1.4.3 สาธุสุตฺต
สาวตฺถินิทานํ. อถ โข สมฺพหุลา สตุลฺลปกายิกา เทวตาโย อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺณา เกวลกปฺปํ เชตวนํ โอภาเสตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺฐํสุ. เอกมนฺตํ ฐิตา โข เอกา เทวตา ภควโต สนฺติเก อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ—
“สาธุ โข มาริส ทานํ,
มจฺเฉรา จ ปมาทา จ;
เอวํ ทานํ น ทียติ,
ปุญฺญํ อากงฺขมาเนน;
เทยฺยํ โหติ วิชานตา”ติ.
อถ โข อปรา เทวตา ภควโต สนฺติเก อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ—
“สาธุ โข มาริส ทานํ,
อปิ จ อปฺปกสฺมิมฺปิ สาหุ ทานํ.
อปฺปเสฺมเก ปเวจฺฉนฺติ,
พหุเนเก น ทิจฺฉเร;
อปฺปสฺมา ทกฺขิณา ทินฺนา,
สหเสฺสน สมํ มิตา”ติ.
อถ โข อปรา เทวตา ภควโต สนฺติเก อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ—
“สาธุ โข มาริส ทานํ,
อปฺปกสฺมิมฺปิ สาหุ ทานํ;
อปิ จ สทฺธายปิ สาหุ ทานํ,
ทานญฺจ ยุทฺธญฺจ สมานมาหุ;
อปฺปาปิ สนฺตา พหุเก ชินนฺติ,
อปฺปมฺปิ เจ สทฺทหาโน ททาติ;
เตเนว โส โหติ สุขี ปรตฺถา”ติ.
อถ โข อปรา เทวตา ภควโต สนฺติเก อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ—
“สาธุ โข มาริส ทานํ,
อปฺปกสฺมิมฺปิ สาหุ ทานํ;
สทฺธายปิ สาหุ ทานํ,
อปิ จ ธมฺมลทฺธสฺสาปิ สาหุ ทานํ.
โย ธมฺมลทฺธสฺส ททาติ ทานํ,
อุฏฺฐานวีริยาธิคตสฺส ชนฺตุ;_
อติกฺกมฺม โส เวตรณิํ ยมสฺส,
ทิพฺพานิ ฐานานิ อุเปติ มจฺโจ”ติ.
อถ โข อปรา เทวตา ภควโต สนฺติเก อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ—
“สาธุ โข มาริส ทานํ,
อปฺปกสฺมิมฺปิ สาหุ ทานํ;
สทฺธายปิ สาหุ ทานํ,
ธมฺมลทฺธสฺสาปิ สาหุ ทานํ;
อปิ จ วิเจยฺย ทานมฺปิ สาหุ ทานํ.
วิเจยฺย ทานํ สุคตปฺปสตฺถํ,
เย ทกฺขิเณยฺยา อิธ ชีวโลเก;
เอเตสุ ทินฺนานิ มหปฺผลานิ,
พีชานิ วุตฺตานิ ยถา สุเขตฺเต”ติ.
อถ โข อปรา เทวตา ภควโต สนฺติเก อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ—
“สาธุ โข มาริส ทานํ,
อปฺปกสฺมิมฺปิ สาหุ ทานํ;
สทฺธายปิ สาหุ ทานํ,
ธมฺมลทฺธสฺสาปิ สาหุ ทานํ;
วิเจยฺย ทานมฺปิ สาหุ ทานํ,
อปิ จ ปาเณสุปิ สาธุ สํยโม.
โย ปาณภูตานิ อเหฐยํ จรํ,
ปรูปวาทา น กโรนฺติ ปาปํ;
ภีรุํ ปสํสนฺติ น หิ ตตฺถ สูรํ,
ภยา หิ สนฺโต น กโรนฺติ ปาปนฺ”ติ.
อถ โข อปรา เทวตา ภควนฺตํ เอตทโวจ— “กสฺส นุ โข, ภควา, สุภาสิตนฺ”ติ?
“สพฺพาสํ โว สุภาสิตํ ปริยาเยน, อปิ จ มมปิ สุณาถ—
สทฺธา หิ ทานํ พหุธา ปสตฺถํ,
ทานา จ โข ธมฺมปทํว เสโยฺย;
ปุพฺเพ จ หิ ปุพฺพตเร จ สนฺโต,
นิพฺพานเมวชฺฌคมุํ สปญฺญา”ติ.