11.2.10 สํฆวนฺทนาสุตฺต
สาวตฺถิยํ เชตวเน. ตตฺร โข …เป… เอตทโวจ— “ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว, สกฺโก เทวานมินฺโท มาตลิํ สงฺคาหกํ อามนฺเตสิ— ‘โยเชหิ, สมฺม มาตลิ, สหสฺสยุตฺตํ อาชญฺญรถํ, อุยฺยานภูมิํ คจฺฉาม สุภูมิํ ทสฺสนายา’ติ. ‘เอวํ, ภทฺทนฺตวา’ติ โข, ภิกฺขเว, มาตลิ สงฺคาหโก สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส ปฏิสฺสุตฺวา, สหสฺสยุตฺตํ อาชญฺญรถํ โยเชตฺวา สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส ปฏิเวเทสิ— ‘ยุตฺโต โข เต, มาริส, สหสฺสยุตฺโต อาชญฺญรโถ, ยสฺสทานิ กาลํ มญฺญสี’ติ. อถ โข, ภิกฺขเว, สกฺโก เทวานมินฺโท เวชยนฺตปาสาทา โอโรหนฺโต อญฺชลิํ กตฺวา สุทํ ภิกฺขุสํฆํ นมสฺสติ. อถ โข, ภิกฺขเว, มาตลิ สงฺคาหโก สกฺกํ เทวานมินฺทํ คาถาย อชฺฌภาสิ—
‘ตญฺหิ เอเต นมเสฺสยฺยุํ,
ปูติเทหสยา นรา;
นิมุคฺคา กุณปเมฺหเต,
ขุปฺปิปาสสมปฺปิตา.
กิํ นุ เตสํ ปิหยสิ,
อนาคาราน วาสว;
อาจารํ อิสินํ พฺรูหิ,
ตํ สุโณม วโจ ตวา’ติ.
‘เอตํ เตสํ ปิหยามิ,
อนาคาราน มาตลิ;
ยมฺหา คามา ปกฺกมนฺติ,
อนเปกฺขา วชนฺติ เต.
น เตสํ โกฏฺเฐ โอเปนฺติ,
น กุมฺภิ น กโฬปิยํ;
ปรนิฏฺฐิตเมสานา,
เตน ยาเปนฺติ สุพฺพตา.
สุมนฺตมนฺติโน ธีรา,
ตุณฺหีภูตา สมญฺจรา;
เทวา วิรุทฺธา อสุเรหิ,
ปุถุ มจฺจา จ มาตลิ.
อวิรุทฺธา วิรุทฺเธสุ,
อตฺตทณฺเฑสุ นิพฺพุตา;
สาทาเนสุ อนาทานา,
เต นมสฺสามิ มาตลี’ติ.
‘เสฏฺฐา หิ กิร โลกสฺมิํ,
เย ตฺวํ สกฺก นมสฺสสิ;
อหมฺปิ เต นมสฺสามิ,
เย นมสฺสสิ วาสวา’”ติ.
อิทํ วตฺวาน มฆวา,_
เทวราชา สุชมฺปติ;
ภิกฺขุสํฆํ นมสฺสิตฺวา,
ปมุโข รถมารุหีติ.
ทุติโย วคฺโค.
ตสฺสุทฺทานํ
เทวา ปน ตโย วุตฺตา,
ทลิทฺทญฺจ รามเณยฺยกํ;
ยชมานญฺจ วนฺทนา,
ตโย สกฺกนมสฺสนาติ.