Skip to content

3.8 อุปกฺกิเลสสุตฺต

236.
635

เอวํ เม สุตํ—  เอกํ สมยํ ภควา โกสมฺพิยํ วิหรติ โฆสิตาราเม. เตน โข ปน สมเยน โกสมฺพิยํ ภิกฺขู ภณฺฑนชาตา กลหชาตา วิวาทาปนฺนา อญฺญมญฺญํ มุขสตฺตีหิ วิตุทนฺตา วิหรนฺติ. อถ โข อญฺญตโร ภิกฺขุ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺฐาสิ. เอกมนฺตํ ฐิโต โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ—  “อิธ, ภนฺเต, โกสมฺพิยํ ภิกฺขู ภณฺฑนชาตา กลหชาตา วิวาทาปนฺนา อญฺญมญฺญํ มุขสตฺตีหิ วิตุทนฺตา วิหรนฺติ. สาธุ, ภนฺเต, ภควา เยน เต ภิกฺขู เตนุปสงฺกมตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา”ติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน. อถ โข ภควา เยน เต ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เต ภิกฺขู เอตทโวจ—  “อลํ, ภิกฺขเว, มา ภณฺฑนํ, มา กลหํ, มา วิคฺคหํ, มา วิวาทนฺ”ติ.

636

เอวํ วุตฺเต, อญฺญตโร ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ—  “อาคเมตุ, ภนฺเต. ภควา ธมฺมสฺสามี; อปฺโปสฺสุกฺโก, ภนฺเต, ภควา ทิฏฺฐธมฺมสุขวิหารํ อนุยุตฺโต วิหรตุ; มยเมเตน ภณฺฑเนน กลเหน วิคฺคเหน วิวาเทน ปญฺญายิสฺสามา”ติ. ทุติยมฺปิ โข ภควา เต ภิกฺขู เอตทโวจ—  “อลํ, ภิกฺขเว, มา ภณฺฑนํ, มา กลหํ, มา วิคฺคหํ, มา วิวาทนฺ”ติ. ทุติยมฺปิ โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ—  “อาคเมตุ, ภนฺเต. ภควา ธมฺมสฺสามี; อปฺโปสฺสุกฺโก, ภนฺเต, ภควา ทิฏฺฐธมฺมสุขวิหารํ อนุยุตฺโต วิหรตุ; มยเมเตน ภณฺฑเนน กลเหน วิคฺคเหน วิวาเทน ปญฺญายิสฺสามา”ติ. ตติยมฺปิ โข ภควา เต ภิกฺขู เอตทโวจ—  “อลํ, ภิกฺขเว, มา ภณฺฑนํ, มา กลหํ, มา วิคฺคหํ, มา วิวาทนฺ”ติ. ตติยมฺปิ โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ—  “อาคเมตุ, ภนฺเต. ภควา ธมฺมสฺสามี; อปฺโปสฺสุกฺโก, ภนฺเต, ภควา ทิฏฺฐธมฺมสุขวิหารํ อนุยุตฺโต วิหรตุ; มยเมเตน ภณฺฑเนน กลเหน วิคฺคเหน วิวาเทน ปญฺญายิสฺสามา”ติ.

637

อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย โกสมฺพิํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. โกสมฺพิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต เสนาสนํ สํสาเมตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ฐิตโกว อิมา คาถา อภาสิ—

237.
638

“ปุถุสทฺโท สมชโน,
น พาโล โกจิ มญฺญถ;
สํฆสฺมิํ ภิชฺชมานสฺมิํ,
นาญฺญํ ภิโยฺย อมญฺญรุํ.

639

ปริมุฏฺฐา ปณฺฑิตาภาสา,
วาจาโคจรภาณิโน;
ยาวิจฺฉนฺติ มุขายามํ,
เยน นีตา น ตํ วิทู.

640

อกฺโกจฺฉิ มํ อวธิ มํ,
อชินิ มํ อหาสิ เม;
เย จ ตํ อุปนยฺหนฺติ,
เวรํ เตสํ น สมฺมติ.

641

อกฺโกจฺฉิ มํ อวธิ มํ,
อชินิ มํ อหาสิ เม;
เย จ ตํ นุปนยฺหนฺติ,
เวรํ เตสูปสมฺมติ.

642

น หิ เวเรน เวรานิ,
สมฺมนฺตีธ กุทาจนํ;
อเวเรน จ สมฺมนฺติ,
เอส ธมฺโม สนนฺตโน.

643

ปเร จ น วิชานนฺติ,
มยเมตฺถ ยมามเส;
เย จ ตตฺถ วิชานนฺติ,
ตโต สมฺมนฺติ เมธคา.

644

อฏฺฐิจฺฉินฺนา ปาณหรา,
ควสฺสธนหาริโน;
รฏฺฐํ วิลุมฺปมานานํ,
เตสมฺปิ โหติ สงฺคติ;
กสฺมา ตุมฺหากํ โน สิยา.

