5.10 อินฺทฺริยภาวนาสุตฺต
เอวํ เม สุตํ— เอกํ สมยํ ภควา คชงฺคลายํ วิหรติ สุเวฬุวเน. อถ โข อุตฺตโร มาณโว ปาราสิวิยนฺเตวาสี เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อุตฺตรํ มาณวํ ปาราสิวิยนฺเตวาสิํ ภควา เอตทโวจ— “เทเสติ, อุตฺตร, ปาราสิวิโย พฺราหฺมโณ สาวกานํ อินฺทฺริยภาวนนฺ”ติ? “เทเสติ, โภ โคตม, ปาราสิวิโย พฺราหฺมโณ สาวกานํ อินฺทฺริยภาวนนฺ”ติ. “ยถา กถํ ปน, อุตฺตร, เทเสติ ปาราสิวิโย พฺราหฺมโณ สาวกานํ อินฺทฺริยภาวนนฺ”ติ? “อิธ, โภ โคตม, จกฺขุนา รูปํ น ปสฺสติ, โสเตน สทฺทํ น สุณาติ— เอวํ โข, โภ โคตม, เทเสติ ปาราสิวิโย พฺราหฺมโณ สาวกานํ อินฺทฺริยภาวนนฺ”ติ. “เอวํ สนฺเต โข, อุตฺตร, อนฺโธ ภาวิตินฺทฺริโย ภวิสฺสติ, พธิโร ภาวิตินฺทฺริโย ภวิสฺสติ; ยถา ปาราสิวิยสฺส พฺราหฺมณสฺส วจนํ. อนฺโธ หิ, อุตฺตร, จกฺขุนา รูปํ น ปสฺสติ, พธิโร โสเตน สทฺทํ น สุณาตี”ติ. เอวํ วุตฺเต, อุตฺตโร มาณโว ปาราสิวิยนฺเตวาสี ตุณฺหีภูโต มงฺกุภูโต ปตฺตกฺขนฺโธ อโธมุโข ปชฺฌายนฺโต อปฺปฏิภาโน นิสีทิ.
อถ โข ภควา อุตฺตรํ มาณวํ ปาราสิวิยนฺเตวาสิํ ตุณฺหีภูตํ มงฺกุภูตํ ปตฺตกฺขนฺธํ อโธมุขํ ปชฺฌายนฺตํ อปฺปฏิภานํ วิทิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ— “อญฺญถา โข, อานนฺท, เทเสติ ปาราสิวิโย พฺราหฺมโณ สาวกานํ อินฺทฺริยภาวนํ, อญฺญถา จ ปนานนฺท, อริยสฺส วินเย อนุตฺตรา อินฺทฺริยภาวนา โหตี”ติ. “เอตสฺส, ภควา, กาโล; เอตสฺส, สุคต, กาโล ยํ ภควา อริยสฺส วินเย อนุตฺตรํ อินฺทฺริยภาวนํ เทเสยฺย. ภควโต สุตฺวา ภิกฺขู ธาเรสฺสนฺตี”ติ. “เตนหานนฺท, สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ; ภาสิสฺสามี”ติ. “เอวํ, ภนฺเต”ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจโสฺสสิ. ภควา เอตทโวจ—
“กถญฺจานนฺท, อริยสฺส วินเย อนุตฺตรา อินฺทฺริยภาวนา โหติ? อิธานนฺท, ภิกฺขุโน จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา อุปฺปชฺชติ มนาปํ, อุปฺปชฺชติ อมนาปํ, อุปฺปชฺชติ มนาปามนาปํ. โส เอวํ ปชานาติ— ‘อุปฺปนฺนํ โข เม อิทํ มนาปํ, อุปฺปนฺนํ อมนาปํ, อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ. ตญฺจ โข สงฺขตํ โอฬาริกํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ. เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ— อุเปกฺขา’ติ. ตสฺส ตํ อุปฺปนฺนํ มนาปํ อุปฺปนฺนํ อมนาปํ อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ นิรุชฺฌติ; อุเปกฺขา สณฺฐาติ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, จกฺขุมา ปุริโส อุมฺมีเลตฺวา วา นิมีเลยฺย, นิมีเลตฺวา วา อุมฺมีเลยฺย; เอวเมว โข, อานนฺท, ยสฺส กสฺสจิ เอวํสีฆํ เอวํตุวฏํ เอวํอปฺปกสิเรน อุปฺปนฺนํ มนาปํ อุปฺปนฺนํ อมนาปํ อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ นิรุชฺฌติ, อุเปกฺขา สณฺฐาติ— อยํ วุจฺจตานนฺท, อริยสฺส วินเย อนุตฺตรา อินฺทฺริยภาวนา จกฺขุวิญฺเญเยฺยสุ รูเปสุ.
ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุโน โสเตน สทฺทํ สุตฺวา อุปฺปชฺชติ มนาปํ, อุปฺปชฺชติ อมนาปํ, อุปฺปชฺชติ มนาปามนาปํ. โส เอวํ ปชานาติ— ‘อุปฺปนฺนํ โข เม อิทํ มนาปํ, อุปฺปนฺนํ อมนาปํ, อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ. ตญฺจ โข สงฺขตํ โอฬาริกํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ. เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ— อุเปกฺขา’ติ. ตสฺส ตํ อุปฺปนฺนํ มนาปํ อุปฺปนฺนํ อมนาปํ อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ นิรุชฺฌติ; อุเปกฺขา สณฺฐาติ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, พลวา ปุริโส อปฺปกสิเรเนว อจฺฉรํ ปหเรยฺย; เอวเมว โข, อานนฺท, ยสฺส กสฺสจิ เอวํสีฆํ เอวํตุวฏํ เอวํอปฺปกสิเรน อุปฺปนฺนํ มนาปํ อุปฺปนฺนํ อมนาปํ อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ นิรุชฺฌติ, อุเปกฺขา สณฺฐาติ— อยํ วุจฺจตานนฺท, อริยสฺส วินเย อนุตฺตรา อินฺทฺริยภาวนา โสตวิญฺเญเยฺยสุ สทฺเทสุ.
ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุโน ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา อุปฺปชฺชติ มนาปํ, อุปฺปชฺชติ อมนาปํ, อุปฺปชฺชติ มนาปามนาปํ. โส เอวํ ปชานาติ— ‘อุปฺปนฺนํ โข เม อิทํ มนาปํ, อุปฺปนฺนํ อมนาปํ, อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ. ตญฺจ โข สงฺขตํ โอฬาริกํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ. เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ— อุเปกฺขา’ติ. ตสฺส ตํ อุปฺปนฺนํ มนาปํ อุปฺปนฺนํ อมนาปํ อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ นิรุชฺฌติ; อุเปกฺขา สณฺฐาติ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, อีสกมฺโปเณ ปทุมปลาเส อุทกผุสิตานิ ปวตฺตนฺติ, น สณฺฐนฺติ; เอวเมว โข, อานนฺท, ยสฺส กสฺสจิ เอวํสีฆํ เอวํตุวฏํ เอวํอปฺปกสิเรน อุปฺปนฺนํ มนาปํ อุปฺปนฺนํ อมนาปํ อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ นิรุชฺฌติ, อุเปกฺขา สณฺฐาติ— อยํ วุจฺจตานนฺท, อริยสฺส วินเย อนุตฺตรา อินฺทฺริยภาวนา ฆานวิญฺเญเยฺยสุ คนฺเธสุ.
ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุโน ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา อุปฺปชฺชติ มนาปํ, อุปฺปชฺชติ อมนาปํ, อุปฺปชฺชติ มนาปามนาปํ. โส เอวํ ปชานาติ— ‘อุปฺปนฺนํ โข เม อิทํ มนาปํ, อุปฺปนฺนํ อมนาปํ, อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ. ตญฺจ โข สงฺขตํ โอฬาริกํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ. เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ— อุเปกฺขา’ติ. ตสฺส ตํ อุปฺปนฺนํ มนาปํ อุปฺปนฺนํ อมนาปํ อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ นิรุชฺฌติ; อุเปกฺขา สณฺฐาติ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, พลวา ปุริโส ชิวฺหคฺเค เขฬปิณฺฑํ สํยูหิตฺวา อปฺปกสิเรน วเมยฺย; เอวเมว โข, อานนฺท, ยสฺส กสฺสจิ เอวํสีฆํ เอวํตุวฏํ เอวํอปฺปกสิเรน อุปฺปนฺนํ มนาปํ อุปฺปนฺนํ อมนาปํ อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ นิรุชฺฌติ, อุเปกฺขา สณฺฐาติ— อยํ วุจฺจตานนฺท, อริยสฺส วินเย อนุตฺตรา อินฺทฺริยภาวนา ชิวฺหาวิญฺเญเยฺยสุ รเสสุ.
ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุโน กาเยน โผฏฺฐพฺพํ ผุสิตฺวา อุปฺปชฺชติ มนาปํ, อุปฺปชฺชติ อมนาปํ, อุปฺปชฺชติ มนาปามนาปํ. โส เอวํ ปชานาติ— ‘อุปฺปนฺนํ โข เม อิทํ มนาปํ, อุปฺปนฺนํ อมนาปํ, อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ. ตญฺจ โข สงฺขตํ โอฬาริกํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ. เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ— อุเปกฺขา’ติ. ตสฺส ตํ อุปฺปนฺนํ มนาปํ อุปฺปนฺนํ อมนาปํ อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ นิรุชฺฌติ; อุเปกฺขา สณฺฐาติ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, พลวา ปุริโส สมิญฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิญฺเชยฺย; เอวเมว โข, อานนฺท, ยสฺส กสฺสจิ เอวํสีฆํ เอวํตุวฏํ เอวํอปฺปกสิเรน อุปฺปนฺนํ มนาปํ อุปฺปนฺนํ อมนาปํ อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ นิรุชฺฌติ, อุเปกฺขา สณฺฐาติ— อยํ วุจฺจตานนฺท, อริยสฺส วินเย อนุตฺตรา อินฺทฺริยภาวนา กายวิญฺเญเยฺยสุ โผฏฺฐพฺเพสุ.
ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุโน มนสา ธมฺมํ วิญฺญาย อุปฺปชฺชติ มนาปํ, อุปฺปชฺชติ อมนาปํ, อุปฺปชฺชติ มนาปามนาปํ. โส เอวํ ปชานาติ— ‘อุปฺปนฺนํ โข เม อิทํ มนาปํ, อุปฺปนฺนํ อมนาปํ, อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ. ตญฺจ โข สงฺขตํ โอฬาริกํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ. เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ— อุเปกฺขา’ติ. ตสฺส ตํ อุปฺปนฺนํ มนาปํ อุปฺปนฺนํ อมนาปํ อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ นิรุชฺฌติ; อุเปกฺขา สณฺฐาติ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, พลวา ปุริโส ทิวสํสนฺตตฺเต อโยกฏาเห ทฺเว วา ตีณิ วา อุทกผุสิตานิ นิปาเตยฺย. ทนฺโธ, อานนฺท, อุทกผุสิตานํ นิปาโต, อถ โข นํ ขิปฺปเมว ปริกฺขยํ ปริยาทานํ คจฺเฉยฺย; เอวเมว โข, อานนฺท, ยสฺส กสฺสจิ เอวํสีฆํ เอวํตุวฏํ เอวํอปฺปกสิเรน อุปฺปนฺนํ มนาปํ อุปฺปนฺนํ อมนาปํ อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ นิรุชฺฌติ, อุเปกฺขา สณฺฐาติ— อยํ วุจฺจตานนฺท, อริยสฺส วินเย อนุตฺตรา อินฺทฺริยภาวนา มโนวิญฺเญเยฺยสุ ธมฺเมสุ. เอวํ โข, อานนฺท, อริยสฺส วินเย อนุตฺตรา อินฺทฺริยภาวนา โหติ.
กถญฺจานนฺท, เสโข โหติ ปาฏิปโท? อิธานนฺท, ภิกฺขุโน จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา อุปฺปชฺชติ มนาปํ, อุปฺปชฺชติ อมนาปํ, อุปฺปชฺชติ มนาปามนาปํ. โส เตน อุปฺปนฺเนน มนาเปน อุปฺปนฺเนน อมนาเปน อุปฺปนฺเนน มนาปามนาเปน อฏฺฏียติ หรายติ ชิคุจฺฉติ. โสเตน สทฺทํ สุตฺวา …เป… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา… กาเยน โผฏฺฐพฺพํ ผุสิตฺวา… มนสา ธมฺมํ วิญฺญาย อุปฺปชฺชติ มนาปํ, อุปฺปชฺชติ อมนาปํ, อุปฺปชฺชติ มนาปามนาปํ. โส เตน อุปฺปนฺเนน มนาเปน อุปฺปนฺเนน อมนาเปน อุปฺปนฺเนน มนาปามนาเปน อฏฺฏียติ หรายติ ชิคุจฺฉติ. เอวํ โข, อานนฺท, เสโข โหติ ปาฏิปโท.
