1.6 อาเนญฺชสปฺปายสุตฺต
เอวํ เม สุตํ— เอกํ สมยํ ภควา กุรูสุ วิหรติ กมฺมาสธมฺมํ นาม กุรูนํ นิคโม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ— “ภิกฺขโว”ติ. “ภทนฺเต”ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจโสฺสสุํ. ภควา เอตทโวจ—
“อนิจฺจา, ภิกฺขเว, กามา ตุจฺฉา มุสา โมสธมฺมา. มายากตเมตํ, ภิกฺขเว, พาลลาปนํ. เย จ ทิฏฺฐธมฺมิกา กามา, เย จ สมฺปรายิกา กามา; ยา จ ทิฏฺฐธมฺมิกา กามสญฺญา, ยา จ สมฺปรายิกา กามสญฺญา— อุภยเมตํ มารเธยฺยํ, มารเสฺสส วิสโย, มารเสฺสส นิวาโป, มารเสฺสส โคจโร. เอตฺเถเต ปาปกา อกุสลา มานสา อภิชฺฌาปิ พฺยาปาทาปิ สารมฺภาปิ สํวตฺตนฺติ. เตว อริยสาวกสฺส อิธมนุสิกฺขโต อนฺตรายาย สมฺภวนฺติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ— ‘เย จ ทิฏฺฐธมฺมิกา กามา, เย จ สมฺปรายิกา กามา; ยา จ ทิฏฺฐธมฺมิกา กามสญฺญา, ยา จ สมฺปรายิกา กามสญฺญา— อุภยเมตํ มารเธยฺยํ, มารเสฺสส วิสโย, มารเสฺสส นิวาโป, มารเสฺสส โคจโร. เอตฺเถเต ปาปกา อกุสลา มานสา อภิชฺฌาปิ พฺยาปาทาปิ สารมฺภาปิ สํวตฺตนฺติ, เตว อริยสาวกสฺส อิธมนุสิกฺขโต อนฺตรายาย สมฺภวนฺติ. ยนฺนูนาหํ วิปุเลน มหคฺคเตน เจตสา วิหเรยฺยํ อภิภุยฺย โลกํ อธิฏฺฐาย มนสา. วิปุเลน หิ เม มหคฺคเตน เจตสา วิหรโต อภิภุยฺย โลกํ อธิฏฺฐาย มนสา เย ปาปกา อกุสลา มานสา อภิชฺฌาปิ พฺยาปาทาปิ สารมฺภาปิ เต น ภวิสฺสนฺติ. เตสํ ปหานา อปริตฺตญฺจ เม จิตฺตํ ภวิสฺสติ อปฺปมาณํ สุภาวิตนฺ’ติ. ตสฺส เอวํปฏิปนฺนสฺส ตพฺพหุลวิหาริโน อายตเน จิตฺตํ ปสีทติ. สมฺปสาเท สติ เอตรหิ วา อาเนญฺชํ สมาปชฺชติ ปญฺญาย วา อธิมุจฺจติ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา. ฐานเมตํ วิชฺชติ ยํ ตํสํวตฺตนิกํ วิญฺญาณํ อสฺส อาเนญฺชูปคํ. อยํ, ภิกฺขเว, ปฐมา อาเนญฺชสปฺปายา ปฏิปทา อกฺขายติ.
ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ— ‘เย จ ทิฏฺฐธมฺมิกา กามา, เย จ สมฺปรายิกา กามา; ยา จ ทิฏฺฐธมฺมิกา กามสญฺญา, ยา จ สมฺปรายิกา กามสญฺญา; ยํ กิญฺจิ รูปํ สพฺพํ รูปํ จตฺตาริ จ มหาภูตานิ, จตุนฺนญฺจ มหาภูตานํ อุปาทายรูปนฺ’ติ. ตสฺส เอวํปฏิปนฺนสฺส ตพฺพหุลวิหาริโน อายตเน จิตฺตํ ปสีทติ. สมฺปสาเท สติ เอตรหิ วา อาเนญฺชํ สมาปชฺชติ ปญฺญาย วา อธิมุจฺจติ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา. ฐานเมตํ วิชฺชติ ยํ ตํสํวตฺตนิกํ วิญฺญาณํ อสฺส อาเนญฺชูปคํ. อยํ, ภิกฺขเว, ทุติยา อาเนญฺชสปฺปายา ปฏิปทา อกฺขายติ.
ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ— ‘เย จ ทิฏฺฐธมฺมิกา กามา, เย จ สมฺปรายิกา กามา; ยา จ ทิฏฺฐธมฺมิกา กามสญฺญา, ยา จ สมฺปรายิกา กามสญฺญา; เย จ ทิฏฺฐธมฺมิกา รูปา, เย จ สมฺปรายิกา รูปา; ยา จ ทิฏฺฐธมฺมิกา รูปสญฺญา, ยา จ สมฺปรายิกา รูปสญฺญา— อุภยเมตํ อนิจฺจํ. ยทนิจฺจํ ตํ นาลํ อภินนฺทิตุํ, นาลํ อภิวทิตุํ, นาลํ อชฺโฌสิตุนฺ’ติ. ตสฺส เอวํปฏิปนฺนสฺส ตพฺพหุลวิหาริโน อายตเน จิตฺตํ ปสีทติ. สมฺปสาเท สติ เอตรหิ วา อาเนญฺชํ สมาปชฺชติ ปญฺญาย วา อธิมุจฺจติ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา. ฐานเมตํ วิชฺชติ ยํ ตํสํวตฺตนิกํ วิญฺญาณํ อสฺส อาเนญฺชูปคํ. อยํ, ภิกฺขเว, ตติยา อาเนญฺชสปฺปายา ปฏิปทา อกฺขายติ.
ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ— ‘เย จ ทิฏฺฐธมฺมิกา กามา, เย จ สมฺปรายิกา กามา; ยา จ ทิฏฺฐธมฺมิกา กามสญฺญา, ยา จ สมฺปรายิกา กามสญฺญา; เย จ ทิฏฺฐธมฺมิกา รูปา, เย จ สมฺปรายิกา รูปา; ยา จ ทิฏฺฐธมฺมิกา รูปสญฺญา, ยา จ สมฺปรายิกา รูปสญฺญา; ยา จ อาเนญฺชสญฺญา— สพฺพา สญฺญา. ยตฺเถตา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ— ยทิทํ อากิญฺจญฺญายตนนฺ’ติ. ตสฺส เอวํปฏิปนฺนสฺส ตพฺพหุลวิหาริโน อายตเน จิตฺตํ ปสีทติ. สมฺปสาเท สติ เอตรหิ วา อากิญฺจญฺญายตนํ สมาปชฺชติ ปญฺญาย วา อธิมุจฺจติ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา. ฐานเมตํ วิชฺชติ ยํ ตํสํวตฺตนิกํ วิญฺญาณํ อสฺส อากิญฺจญฺญายตนูปคํ. อยํ, ภิกฺขเว, ปฐมา อากิญฺจญฺญายตนสปฺปายา ปฏิปทา อกฺขายติ.
ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อรญฺญคโต วา รุกฺขมูลคโต วา สุญฺญาคารคโต วา อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ— ‘สุญฺญมิทํ อตฺเตน วา อตฺตนิเยน วา’ติ. ตสฺส เอวํปฏิปนฺนสฺส ตพฺพหุลวิหาริโน อายตเน จิตฺตํ ปสีทติ. สมฺปสาเท สติ เอตรหิ วา อากิญฺจญฺญายตนํ สมาปชฺชติ ปญฺญาย วา อธิมุจฺจติ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา. ฐานเมตํ วิชฺชติ ยํ ตํสํวตฺตนิกํ วิญฺญาณํ อสฺส อากิญฺจญฺญายตนูปคํ. อยํ, ภิกฺขเว, ทุติยา อากิญฺจญฺญายตนสปฺปายา ปฏิปทา อกฺขายติ.
ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ— ‘นาหํ กฺวจนิ กสฺสจิ กิญฺจนตสฺมิํ, น จ มม กฺวจนิ กิสฺมิญฺจิ กิญฺจนํ นตฺถี’ติ. ตสฺส เอวํปฏิปนฺนสฺส ตพฺพหุลวิหาริโน อายตเน จิตฺตํ ปสีทติ. สมฺปสาเท สติ เอตรหิ วา อากิญฺจญฺญายตนํ สมาปชฺชติ ปญฺญาย วา อธิมุจฺจติ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา. ฐานเมตํ วิชฺชติ ยํ ตํสํวตฺตนิกํ วิญฺญาณํ อสฺส อากิญฺจญฺญายตนูปคํ. อยํ, ภิกฺขเว, ตติยา อากิญฺจญฺญายตนสปฺปายา ปฏิปทา อกฺขายติ.
ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ— ‘เย จ ทิฏฺฐธมฺมิกา กามา, เย จ สมฺปรายิกา กามา; ยา จ ทิฏฺฐธมฺมิกา กามสญฺญา, ยา จ สมฺปรายิกา กามสญฺญา; เย จ ทิฏฺฐธมฺมิกา รูปา, เย จ สมฺปรายิกา รูปา; ยา จ ทิฏฺฐธมฺมิกา รูปสญฺญา, ยา จ สมฺปรายิกา รูปสญฺญา; ยา จ อาเนญฺชสญฺญา, ยา จ อากิญฺจญฺญายตนสญฺญา— สพฺพา สญฺญา. ยตฺเถตา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ— ยทิทํ เนวสญฺญานาสญฺญายตนนฺ’ติ. ตสฺส เอวํปฏิปนฺนสฺส ตพฺพหุลวิหาริโน อายตเน จิตฺตํ ปสีทติ. สมฺปสาเท สติ เอตรหิ วา เนวสญฺญานาสญฺญายตนํ สมาปชฺชติ ปญฺญาย วา อธิมุจฺจติ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา. ฐานเมตํ วิชฺชติ ยํ ตํสํวตฺตนิกํ วิญฺญาณํ อสฺส เนวสญฺญานาสญฺญายตนูปคํ. อยํ, ภิกฺขเว, เนวสญฺญานาสญฺญายตนสปฺปายา ปฏิปทา อกฺขายตี”ติ.
เอวํ วุตฺเต, อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ— “อิธ, ภนฺเต, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ— ‘โน จสฺส, โน จ เม สิยา; น ภวิสฺสติ, น เม ภวิสฺสติ; ยทตฺถิ ยํ, ภูตํ— ตํ ปชหามี’ติ. เอวํ อุเปกฺขํ ปฏิลภติ. ปรินิพฺพาเยยฺย นุ โข โส, ภนฺเต, ภิกฺขุ น วา ปรินิพฺพาเยยฺยา”ติ? “อเปตฺเถกจฺโจ, อานนฺท, ภิกฺขุ ปรินิพฺพาเยยฺย, อเปตฺเถกจฺโจ ภิกฺขุ น ปรินิพฺพาเยยฺยา”ติ. “โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ โก ปจฺจโย เยนเปตฺเถกจฺโจ ภิกฺขุ ปรินิพฺพาเยยฺย, อเปตฺเถกจฺโจ ภิกฺขุ น ปรินิพฺพาเยยฺยา”ติ? “อิธานนฺท, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ— ‘โน จสฺส, โน จ เม สิยา; น ภวิสฺสติ, น เม ภวิสฺสติ; ยทตฺถิ, ยํ ภูตํ— ตํ ปชหามี’ติ. เอวํ อุเปกฺขํ ปฏิลภติ. โส ตํ อุเปกฺขํ อภินนฺทติ, อภิวทติ, อชฺโฌสาย ติฏฺฐติ. ตสฺส ตํ อุเปกฺขํ อภินนฺทโต อภิวทโต อชฺโฌสาย ติฏฺฐโต ตนฺนิสฺสิตํ โหติ วิญฺญาณํ ตทุปาทานํ. เสาปาทาโน, อานนฺท, ภิกฺขุ น ปรินิพฺพายตี”ติ. “กหํ ปน โส, ภนฺเต, ภิกฺขุ อุปาทิยมาโน อุปาทิยตี”ติ? “เนวสญฺญานาสญฺญายตนํ, อานนฺทา”ติ. “อุปาทานเสฏฺฐํ กิร โส, ภนฺเต, ภิกฺขุ อุปาทิยมาโน อุปาทิยตี”ติ? “อุปาทานเสฏฺฐญฺหิ โส, อานนฺท, ภิกฺขุ อุปาทิยมาโน อุปาทิยติ. อุปาทานเสฏฺฐเญฺหตํ, อานนฺท, ยทิทํ— เนวสญฺญานาสญฺญายตนํ.