645

สเจ ลเภถ นิปกํ สหายํ,
สทฺธิํ จรํ สาธุวิหาริ ธีรํ;
อภิภุยฺย สพฺพานิ ปริสฺสยานิ,
จเรยฺย เตนตฺตมโน สตีมา.

646

โน เจ ลเภถ นิปกํ สหายํ,
สทฺธิํ จรํ สาธุวิหาริ ธีรํ;
ราชาว รฏฺฐํ วิชิตํ ปหาย,
เอโก จเร มาตงฺครญฺเญว นาโค.

647

เอกสฺส จริตํ เสโยฺย,
นตฺถิ พาเล สหายตา;
เอโก จเร น จ ปาปานิ กยิรา,
อปฺโปสฺสุกฺโก มาตงฺครญฺเญว นาโค”ติ.

238.
648

อถ โข ภควา ฐิตโกว อิมา คาถา ภาสิตฺวา เยน พาลกโลณการคาโม เตนุปสงฺกมิ. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา ภคุ พาลกโลณการคาเม วิหรติ. อทฺทสา โข อายสฺมา ภคุ ภควนฺตํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ. ทิสฺวาน อาสนํ ปญฺญเปสิ อุทกญฺจ ปาทานํ โธวนํ. นิสีทิ ภควา ปญฺญตฺเต อาสเน. นิสชฺช ปาเท ปกฺขาเลสิ. อายสฺมาปิ โข ภคุ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ ภคุํ ภควา เอตทโวจ—  “กจฺจิ, ภิกฺขุ, ขมนียํ, กจฺจิ ยาปนียํ, กจฺจิ ปิณฺฑเกน น กิลมสี”ติ? “ขมนียํ ภควา, ยาปนียํ ภควา, น จาหํ, ภนฺเต, ปิณฺฑเกน กิลมามี”ติ. อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ ภคุํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุฏฺฐายาสนา เยน ปาจีนวํสทาโย เตนุปสงฺกมิ.

649

เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา จ อนุรุทฺโธ อายสฺมา จ นนฺทิโย อายสฺมา จ กิมิโล ปาจีนวํสทาเย วิหรนฺติ. อทฺทสา โข ทายปาโล ภควนฺตํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ. ทิสฺวาน ภควนฺตํ เอตทโวจ—  “มา, มหาสมณ, เอตํ ทายํ ปาวิสิ. สนฺเตตฺถ ตโย กุลปุตฺตา อตฺตกามรูปา วิหรนฺติ. มา เตสํ อผาสุมกาสี”ติ. อสฺโสสิ โข อายสฺมา อนุรุทฺโธ ทายปาลสฺส ภควตา สทฺธิํ มนฺตยมานสฺส. สุตฺวาน ทายปาลํ เอตทโวจ—  “มา, อาวุโส ทายปาล, ภควนฺตํ วาเรสิ. สตฺถา โน ภควา อนุปฺปตฺโต”ติ.