กถญฺจานนฺท, อริโย โหติ ภาวิตินฺทฺริโย? อิธานนฺท, ภิกฺขุโน จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา อุปฺปชฺชติ มนาปํ, อุปฺปชฺชติ อมนาปํ, อุปฺปชฺชติ มนาปามนาปํ. โส สเจ อากงฺขติ— ‘ปฏิกูเล อปฺปฏิกูลสญฺญี วิหเรยฺยนฺ’ติ, อปฺปฏิกูลสญฺญี ตตฺถ วิหรติ. สเจ อากงฺขติ— ‘อปฺปฏิกูเล ปฏิกูลสญฺญี วิหเรยฺยนฺ’ติ, ปฏิกูลสญฺญี ตตฺถ วิหรติ. สเจ อากงฺขติ— ‘ปฏิกูเล จ อปฺปฏิกูเล จ อปฺปฏิกูลสญฺญี วิหเรยฺยนฺ’ติ, อปฺปฏิกูลสญฺญี ตตฺถ วิหรติ. สเจ อากงฺขติ— ‘อปฺปฏิกูเล จ ปฏิกูเล จ ปฏิกูลสญฺญี วิหเรยฺยนฺ’ติ, ปฏิกูลสญฺญี ตตฺถ วิหรติ. สเจ อากงฺขติ— ‘ปฏิกูลญฺจ อปฺปฏิกูลญฺจ ตทุภยํ อภินิวชฺเชตฺวา อุเปกฺขโก วิหเรยฺยํ สโต สมฺปชาโน’ติ, อุเปกฺขโก ตตฺถ วิหรติ สโต สมฺปชาโน.
ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุโน โสเตน สทฺทํ สุตฺวา …เป… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา… กาเยน โผฏฺฐพฺพํ ผุสิตฺวา… มนสา ธมฺมํ วิญฺญาย อุปฺปชฺชติ มนาปํ, อุปฺปชฺชติ อมนาปํ, อุปฺปชฺชติ มนาปามนาปํ. โส สเจ อากงฺขติ— ‘ปฏิกูเล อปฺปฏิกูลสญฺญี วิหเรยฺยนฺ’ติ, อปฺปฏิกูลสญฺญี ตตฺถ วิหรติ. สเจ อากงฺขติ— ‘อปฺปฏิกูเล ปฏิกูลสญฺญี วิหเรยฺยนฺ’ติ, ปฏิกูลสญฺญี ตตฺถ วิหรติ. สเจ อากงฺขติ— ‘ปฏิกูเล จ อปฺปฏิกูเล จ อปฺปฏิกูลสญฺญี วิหเรยฺยนฺ’ติ, อปฺปฏิกูลสญฺญี ตตฺถ วิหรติ. สเจ อากงฺขติ— ‘อปฺปฏิกูเล จ ปฏิกูเล จ ปฏิกูลสญฺญี วิหเรยฺยนฺ’ติ, ปฏิกูลสญฺญี ตตฺถ วิหรติ. สเจ อากงฺขติ— ‘ปฏิกูลญฺจ อปฺปฏิกูลญฺจ ตทุภยมฺปิ อภินิวชฺเชตฺวา อุเปกฺขโก วิหเรยฺยํ สโต สมฺปชาโน’ติ, อุเปกฺขโก ตตฺถ วิหรติ สโต สมฺปชาโน. เอวํ โข, อานนฺท, อริโย โหติ ภาวิตินฺทฺริโย.
อิติ โข, อานนฺท, เทสิตา มยา อริยสฺส วินเย อนุตฺตรา อินฺทฺริยภาวนา, เทสิโต เสโข ปาฏิปโท, เทสิโต อริโย ภาวิตินฺทฺริโย. ยํ โข, อานนฺท, สตฺถารา กรณียํ สาวกานํ หิเตสินา อนุกมฺปเกน อนุกมฺปํ อุปาทาย, กตํ โว ตํ มยา. เอตานิ, อานนฺท, รุกฺขมูลานิ, เอตานิ สุญฺญาคารานิ, ฌายถานนฺท, มา ปมาทตฺถ, มา ปจฺฉา วิปฺปฏิสาริโน อหุวตฺถ. อยํ โว อมฺหากํ อนุสาสนี”ติ.
อิทมโวจ ภควา. อตฺตมโน อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติ.
อินฺทฺริยภาวนาสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ ทสมํ.
สฬายตนวคฺโค นิฏฺฐิโต ปญฺจโม.
ตสฺสุทฺทานํ
อนาถปิณฺฑิโก ฉนฺโน,
ปุณฺโณ นนฺทกราหุลา;
ฉฉกฺกํ สฬายตนิกํ,
นครวินฺเทยฺยสุทฺธิกา;
อินฺทฺริยภาวนา จาปิ,_
วคฺโค โอวาทปญฺจโมติ.
อิทํ วคฺคานมุทฺทานํ
เทวทโหนุปโท จ,
สุญฺญโต จ วิภงฺคโก;
สฬายตโนติ วคฺคา,
อุปริปณฺณาสเก ฐิตาติ._
อุปริปณฺณาสกํ สมตฺตํ.
ตีหิ ปณฺณาสเกหิ ปฏิมณฺฑิโต สกโล
มชฺฌิมนิกาโย สมตฺโต.