อิธานนฺท, ภิกฺขุ เอวํ ปฏิปนฺโน โหติ— ‘โน จสฺส, โน จ เม สิยา; น ภวิสฺสติ, น เม ภวิสฺสติ; ยทตฺถิ, ยํ ภูตํ— ตํ ปชหามี’ติ. เอวํ อุเปกฺขํ ปฏิลภติ. โส ตํ อุเปกฺขํ นาภินนฺทติ, นาภิวทติ, น อชฺโฌสาย ติฏฺฐติ. ตสฺส ตํ อุเปกฺขํ อนภินนฺทโต อนภิวทโต อนชฺโฌสาย ติฏฺฐโต น ตนฺนิสฺสิตํ โหติ วิญฺญาณํ น ตทุปาทานํ. อนุปาทาโน, อานนฺท, ภิกฺขุ ปรินิพฺพายตี”ติ.
“อจฺฉริยํ, ภนฺเต, อพฺภุตํ, ภนฺเต. นิสฺสาย นิสฺสาย กิร โน, ภนฺเต, ภควตา โอฆสฺส นิตฺถรณา อกฺขาตา. กตโม ปน, ภนฺเต, อริโย วิโมกฺโข”ติ? “อิธานนฺท, ภิกฺขุ อริยสาวโก อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ— ‘เย จ ทิฏฺฐธมฺมิกา กามา, เย จ สมฺปรายิกา กามา; ยา จ ทิฏฺฐธมฺมิกา กามสญฺญา, ยา จ สมฺปรายิกา กามสญฺญา; เย จ ทิฏฺฐธมฺมิกา รูปา, เย จ สมฺปรายิกา รูปา; ยา จ ทิฏฺฐธมฺมิกา รูปสญฺญา, ยา จ สมฺปรายิกา รูปสญฺญา; ยา จ อาเนญฺชสญฺญา, ยา จ อากิญฺจญฺญายตนสญฺญา, ยา จ เนวสญฺญานาสญฺญายตนสญฺญา— เอส สกฺกาโย ยาวตา สกฺกาโย. เอตํ อมตํ ยทิทํ อนุปาทา จิตฺตสฺส วิโมกฺโข. อิติ, โข, อานนฺท, เทสิตา มยา อาเนญฺชสปฺปายา ปฏิปทา, เทสิตา อากิญฺจญฺญายตนสปฺปายา ปฏิปทา, เทสิตา เนวสญฺญานาสญฺญายตนสปฺปายา ปฏิปทา, เทสิตา นิสฺสาย นิสฺสาย โอฆสฺส นิตฺถรณา, เทสิโต อริโย วิโมกฺโข. ยํ โข, อานนฺท, สตฺถารา กรณียํ สาวกานํ หิเตสินา อนุกมฺปเกน อนุกมฺปํ อุปาทาย, กตํ โว ตํ มยา. เอตานิ, อานนฺท, รุกฺขมูลานิ, เอตานิ สุญฺญาคารานิ. ฌายถานนฺท, มา ปมาทตฺถ, มา ปจฺฉา วิปฺปฏิสาริโน อหุวตฺถ. อยํ โว อมฺหากํ อนุสาสนี’”ติ.
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมโน อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติ.
อาเนญฺชสปฺปายสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ ฉฏฺฐํ.