239.
650

อถ โข อายสฺมา อนุรุทฺโธ เยนายสฺมา จ นนฺทิโย เยนายสฺมา จ กิมิโล เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตญฺจ นนฺทิยํ อายสฺมนฺตญฺจ กิมิลํ เอตทโวจ—  “อภิกฺกมถายสฺมนฺโต, อภิกฺกมถายสฺมนฺโต, สตฺถา โน ภควา อนุปฺปตฺโต”ติ. อถ โข อายสฺมา จ อนุรุทฺโธ อายสฺมา จ นนฺทิโย อายสฺมา จ กิมิโล ภควนฺตํ ปจฺจุคฺคนฺตฺวา เอโก ภควโต ปตฺตจีวรํ ปฏิคฺคเหสิ, เอโก อาสนํ ปญฺญเปสิ, เอโก ปาโททกํ อุปฏฺฐเปสิ. นิสีทิ ภควา ปญฺญตฺเต อาสเน. นิสชฺช ปาเท ปกฺขาเลสิ. เตปิ โข อายสฺมนฺโต ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ อนุรุทฺธํ ภควา เอตทโวจ—  “กจฺจิ โว, อนุรุทฺธา, ขมนียํ, กจฺจิ ยาปนียํ, กจฺจิ ปิณฺฑเกน น กิลมถา”ติ? “ขมนียํ ภควา, ยาปนียํ ภควา, น จ มยํ, ภนฺเต, ปิณฺฑเกน กิลมามา”ติ. “กจฺจิ ปน โว, อนุรุทฺธา, สมคฺคา สมฺโมทมานา อวิวทมานา ขีโรทกีภูตา อญฺญมญฺญํ ปิยจกฺขูหิ สมฺปสฺสนฺตา วิหรถา”ติ? “ตคฺฆ มยํ, ภนฺเต, สมคฺคา สมฺโมทมานา อวิวทมานา ขีโรทกีภูตา อญฺญมญฺญํ ปิยจกฺขูหิ สมฺปสฺสนฺตา วิหรามา”ติ. “ยถา กถํ ปน ตุมฺเห, อนุรุทฺธา, สมคฺคา สมฺโมทมานา อวิวทมานา ขีโรทกีภูตา อญฺญมญฺญํ ปิยจกฺขูหิ สมฺปสฺสนฺตา วิหรถา”ติ? “อิธ มยฺหํ, ภนฺเต, เอวํ โหติ—  ‘ลาภา วต เม, สุลทฺธํ วต เม โยหํ เอวรูเปหิ สพฺรหฺมจารีหิ สทฺธิํ วิหรามี’ติ. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, อิเมสุ อายสฺมนฺเตสุ เมตฺตํ กายกมฺมํ ปจฺจุปฏฺฐิตํ อาวิ เจว รโห จ, เมตฺตํ วจีกมฺมํ ปจฺจุปฏฺฐิตํ อาวิ เจว รโห จ, เมตฺตํ มโนกมฺมํ ปจฺจุปฏฺฐิตํ อาวิ เจว รโห จ. ตสฺส, มยฺหํ, ภนฺเต, เอวํ โหติ—  ‘ยนฺนูนาหํ สกํ จิตฺตํ นิกฺขิปิตฺวา อิเมสํเยว อายสฺมนฺตานํ จิตฺตสฺส วเสน วตฺเตยฺยนฺ’ติ. โส โข อหํ, ภนฺเต, สกํ จิตฺตํ นิกฺขิปิตฺวา อิเมสํเยว อายสฺมนฺตานํ จิตฺตสฺส วเสน วตฺตามิ. นานา หิ โข โน, ภนฺเต, กายา, เอกญฺจ ปน มญฺเญ จิตฺตนฺ”ติ.

651

อายสฺมาปิ โข นนฺทิโย …เป…  อายสฺมาปิ โข กิมิโล ภควนฺตํ เอตทโวจ—  “มยฺหมฺปิ โข, ภนฺเต, เอวํ โหติ—  ‘ลาภา วต เม, สุลทฺธํ วต เม โยหํ เอวรูเปหิ สพฺรหฺมจารีหิ สทฺธิํ วิหรามี’ติ. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, อิเมสุ อายสฺมนฺเตสุ เมตฺตํ กายกมฺมํ ปจฺจุปฏฺฐิตํ อาวิ เจว รโห จ, เมตฺตํ วจีกมฺมํ ปจฺจุปฏฺฐิตํ อาวิ เจว รโห จ, เมตฺตํ มโนกมฺมํ ปจฺจุปฏฺฐิตํ อาวิ เจว รโห จ. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอวํ โหติ—  ‘ยนฺนูนาหํ สกํ จิตฺตํ นิกฺขิปิตฺวา อิเมสํเยว อายสฺมนฺตานํ จิตฺตสฺส วเสน วตฺเตยฺยนฺ’ติ. โส โข อหํ, ภนฺเต, สกํ จิตฺตํ นิกฺขิปิตฺวา อิเมสํเยว อายสฺมนฺตานํ จิตฺตสฺส วเสน วตฺตามิ. นานา หิ โข โน, ภนฺเต, กายา, เอกญฺจ ปน มญฺเญ จิตฺตนฺติ. เอวํ โข มยํ, ภนฺเต, สมคฺคา สมฺโมทมานา อวิวทมานา ขีโรทกีภูตา อญฺญมญฺญํ ปิยจกฺขูหิ สมฺปสฺสนฺตา วิหรามา”ติ.

240.
652

“สาธุ สาธุ, อนุรุทฺธา. กจฺจิ ปน โว, อนุรุทฺธา, อปฺปมตฺตา อาตาปิโน ปหิตตฺตา วิหรถา”ติ? “ตคฺฆ มยํ, ภนฺเต, อปฺปมตฺตา อาตาปิโน ปหิตตฺตา วิหรามา”ติ. “ยถา กถํ ปน ตุมฺเห, อนุรุทฺธา, อปฺปมตฺตา อาตาปิโน ปหิตตฺตา วิหรถา”ติ? “อิธ, ภนฺเต, อมฺหากํ โย ปฐมํ คามโต ปิณฺฑาย ปฏิกฺกมติ, โส อาสนานิ ปญฺญเปติ, ปานียํ ปริโภชนียํ อุปฏฺฐาเปติ, อวกฺการปาติํ อุปฏฺฐาเปติ. โย ปจฺฉา คามโต ปิณฺฑาย ปฏิกฺกมติ—  สเจ โหติ ภุตฺตาวเสโส, สเจ อากงฺขติ, ภุญฺชติ; โน เจ อากงฺขติ, อปฺปหริเต วา ฉฑฺเฑติ อปาณเก วา อุทเก โอปิลาเปติ—  โส อาสนานิ ปฏิสาเมติ, ปานียํ ปริโภชนียํ ปฏิสาเมติ, อวกฺการปาติํ โธวิตฺวา ปฏิสาเมติ, ภตฺตคฺคํ สมฺมชฺชติ. โย ปสฺสติ ปานียฆฏํ วา ปริโภชนียฆฏํ วา วจฺจฆฏํ วา ริตฺตํ ตุจฺฉํ โส อุปฏฺฐาเปติ. สจสฺส โหติ อวิสยฺหํ, หตฺถวิกาเรน ทุติยํ อามนฺเตตฺวา หตฺถวิลงฺฆเกน อุปฏฺฐาเปม, น เตฺวว มยํ, ภนฺเต, ตปฺปจฺจยา วาจํ ภินฺทาม. ปญฺจาหิกํ โข ปน มยํ, ภนฺเต, สพฺพรตฺติํ ธมฺมิยา กถาย สนฺนิสีทาม. เอวํ โข มยํ, ภนฺเต, อปฺปมตฺตา อาตาปิโน ปหิตตฺตา วิหรามา”ติ.

