โลโก จ… เนวสสฺสโต นาสสฺสโต อตฺตา จ โลโก จ… อนฺตวา อตฺตา จ โลโก จ… อนนฺตวา อตฺตา จ โลโก จ… อนฺตวา จ อนนฺตวา จ อตฺตา จ โลโก จ… เนวนฺตวา นานนฺตวา อตฺตา จ โลโก จ… เอกตฺตสญฺญี อตฺตา จ โลโก จ… นานตฺตสญฺญี อตฺตา จ โลโก จ… ปริตฺตสญฺญี อตฺตา จ โลโก จ… อปฺปมาณสญฺญี อตฺตา จ โลโก จ… เอกนฺตสุขี อตฺตา จ โลโก จ… เอกนฺตทุกฺขี อตฺตา จ โลโก จ… สุขทุกฺขี อตฺตา จ โลโก จ… อทุกฺขมสุขี อตฺตา จ โลโก จ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺติ, เตสํ วต อญฺญเตฺรว สทฺธาย อญฺญตฺร รุจิยา อญฺญตฺร อนุสฺสวา อญฺญตฺร อาการปริวิตกฺกา อญฺญตฺร ทิฏฺฐินิชฺฌานกฺขนฺติยา ปจฺจตฺตํเยว ญาณํ ภวิสฺสติ ปริสุทฺธํ ปริโยทาตนฺติ— เนตํ ฐานํ วิชฺชติ. ปจฺจตฺตํ โข ปน, ภิกฺขเว, ญาเณ อสติ ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต ยทปิ เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา ตตฺถ ญาณภาคมตฺตเมว ปริโยทเปนฺติ ตทปิ เตสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ อุปาทานมกฺขายติ. ‘ตยิทํ สงฺขตํ โอฬาริกํ อตฺถิ โข ปน สงฺขารานํ นิโรโธ อตฺเถตนฺ’ติ— อิติ วิทิตฺวา ตสฺส นิสฺสรณทสฺสาวี ตถาคโต ตทุปาติวตฺโต.
อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺฐีนญฺจ ปฏินิสฺสคฺคา, อปรนฺตานุทิฏฺฐีนญฺจ ปฏินิสฺสคฺคา, สพฺพโส กามสํโยชนานํ อนธิฏฺฐานา, ปวิเวกํ ปีติํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ— ‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ ปวิเวกํ ปีติํ อุปสมฺปชฺช วิหรามี’ติ. ตสฺส สา ปวิเวกา ปีติ นิรุชฺฌติ. ปวิเวกาย ปีติยา นิโรธา อุปฺปชฺชติ โทมนสฺสํ, โทมนสฺสสฺส นิโรธา อุปฺปชฺชติ ปวิเวกา ปีติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ยํ ฉายา ชหติ ตํ อาตโป ผรติ, ยํ อาตโป ชหติ ตํ ฉายา ผรติ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ปวิเวกาย ปีติยา นิโรธา อุปฺปชฺชติ โทมนสฺสํ, โทมนสฺสสฺส นิโรธา อุปฺปชฺชติ ปวิเวกา ปีติ. ตยิทํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต อภิชานาติ. อยํ โข ภวํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺฐีนญฺจ ปฏินิสฺสคฺคา, อปรนฺตานุทิฏฺฐีนญฺจ ปฏินิสฺสคฺคา, สพฺพโส กามสํโยชนานํ อนธิฏฺฐานา, ปวิเวกํ ปีติํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ— ‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ ปวิเวกํ ปีติํ อุปสมฺปชฺช วิหรามี’ติ. ตสฺส สา ปวิเวกา ปีติ นิรุชฺฌติ. ปวิเวกาย ปีติยา นิโรธา อุปฺปชฺชติ โทมนสฺสํ, โทมนสฺสสฺส นิโรธา อุปฺปชฺชติ ปวิเวกา ปีติ. ‘ตยิทํ สงฺขตํ โอฬาริกํ อตฺถิ โข ปน สงฺขารานํ นิโรโธ อตฺเถตนฺ’ติ— อิติ วิทิตฺวา ตสฺส นิสฺสรณทสฺสาวี ตถาคโต ตทุปาติวตฺโต.
อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺฐีนญฺจ ปฏินิสฺสคฺคา, อปรนฺตานุทิฏฺฐีนญฺจ ปฏินิสฺสคฺคา, สพฺพโส กามสํโยชนานํ อนธิฏฺฐานา, ปวิเวกาย ปีติยา สมติกฺกมา นิรามิสํ สุขํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ— ‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ นิรามิสํ สุขํ อุปสมฺปชฺช วิหรามี’ติ. ตสฺส ตํ นิรามิสํ สุขํ นิรุชฺฌติ. นิรามิสสฺส สุขสฺส นิโรธา อุปฺปชฺชติ ปวิเวกา ปีติ, ปวิเวกาย ปีติยา นิโรธา อุปฺปชฺชติ นิรามิสํ สุขํ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ยํ ฉายา ชหติ ตํ อาตโป ผรติ, ยํ อาตโป ชหติ ตํ ฉายา ผรติ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, นิรามิสสฺส สุขสฺส นิโรธา อุปฺปชฺชติ ปวิเวกา ปีติ, ปวิเวกาย ปีติยา นิโรธา อุปฺปชฺชติ นิรามิสํ สุขํ. ตยิทํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต อภิชานาติ. อยํ โข ภวํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺฐีนญฺจ ปฏินิสฺสคฺคา, อปรนฺตานุทิฏฺฐีนญฺจ ปฏินิสฺสคฺคา, สพฺพโส กามสํโยชนานํ อนธิฏฺฐานา, ปวิเวกาย ปีติยา สมติกฺกมา, นิรามิสํ สุขํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ— ‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ นิรามิสํ สุขํ อุปสมฺปชฺช วิหรามี’ติ. ตสฺส ตํ นิรามิสํ สุขํ นิรุชฺฌติ. นิรามิสสฺส สุขสฺส นิโรธา อุปฺปชฺชติ ปวิเวกา ปีติ, ปวิเวกาย ปีติยา นิโรธา อุปฺปชฺชติ นิรามิสํ สุขํ. ‘ตยิทํ สงฺขตํ โอฬาริกํ อตฺถิ โข ปน สงฺขารานํ นิโรโธ อตฺเถตนฺ’ติ— อิติ วิทิตฺวา ตสฺส นิสฺสรณทสฺสาวี ตถาคโต ตทุปาติวตฺโต.
อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺฐีนญฺจ ปฏินิสฺสคฺคา, อปรนฺตานุทิฏฺฐีนญฺจ ปฏินิสฺสคฺคา, สพฺพโส กามสํโยชนานํ อนธิฏฺฐานา, ปวิเวกาย ปีติยา สมติกฺกมา, นิรามิสสฺส สุขสฺส สมติกฺกมา, อทุกฺขมสุขํ เวทนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ— ‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ อทุกฺขมสุขํ เวทนํ อุปสมฺปชฺช วิหรามี’ติ. ตสฺส สา อทุกฺขมสุขา เวทนา นิรุชฺฌติ. อทุกฺขมสุขาย เวทนาย นิโรธา อุปฺปชฺชติ นิรามิสํ สุขํ, นิรามิสสฺส สุขสฺส นิโรธา อุปฺปชฺชติ อทุกฺขมสุขา เวทนา. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ยํ ฉายา ชหติ ตํ อาตโป ผรติ, ยํ อาตโป ชหติ ตํ ฉายา ผรติ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, อทุกฺขมสุขาย เวทนาย นิโรธา อุปฺปชฺชติ นิรามิสํ สุขํ, นิรามิสสฺส สุขสฺส นิโรธา อุปฺปชฺชติ อทุกฺขมสุขา เวทนา. ตยิทํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต อภิชานาติ. อยํ โข ภวํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺฐีนญฺจ ปฏินิสฺสคฺคา, อปรนฺตานุทิฏฺฐีนญฺจ ปฏินิสฺสคฺคา, สพฺพโส กามสํโยชนานํ อนธิฏฺฐานา, ปวิเวกาย ปีติยา สมติกฺกมา, นิรามิสสฺส สุขสฺส สมติกฺกมา, อทุกฺขมสุขํ เวทนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ— ‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ อทุกฺขมสุขํ เวทนํ อุปสมฺปชฺช วิหรามี’ติ. ตสฺส สา อทุกฺขมสุขา เวทนา นิรุชฺฌติ. อทุกฺขมสุขาย เวทนาย นิโรธา อุปฺปชฺชติ นิรามิสํ สุขํ, นิรามิสสฺส สุขสฺส นิโรธา อุปฺปชฺชติ อทุกฺขมสุขา เวทนา. ‘ตยิทํ สงฺขตํ โอฬาริกํ อตฺถิ โข ปน สงฺขารานํ นิโรโธ อตฺเถตนฺ’ติ— อิติ วิทิตฺวา ตสฺส นิสฺสรณทสฺสาวี ตถาคโต ตทุปาติวตฺโต.
อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺฐีนญฺจ ปฏินิสฺสคฺคา, อปรนฺตานุทิฏฺฐีนญฺจ ปฏินิสฺสคฺคา, สพฺพโส กามสํโยชนานํ อนธิฏฺฐานา, ปวิเวกาย ปีติยา สมติกฺกมา, นิรามิสสฺส สุขสฺส สมติกฺกมา, อทุกฺขมสุขาย เวทนาย สมติกฺกมา— ‘สนฺโตหมสฺมิ, นิพฺพุโตหมสฺมิ, อนุปาทาโนหมสฺมี’ติ สมนุปสฺสติ. ตยิทํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต อภิชานาติ. อยํ โข ภวํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺฐีนญฺจ ปฏินิสฺสคฺคา, อปรนฺตานุทิฏฺฐีนญฺจ ปฏินิสฺสคฺคา, สพฺพโส กามสํโยชนานํ อนธิฏฺฐานา, ปวิเวกาย ปีติยา สมติกฺกมา, นิรามิสสฺส สุขสฺส สมติกฺกมา, อทุกฺขมสุขาย เวทนาย สมติกฺกมา— ‘สนฺโตหมสฺมิ, นิพฺพุโตหมสฺมิ, อนุปาทาโนหมสฺมี’ติ สมนุปสฺสติ; อทฺธา อยมายสฺมา นิพฺพานสปฺปายํเยว ปฏิปทํ อภิวทติ. อถ จ ปนายํ ภวํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ปุพฺพนฺตานุทิฏฺฐิํ วา อุปาทิยมาโน อุปาทิยติ, อปรนฺตานุทิฏฺฐิํ วา อุปาทิยมาโน อุปาทิยติ, กามสํโยชนํ วา อุปาทิยมาโน อุปาทิยติ, ปวิเวกํ วา ปีติํ อุปาทิยมาโน อุปาทิยติ, นิรามิสํ วา สุขํ อุปาทิยมาโน อุปาทิยติ, อทุกฺขมสุขํ วา เวทนํ อุปาทิยมาโน อุปาทิยติ. ยญฺจ โข อยมายสฺมา— ‘สนฺโตหมสฺมิ, นิพฺพุโตหมสฺมิ, อนุปาทาโนหมสฺมี’ติ สมนุปสฺสติ ตทปิ อิมสฺส โภโต สมณสฺส พฺราหฺมณสฺส อุปาทานมกฺขายติ. ‘ตยิทํ สงฺขตํ โอฬาริกํ อตฺถิ โข ปน สงฺขารานํ นิโรโธ อตฺเถตนฺ’ติ— อิติ วิทิตฺวา ตสฺส นิสฺสรณทสฺสาวี ตถาคโต ตทุปาติวตฺโต.
อิทํ โข ปน, ภิกฺขเว, ตถาคเตน อนุตฺตรํ สนฺติวรปทํ อภิสมฺพุทฺธํ ยทิทํ— ฉนฺนํ ผสฺสายตนานํ สมุทยญฺจ อตฺถงฺคมญฺจ อสฺสาทญฺจ อาทีนวญฺจ นิสฺสรณญฺจ ยถาภูตํ วิทิตฺวา อนุปาทาวิโมกฺโข”ติ.
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติ.
ปญฺจตฺตยสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ ทุติยํ.