241.
653

“สาธุ สาธุ, อนุรุทฺธา. อตฺถิ ปน โว, อนุรุทฺธา, เอวํ อปฺปมตฺตานํ อาตาปีนํ ปหิตตฺตานํ วิหรตํ อุตฺตริ มนุสฺสธมฺมา อลมริยญาณทสฺสนวิเสโส อธิคโต ผาสุวิหาโร”ติ? “อิธ มยํ, ภนฺเต, อปฺปมตฺตา อาตาปิโน ปหิตตฺตา วิหรนฺตา โอภาสญฺเจว สญฺชานาม ทสฺสนญฺจ รูปานํ. โส โข ปน โน โอภาโส นจิรเสฺสว อนฺตรธายติ ทสฺสนญฺจ รูปานํ; ตญฺจ นิมิตฺตํ นปฺปฏิวิชฺฌามา”ติ.

654

“ตํ โข ปน โว, อนุรุทฺธา, นิมิตฺตํ ปฏิวิชฺฌิตพฺพํ. อหมฺปิ สุทํ, อนุรุทฺธา, ปุพฺเพว สมฺโพธา อนภิสมฺพุทฺโธ โพธิสตฺโตว สมาโน โอภาสญฺเจว สญฺชานามิ ทสฺสนญฺจ รูปานํ. โส โข ปน เม โอภาโส นจิรเสฺสว อนฺตรธายติ ทสฺสนญฺจ รูปานํ. ตสฺส มยฺหํ, อนุรุทฺธา, เอตทโหสิ—  ‘โก นุ โข เหตุ โก ปจฺจโย เยน เม โอภาโส อนฺตรธายติ ทสฺสนญฺจ รูปานนฺ’ติ? ตสฺส มยฺหํ, อนุรุทฺธา, เอตทโหสิ—  ‘วิจิกิจฺฉา โข เม อุทปาทิ, วิจิกิจฺฉาธิกรณญฺจ ปน เม สมาธิ จวิ. สมาธิมฺหิ จุเต โอภาโส อนฺตรธายติ ทสฺสนญฺจ รูปานํ. โสหํ ตถา กริสฺสามิ ยถา เม ปุน น วิจิกิจฺฉา อุปฺปชฺชิสฺสตี’ติ. (1)

655

โส โข อหํ, อนุรุทฺธา, อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต โอภาสญฺเจว สญฺชานามิ ทสฺสนญฺจ รูปานํ. โส โข ปน เม โอภาโส นจิรเสฺสว อนฺตรธายติ ทสฺสนญฺจ รูปานํ. ตสฺส มยฺหํ, อนุรุทฺธา, เอตทโหสิ—  ‘โก นุ โข เหตุ โก ปจฺจโย เยน เม โอภาโส อนฺตรธายติ ทสฺสนญฺจ รูปานนฺ’ติ? ตสฺส มยฺหํ, อนุรุทฺธา, เอตทโหสิ—  ‘อมนสิกาโร โข เม อุทปาทิ, อมนสิการาธิกรณญฺจ ปน เม สมาธิ จวิ. สมาธิมฺหิ จุเต โอภาโส อนฺตรธายติ ทสฺสนญฺจ รูปานํ. โสหํ ตถา กริสฺสามิ ยถา เม ปุน น วิจิกิจฺฉา อุปฺปชฺชิสฺสติ, น อมนสิกาโร’ติ. (2)

656

โส โข อหํ, อนุรุทฺธา …เป…  ตสฺส มยฺหํ, อนุรุทฺธา, เอตทโหสิ—  ‘ถินมิทฺธํ โข เม อุทปาทิ, ถินมิทฺธาธิกรณญฺจ ปน เม สมาธิ จวิ. สมาธิมฺหิ จุเต โอภาโส อนฺตรธายติ ทสฺสนญฺจ รูปานํ. โสหํ ตถา กริสฺสามิ ยถา เม ปุน น วิจิกิจฺฉา อุปฺปชฺชิสฺสติ, น อมนสิกาโร, น ถินมิทฺธนฺ’ติ. (3)

657

โส โข อหํ, อนุรุทฺธา …เป…  ตสฺส มยฺหํ, อนุรุทฺธา, เอตทโหสิ—  ‘ฉมฺภิตตฺตํ โข เม อุทปาทิ, ฉมฺภิตตฺตาธิกรณญฺจ ปน เม สมาธิ จวิ. สมาธิมฺหิ จุเต โอภาโส อนฺตรธายติ ทสฺสนญฺจ รูปานํ. เสยฺยถาปิ, อนุรุทฺธา, ปุริโส อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน, ตสฺส อุภโตปเสฺส วฏฺฏกา อุปฺปเตยฺยุํ, ตสฺส ตโตนิทานํ ฉมฺภิตตฺตํ อุปฺปชฺเชยฺย; เอวเมว โข เม, อนุรุทฺธา, ฉมฺภิตตฺตํ อุทปาทิ, ฉมฺภิตตฺตาธิกรณญฺจ ปน เม สมาธิ จวิ. สมาธิมฺหิ จุเต โอภาโส อนฺตรธายติ ทสฺสนญฺจ รูปานํ. โสหํ ตถา กริสฺสามิ ยถา เม ปุน น วิจิกิจฺฉา อุปฺปชฺชิสฺสติ, น อมนสิกาโร, น ถินมิทฺธํ, น ฉมฺภิตตฺตนฺ’ติ. (4)

658

โส โข อหํ, อนุรุทฺธา …เป…  ตสฺส มยฺหํ, อนุรุทฺธา, เอตทโหสิ—  ‘อุปฺปิลํ โข เม อุทปาทิ, อุปฺปิลาธิกรณญฺจ ปน เม สมาธิ จวิ. สมาธิมฺหิ จุเต โอภาโส อนฺตรธายติ ทสฺสนญฺจ รูปานํ. เสยฺยถาปิ, อนุรุทฺธา, ปุริโส เอกํ นิธิมุขํ คเวสนฺโต สกิเทว ปญฺจนิธิมุขานิ อธิคจฺเฉยฺย, ตสฺส ตโตนิทานํ อุปฺปิลํ อุปฺปชฺเชยฺย; เอวเมว โข เม, อนุรุทฺธา, อุปฺปิลํ อุทปาทิ, อุปฺปิลาธิกรณญฺจ ปน เม สมาธิ จวิ. สมาธิมฺหิ จุเต โอภาโส อนฺตรธายติ ทสฺสนญฺจ รูปานํ. โสหํ ตถา กริสฺสามิ ยถา เม ปุน น วิจิกิจฺฉา อุปฺปชฺชิสฺสติ, น อมนสิกาโร, น ถินมิทฺธํ, น ฉมฺภิตตฺตํ, น อุปฺปิลนฺ’ติ. (5)

659

โส โข อหํ, อนุรุทฺธา …เป…  ตสฺส มยฺหํ, อนุรุทฺธา, เอตทโหสิ—  ‘ทุฏฺฐุลฺลํ โข เม อุทปาทิ, ทุฏฺฐุลฺลาธิกรณญฺจ ปน เม สมาธิ จวิ. สมาธิมฺหิ จุเต โอภาโส อนฺตรธายติ ทสฺสนญฺจ รูปานํ. โสหํ ตถา กริสฺสามิ ยถา เม ปุน น วิจิกิจฺฉา อุปฺปชฺชิสฺสติ, น อมนสิกาโร, น ถินมิทฺธํ, น ฉมฺภิตตฺตํ, น อุปฺปิลํ, น ทุฏฺฐุลฺลนฺ’ติ. (6)

660

โส โข อหํ, อนุรุทฺธา …เป…  ตสฺส มยฺหํ, อนุรุทฺธา, เอตทโหสิ—  ‘อจฺจารทฺธวีริยํ โข เม อุทปาทิ, อจฺจารทฺธวีริยาธิกรณญฺจ ปน เม สมาธิ จวิ. สมาธิมฺหิ จุเต โอภาโส อนฺตรธายติ ทสฺสนญฺจ รูปานํ. เสยฺยถาปิ, อนุรุทฺธา, ปุริโส อุโภหิ หตฺเถหิ วฏฺฏกํ คาฬฺหํ คเณฺหยฺย, โส ตตฺเถว ปตเมยฺย; เอวเมว โข เม, อนุรุทฺธา, อจฺจารทฺธวีริยํ อุทปาทิ, อจฺจารทฺธวีริยาธิกรณญฺจ ปน เม สมาธิ จวิ. สมาธิมฺหิ จุเต โอภาโส อนฺตรธายติ ทสฺสนญฺจ รูปานํ. โสหํ ตถา กริสฺสามิ ยถา เม ปุน น วิจิกิจฺฉา อุปฺปชฺชิสฺสติ, น อมนสิกาโร, น ถินมิทฺธํ, น ฉมฺภิตตฺตํ, น อุปฺปิลํ, น ทุฏฺฐุลฺลํ, น อจฺจารทฺธวีริยนฺ’ติ. (7)

661

โส โข อหํ, อนุรุทฺธา …เป…  ตสฺส มยฺหํ, อนุรุทฺธา, เอตทโหสิ—  ‘อติลีนวีริยํ โข เม อุทปาทิ, อติลีนวีริยาธิกรณญฺจ ปน เม สมาธิ จวิ. สมาธิมฺหิ จุเต โอภาโส อนฺตรธายติ ทสฺสนญฺจ รูปานํ. เสยฺยถาปิ, อนุรุทฺธา, ปุริโส วฏฺฏกํ สิถิลํ คเณฺหยฺย, โส ตสฺส หตฺถโต อุปฺปเตยฺย; เอวเมว โข เม, อนุรุทฺธา, อติลีนวีริยํ อุทปาทิ, อติลีนวีริยาธิกรณญฺจ ปน เม สมาธิ จวิ. สมาธิมฺหิ จุเต โอภาโส อนฺตรธายติ ทสฺสนญฺจ รูปานํ. โสหํ ตถา กริสฺสามิ ยถา เม ปุน น วิจิกิจฺฉา อุปฺปชฺชิสฺสติ, น อมนสิกาโร, น ถินมิทฺธํ, น ฉมฺภิตตฺตํ, น อุปฺปิลํ, น ทุฏฺฐุลฺลํ, น อจฺจารทฺธวีริยํ, น อติลีนวีริยนฺ’ติ. (8)

662

โส โข อหํ, อนุรุทฺธา …เป…  ตสฺส มยฺหํ, อนุรุทฺธา, เอตทโหสิ—  ‘อภิชปฺปา โข เม อุทปาทิ, อภิชปฺปาธิกรณญฺจ ปน เม สมาธิ จวิ. สมาธิมฺหิ จุเต โอภาโส อนฺตรธายติ ทสฺสนญฺจ รูปานํ. โสหํ ตถา กริสฺสามิ ยถา เม ปุน น วิจิกิจฺฉา อุปฺปชฺชิสฺสติ, น อมนสิกาโร, น ถินมิทฺธํ, น ฉมฺภิตตฺตํ, น อุปฺปิลํ, น ทุฏฺฐุลฺลํ, น อจฺจารทฺธวีริยํ, น อติลีนวีริยํ, น อภิชปฺปา’ติ. (9)

663

โส โข อหํ, อนุรุทฺธา …เป…  ตสฺส มยฺหํ, อนุรุทฺธา, เอตทโหสิ—  ‘นานตฺตสญฺญา โข เม อุทปาทิ, นานตฺตสญฺญาธิกรณญฺจ ปน เม สมาธิ จวิ. สมาธิมฺหิ จุเต โอภาโส อนฺตรธายติ ทสฺสนญฺจ รูปานํ. โสหํ ตถา กริสฺสามิ ยถา เม ปุน น วิจิกิจฺฉา อุปฺปชฺชิสฺสติ, น อมนสิกาโร, น ถินมิทฺธํ, น ฉมฺภิตตฺตํ, น อุปฺปิลํ, น ทุฏฺฐุลฺลํ, น อจฺจารทฺธวีริยํ, น อติลีนวีริยํ, น อภิชปฺปา, น นานตฺตสญฺญา’ติ. (10)

664

โส โข อหํ, อนุรุทฺธา, อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต โอภาสญฺเจว สญฺชานามิ ทสฺสนญฺจ รูปานํ. โส โข ปน เม โอภาโส นจิรเสฺสว อนฺตรธายติ ทสฺสนญฺจ รูปานํ. ตสฺส มยฺหํ อนุรุทฺธา เอตทโหสิ—  ‘โก นุ โข เหตุ โก ปจฺจโย เยน เม โอภาโส อนฺตรธายติ ทสฺสนญฺจ รูปานนฺ’ติ. ตสฺส มยฺหํ, อนุรุทฺธา, เอตทโหสิ—  ‘อตินิชฺฌายิตตฺตํ โข เม รูปานํ อุทปาทิ, อตินิชฺฌายิตตฺตาธิกรณญฺจ ปน เม รูปานํ สมาธิ จวิ. สมาธิมฺหิ จุเต โอภาโส อนฺตรธายติ ทสฺสนญฺจ รูปานํ. โสหํ ตถา กริสฺสามิ ยถา เม ปุน น วิจิกิจฺฉา อุปฺปชฺชิสฺสติ, น อมนสิกาโร, น ถินมิทฺธํ, น ฉมฺภิตตฺตํ, น อุปฺปิลํ, น ทุฏฺฐุลฺลํ, น อจฺจารทฺธวีริยํ, น อติลีนวีริยํ, น อภิชปฺปา, น นานตฺตสญฺญา, น อตินิชฺฌายิตตฺตํ รูปานนฺ’ติ. (11)

242.
665

โส โข อหํ, อนุรุทฺธา, ‘วิจิกิจฺฉา จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ—  อิติ วิทิตฺวา วิจิกิจฺฉํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหิํ, ‘อมนสิกาโร จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ—  อิติ วิทิตฺวา อมนสิการํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหิํ, ‘ถินมิทฺธํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ—  อิติ วิทิตฺวา ถินมิทฺธํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหิํ, ‘ฉมฺภิตตฺตํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ—  อิติ วิทิตฺวา ฉมฺภิตตฺตํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหิํ, ‘อุปฺปิลํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ—  อิติ วิทิตฺวา อุปฺปิลํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหิํ, ‘ทุฏฺฐุลฺลํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ—  อิติ วิทิตฺวา ทุฏฺฐุลฺลํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหิํ, ‘อจฺจารทฺธวีริยํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ—  อิติ วิทิตฺวา อจฺจารทฺธวีริยํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหิํ, ‘อติลีนวีริยํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ—  อิติ วิทิตฺวา อติลีนวีริยํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหิํ, ‘อภิชปฺปา จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ—  อิติ วิทิตฺวา อภิชปฺปํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหิํ, ‘นานตฺตสญฺญา จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ—  อิติ วิทิตฺวา นานตฺตสญฺญํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหิํ, ‘อตินิชฺฌายิตตฺตํ รูปานํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ—  อิติ วิทิตฺวา อตินิชฺฌายิตตฺตํ รูปานํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสํ ปชหิํ.

243.
666

โส โข อหํ, อนุรุทฺธา, อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต โอภาสญฺหิ โข สญฺชานามิ, น จ รูปานิ ปสฺสามิ; รูปานิ หิ โข ปสฺสามิ, น จ โอภาสํ สญฺชานามิ—  ‘เกวลมฺปิ รตฺติํ, เกวลมฺปิ ทิวํ, เกวลมฺปิ รตฺตินฺทิวํ’. ตสฺส มยฺหํ, อนุรุทฺธา, เอตทโหสิ—  ‘โก นุ โข เหตุ โก ปจฺจโย ยฺวาหํ โอภาสญฺหิ โข สญฺชานามิ น จ รูปานิ ปสฺสามิ; รูปานิ หิ โข ปสฺสามิ น จ โอภาสํ สญฺชานามิ—  เกวลมฺปิ รตฺติํ, เกวลมฺปิ ทิวํ, เกวลมฺปิ รตฺตินฺทิวนฺ’ติ. ตสฺส มยฺหํ, อนุรุทฺธา, เอตทโหสิ—  ‘ยสฺมิญฺหิ โข อหํ สมเย รูปนิมิตฺตํ อมนสิกริตฺวา โอภาสนิมิตฺตํ มนสิ กโรมิ, โอภาสญฺหิ โข ตสฺมิํ สมเย สญฺชานามิ, น จ รูปานิ ปสฺสามิ. ยสฺมิํ ปนาหํ สมเย โอภาสนิมิตฺตํ อมนสิกริตฺวา รูปนิมิตฺตํ มนสิ กโรมิ, รูปานิ หิ โข ตสฺมิํ สมเย ปสฺสามิ น จ โอภาสํ สญฺชานามิ—  เกวลมฺปิ รตฺติํ, เกวลมฺปิ ทิวํ, เกวลมฺปิ รตฺตินฺทิวนฺ’ติ.

667

โส โข อหํ, อนุรุทฺธา, อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต ปริตฺตญฺเจว โอภาสํ สญฺชานามิ, ปริตฺตานิ จ รูปานิ ปสฺสามิ; อปฺปมาณญฺเจว โอภาสํ สญฺชานามิ, อปฺปมาณานิ จ รูปานิ ปสฺสามิ—  ‘เกวลมฺปิ รตฺติํ, เกวลมฺปิ ทิวํ, เกวลมฺปิ รตฺตินฺทิวํ’. ตสฺส มยฺหํ, อนุรุทฺธา, เอตทโหสิ—  ‘โก นุ โข เหตุ โก ปจฺจโย ยฺวาหํ ปริตฺตญฺเจว โอภาสํ สญฺชานามิ, ปริตฺตานิ จ รูปานิ ปสฺสามิ; อปฺปมาณญฺเจว โอภาสํ สญฺชานามิ, อปฺปมาณานิ จ รูปานิ ปสฺสามิ—  เกวลมฺปิ รตฺติํ, เกวลมฺปิ ทิวํ, เกวลมฺปิ รตฺตินฺทิวนฺ’ติ. ตสฺส มยฺหํ, อนุรุทฺธา, เอตทโหสิ—  ‘ยสฺมิํ โข เม สมเย ปริตฺโต สมาธิ โหติ, ปริตฺตํ เม ตสฺมิํ สมเย จกฺขุ โหติ. โสหํ ปริตฺเตน จกฺขุนา ปริตฺตญฺเจว โอภาสํ สญฺชานามิ, ปริตฺตานิ จ รูปานิ ปสฺสามิ. ยสฺมิํ ปน เม สมเย อปฺปมาโณ สมาธิ โหติ, อปฺปมาณํ เม ตสฺมิํ สมเย จกฺขุ โหติ. โสหํ อปฺปมาเณน จกฺขุนา อปฺปมาณญฺเจว โอภาสํ สญฺชานามิ, อปฺปมาณานิ จ รูปานิ ปสฺสามิ—  เกวลมฺปิ รตฺติํ, เกวลมฺปิ ทิวํ, เกวลมฺปิ รตฺตินฺทิวนฺ’ติ.

244.
668

ยโต โข เม, อนุรุทฺธา, ‘วิจิกิจฺฉา จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ—  อิติ วิทิตฺวา วิจิกิจฺฉา จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน อโหสิ, ‘อมนสิกาโร จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ—  อิติ วิทิตฺวา อมนสิกาโร จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน อโหสิ, ‘ถินมิทฺธํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ—  อิติ วิทิตฺวา ถินมิทฺธํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน อโหสิ, ‘ฉมฺภิตตฺตํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ—  อิติ วิทิตฺวา ฉมฺภิตตฺตํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน อโหสิ, ‘อุปฺปิลํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ—  อิติ วิทิตฺวา อุปฺปิลํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน อโหสิ, ‘ทุฏฺฐุลฺลํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ—  อิติ วิทิตฺวา ทุฏฺฐุลฺลํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน อโหสิ, ‘อจฺจารทฺธวีริยํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ—  อิติ วิทิตฺวา อจฺจารทฺธวีริยํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน อโหสิ, ‘อติลีนวีริยํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ—  อิติ วิทิตฺวา อติลีนวีริยํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน อโหสิ, ‘อภิชปฺปา จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ—  อิติ วิทิตฺวา อภิชปฺปา จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน อโหสิ, ‘นานตฺตสญฺญา จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ—  อิติ วิทิตฺวา นานตฺตสญฺญา จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน อโหสิ, ‘อตินิชฺฌายิตตฺตํ รูปานํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส’ติ—  อิติ วิทิตฺวา อตินิชฺฌายิตตฺตํ รูปานํ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลโส ปหีโน อโหสิ.

245.
669

ตสฺส มยฺหํ, อนุรุทฺธา, เอตทโหสิ—  ‘เย โข เม จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสา เต เม ปหีนา. หนฺท ทานาหํ ติวิเธน สมาธิํ ภาเวมี’ติ. โส โข อหํ, อนุรุทฺธา, สวิตกฺกมฺปิ สวิจารํ สมาธิํ ภาเวสิํ, อวิตกฺกมฺปิ วิจารมตฺตํ สมาธิํ ภาเวสิํ, อวิตกฺกมฺปิ อวิจารํ สมาธิํ ภาเวสิํ, สปฺปีติกมฺปิ สมาธิํ ภาเวสิํ, นิปฺปีติกมฺปิ สมาธิํ ภาเวสิํ, สาตสหคตมฺปิ สมาธิํ ภาเวสิํ, อุเปกฺขาสหคตมฺปิ สมาธิํ ภาเวสิํ. ยโต โข เม, อนุรุทฺธา, สวิตกฺโกปิ สวิจาโร สมาธิ ภาวิโต อโหสิ, อวิตกฺโกปิ วิจารมตฺโต สมาธิ ภาวิโต อโหสิ, อวิตกฺโกปิ อวิจาโร สมาธิ ภาวิโต อโหสิ, สปฺปีติโกปิ สมาธิ ภาวิโต อโหสิ, นิปฺปีติโกปิ สมาธิ ภาวิโต อโหสิ, สาตสหคโตปิ สมาธิ ภาวิโต อโหสิ, อุเปกฺขาสหคโตปิ สมาธิ ภาวิโต อโหสิ. ญาณญฺจ ปน เม ทสฺสนํ อุทปาทิ, อกุปฺปา เม เจโตวิมุตฺติ. อยมนฺติมา ชาติ, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว”ติ.

670

อิทมโวจ ภควา. อตฺตมโน อายสฺมา อนุรุทฺโธ ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติ.

671

อุปกฺกิเลสสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ อฏฺฐมํ.